สถานพำนักของคุนเผิงไม่ใช่เกาะ ทว่าเป็แผ่นดินที่มีอาณาเขตกว้างขวางยิ่งนัก แผ่นดินที่ลอยอยู่บนมหาสมุทร และสามารถล่องลอยเคลื่อนที่ไปตามกระแสน้ำของมหาสมุทรผืนหนึ่ง ยามนี้ยังมิมีผู้ใดสามารถเปิดผนึกเพื่อเข้าไปยังแผ่นดินผืนนี้ได้สำเร็จ
เสียงคำรามดังแว่วมาให้ได้ยินจากไกลๆ เป็ระยะ เืพุ่งกระฉูดขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็เส้นสาย การต่อสู้อันดุเดือดเืพล่านกำลังดำเนินอยู่ น่านน้ำมหาสมุทรบริเวณแถบนี้ห่างไกลจากคำว่าสันติอย่างยิ่ง ยิ่งเข้าใกล้สถานพำนักของคุนเผิง เื่ราวของความขัดแย้งก็ยิ่งมาก ผู้เข้มแข็งเปี่ยมด้วยอำนาจจากทั่วสารทิศล้วนหยิ่งผยอง การนองเืจึงเป็สิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยง ผนวกกับเหล่าชนเผ่าสมุทรและบรรดาสัตว์อสูรตัวประหลาดเฒ่าเ่าั้จากเทือกเขาหมื่นสัตว์อสูร จ้านอู๋มิ่งสามารถจินตนาการภาพได้ทีเดียวว่าทางเข้าสถานพำนักของคุนเผิงจะต้องมีโลหิตต้องหลั่งนองดุจสายธาร
จ้านอู๋มิ่งหยุดเรือเหาะ เขาเห็นปลาบินมีดเงินปีศาจะโขึ้นไปในอากาศแล้วก็หายวับไปในความว่างเปล่า น่าแปลกยิ่งนัก คล้ายดั่งกลางนภากาศเบื้องหน้ามีที่ว่างซ่อนเร้นอยู่ก็มิปาน
นี่คือเื่อะไรกัน จ้านอู๋มิ่งรู้สึกใอยู่บ้าง เขาดูไม่ออกว่ามีสิ่งใดผิดปกติ ละอองหมอกเลือนรางก็ไม่ได้แตกต่างจากน่านน้ำมหาสมุทรแถบอื่นๆ แต่เขาเห็นชัดเจนว่าปลาบินมีดเงินปีศาจกระโจนเข้าไปในความว่างเปล่าบริเวณนั้นและหายตัวไป
หรือว่าจะมีค่ายกลอำพรางที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่งจัดตั้งไว้ที่นี่? จ้านอู๋มิ่งรู้สึกพิศวง เขาสงบจิตใจลง แล้วโคจรพลังปราณเที่ยงแท้อนัตตา แผ่ขยายสืบค้นเข้าไปในความว่างเปล่าเบื้องหน้า
“กลับเป็เกาะมหาสมุทรแห่งหนึ่งนั่นเอง!” จ้านอู๋มิ่งประหลาดใจยิ่งนัก
พลังปราณเที่ยงแท้อนัตตาเกิดปฏิกิริยาััต่อฟ้าดินอย่างชัดเจนขึ้นภายในห้วงคำนึง ที่เห็นในสายตาคือในบริเวณพื้นที่ว่างเปล่ากลับมีเป็เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ขนาดของเกาะไม่ใหญ่นัก กลมเหมือนหมั่นโถวนึ่งสุกลูกหนึ่ง รัศมีหลายสิบลี้ ป่าดงดิบหนาทึบอุดมสมบูรณ์สีเขียวขจี ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับเกาะแห่งนี้ไม่น้อย และปลาบินมีดเงินปีศาจเ่าั้ก็แหวกว่ายอยู่รอบบริเวณเกาะแห่งนี้
พลันจ้านอู๋มิ่งเข้าใจแล้ว เกาะนี้ถูกปกคลุมด้วยค่ายกลอำพรางอันชาญฉลาดยิ่ง ถ้าคนภายนอกไม่ใช้จิติญญาไปัั แม้จะยืนอยู่บนเกาะเล็กๆ ก็หามันไม่พบ
จ้านอู๋มิ่งรู้สึกตื่นเต้นแล้ว การดำรงอยู่ของเกาะเล็กๆ แห่งนี้ไม่ใช่เื่บังเอิญอย่างแน่นอน เมื่อครู่เขาอาศัยพลังปราณเที่ยงแท้อนัตตาเข้าไปสำรวจ กลับััได้ถึงพลังจิติญญาอันแหลมคมของธาตุทองอันเข้มข้นบนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ เขาคาดเดามิผิด สถานที่ที่มีปลาบินมีดเงินปีศาจฝูงนี้ดำรงอยู่มีพลังจิติญญาธาตุทองบริสุทธิ์อยู่จริงๆ ด้วย
จ้านอู๋มิ่งรวบรวมสมาธิจิตกลับคืน เดินตามเส้นทางที่พลังปราณเที่ยงแท้อนัตตาััเข้าเกาะไปอย่างระมัดระวัง ค่ายกลมายานอกเกาะไม่ส่งผลต่อพลังปราณเที่ยงแท้อนัตตาแต่อย่างใด ถ้าเปลี่ยนเป็ผู้อื่น ต่อให้ทราบว่าเบื้องหน้ามีเกาะแห่งหนึ่ง กลับไม่สามารถค้นพบเส้นทางที่ถูกต้อง จะต้องไปผิดทิศทางอย่างแน่นอน หลงทางอยู่ในภาพมายาลวงตา ไร้ขอบเขตมิรู้จบสิ้น
บนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิต จ้านอู๋มิ่งไม่แปลกใจ พลังจิติญญาแหลมคมของธาตุทองมิใช่สิ่งมีชีวิตทั่วไปจะสามารถทนทานได้ ถ้าอาศัยอยู่อย่างถาวรและเติบโตบนเกาะเป็เวลานาน เส้นชีพจรย่อมได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน เืเนื้อเหือดแห้งเหี่ยวเฉา นี่คือสถานที่ที่มีพลังเหนือธรรมชาติเข้มข้นยิ่งนักแห่งหนึ่ง แต่กลับไม่เหมาะกับการดำรงชีพเป็ที่อยู่อาศัย
แน่นอน ยกเว้นปลาบินมีดเงินปีศาจ ร่างเดิมของปลาบินมีดเงินปีศาจคือปลาบินตัวเล็กๆ ชนิดหนึ่ง เนื่องจากอาศัยอยู่อย่างถาวรท่ามกลางสภาพแวดล้อมของพลังจิติญญาธาตุทอง จึงถูกดัดแปลงอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็การวิวัฒนาการ ร่างกายทั้งหมดมีแนวโน้มผันแปรกลายเป็โลหะ แต่ละตัวกลายเป็สัตว์ประหลาดตัวน้อยๆ ถึงแม้ร่างยังเป็ปลาอยู่ แต่กลับสูญเสียความสามารถในการขยายพันธุ์ไปแล้ว เป็สัตว์อสูรที่กำลังจะสูญพันธุ์ ถ้ามิใช่ชาติภพก่อนจ้านอู๋มิ่งรู้จักและเข้าใจสัตว์อสูรและสัตว์เทพยดาทุกชนิดจากอาณาจักรดินแดนปฐมภูมิอยู่บ้าง ก็อาจจะจำปลาบินตัวน้อยกลายพันธุ์ชนิดนี้ไม่ได้เช่นกัน
จ้านอู๋มิ่งมีความสนใจในพลังจิติญญาธาตุทอง ในธาตุแห่งชีวิตของเขายังไม่มีเมล็ดพันธุ์ของธาตุทอง สิ่งที่เขาสนใจคือสมบัติวิเศษที่ทำให้เกาะแห่งนี้สามารถสร้างพลังจิติญญาธาตุทองที่เข้มข้นขนาดนี้ และแน่นอน สำหรับหินศิลาทองจิติญญา จ้านอู๋มิ่งไม่ตำหนิว่ามากเกินไปแม้แต่น้อย ดังนั้นสรุปอย่างรวบรัดคือ จ้านอู๋มิ่งแวะมาที่นี่เพื่อแสวงหาโชคลาภ แถมยังเป็โชคลาภก้อนโตอีกด้วย
“อื๋อ!” พลันจ้านอู๋มิ่งชะงักฝีเท้า เนื่องจากเขาค้นพบอย่างคาดมิถึงว่า กลับมีคนขึ้นมาบนเกาะแห่งนี้ก่อนหน้าเขาแล้ว บนทรายอ่อนนุ่มนั้นมีรอยเท้าจางๆ อยู่หลายแถว เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายค่อยๆ เล็ดลอดผ่านค่ายกลมายาจากทางผิวน้ำ ไม่เหมือนตนที่อาศัยพลังปราณเที่ยงแท้อนัตตาเดินตรงเข้ามา
“คิดไม่ถึงว่ากลับมีคนนำหน้าข้าก้าวหนึ่ง ดูจากรอยเท้าน่าจะมาถึงสักครู่หนึ่งแล้ว ยังมิได้ออกไปจากเกาะ ดีเหมือนกัน มิต้องให้ข้าไปแสวงหาของด้วยตนเองแล้ว ปล้นชิงโดยตรงสนุกยิ่งกว่า” จ้านอู๋มิ่งแอบคิดในใจ
จ้านอู๋มิ่งเข้าสู่กลางเกาะอย่างระมัดระวัง พลังปราณเที่ยงแท้อนัตตาััได้ถึงพลังเหนือธรรมชาติอันเข้มข้นของฟ้าดินในอากาศ และค้นพบสถานที่ที่มีพลังเหนือธรรมชาติเข้มข้นที่สุดอย่างรวดเร็ว สถานที่นั้นจะต้องเป็ที่ที่มีสมบัติจิติญญาของฟ้าดินตั้งอยู่อย่างแน่นอน
“กลับเป็สำนักหลอมโอสถ ยังมีสำนักิญญาเร้นลับ” จ้านอู๋มิ่งประหลาดใจเล็กน้อย ผู้ที่ขึ้นมาบนเกาะแห่งนี้กลับมีกลุ่มอำนาจมากกว่าหนึ่ง ยุ่งยากขึ้นอีกหน่อยแล้ว
……
ด้านนอกประตูสถานพำนักของคุนเผิง บนเรือเหาะที่เรียบง่ายแบบดั้งเดิมลำหนึ่ง มีชายชราหลายคนนั่งอยู่
“เสวียนเสวียนจื่อ ทักษะวิชาค่ายกลของสำนักิญญาเร้นลับพวกเ้าเป็ผู้เชี่ยวชาญที่สุด ข้าััได้ว่ามีพลังแก่นแท้จิติญญาดำรงอยู่ภายในสถานพำนักของคุนเผิง จะต้องถูกผนึกด้วยผู้ยิ่งใหญ่ที่มีพลังสูงส่งล้ำเลิศในสมัยาอย่างแน่นอน เ้าคำนวณนานมากขนาดนี้แล้ว หรือว่ายังไม่สามารถค้นหาตำแหน่งของตาค่ายกลออกมาได้?”
“จริงด้วย ข้าก็ััได้ถึงความผันผวนของพลังแก่นแท้จิติญญาในแผ่นดินที่ถูกผนึกไว้นี้ เหตุผลที่ปีนั้นคุนเผิงสามารถบรรลุเป็ผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานของแผ่นดินพั่วเหยียน อยู่เหนือสำนักนิกายทั้งปวง ก็เนื่องจากมันมีฐานบ่มเพาะที่เหนือกว่าเทพเ้าา เพียงแต่หลายปีมานี้มิมีผู้ใดล่วงรู้ตลอดมา ใต้ฟ้าดินแห่งนี้ ไฉนคุนเผิงจึงสามารถบรรลุความสำเร็จ มีฐานบ่มเพาะเหนือกว่าเทพเ้าาได้ วันนี้ได้เห็นสถานพำนักของมันแล้ว ข้าจึงได้เข้าใจ เป็เพราะสถานที่พำนักของคุนเผิงมิใช่เกาะธรรมดาทั่วไป พลังแก่นแท้จิติญญาของที่นี่มากเพียงพอจะสนับสนุนให้มันผ่านพ้นทัณฑ์สายฟ้าของเทพเ้าานั่นเอง ที่นี่เป็สถานที่รวบรวมแหล่งสมบัติวิเศษแห่งหนึ่งจริงๆ” ชายชราอีกคนสอดแทรกขึ้น
“ผ่านพ้นการคำนวณนานนับสิบกว่าวัน เราผู้ชราแน่ใจได้ว่า ผนึกของสถานที่นี้คือค่ายกลใหญ่ ชื่อมหาเบญจธาตุการเกิดและดับสูญ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลายแสนปีแล้ว ผนึกหลวมเพราะการลดทอนลงของพลังเหนือธรรมชาติ แต่ถ้าอาศัยพลังการโจมตีของพวกเราเข้าหักหาญโดยตรง คาดว่าต้องใช้เวลากว่าร้อยปีจึงสามารถคลายผนึกนี้ออกได้ หากพูดถึงค่ายกลแล้ว มรรคาแห่งค่ายกลของศิษย์พี่เสวียนเสวียนสูงส่งลึกซึ้งมากที่สุด ข้าไม่มีปัญญาคำนวณและสรุปตำแหน่งของตาค่ายกลเบญจธาตุออกมาได้”
“ศิษย์น้องเหยียนเต้ากล่าวมิผิด เป็ไปได้มากที่สุดค่ายกลนี้ก็คือ ค่ายกลใหญ่ มหาเบญจธาตุการเกิดและดับสูญที่สูญหายจากการถ่ายทอดจากสมัยา ข้าก็เพียงแค่อ่านพบค่ายกลนี้คร่าวๆ จากม้วนตำราที่ชำรุดส่วนหนึ่งเท่านั้น สิบกว่าวันนี้ ข้าได้เฝ้าสังเกตความลึกลับของกระแสลมในน่านน้ำมหาสมุทรบริเวณนี้ตลอดมา ดูจากนิสัยสัตว์อสูรในมหาสมุทร ก็พอจะทราบได้บ้างว่า หากพวกเรา้าเข้าสู่สถานพำนักของคุนเผิง ไม่จำเป็จะต้องปลดผนึกตราประทับออกทั้งหมด เพียงแค่เปิดผนึกออกให้เป็ช่องหนึ่งก็พอแล้ว พวกเราเพียงแค่ต้องทำลายตาของค่ายกลเบญจธาตุอันใดอันหนึ่งเท่านั้น ผนึกนี้ก็จะแตกร้าวออกมามุมหนึ่ง ตามที่ข้าได้คำนวณ มีสถานที่ห้าแห่งที่อาจเป็ตาของค่ายกล” เสวียนเสวียนจื่อลืมตาทั้งคู่ขึ้นจ้องมองแผ่นดินที่ลำแสงส่องไปรอบด้านตรงหน้า ในใจโหยหาและตั้งตารอคอย
สำหรับเทพเ้าาของสำนักนิกายต่างๆ สถานที่ซึ่งมีพลังแก่นแท้จิติญญาล้วนเป็แดนศักดิ์สิทธิ์
แผ่นดินพั่วเหยียนถูกปิดผนึก ไม่สามารถััพลังแก่นแท้จิติญญาของอาณาจักรเบื้องบนได้ ดังนั้น เป็เวลาหลายแสนปีแล้วที่ไม่มีผู้ใดสามารถทะลวงเขตแดนทลายนภา ทะยานเหินขึ้นไปเบื้องบนได้ เนื่องจากพลังแก่นแท้จิติญญาของฟ้าดินไม่เพียงพอ แม้แต่จักรพรรดิาศักดิ์สิทธิ์จะก้าวสู่ขอบเขตเทพเ้าา ก็ไม่มีพลังแก่นแท้จิติญญามากพอในการผ่านทัณฑ์สายฟ้า ไม่สามารถบรรลุร่างแก่นแท้จิติญญาให้เป็ผลสำเร็จ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการบรรลุขอบเขตเหนือเทพเ้าาแล้ว
แต่ละสำนักนิกายได้แต่พึ่งพาลูกแก้วพลังแก่นแท้จิติญญาเพียงเล็กน้อยจากอาณาจักรฟ้าเร้นลับเสวียนเทียน เพื่อค้ำจุนพลังแก่นแท้จิติญญาของเทพเ้าาที่ถูกลดทอนลง เทพเ้าาที่อยู่เหนือจักรพรรดิาศักดิ์สิทธิ์มิกล้าลงมือโดยพลการ วันใดที่ลงมือ พลังแก่นแท้จิติญญาที่ลดทอนจะไม่ได้รับการเสริมเติมเต็ม ระดับขอบเขตก็จะลดลงกลายเป็จักรพรรดิาศักดิ์สิทธิ์ นี่คือสิ่งที่แต่ละสำนักนิกายใหญ่ล้วนไม่้าเห็น
ดังนั้น ถึงแม้แต่ละสำนักนิกายใหญ่ล้วนมีบรรพบุรุษผู้เฒ่าระดับเทพเ้าา แต่เทพเ้าากลับกักตนปิดด่านตลอดมา ไม่ถามไถ่เื่ทางโลกิยะ ยิ่งไม่ลงมือต่อสู้ง่ายๆ มีเพียงเฉพาะเวลาที่สำนักนิกายถูกคุกคามเท่านั้นจึงสามารถเชิญพวกเขาออกมา หากเทพเ้าาของแต่ละสำนักนิกายใหญ่สามารถได้รับพลังแก่นแท้จิติญญาอย่างเพียงพอ เช่นนั้นก็ไม่ต้องวิตกกังวลอีกต่อไป
ขอเพียงมีพลังแก่นแท้จิติญญาสนับสนุนเพียงพอ เทพเ้าาของแต่ละสำนักนิกายหลักอาจสามารถบรรลุขอบเขตเหนือกว่าเทพเ้าาเช่นเดียวกับคุนเผิง นี่คือเหตุผลที่ไฉนหลังจากค้นพบสถานพำนักของคุนเผิงแล้ว แต่ละสำนักนิกายใหญ่ร่วมแรงร่วมใจเป็หนึ่งเดียวเพื่อเปิดผนึกออก แม้กระทั่งส่งตัวประหลาดเฒ่าที่มีความเชี่ยวชาญเื่ค่ายกลเดินทางมาด้วยตนเองอย่างไม่ลังเลใจ
น่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงในสายตาตัวประหลาดเฒ่าแต่ละคนเป็ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ในสถานที่นี้ พวกเขาสามารถใช้พลังได้แค่ราชันาขั้นต้นเท่านั้น หากมีราชันาร่วมมือกันสิบกว่าคน เป็ไปได้อย่างยิ่งที่ตัวประหลาดเฒ่าเหล่านี้จะถูกลอบสังหาร ในสำนักนิกาย คุณค่าของตัวประหลาดเฒ่าขอบเขตจักรพรรดิาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ราชันานับหมื่นคนก็ยากที่จะแทนที่ได้ เวลาที่พวกเขาได้ยินว่าภายในสถานพำนักของคุนเผิงมีพลังแก่นแท้จิติญญาถูกผนึกเอาไว้ ก็อดไม่ได้ที่จะมาตรวจสอบด้วยตัวเองสักรอบหนึ่ง
“ไม่ทราบเป็ห้าสถานที่ใด?”
“มีแห่งหนึ่ง ข้าใช้ให้ราชันเร้นลับ ตู๋กูเช่อพาคนไปตรวจสอบแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีข่าวคราวตอบกลับมา” เสวียนเสวียนจื่อพูดพลางยื่นนิ้วมือออก ชี้แผนที่มหาสมุทรสถานพำนักของคุนเผิงที่กางออกกล่าวว่า “ก็คือตรงนี้!”
ทุกคนมองดู สถานที่นั้นเป็บริเวณน่านน้ำมหาสมุทรที่จ้านอู๋มิ่งไล่ตามปลาบินมีดเงินปีศาจไปนั่นเอง
……
ทุกสิ่งทุกอย่างบนเกาะนี้ ตู๋กูเช่อล้วนอยากรู้อยากเห็นไปหมด สถานที่นี้เต็มไปด้วยพลังเหนือธรรมชาติของธาตุเพียงชนิดเดียว ค่ายกลมายาบนเกาะนั้นแปลกพิสดารนัก เห็นชัดๆ ว่าคือเกาะแห่งหนึ่ง แต่ในสายตาผู้คน กลับเหมือนดั่งมหาสมุทรสีมรกตกว้างขวางไร้ที่สิ้นสุด ถ้ามิใช่บรรพบุรุษผู้เฒ่าเสวียนเสวียนให้เขามาตรวจสอบที่นี่อย่างละเอียด เขาย่อมหาคลื่นผันผวนของค่ายกลนี้ไม่พบจริงๆ
เหตุผลที่สามารถค้นพบเกาะนี้ไม่ใช่เพราะฐานบ่มเพาะค่ายกลของตู๋กูเช่อร้ายกาจมากแต่อย่างไร เป็เพราะผลงานของบุตรีแห่งฟ้า ราชันโอสถ สื่อรั่วหนาน สื่อรั่วหนานเป็นักหลอมโอสถ อ่อนไหวมากเป็พิเศษต่อความผันผวนของพลังแก่นแท้จิติญญาของฟ้าดิน ถึงแม้ค่ายกลมายานี้จะไม่เพียงแต่ปิดกั้นเกาะแห่งนี้เท่านั้น ยังสกัดกั้นการรั่วไหลออกของพลังจิติญญาคุณสมบัติธาตุทองบนเกาะ แต่คุณสมบัติพลังเหนือธรรมชาติของที่นี่แตกต่างจากพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำที่มีอยู่รอบด้านโดยสิ้นเชิง ดังนั้น สื่อรั่วหนานเห็นว่าน่านน้ำมหาสมุทรบริเวณนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก ตู๋กูเช่อจึงได้นำบรรดาศิษย์สำนักิญญาเร้นลับตรวจสอบอย่างละเอียดรอบหนึ่ง ในที่สุดก็ค้นพบเส้นทางผ่านค่ายกลมายาสายหนึ่ง
ที่ทำให้ตู๋กูเช่อหงุดหงิดก็คือ พวกเขาเพิ่งจะเข้าไปในค่ายกลมายา ก็เผชิญกับฝูงปลาบินมีดเงินปีศาจที่ออกจากเกาะ ทั้งสองฝ่ายจึงเกิดการปะทะกันขึ้นมา ผลลัพธ์สามารถจินตนาการได้ ศิษย์ของสำนักหลอมโอสถที่ขึ้นเกาะ นอกจากราชันโอสถ สื่อรั่วหนานและศิษย์หญิงอีกคนแล้ว ทั้งหมดล้วนดับสูญที่นี่ สำนักิญญาเร้นลับก็เหลือเพียงสามหรือห้าคนเช่นกัน พูดได้ว่าสูญเสียอย่างหนัก
แต่ว่า การปรากฏตัวของปลาบินมีดเงินปีศาจก็ทำให้พวกเขามั่นใจขึ้นอีกว่า ค่ายกลมายาเบื้องหน้านี้จะต้องมีสถานที่ที่แสนงดงามและเป็เอกเทศ และแล้ว คนที่เหลืออีกไม่กี่คนจึงได้แต่ปรับอารมณ์ใหม่ เข้าไปในค่ายกลมายาอีกครั้ง
ทุกคนเดินบนชายหาด หลังจากเท้าเหยียบถูกแผ่นดินจึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ภาพเบื้องหน้าทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างยิ่ง นี่คือเกาะสมุทรดั้งเดิมั้แ่สมัยโบราณแห่งหนึ่ง บนเกาะสมุทรมีป่าไม้มากมายเป็หย่อมๆ ต้นไม้ใหญ่แต่ละต้นล้วนมีประกายแวววาวของโลหะชั้นหนึ่ง เหมือนต้นไม้เหล็ก ดอกไม้เงินก็มิปาน
ต้นไม้บนเกาะมีรากที่บิดเป็เกลียวและมีกิ่งเป็ตะปุ่มตะป่ำ บางรูปแบบเหมือนั บ้างก็นอนลงเหมือนงูมีเขา บ้างก็มีหนามมากมาย ทุกคนค้นหาอยู่ครึ่งค่อนวัน ก็ไม่สามารถหาเส้นทางที่จะขึ้นบนเกาะ
เกาะแห่งนี้เหมือนเช่นดินแดนโลกโลหะแห่งหนึ่ง พลังจิติญญาธาตุทองอันอุดมสมบูรณ์คอยหล่อเลี้ยงชีวิตพิเศษเหล่านี้
สื่อรั่วหนานยินดีแทบคลุ้มคลั่ง สถานที่ประหลาดย่อมต้องอุดมไปด้วยสมบัติล้ำค่าแห่งฟ้าดินอย่างแน่นอน ในฐานะราชันโอสถ มองดูต้นไม้ประหลาดที่อยู่ตรงหน้า นางแทบรอไม่ไหวที่จะนำกลับสำนักทั้งหมด
สถานที่นี้สมควรเป็หนึ่งในตาค่ายกลใหญ่มหาเบญจธาตุการเกิดและดับสูญ ที่บรรพบุรุษผู้เฒ่าเสวียนเสวียนพูดถึงแล้ว สถานที่ที่มีพลังเหนือธรรมชาติเข้มข้นที่สุดบนเกาะอยู่ใจกลางของเกาะ พวกเขา้าทำลายตาค่ายกลนี้ ก็จำเป็ต้องเดินทางไปให้ถึงใจกลางของเกาะ
ตู๋กูเช่อและสื่อรั่วหนาน เดินทางด้วยความยากลำบากมุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะ
