ในทางเดินลึก ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์แปเตอร์ แช็คเปลือยท่อนบน เผยกล้ามเนื้อเป็มัดๆ ที่งดงาม ท่อนล่างของเขาสวมกางเกงที่มาจากการออกแบบของซุนเฟย มันเป็กางเกงทรงขี่ม้าที่ได้รับความนิยมในเมืองแซมบอร์ดเร็วๆ นี้ เขาโบกค้อนั์ในมือที่หนักอย่างน้อยห้าร้อยจินประหนึ่งกังหันลม เสียงดังตูมตาม คลื่นพลังสีเหลืองที่ปกคลุมทั่วกายกะพริบอย่างบ้าคลั่ง แช็คเหมือนเครื่องขุดในร่างมนุษย์ ท่ามกลางเสียงดังตูมต่อเนื่องกัน รั้วเหล็กของห้องขังก็ถูกทุบจนตกลงมา การรื้อถอนยังคงดำเนินต่อไปอย่างแข็งขัน
ฤทธิ์ยาของ ‘น้ำยาฮัลค์’ ที่ตกค้างในร่างของแช็ค ตอนนี้ถูกย่อสลายยจนหมดแล้ว ผิวที่เป็สีเขียวจางๆ ก็หายไปหมดแล้วเช่นกัน สภาพจิตใจและร่างกายที่ตกต่ำผอมบางจนน่าสังเวชก่อนหน้านี้เปลี่ยนไป กล้ามเนื้อกำยำขึ้น นอกจากพละกำลังของกล้ามเนื้อแล้ว เขายังผ่านการฝึกอย่างหนักทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้ระดับคลื่นพลังธาตุดินฟื้นฟูขึ้นมาจนถึงระดับสูงสุดของระดับสองดาวเช่นอดีต การที่สามารถฟื้นฟูพลังกลับมาได้จนถึงจุดสูงสุดภายในเวลาสั้นๆ ไม่กี่สิบวัน ส่วนใหญ่เป็เพราะเขามีพลังเช่นนี้แต่แรก ในอดีตแช็คถูกยกให้เป็ที่หนึ่งด้านการป้องกันระดับสองดาว ด้วยวิธีที่สามารถล็อกดาบให้แน่นด้วยมือจนดาบไม่สามารถทะลวงผ่านเข้ามาได้ และเดิมทีเขาก็มีพร์ในการเป็ผู้นำกองทัพ ดังนั้นเมื่อแช็คฟื้นฟูร่างกลับมา สำหรับซุนเฟยแล้วเขาเหมือนกับบรู๊คที่มีพร์ในการเป็ผู้นำทัพ
ร่างกายอวบอ้วนของพัศดีโอเลเกร์คอยเทียวมาเทียวไปในฝูงชน
ราวกับว่าติดเชื้อจากแช็คที่ถอดเกราะออกรบ1 พัศดีเปลือยท่อนบน หากมีก้อนหินหรือเหล็กขนาดใหญ่เกินไปจนขยับไม่ได้ โอเลเกร์ก็จะหัวเราะจนไขมันกระเพื่อมแล้วเดินไปช่วยด้วยตัวเอง เขาแสดงพลังมหาศาลของตัวเองหลังจากที่ผ่านการปรับเปลี่ยนด้วย ‘น้ำยาฮัลค์’
เขาก็เหมือนซุนเฟยที่เป็พวกชอบโอ้อวด
เมื่อได้ยินเสียงอุทานและพูดคุยของเหล่าทหาร โอเลเกร์ก็มักจะแสดงท่าทางภาคภูมิใจ บางทีอาจเป็เพราะสาเหตุไร้สาระนี้ ตอนนี้แม้ว่าระดับคลื่นพลังของเขาจะยังคงอยู่ในระดับหนึ่งดาว แต่พลังกล้ามเนื้อของเขากลับเติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่งจนอยู่ในระดับสองดาว เหมือนกับว่าฤทธิ์ยาของ ‘น้ำยาฮัลค์’ ได้เปลี่ยนแปลงทางกายภาพของเขา ร่างกายของโอเลเกร์ในตอนนี้จึงแสดงให้เห็นถึงกลิ่นอายกล้าหาญและดุดันออกมา ความจริงแล้วหน้าท้องของเขาก็มีกล้ามเนื้อซิกแพค เปลี่ยนรูปลักษณ์ของเ้าอ้วนอัปลักษณ์ที่ขี้ขลาดเมื่อครึ่งเดือนก่อนไปสิ้นเชิง
มองเห็นเ้าอ้วนที่โลภจนกลัวตาย โลภจนเป็ชีวิตคนนี้ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับเหล่าทหารและยังได้รับความเคารพจากเหล่าทหารผ่านศึก ซุนเฟยแม้จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยแต่เขาก็พอใจมาก เ้าอ้วนโอเลเกร์เป็คนเสเพลกลับตัวใหม่ แต่มารดามันเถอะ มันจะไม่ไวไปหน่อยเหรอ? ไวเหมือนผายลมเลย!
“องค์าาอเล็กซานเดอร์!”
“ฝ่าา!”
เมื่อเห็นซุนเฟยมาถึง เหล่าทหารแต่ละนายก็เผยสีหน้าเคารพเลื่อมใส พวกเขาต่างก้มหัวลงแล้วโค้งกาย ซุนเฟยเดินเข้ามาอย่างช้าๆ พลางยิ้มและทักทายทหารทุกคน หลังจากผ่านไปหลายวันแล้ว ตอนนี้เขาก็เรียกชื่อทหารทุกคนได้อย่างถูกต้อง สำหรับซุนเฟยแล้ว นี่เป็การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถเอาชนะใจทุกคนได้ เมื่อเหล่าทหารที่ยังหนุ่มแน่นได้ยินว่าองค์าารู้จักชื่อของตัวเองต่างก็รู้สึกตื่นเต้นจนเืลมร้อน
งานรื้อถอนเรือนจำดำเนินการไปอย่างเข้มงวดและเป็ระเบียบ
ครั้งนี้ซุนเฟยนำพิมพ์เขียวแบบหลอมของขั้นตอนที่สองมาด้วยเพื่อมอบให้กับปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่กำลังยุ่ง
ในเมืองแซมบอร์ดมีช่างตีเหล็กอยู่สามสิบกว่าคน ในบรรดาคนเ่าั้คนที่มีฝีมือการหลอมดีที่สุด คือชายวัยกลางคนที่ชื่อว่าซามูเอล ผมสั้นสีดำของเขาเหมือนเข็มเหล็กที่ตั้งขึ้น ส่วนใหญ่เขามักจะเงียบขรึมราวกับก้อนหินที่มั่นคง ดังนั้นทุกคนต่างชอบเรียกเขาว่า ‘ก้อนหิน’ แม้ว่าเขาจะมีนิสัยเงียบขรึม แต่เขาก็เป็คนใจกว้างและมีความกระตือรือร้นอย่างมาก จัดอยู่ในประเภทผู้ชายที่ภายนอกอาจจะดูเ็าแต่หัวใจกลับเร่าร้อนมาก
ตรงขอบเตาหลอมที่ร้อนระอุ ซามูเอลก็ก้มมองภาพวาดบนแผ่นหนังที่องค์าาส่งมาให้อย่างละเอียด เขาขมวดคิ้วก่อนจะหยุดมือทำงานแล้วเริ่มพิจารณา เดี๋ยวดีใจเดี๋ยวสับสนสีหน้าเปลี่ยนไปมา
ซุนเฟยสังเกตอากัปกิริยาของเขาอย่างสนใจ อดไม่ได้ที่จะอธิบายภาพวาดเหล่านี้ทีละทีรูป กำชับรายละเอียดปัญหาที่จำเป็ต้องระวังในกระบวนการสร้าง ซามูเอลเงียบไปครู่หนึ่ง ความสามารถในการเข้าใจในด้านการหลอมของเขาเห็นได้ชัดว่าสูงมาก ในหลายๆ จุดก็สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน หลังจากที่ฟังจบคิ้วที่ขมวดก็ค่อยๆ คลายออกราวกับเข้าใจได้ทันที พลางพยักหน้ารับปากว่า “ฝ่าาทรงวางพระทัย เครื่องมือเหล็กพวกนี้ พวกข้าสามารถสร้างมันออกได้ภายในสิบวัน”
ซุนเฟยยิ้มพลางหัวเราะออกมา “งานนี้ต้องลำบากพวกเ้าหน่อยนะ เวลากระชั้นชิดทั้งงานหนักอีก พวกเ้ามีข้อเรียกร้องด้านอาหารหรือค่าตอบแทนอะไรก็สามารถบอกกับโอเลเกร์ได้ เขาจะสนับสนุนพวกเ้าเต็มที่”
ได้ยินสัญญาที่ใจกว้างขององค์าา เหล่าช่างตีเหล็กต่างพากันดีใจขึ้นมา
เมื่อพิจารณาเขาวงกตใต้ดินนี้ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตามการออกแบบของตัวเองให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ซุนเฟยหันไปเรียกแช็คและโอเลเกร์ที่อยู่ข้างๆ แล้วเดินไปทางห้องโถงาาชั่วคราวที่จัดเตรียมไว้แล้วในห้องโถงั์
เขามีเื่ที่อยากสั่งการทั้งสองคน
แต่เมื่อซุนเฟยเดินไปที่ข้างๆ เตาหลอมอีกครั้ง ในใจพลันนึกบางอย่างขึ้นมา
ความจริงแล้วสำหรับซามูเอลและช่างตีเหล็กเมืองแซมบอร์ด การหลอมพวกอุปกรณ์เหล็กขนาดใหญ่และหนักเป็สิ่งที่ค่อนข้างง่าย ทั้งยังสร้างขึ้นมาอย่างง่ายดาย แต่ชิ้นส่วนเล็กๆ อย่างฟันเฟืองและสกรูค่อนข้างทำได้ยาก แต่ก่อนหน้านี้ซุนเฟยได้มอบให้ช่างตีเหล็กสาวชาร์ซีในโลก Diablo ไว้ นางก็ทำจนเสร็จ มันก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถึงเวลา เขาจะคิดหาวิธีที่จะแลกเปลี่ยนสิ่งของบางส่วนในโลก Diablo ออกมา
แต่การแลกเปลี่ยนสิ่งของออกมาจากโลก Diablo มันแพงเกินไป จำเป็ต้องมีเหรียญทองจำนวนมาก หากทำให้ชาร์ซีและเอเลน่าออกมาที่โลกแห่งความจริงได้ก็คงจะดี หากเป็แบบนี้ไม่เพียงจะประหยัดค่าแลกเปลี่ยนแล้ว ยังทำให้ ‘ก้อนหิน’ ซามูเอลเรียนรู้เทคนิคการหลอมระดับสูงกับชาร์ซีด้วย เมืองแซมบอร์ดในปัจจุบันนี้ ช่างฝีมือที่ยอดเยี่ยมก็เป็สิ่งจำเป็นอกจากเหล่ายอดฝีมือที่เป็อัจฉริยะ จะดีที่สุดคือให้ช่างตีเหล็กสาวชาร์ซีออกมาอบรมเหล่าช่างตีเหล็กอัจฉริยะพวกนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อเมืองแซมบอร์ด
ความคิดนี้โผล่ขึ้นมาในหัวของซุนเฟย เขาคิดถึงสิ่งต่างๆ มากมาย ก่อนตัดสินใจที่จะทดลองใช้แผนนี้ในอนาคตอันใกล้
ไม่ช้าทั้งสามคนก็มาถึงห้องที่ดูสบายในเขาวงกตซึ่งเป็ห้องโถงาาชั่วคราว
ซุนเฟยหยิบ ‘น้ำยาฮัลค์’ ออกมาส่งให้แช็คหนึ่งขวด ให้เขาทำตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ที่จะต้องผสมมันกับน้ำสะอาดแล้วให้พวกทหารดื่มโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว
ปัจจุบันทหารทั้งหนึ่งร้อยนายนี้เป็ขุมพลังที่หลบซ่อนของเมืองแซมบอร์ด หลังจากตอนแรกที่ดื่มน้ำยาพวกนี้เพื่อปรับเปลี่ยนร่างกายของพวกเขา จนสามารถพร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยนครั้งที่สอง ที่น่าเสียดายคือ เพราะแช็คและบรู๊คกับคนอื่นๆ ได้ดื่มน้ำยาครั้งแรกในปริมาณมาก ดังนั้นศักยภาพทั้งหมดได้รับการกระตุ้นอย่างเต็มที่ ดังนั้นหากดื่ม ‘น้ำยาฮัลค์’ อีกครั้งก็จะไม่มีผลอะไร เพื่อที่จะเพิ่มพลังของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ซุนเฟยจำเป็ต้องคิดหาวิธีอื่น
แช็คหยิบ ‘น้ำยาฮัลค์’ แล้วจากไป ซุนเฟยคิดอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้นเขาก็เรียกให้แช็คหยุด “จริงสิแปเตอร์ ในบรรดาช่างตีเหล็ก ถ้ามีคนที่ซื่อสัตย์และเชื่อถือได้ เ้าก็เจือจางน้ำยาแล้วให้เขาดื่มซะ ข้าคิดว่าหากพละกำลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับเดียวกับพวกทหาร งานหลอมต่อจากนี้คงจะมีความเร็วเพิ่มขึ้น”
ในดวงตาของแช็คเผยท่าทางแปลกใจออกมา เขาโค้งตัวแล้วเดินจากไป
ในห้องโถงก็เหลือเพียงแค่ซุนเฟยกับโอเลเกร์สองคน
ซุนเฟยกวาดสายตาขึ้นลงมองร่างของโอเลเกร์หลายรอบแล้วหยุดอยู่ตรงซิกแพคของเ้าอ้วนอยู่หลายวินาที ก่อนจะเห็นโอเลเกร์ยืนกระสับกระส่าย มือเท้าดูไม่เป็ธรรมชาติ จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพอใจ “ไม่เลว ดีมาก ดีมากๆ...โอเลเกร์ เ้าเป็คนฉลาด รู้ใช่ไหมว่าข้าพูดอะไร ใช่หรือไม่?”
โอเลเกร์พยักหน้า
แน่นอนว่าเขาเข้าใจคำว่า ‘ดีมาก’ ขององค์าามันคืออะไร
โครงสร้างอำนาจภายในเมืองแซมบอร์ดถูกจัดระเบียบขึ้นใหม่ อดีตเลขานุการบาร์เซิลกลายเป็นักโทษหลบหนี และผู้สมรู้ร่วมคิดของบาร์เซิลนอกจากตุลาการคอนก้าที่ถูกซุนเฟยสังหารด้วยตัวเองแล้ว คนอื่นๆ ก็ถูกบรู๊คและเบสท์ สองผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองแซมบอร์ดจับกุมและสังหาร กวาดเรียบไม่เหลือ หากจะบอกว่าในบรรดาคนที่หนีรอดจากการกระทำพวกนี้มีใครบ้าง นั่นก็คงเป็โอเลเกร์ ร่างกายของเขายังถูกนาบด้วยตราของบาร์เซิล และยังเป็ผีชางรับใช้เสือ2 เดิมทีเขาถือเป็หนึ่งในคนชั่วที่ไม่อาจปล่อยไปได้ แต่เพราะเขาเข้าร่วมรบกับองค์าาบนสะพานหิน จึงทำให้ปกป้องชีวิตสุนัขของโอเลเกร์ไว้ได้ องค์าาก็หวังว่าโอเลเกร์จะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ใช้การกระทำเปลี่ยนแปลงความคิดของคนอื่นที่มีต่อตัวเอง หวังว่าจะได้รับการยกโทษจากชาวเมืองแซมบอร์ดทุกคนและเข้าสู่กลุ่มผู้นำเมืองแซมบอร์ด ไม่อย่างนั้น แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากองค์าา แต่การดำรงอยู่ของโอเลเกร์ก็จะกลายเป็หนามที่ฝังรากลึกในศูนย์กลางอำนาจของเมืองแซมบอร์ด แล้วกลายเป็ฉนวนความขัดแย้งภายในอำนาจ
สำหรับความลำบากขององค์าา โอเลเกร์ต่างเข้าใจดีมาตั้งนานแล้ว เขาเป็คนอ้วนที่ฉลาด อย่างน้อยๆ ในด้านปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เขารู้ว่าควรจะทำอย่างถึงจะได้รับมิตรไมตรีจากบรู๊คและคนอื่นๆ ดังนั้น ตอนนี้เขาพยายามอย่างหนักเพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเื่ดีๆ ที่เขาทำมาไม่น้อยในที่สุดก็เริ่มแสดงผล เขาได้รับมิตรไมตรีจากคนส่วนใหญ่ในเมืองแซมบอร์ดแล้ว
“โอเลเกร์ขอบพระทัยสำหรับพระมหากรุณาธิคุณอีกครั้งขอรับ”
คิดถึงราวทั้งหมด ในใจของโอเลเกร์ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง
คราวนี้เ้าภูติตูดม้าคุกเข่าลงแสดงความเคารพ ไม่มีวาจาสวยหรู ไม่มีท่าทีจูบรองเท้าซุนเฟย
่เวลานี้ ในใจเขาก็พลันสงบนิ่ง เพียงเสี้ยววินาที ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่า ในยามปกติยืดกายตรง ต่อหน้าฝ่าาให้โค้งกายลงอย่างจริงจังด้วยความเคารพจากใจมันถึงจะมีค่า ตรงกันข้าม ในยามปกติก็เอาแต่โค้งกาย เมื่ออยู่ต่อหน้าฝ่าาก็โค้งกาย นั่นไม่ใช่ความเคารพ แต่มันแสดงถึงการดูถูกเท่านั้น
-------------------------------
1 ถอดเกราะออกรบ อุปมาว่า ทำงานแบบไม่วางแผนหรือไม่มีการอำพราง
2 ผีชางรับใช้เสือ อุปมาว่า ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้