บรรยากาศเริ่มตึงเครียดเื่ของเยว่ถิงทำให้ทุกคนรู้สึกว่านี่คือการล้างแค้นจากเทพเ้า
หลินเมิ้งหยานั่งลงยังตำแหน่งของตนเองโดยไม่ส่งเสียงขัดขืนเพียงประโยคง่ายๆ ไม่กี่ประโยคกลับหยุดฮ่องเต้ิและไท่จื่อได้
ทั้งสองสบตากัน แม้ฮ่องเต้ิจะไม่อยากยอมแพ้ แต่เขาก็ไม่อาจลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้งดังนั้นความหงุดหงิดจึงบังเกิดในหัวใจ
เขาเป็ฮ่องเต้มานานหลายปีแม้แต่ฮ่องเต้แห่งต้าจิ้นยังเห็นเขาเป็พี่น้อง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะตกอยู่ในกำมือของหญิงสาวตัวเล็กๆ เพียงคนเดียว
“ทูลไท่จื่อ องครักษ์แห่งซีฟานส่งเสียงประท้วงมิขาดสายร้องขอให้พระชายาอวี้ให้คำอธิบายกับพวกเขา ตอนนี้พวกเขาบุกเข้าไปยังกระโจมของจวนอวี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ด้านนอก ชายผู้สวมใส่ชุดทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพลางส่งเสียงพูดด้วยท่าทางร้อนใจ
ไท่จื่อยังไม่ทันจะไหวตัวทัน ฝ่ามือของหลินเมิ้งหยาพลันตบลงบนโต๊ะ
“ราชวงศ์แห่งซีฟานดีจริงเชียวมาโอ้อวดเบ่งอำนาจกับหม่อมฉันเพียงคนเดียวที่นี่ส่วนลูกน้องอาศัยโอกาสนี้บุกเข้าไปในกระโจมของหม่อมฉัน ตกลงนี่มันสมเหตุสมผลแล้วหรือ?”
คำถามของหลินเมิ้งหยาทำให้ฮ่องเต้แห่งซีฟานพูดไม่ออก
ทั้งที่นางถูกเรียกตัวมาเพื่อไต่ถามเหตุการณ์เมื่อคืน แต่พบว่าหลินเมิ้งหยากลับกุมอำนาจของพวกเขาเอาไว้
“เสด็จพ่อ ไท่จื่อ ฟังความจากิเยว่ก่อนได้หรือไม่?”
ที่มุมหนึ่ง ิเยว่ที่นั่งเงียบอยู่นานพลันลุกขึ้นยืน
ดวงตาเรียวยาวจับจ้องมองทางบิดาของตนเองและไท่จื่อ
นับั้แ่ตอนที่ได้เจอหญิงสาวคนนี้เป็ครั้งแรก นางรู้ได้ทันทีว่าสตรีคนนี้หาใช่คนธรรมดาอย่างที่แสดงออกมาไม่อีกทั้งความงามของนางยังทำให้ไท่จื่อต้องเหลียวมองเป็ครั้งที่สอง
“เื่นี้อาจเป็เพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น”
หูลู่หนานถูกทำร้ายจนาเ็เจียนตายเกรงว่าจะไม่มีทางรักษาให้หายได้
ทว่าตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไม อยู่ๆองครักษ์แห่งซีฟานกลับบุกเข้าไปที่กระโจมของจวนอวี้
ครุ่นคิด แม้แต่ฮ่องเต้ิเองก็สงสัยเช่นกัน
น้ำเสียงของิเยว่ยังคงอ่อนโยนราวกับว่าพี่ชายของตนเองมิได้ถูกทำร้ายปางตายอย่างไรอย่างนั้น
“นิสัยใจคอของพี่รองเกกมะเหรกเกเรบางทีอาจไปทำให้คนอื่นไม่พอใจก็เป็ได้ พ่อของข้าเองก็รักลูกชายดั่งดวงใจดังนั้นขอไท่จื่อและพระชายาได้โปรดให้อภัยในความหยาบคายครั้งนี้ด้วย”
สายตาอ่อนโยน แววตาเปล่งประกายความโศกเศร้าที่กำลังสะท้อนผ่านดวงตาทำให้คนมองรู้สึกสงสาร
ิเยว่เพียงเอ่ยออกมาด้วยเสียงอ่อนโยนนุ่มนวลเพื่อให้ทั้งสามใจเย็นลง
ไท่จื่อถูกสายตาอ่อนโยนของสาวงามตรงหน้าทำให้ใจอ่อนลงแล้วแบบนี้จะเอ่ยปฏิเสธได้อย่างไร
“องค์หญิงพูดมีเหตุผล บางทีพวกเราอาจเข้าใจผิดกันไปเองก็ได้อีกอย่างพวกเรายังไม่ได้ข้อสรุปเื่ขององค์ชายรองกันเลยหากเสียเวลาถกเถียงกันตอนนี้จะมิเป็การปล่อยโอกาสให้คนร้ายตัวจริงหนีไปอย่างนั้นหรือ? ตอนนี้การช่วยชีวิตองค์ชายรองต่างหากที่สำคัญที่สุด”
ทันทีที่หัวใจอ่อนยวบลง คำพูดและน้ำเสียงของไท่จื่อพลันโอนอ่อนตาม
หลินเมิ้งหยาแค่นหัวเราะเสียงเย็นในใจแต่ถึงกระนั้นสายตายังคงมองทางฮ่องเต้ิโดยมิได้เอ่ยขัด
ในที่สุด ฮ่องเต้ิก็นึกสิ่งใดขึ้นมาได้สีหน้ามิได้เคร่งขรึมอีกต่อไป
“ไท่จื่อและิเยว่ล้วนพูดมีเหตุผล เปิ่นหวังทำผิดต่อชายาอวี้ไปแล้วขอพระชายาได้โปรดให้อภัยความรักของพ่อที่มีต่อลูกของเปิ่นหวังด้วย”
เมื่อเห็นฮ่องเต้ิยอมรับผิดหลินเมิ้งหยาจึงมิได้แสดงท่าทางแข็งกระด้างอีกต่อไป
พยักหน้าลง ทว่ายังคงรักษาความเย่อหยิ่งในตัวเองเอาไว้
“เื่นี้คงมิอาจปล่อยผ่านได้ อ๋องอวี้มาพอดีในเมื่อเื่นี้เกี่ยวข้องกับพวกเ้าเช่นนั้นพวกเ้ารับผิดชอบหาตัวผู้กระทำความผิดเป็อย่างไร?”
ทันทีที่หลงเทียนอวี้มาถึง เขาตกเป็เป้าของไท่จื่อในทันที
พูดไปพูดมา ไท่จื่อยังคงอยู่ฝ่ายเดียวกับฮ่องเต้แห่งซีฟานหลินเมิ้งหยาสังเกตเห็นความจริงในข้อนี้ได้ทันที
“ไท่จื่อรางวัลและการลงโทษควรแบ่งออกอย่างชัดเจนจึงจะได้รับความซื่อสัตย์จากผู้อื่นหากฟู่จวินของหม่อมฉันหาตัวคนร้ายเจอ เช่นนั้นไท่จื่อจะตบรางวัลอะไรหรือเพคะ?”
ไม่มีทางเลือก เขา้าบีบบังคับนางเพียงพริบตาเดียวเขาเปลี่ยนเป้าหมายเป็หลงเทียนอวี้
แต่โลกใบนี้ยังมีเื่ดีอยู่บ้าง แผนการของไท่จื่อมิได้ฉลาดเฉลียวเท่าไรนัก
“เื่นั้น...” ไท่จื่อลังเล จะไปมีรางวัลได้อย่างไรเขาเพียงแค่อยากให้หลงเทียนอวี้หาตัวฆาตกรไม่เจอ จากนั้นบีบให้เขารับผิด
“ถ้าหากอ๋องอวี้สามารถหาตัวคนผิดมาลงโทษได้เช่นนั้นข้าจะยอมรับข้อเรียกร้องของเขา เ้าคิดว่ารางวัลเช่นนี้เป็อย่างไร?”
ยอมรับข้อเรียกร้อง?
นางกระตุกยิ้มเย็นะเืในใจ
ในเมื่อไท่จื่อมั่นใจมากขนาดนั้นเชียวหรือว่านางจะไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้?
“อ๋องอวี้อายุยังน้องและมีความสามารถ เขาจะต้องจับตัวคนร้ายได้อย่างแน่นอนถ้าหากคนร้ายมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวพวกเราจะต้องรอต่อไปอย่างไม่มีกำหนดอย่างนั้นหรือ?”
ที่แท้ก็้ากำหนดเวลาสินะ
ไท่จื่อครุ่นคิด แสร้งแสดงท่าทีลำบากใจ
“เช่นนั้นให้เวลาสามวันแล้วกัน หากสามวันหลังจากนี้อ๋องอวี้ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้เช่นนั้นข้าคงทำได้เพียงต้องไต่สวนชายาอวี้ใหม่อีกครั้ง”
ช่างเป็ไท่จื่อที่ไร้เหตุผลเหลือเกินเขามั่นใจว่าหลินเมิ้งหยาคือคนร้าย
ฮึ วิธีการใช้ได้เลยนี่
“เพคะ หากภายในสามวันพวกเรายังมิอาจจับตัวคนร้ายได้เช่นนั้นหม่อมฉันขอน้อมรับความอยุติธรรมที่์เบื้องบนมอบให้ในครานี้”
ขณะเดียวกัน หลินเมิ้งหยาไม่ลืมที่จะโจมตีไท่จื่อกลับ
ครู่ต่อมา เหล่าชนชั้นสูงจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่พึงพอใจกับการตัดสินใจของไท่จื่อ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลินเมิ้งหยาและหลงเทียนอวี้ล้วนเป็พระญาติของไท่จื่อ
เพื่อผลประโยชน์ ไท่จื่อสามารถลงโทษได้กระทั่งพี่น้อง คนผู้นี้โเี้ยิ่งนัก!
คำพูดของหลินเมิ้งหยาทำให้อารมณ์ของไท่จื่อพวยพุ่ง
ทว่า เมื่อเบือนหน้าไปเห็นสายตาผิดหวังของเหล่าขุนนางไท่จื่อตกตะลึงทันที
“ในเมื่อเวลากระชั้นชิดถึงเพียงนี้ เช่นนั้นพวกหม่อมฉันขอทูลลา”
ราวกับว่าไม่้าให้เวลาไท่จื่อในการอธิบายหลินเมิ้งหยาและหลงเทียนอวี้หมุนตัวออกจากกระโจม
ไท่จื่อแอบเคียดแค้นหลินเมิ้งหยาในใจ
หญิงคนนี้มักจะนำพาความซวยมาให้เขา
ทว่าเขาอยากรู้จริงเชียวว่าหลินเมิ้งหยาจะเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ในคราวนี้อย่างไร
หลินเมิ้งหยาและหลงเทียนอวี้ออกจากกระโจมตามหลังกันไป
ั้แ่ต้นจนจบราวกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มิได้ส่งผลกระทบใดๆ กับหลงเทียนอวี้เลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อทั้งคู่เดินออกห่างจากสายตาของไท่จื่อแล้ว หลงเทียนอวี้จึงผ่อนลมหายใจออกมา
“ไท่จื่อมิได้ทำอะไรเ้าใช่หรือไม่?”
ก่อนหน้านั้น ขณะที่เขากำลังพูดคุยธุระสำคัญกับหลงชิงหาน อยู่ๆ องครักษ์ที่เขาส่งไปคุ้มครองหลินเมิ้งหยารีบวิ่งตาตั้งพร้อมเข้ามาแจ้งข่าว
รายงานว่าหลินเมิ้งหยาถูกเชิญไปยังกระโจมของไท่จื่อยิ่งไปกว่านั้นฮ่องเต้ิเองก็ประทับที่นั่นด้วย
หลงเทียนอวี้รู้ได้ทันทีว่าจะต้องเป็เื่ของหูลู่หนาน
ฮ่องเต้ิหาใช่คนที่จะเอาชนะได้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นไท่จื่อเองก็กำลังเพ่งเล็งพวกเขา
“ไม่เพคะ เขาไม่มีคุณสมบัติมากเพียงพอที่จะทำร้ายหม่อมฉันได้”
บางที ฮ่องเต้อาจรู้อยู่ก่อนแล้วว่าไท่จื่อเป็คนเช่นไร ดังนั้นในตอนที่ถวายพระราชโองการแต่งตั้งนางขึ้นเป็ชายาระดับของนางจึงมิด้อยไปกว่าชายาของไท่จื่อเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้น หากไท่จื่อ้ากำจัดนางเขาจำต้องส่งเื่นี้ไปยังต้นตระกูล
หากต้นตระกูลพิจารณาแล้วว่านางกระทำความผิด เช่นนั้นจึงจะเขียนรายงานออกมา
สุดท้าย ฮองเฮาจะต้องเป็ผู้พิจารณาอีกครั้ง ก่อนจะลงโทษนางได้
ต่อให้ไท่จื่ออยากจะทำลายนางและหลงเทียนอวี้มากขนาดไหนแต่สุดท้ายแล้วก็มิอาจทำได้ แม้แต่ฮองเฮาก็ไม่มีสิทธิ์
แน่นอนว่า เื่นี้ก็เป็ไปตามทฤษฎีเท่านั้น
ในความเป็จริง ฮองเฮาสามารถลงโทษนางได้
“เช่นนั้นก็ดี เ้าวางใจเถิด ข้าจะตามล่าหาตัวคนผิดมาเอง”
สีหน้ากังวลของหลงเทียนอวี้ทำให้หัวใจของหลินเมิ้งหยาสั่นไหว
คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่มักจะมีใบหน้าเ็าเสมอต้นเสมอปลายเช่นเขาจะเป็ห่วงนาง
“คนผิด มีตั้งนานแล้วล่ะเพคะ”
หลินเมิ้งหยาหยักยิ้มมีเลศนัย กระตุกแขนเสื้อของหลงเทียนอวี้ก่อนจะพาเขาเดินไปยังมุมลับตาคน
“ที่นี่....”
ที่นี่คือกระโจมเล็กสำหรับกักเก็บอาหาร
แม้จะกว้าง แต่ก็ค่อนข้างเรียบง่าย
หลินเมิ้งหยาแหวกผ้าสักหลาดออกภายในมีนางบำเรอสองสามคนนอนหมดสติอยู่
“นี่คือนักเต้นระบำในกระโจมของหูลู่หนานวันนั้นท่านคงคิดไม่ถึงหรอกว่าแท้จริงแล้วพวกนางเป็ใคร”
ชิงหูพบความจริงบางอย่างขณะที่ทุกคนมิได้สนใจ
ไม่รู้ว่าเป็ความบังเอิญหรือจงใจ
ทั้งสามคนนี้ล้วนเป็มือสังหารแห่งเถาฮวาอู๋
ขณะที่ชิงหูกำลังจัดการกับพวกนางสายตาพลันเหลือบไปเห็นสัญลักษณ์ของเถาฮวาอู๋
เขาเอ่ยว่าพวกนางคือนักฆ่าที่ถูกฝึกโดยเฉพาะ
ไม่เพียงมีรูปร่างหน้าตางดงามพวกนางยังลงมือสังหารด้วยวิธีการโหดหฤหรรษ์อีกทั้งยังมุ้งเน้นไปทางการยั่วยวนฝ่ายตรงข้าม
แต่พวกนางถูกนางจับเอาไว้แล้ว
ดูเหมือนทวยเทพจะยังไม่อยากให้นางตายฉะนั้นยังไม่ทันจะนอนก็มีคนยื่นหมอนมาให้เสียแล้ว
“ที่แท้ก็เป็เช่นนี้เหตุใดเื่นี้จึงเกี่ยวข้องกับเถาฮวาอู๋เล่า?”
หลังจากหลงเทียนอวี้ได้ฟังจนจบ สีหน้าของเขายังคงเคร่งขรึม
หากที่ใดมีเถาฮวาอู๋อยู่ ที่นั่นย่อมมีกลอุบายเ้าเล่ห์
เกรงว่าคราวนี้จุดประสงค์ของพวกเขาจะเป็หูลู่หนาน
“เ้ามิกลัวพวกนางกลับคำอย่างนั้นหรือ? หากพวกนางอ้างว่าพวกนางมิได้ทำ แล้วเ้าจะทำเช่นไร?”
คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น ครุ่นคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหา
วางผ้าสักหลาดลง หญิงสาวเ่าั้ถูกชิงหูสะกดจุดเอาไว้ดังนั้นจึงไม่มีใครได้สติ
“เช่นนั้นคงต้องพึ่งชิงหูแล้ว เขารู้จุดอ่อนของคนพวกนั้นดีขอเพียงพวกเราสามารถแสดงให้พวกเขาเห็นได้ว่าพวกนางเป็คนของเถาฮวาอู๋...”
ฮ่องเต้ิก็จะยิ่ง้าชีวิตของพวกนางมากกว่าพวกเรา”
นางพยักหน้า อันที่จริงมิได้มีความสุขกับการยืมมือของคนอื่นฆ่าคนเลยแม้แต่น้อย
แต่ชิงหูเคยบอกเอาไว้ว่าคนของเถาฮวาอู๋ทำเื่สกปรกมาอย่างมากมาย
โดยเฉพาะนักฆ่าสาวเหล่านี้ หาก้าเข้าร่วมกลุ่มพวกนางจะต้องฆ่าคนที่ตัวเองรักก่อนจะฆ่าผู้อื่นได้
คนที่ฆ่าได้กระทั่งคนที่ตนเองรักจะยังเรียกว่าคนได้อีกหรือ
ดังนั้น นางจึงไร้ซึ่งความสงสารและไร้เยื่อใย
“ฉะนั้น หม่อมฉันอยากให้ท่านอ๋องร่วมมือกับหม่อมฉันทำให้พวกคนที่ซุกซ่อนอยู่ทางด้านหลังแสดงตัวออกมาให้หมด!”
