แม้กระแสพลังที่แผ่พุ่งออกมาของนางจะดูดุดันรุนแรง แต่เห็นได้ชัดว่าทำการบังคับควบคุมไว้เป็อย่างดี มิฉะนั้นละก็ต่อให้มีเย่ชิงหานสักสิบคนก็คงถูกพลังกดดันของนางกดทับจนแหลกเละกลายเป็กองเนื้อบดอย่างแน่นอน ซึ่งเย่ชิงหานเองก็แค่รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อยเพียงเท่านั้น มองเห็นท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่แสดงอาการโกรธเดือดดาลออกมาถึงเพียงนี้จึงพูดขึ้นด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้มว่า “สาเหตุเพราะเสี่ยวเฮย?”
“ฮึ!”
ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่กระแทกเสียงออกมาครั้งหนึ่งดึงพลังกลับคืนแล้วลุกขึ้นเดินออกมาจากซุ้มองุ่น หันหลังให้เย่ชิงหานสายตามองไปยังท้องทะเลห่างไกลนอกวังโบราณ ผ่านไปเนิ่นนานถึงได้เอ่ยปากพูดขึ้น น้ำเสียงในครั้งนี้ไม่ได้เ็าอีกต่อไป แต่เปลี่ยนเป็เปล่าเปลี่ยวและอับจนปัญญา
“เสี่ยวเฮยเป็อสูรกลืนิญญา เป็เทพอสูร และยังเป็เทพอสูรที่แข็งแกร่งเป็อย่างมากด้วย เ้าคิดว่าปุถุชนคนธรรมดาอย่างเ้าจะมีคุณสมบัติพอที่จะ?”
“ไม่มี!”
เย่ชิงหานครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จึงพูดออกมาตามความจริง การมีอยู่ของเสี่ยวเฮยนั้นแหกกฎ์อย่างแท้จริง หากไม่ใช่เพราะเสี่ยวเฮยอาศัยคุณสมบัติทางร่างกายขยะของเขาป่านนี้ก็ยังคงเป็ได้เพียงแค่ลูกหลานคนที่เจ็ดของตระกูลเพียงเท่านั้น แม้แต่สุสานของมารดาก็คงยังเป็เพียงแค่หลุมฝังศพที่อยู่บนูเาด้านทิศตะวันตกดังเดิม สามารถพูดได้ว่าทั้งพลังฝีมือและตำแหน่งฐานะที่เขามีได้ทุกวันนี้ก็เพราะการมีอยู่ของเสี่ยวเฮย ซึ่งต่อให้เขามีแหวนิญญาในก็ไม่สามารถมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ดังเช่นทุกวันนี้
นิ่งครุ่นคิดอยู่อีกสักพักเย่ชิงหานไม่รอให้ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่พูดสิ่งใดออกมาอีก เขารีบพูดขึ้นต่อ “แน่นอนว่าข้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเสี่ยวเฮย และข้าก็ไม่เคยเขามาก่อน เพราะ...เสี่ยวเฮยไม่ใช่สิ่งของ ข้ามองเขาเป็สิ่งมีชีวิตๆ หนึ่ง มองเขาเป็น้องชายของข้า! ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ใช่เ้านายกับข้าทาส เขาไม่ใช่สัตว์เลี้ยง เขาเป็น้องชายของข้า เป็พี่น้องที่ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับข้าจนชั่วชีวิต”
“ฮึ!”
คำพูดที่สัตย์ซื่อจริงใจของเย่ชิงหานกลับไม่ได้ทำให้ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ซาบซึ้งแต่อย่างใด นางหันหน้ากลับมามองเย่ชิงหานด้วยสายตาเ็าครั้งหนึ่งพร้อมกับเอ่ยขึ้น “หากไม่ใช่เช่นนั้น หลายปีก่อนข้าคงสังหารเ้าไปนานแล้ว เ้าอย่าคิดว่าเ้ามีพันธสัญญาแห่งิญญากับเสี่ยวเฮยแล้วข้าจะไม่สามารถทำอะไรเ้าได้ หลังจากสังหารเ้าแล้วข้าสามาถช่วยให้เสี่ยวเฮยมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างปลอดภัยโดยที่ไม่เป็อะไรแม้แต่น้อยได้! ข้าแค่กลัวว่าจะทำให้เสี่ยวเฮยเสียใจเพียงเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพร์ของเ้าก็ยังถือว่าไม่เลวมากนัก อนาคตภายภาคหน้าคงจะพอมีความสำเร็จอยู่บ้าง! ดังนั้นจึงไว้ชีวิตของเ้าเอาไว้ก่อน...”
หืม?
ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จะเก่งกาจจนเกินไปแล้ว ภายในใจของเย่ชิงหานเริ่มหนาวสั่นขึ้นมา ต้องเข้าใจว่าเขาและเสี่ยวเฮยทำพันธสัญญาแห่งิญญาต่อกันเอาไว้ หากเขาตายไปิญญาของเสี่ยวเอยก็จะสูญสลายไปด้วย แต่ตอนนี้นางกลับบอกว่าสามารถสลายพันธสัญญาณแห่งิญญาของตนเองและเสี่ยวเฮยไม่ให้เกิดผลได้? สามารถ่ชิงเอาเสี่ยวเฮยจากร่างของเขาได้ นี่มันเป็พลังความสามารถสูงส่งเช่นใดกัน?
ในขณะเดียวกันเขาก็ลอบยินดีอยู่ภายในใจ นับั้แ่ตอนที่อยู่เทือกเขารกร้างที่เสี่ยวเฮยเริ่มส่งกระแสเสียงพูดคุยกับเขาได้ ั้แ่นั้นเป็ต้นมาความสัมพันธ์ของเขาและเสี่ยวเฮยก็ดีมากขึ้นทุกวัน จนในที่สุดพัฒนามาถึงระดับขั้นที่สนิทสนมกันจนเป็พี่น้อง หาไม่แล้วละก็ตนเองตายไปอย่างไรเมื่อไหร่คงไม่สามารถรู้ตัวเป็แน่แท้...
“เฮ้อ...นี่คงอาจจะเป็โชคชะตาที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วกระมัง!”
ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่หันกลับมาทำการทอดถอนใจออกมาแล้วจึงพูดขึ้น “ในปีนั้นข้านำเสี่ยวเฮยมายังโลกจักรวาลชั้นนอกทวีปัเพลิงแห่งนี้ เดิมทีคิดว่าอยากจะให้เขาเติบโตขึ้นอย่างสงบราบรื่น แต่มีเื่บางอย่างเกิดขึ้นทำให้ข้าต้องจากไปปีหนึ่ง ไม่คาดคิดว่าเ้าที่ได้รับการช่วยเหลือจากแหวนิญญาอาศัยพิธีปลุกพลังทางสายเืของตระกูลเ้า กลับกลายเป็ว่าทำให้เ้าโชคดียิ่งกว่าขอทานที่ได้ทองคำหล่นลงมาจากฟ้า สามารถทำลายผ่านม่านพลังป้องกันที่ข้าสร้างขึ้นไว้ที่ป่าม่านหมอกจนสามารถเรียกเสี่ยวเฮยออกไปได้และยังทำพันธสัญญาแห่งิญญากันอีกด้วย... ต่อมาเมื่อข้ากลับมาพบ เดิมทีคิดว่าจะสังหารเ้าเสียให้สิ้นเื่ แต่เพราะตอนนั้นพลังิญญาของเสี่ยวเฮยยังคงอ่อนแออยู่จึงไม่ได้ลงมือ จนถึงตอนนี้เสี่ยวเฮยนับเ้าเป็ญาติสนิทคนหนึ่งไปแล้ว ข้ากลัวว่าจะทำให้เสี่ยวเฮยเสียใจ ดังนั้นจึงได้ไว้ชีวิตของเ้าเอาไว้ก่อนชั่วคราว!”
“อ้อ...ที่แท้ก็เป็อย่างนี้นี่เอง!”
ตอนนี้เย่ชิงหานหวนคิดถึงเื่ราวเมื่อหลายปีก่อนที่เกิดขึ้นในตอนที่ตนเองเข้าร่วมพิธีปลุกพลังทางสายเืของตระกูล เขาจึงเข้าใจทุกสิ่งอย่างได้ในทันใด
ในปีนั้นระดับความเข้มข้นของเืเทพภายในกายของเขาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก หลังจากได้รับคัมภีร์ลับเืเทพที่ตกทอดมาของบิดาและทำการฝึกฝนอยู่เป็เวลาครึ่งเดือน ถ่ายเื กินเครื่องในสด ฝังเข็มทะลวงจุดและสุดท้ายปิดกั้นการไหลเวียนของเืจนทำให้จุดชีพจระเิแตกออกสลบหมดสติไป รอจนกระทั่งเขาตื่นขึ้นมาก็เข้าไปอยู่ในมิติลับแดนอสูรแล้ว และสุดท้ายเรียกเสี่ยวเฮยออกมาได้
เดิมทีเขาคิดมาตลอดว่าเป็เพราะคัมภีร์ลับเืเทพของบิดาที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา แต่กลับคาดคิดไปไม่ถึงว่าจะเป็การช่วยเหลือจากแหวนิญญา ส่วนหุบเขาเล็กๆ น่าอัศจรรย์ที่เสี่ยวเฮยอาศัยอยู่นั้นคงเป็ป่าม่านหมอกที่ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่จัดเตรียมไว้ให้เสี่ยวเฮยเป็พิเศษ มิน่าล่ะทำไมถึงมีเพียงแค่ลูกสัตว์มารอสูรที่สามารถเข้าไปยังภายในหุบเขาได้ คงเป็เพราะระดับม่านพลังป้องกันที่สร้างขึ้นมากำหนดไว้นั่นเอง ตั้งใจให้ลูกสัตว์มารอสูรเข้าไปภายในได้เพื่อให้เป็เพื่อนเล่นเสี่ยวเฮยจะได้ไม่ทำให้เสี่ยวเฮยไม่เหงาจนเกินไป และอาศัยพวกลูกสัตว์มารอสูรเ่าั้ทำให้เสี่ยวเฮยเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ส่วนพลังฟ้าดินภายในหุบเขาแห่งนั้นก็มีปริมาณหนาแน่นเป็อย่างมากอีกด้วยจึงเหมาะสมแก่การเติบโตของเสี่ยวเฮย ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถดึงดูดลูกสัตว์มารอสูรที่มีระดับสูงให้เข้ามาภายใน เสี่ยวเฮยเป็เทพอสูรที่มีระดับสูงกว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์หนึ่งระดับ ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติพลังอำนาจที่แข็งแกร่งน่าเกรงขามอยู่ในตัว เช่นนี้ถึงทำให้ลูกสัตว์มารอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ตัวหวาดกลัวเสี่ยวเฮยถึงเพียงนั้น เมื่อมองเห็นเสี่ยวเฮยต่างพากันโกยแนบอย่างไม่คิดชีวิต
เพียงแต่เย่ชิงหานยังมีคำถามอีกคำถามหนึ่งที่คิดไม่เข้าใจ ทำไมตนเองต้องอาศัยแหวนิญญาในการช่วยเหลือถึงจะสามารถเรียกเสี่ยวเฮยออกมาได้? หรือว่าเสี่ยวเฮยกับหุนตี้ผู้ซึ่งเป็เ้าของแหวนิญญามีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่? แล้วท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่กับเสี่ยวเฮยล่ะเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
แต่แน่นอนว่าตอนนี้เขาไม่กล้าถามท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ เพราะตนเองทำเื่ไม่ต่างจากหัวขโมยเช่นนี้จะยังมีหน้าไปถามคำถามอะไรมากมายได้อีก เพราะท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่สามารถสังหารเขาได้ทุกเมื่อและสามารถชิงเอาเสี่ยวเฮยออกไปจากมิติสัตว์อสูรของเขาได้ทุกเวลา
นึกถึงคำพูดเมื่อสักครู่ที่พูดว่าไว้ชีวิตของเขาเอาไว้ชั่วคราวยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นไปอีก ตนเองขโมยเสี่ยวเฮยมา หญิงสาวคนนี้จะต้องโกรธมากอย่างแน่นอน แต่ว่านางกลับมอบผลึกเทวะให้น้องสาวของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านมาหลายปีแล้วก็ไม่เห็นจะลงมือสังหารตนเองเสียที ดังนั้นคิดว่าตอนนี้คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตชั่วคราว?
“เ้าอย่าเพิ่งแอบดีใจไป! ถ้าหากเ้าไม่สามารถทำให้ข้าพอใจได้ข้าสามารถสังหารเ้าได้ทุกเวลา ต่อให้ต้องจ่ายค่าตอบแทนแสนแพงเพียงใดข้าก็จะต้องยกเลิกพันธสัญญาแห่งิญญาของเ้ากับเสี่ยวเฮยให้จงได้ แล้วนำเสี่ยวเฮยกลับออกมา!”
ยังไม่ทันที่เย่ชิงหานจะได้รู้สึกว่าตนเองนั้นโชคดีได้เสร็จสิ้น ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่พูดขึ้นอีกครั้ง
“ในเมื่อเ้ามีโชคได้รับแหวนิญญาและอาศัยแหวนิญญาเรียกเสี่ยวเฮยได้สำเร็จซึ่งถือว่ามีวาสนาต่อกันกับพวกเราอยู่ไม่น้อย... ดังนั้นข้าจะให้โอกาสแก่เ้าครั้งหนึ่ง! ขอเพียงเ้าทำได้สำเร็จข้าก็จะไม่ทำเื่ที่ทำให้เสี่ยวเฮยเสียใจอย่างแน่นอน!”
มองดูสายตาที่เ็าและลักษณะท่าทางการแสดงออกของนาง เย่ชิงหานรู้ว่าท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เอาจริงและนางสามารถทำได้จริง ครั้นแล้วเย่ชิงหานจึงทำท่าประสานมือแล้วรีบพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่เชิญพูดมาได้เลย ชิงหานจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้ท่านพอใจให้ได้!”
พูดเป็เล่น! เื่ราวเกี่ยวพันถึงชีวิตความอยู่รอดของเขาถึงเพียงนี้เขาจะไม่จริงจังได้อย่างไร พูดในอีกทางหนึ่ง ต่อให้ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่่ชิงเสี่ยวเฮยกลับคืนและไว้ชีวิตเขาให้อยู่ต่อไปได้ ตัวเขาเองก็ทำใจยอมรับไม่ได้แน่นอน เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับเสี่ยวเฮยมาเป็ระยะเวลาหลายปี เสี่ยวเฮยในตอนนี้เปรียบเสมือนเป็เืเนื้อส่วนหนึ่งภายในร่างกายของเขาอย่างที่ไม่อาจจะแยกออกจากกันได้แล้ว
“ข้า้าให้เ้าบรรลุให้ถึงระดับขอบเขตเทพ์ให้ได้ภายในห้าสิบปี!” ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่พูดออกมาอย่างราบเรียบคล้ายกับว่าพูดในสิ่งไม่สลักสำคัญอะไรมากมายนัก “ถ้าหากภายในห้าสิบปีเ้าทำไม่ได้ละก็ ถึงเวลานั้นข้าคงพูดได้แค่เพียงว่า...เสียใจด้วย!”
พูดจบท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ไม่รอให้เย่ชิงหานตอบกลับมาแต่อย่างใด แต่ทำการพูดขึ้นต่อ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งเ้าอย่าได้คาดหวังที่จะได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากข้าแม้เพียงสักเล็กน้อย ข้าไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจผลประโยชน์ภายในทวีปัเพลิง ที่สำคัญคือ แม้ว่าเ้าใกล้จะตายอย่างมากข้าก็ทำเพียงแค่รักษาชีวิตของเสี่ยวเฮยเอาไว้เพียงเท่านั้น เ้าต้องยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเ้าเองจนกระทั่งกลายเป็เทพ และต้องทำให้ได้ภายในเวลาห้าสิบปี มิฉะนั้นละก็...เ้าจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
บรรลุให้ถึงระดับขอบเขตเทพ์ให้ได้ภายในระยะเวลาห้าสิบปี? มิฉะนั้น...ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย?
เย่ชิงหานรู้สึกราวกับว่าบนบ่าทั้งสองข้างพลันมีขุนเขาลูกใหญ่ที่หนักอึ้งกดทับลงมา กดทับลงมาจนกระทั่งเอวของเขาแทบจะโค้งงอลงไป แม้กระทั่งลมหายใจก็เริ่มติดๆ ขัดๆ ร่างกายเริ่มสั่นเทิ้มขึ้นมาเล็กน้อย...
กลายเป็เทพ? มีใครบ้างที่จะไม่อยากกลายเป็เทพ?
เป้าหมายสูงสุดของผู้ฝึกยุทธ์ทั่วทั้งทวีปัเพลิงล้วนคือการได้กลายเป็เทพ! แต่...เทพของทวีปัเพลิงมีกี่คนเอง? การจะกลายเป็เทพได้ไม่เพียงแค่ว่าอาศัยความพยายามก็จะสำเร็จได้ แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในพลังกฎเกณฑ์อย่างทะลุปรุโปร่ง อีกทั้งยังต้องมีโชคชะตาวาสนาที่ดีซึ่งสองสิ่งนี้เป็สิ่งที่สำคัญเป็อย่างมาก!
ยังไม่ต้องพูดถึงระดับเทพ เอาแค่ระดับขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ในทวีปัเพลิงก็มีอยู่เพียงไม่กี่คน ตอนนี้ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่กลับจะให้เขาบรรลุระดับเทพให้ได้! แถมยังกำหนดขอบเขตของเวลาไว้ที่ภายในระยะเวลาเพียงแค่ห้าสิบปีอีกด้วย?
เย่ชิงหานนิ่งเงียบลง ทำการหลับตาก้มศีรษะลง นิ่งเงียบอยู่เช่นนั้นอย่างเนิ่นนาน!
จนกระทั่งเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สายตาของเขากลับเต็มไปด้วยพลังของการต่อสู้ที่ลุกโชนขึ้นและความฮึกเหิมอย่างบ้าคลั่ง ทั่วทั้งสรรพางค์กายแผ่พุ่งไอพลังของผู้พร้อมที่จะบุกทะลวงไปข้างหน้าอย่างไม่ท้อถอยออกมาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จากนั้นเขาจ้องมองดูท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่อย่างถึงที่สุด
“ห้าหกปีก่อนข้ายังเป็เพียงแค่ไอ้ขยะไร้ค่าที่มีพลังฝีมือระดับขั้นแรกขอบเขตขั้นสูง จนถึงวันนี้ข้ากลายมาเป็ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิ เป็ผู้มีพร์อันดับหนึ่งของทวีปัเพลิง ข้าเชื่อมั่นว่าขอเพียงมีปณิธานที่แน่วแน่ ต่อให้มีแผ่นฟ้าผืนใหญ่ครอบอยู่เหนือศีรษะ...ข้าก็จะทลายผ่านมันไปให้ได้สักวันหนึ่ง! ข้ารับปากท่าน ภายในระยะเวลาห้าสิบปีข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อบรรลุให้ถึงระดับขอบเขตเทพ์ให้จงได้!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้