ห้างE ชั้นจอดรถ
อลิซ อลิศา......
“วันนี้กูอิ่มและสนุกมากกกกกกกกกก”ทันทีที่ฉันกับแซนนี้เดินออกมาพ้นประตูทางออกของห้างที่เชื่อมกับโรงจอดรถแซนนี้ก็เอ่ยบอกฉันพลางหมุนตัวยิ้มร่าอย่างคนที่เก็บกดมานานและเพิ่งได้ปลดปล่อย ฉันกับมันใช้เวลาอยู่ในห้างร่วมๆแล้วเกือบๆ8ชั่วโมง
“เหรอจ๊ะ”ฉันหันหน้าไปเบะปากใส่มันพลางเอ่ยพูดขึ้น
“ย่ะ แล้วมึงไม่ดีใจรึไงได้ไปดูหนังกับว่าที่ป่ะป๊าของลูกมึงน่ะ”
“ดีใจมันก็ดีใจอ่ะนะ แต่จะมากกว่านี้ ถ้าไม่มีพวกของเฮียเคและมึงไปด้วยน่ะ”ฉันหันไปพูดใส่แซนนี้ด้วยนำ้เสียงที่คนฟังแล้วต้องนึกหมั้นไส้
“อีลิซ นี้กูเพื่อนมึงนะ”แซนนี้เรียกร้องความเป็เพื่อนจากฉัน
“กูก็เพื่อนมึงไง ทีมึงหนีไปเดทกับแฟนมึง มึงยังทิ้งกูเลย”
“อุ๊ย!อีความจำดี”แซนนี้พูดพลางชี้นิ้วมาที่หัวของฉัน ฉันก็รอยหน้ารอยตาเยาะเย้ยมันและเราก็มาถึงทางที่ต้องแยกกันแล้ว
“บ๊ายมึง ถึงบ้านโทรหากูด้วยนะ”แซนนี้เอ่ยบอกฉันพลางยกมือขึ้นมาบ้านลายฉัน
“ค่าแม่ ถึงบ้านแล้วหนูจะรีบโทรมารายงานนะคะ”ฉันพูดใส่จริตใส่แซนนี้แล้วยกมือบ๊ายบายมัน ฉันกับมันสนิทกันมากคุยกันได้ทุกเื่ จะสนุกมากกว่านี้ถ้ามีฮันนี่ด้วยมันยังไม่กลับมาอีกเหรอวะเนี่ย ไม่รู้หลงรักอะไรอเมริกาหนักหนา
ติ๊ดดดด
ฉันกดปลดล็อครถแล้วกำลังจะเปิดประตู
ปัง
“ว๊าย!”ฉันร้องขึ้นอย่างใที่อยู่ดีๆประตูรถสปอร์ตของฉันที่ฉันกำลังจะเปิดก็ถูกมือใหญ่ของใครสักคนปิดประตูรถของฉันอย่างดัง
“นาย!”เมื่อฉันเห็นว่าใครกล้าทำกับรถสุดรักของฉันได้ก็ต้องใเมื่อเขาคือผู้ชายที่ฉันเพิ่งจะเจอเมื่อหลายชั่วโมงก่อนและเขาคือคนเดียวกันที่พรากสิ่งที่ฉันเก็บไว้ให้คนที่ฉันรักไปเขาเองจับร่างของฉันให้หันไปเผชิญหน้ากับเขาและเขากักตัวฉันไว้ในท่อนแขนแข็งแรงทั้งสองข้างที่เขาเท้ารถฉันไว้และมีฉันยืนอยู่ตรงกลาง ใบหน้าของเราสองคนใกล้กันมาก มากจนฉันสามารถมองเห็นใบหน้าที่ขาวใสไร้ที่ติของเขา เนียนมากจริงๆเนียนกว่าผู้หญิงอีก
“พี่ชื่อเฮลครับ ไม่ใช่ชื่อนาย”เขาเอ่ยบอกฉันพลางยื่นหน้าหล่อๆของเขาเข้ามาใกล้ฉัน ปลายจมูกของเขาคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้มของฉัน ฉันหลับตาปี๋
“อื้อออ อย่าแตะอั๋งฉันน่ะ!”ฉันพูดขึ้นอย่างกล้ากลัวๆ
“วันนี้เมียพี่แต่งตัวสวยจังเลยนะครับ^_^”เขาพูดขึ้นอยู่ตรงหน้าฉันด้วยนำ้เสียงร่าเริงทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจจึงค่อยๆลืมตามองหน้าเขา ก็เห็นว่าใบหน้าหล่อๆขาวๆของเขาอยู่ตรงหน้าฉันห่างกันแค่นึดเดียว
“อะไรของนาย?”ฉันเอ่ยถามเขาไป บ้าป่ะเนี่ยรู้จักก็ไม่รู้จักมาชมซะงั้น
“ไม่ดีใจเหรอที่พี่ชมหนูว่าสวยน่ะ”เขาเอ่ยถามฉันด้วยนำ้เสียงแปลกๆเหมือนน้อยใจอะไรแบบนั้นน่ะ เขาเป็พวกขาดความอบอุ่นรึป่าววะเนี่ย
“ฉันจะดีใจทำไม เราไม่ได้เป็อะไรกันหนิ”ฉันยอกเขาไปพลางมองหน้าเขาฉันเริ่มเจ็บนิ้วแล้วนะ หนักของที่ฉันไปช้อปกับแซนนี้มาน่ะ
“ไม่ได้เป็อะไรกันเหรอ แน่ใจเหรอครับ ว่าเรา เรา”เขาไม่พูดเปล่าไล่สายตาคู่คบสวยดุดพญาเหยี่ยวของเขามองหน้าอกของฉันด้วยสายตาหวานเยิ้มแลดูเ้าเล่ห์
“นี้นาย!”ฉันร้องขึ้นด้วยนำ้เสียงไม่พอใจจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองก็ไม่ได้เพราะติดเเขนผู้ชายคนนี้อยู่ยังไงเล่า อะไรหนักหนาก็ไม่รู้
“ทำไมครับ หรือว่าหนูอยากให้พี่รำลึกถึงความหลังให้ ว่าเราสองคนสนุกกันมากแค่ไหน”
“หยุดพูด หยุดเดี๋ยวนี้!”ฉันใส่หน้าตาจริงจัง จนเขาทำตาเบิกโตขึ้นอ้าปากขึ้นเล็กน้อยเหมือนคนใ
“จุ๊ๆๆๆนี้ขนาดยังไม่ได้แต่งยังดุพี่ซะขนาดนี้ แล้วถ้าแต่งแล้วจะขนาดไหนนะ”เขาทำปากจุ๊ๆพูดขึ้นรอยหน้ารอยตาไปมาอย่างน่าหมั่นไส้
“เลิกพูดอะไรบ้าๆได้แล้ว แล้วก็ปล่อยฉันได้แหละ!”ฉันบอกเขาพลางเหลือบตาไปทางท่อนแขนของเขาที่โอบปิดทางไม่ให้ฉันออกไป เขาก็ส่ายหน้าไปมาเหมือนทำเป็ไม่ได้ยินเสียงฉัน อีผู้ชายคนนี้มันกวนประสาทจังว่ะ ฉันมองหน้าเขาด้วยสายตาไม่พอใจผิดกับอีกฝ่ายที่ยกยิ้มหล่อจนฉันเผลอใจเต้น เห้ย!เดี๋ยวน่ะ ߒ㼯p>
“เห้ย!มึงว่าน้องอลิซเป็ไงบ้างวะ”อยู่ดีๆก็มีเสียงผู้ชายพูดขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าค่อยๆใกล้เข้ามาตรงที่ฉันยืนอยู่และฉันจะไม่เอะใจถ้าไม่มีชื่อฉันในบทสนทนาของพวกเขา
“ตรงสเปคมึงหนิไอกรูฟ”และก็มีเสียงของผู้ชายพูดขึ้นอีก กรูฟพี่หมอกรูฟเหรอ ฉันตรงสเปคพี่หมอกรูฟเหรอ
“เอ่อใช่ โคตรตรงสเปคกูอ่ะ เห็นแล้วอยากได้สัสๆ”และเสียงที่ฉันคุ้นเคยก็พูดขึ้นด้วยนำ้เสียงแจ่มใส พี่หมอกรูฟจริงๆด้วย ฉันพยายามชะเง้อคอมองหาต้นเสียงจนร่างสูงที่ยืนทาบร่างของฉันอยู่มองฉันตาขวางเลย แต่ฉันจำเป็ต้องสนใจเขาป่ะ
“อยากได้อะไรวะเชี้ยกรูฟ”
“เอ่อนั้นสิ อยากได้อะไรวะ”และตามด้วยเสียงแซวพี่หมอกรูฟ
“อยากได้เป็แฟนเว้ย!พวกมึงนี้คิดเชี้ยอะไรกัน”เสียงพี่หมอกรูฟเอ็ดเพื่อนๆเขาด้วยนำ้เสียงจริงจัง
“คนนี้จริงจังเว้ย! ใจพังก็ยอม”พี่หมอกรูฟพูดด้วยนำ้เสียงจริงจัง ทำให้ฉันเผลอยิ้มกว้างขึ้นมาพลางบิดตัวไปมาด้วยความเขิน ดีจังที่ใจเราตรงกันอร๊ายพี่หมอขา
“ผัวยืนอยู่ตรงนี้ครับ!!!”อยู่ดีๆผู้ชายคนนี้ก็ะโขึ้นมาเสียงดังในจังหวะที่พวกพี่กรูฟกำลังจะเดินผ่านเราสองคนไปพอดีแต่พวกเขาก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงผู้ชายบ้าคนนี้นี่แหละ
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย”ฉันมองหน้าเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจพลางเอ่ยถามเขาไปด้วยนำ้เสียงกระซิบเพราะกลัวพวกพี่กรูฟได้ยินน่ะสิ ถ้าพี่กรูฟรู้ว่าเป็ฉันน่ะ พี่กรูฟคงจะไม่อยากได้ฉันเป็แฟนแล้วแหละ เขาก็ทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ส่งมาให้ฉัน
“มีอะไรกันรึป่าวครับ?”เสียงของพี่กรูฟะโถามขึ้นมาด้วยนำ้เสียงเป็ห่วงและเหมือนเขาจะเดินเข้ามาด้วยนะ เวรแล้วสิ เวรกรรมแน่ๆดีน่ะที่ไฟในโรงจอดรถของห้างนี้ค่อยข้างมีแสงผ่านเข้ามาได้น้อยหน่อยไม่งั้นล่ะก็หึ๊ย!
“ไม่มีอะไรค่ะคุณหยุดอยู่ตรงนั้นแหละคะ สามีของดิฉัน เขาเป็คนจิตไม่ค่อยปกตินะคะ”ฉันดัดเสียงเล็กๆแหลมๆและะโตอบพี่หมอไป และเหมือนพี่หมอจะหยุดยืนนิ่งๆแล้ว
“จิตไม่ปกติ?”ร่างหนาของคนตรงหน้าเอ่ยถามฉันพลางเลิกคิ้วขึ้น ฉันจึงส่งสายตาดุๆไปให้เขาว่าเงียบๆอย่าพูดอะไรทำนองนี้และเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่ทำสีหน้าไม่พอใจ
“อ้าว แล้วพาเขาไปพบจิตแพทย์รึยังครับ ผมเป็หมอให้ผมช่วยไหมครับ?”พี่หมอกรูฟเอ่ยถามขึ้นมาอีกด้วยนำ้เสียงเป็ห่วงแบบคนที่เป็หมอ
“ไม่เป็ไรค่ะ พอดีดิฉันนัดคุณหมอไว้แล้วขอบคุณคุณมากเลยนะคะ”
“คุณไปเถอะค่ะ”ฉันเอ่ยบอกพี่หมอ
“อ๋อครับ เอาแบบนั้นก็ได้ครับ พวกผมขอตัวก่อน”พี่หมอกรูฟเอ่ยขึ้นพร้อมๆกับเสียงฝีเท้าหลายๆคู่ก็พากันเดินออกไปจากตรงนี้
“เฮ้ออออออออ เกือบไปแล้ว”ฉันผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ผัวตัวเองยืนอยู่ตรงนี้แท้ๆยังไปคิดถึงคนอื่นอยู่ได้”ร่างหนาเอ่ยพูดขึ้นด้วยนำ้เสียงเศร้าๆจนฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขา
“เป็บ้าอะไรอีกล่ะ โรคบ้ากำเริบเหรอคะ?”ฉันรอยหน้ารอยตาถามเขาไปพลางเอามือผลักท่อนแขนหนาของเขาให้หลุดออกจากรถฉันเพื่อฉันจะได้เป็อิสระ และคราวนี้ก็เป็ผลเขายอมปล่อยมือออกจากรถของฉัน น่าจะปล่อยตั้งนานแล้วน่ะ ฉันจึงเอามือผลักไปที่อกของเขาให้ถอยออกไปจากฉันไกลๆฉันจะได้เปิดประตูรถเอาของไปเก็บได้
“มันหล่อกว่าฉันตรงไหน?”อยู่ดีๆเขาก็เอ่ยถามฉันในจังหวะที่ฉันเอาของใส่รถเเละปิดประตูรถฝั่งคนนั่งเป็ที่เรียบร้อยแล้ว นำ้เสียงของเขาทำให้ฉันที่กำลังจะเดินผ่านร่างของเขาต้องหยุดเดินและหันกลับไปมองเขาสายตาของฉันไปปะทะเข้ากับผ้าก๊อซสีขาวที่ถูกพันรอบมือข้างที่ถูกแก้วบาดของเขา ฉันเมื่อตั้งสติได้ว่าฉันจะไปสนใจเขาทำไมฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขา และเดินเข้าไปยืนตรงหน้ากับเขา
“เขาอาจจะหล่อสู้นายไม่ได้ แต่นายจำไว้ว่านายไม่ใช่เขา นายไม่มีทางมาแทนที่เขาได้ เข้าใจป่ะ”ฉันยืนกอดอกพลางเอ่ยบอกเขา
“เลิกยุ่งกับฉันสักที เสียซิงครั้งเดียวฉันไม่ถือ ยังไงๆมันก็ต้องเสียอยู่แล้ว”ฉันพูดบอกเขาและกำลังจะหันหลังจากเขามา
“พี่รู้แต่พี่อยากจะช่วยหนูให้สมหวังน่ะ ให้พี่ช่วยหนูได้ไหม?”จะมามุกไหนอีกเนี่ย
“พี่ขอโทษสำหรับทุกเื่ที่พี่ทำ พี่สำนึกผิดแล้วจริงๆพี่อยากจะช่วยหนูจริงๆ”เขาพูดด้วยนำ้เสียงจริงจังจนฉันแปลกใจ นี้เขาจริงจังเหรอเนี่ย
“ช่วยอะไร?”ฉันเอียงคอมองเขาด้วยความสงสัย ช่วยอะไรวะ
“ช่วยให้หนูสมหวังกับไอพี่หมออะไรนั้นของหนูไง”
“เดี๋ยวพี่สอนกลยุทธ์มัดใจเสือให้หนูไง สนใจไหมครับสอนให้ฟรีๆเลยอ่ะ”เขาพูดบอกฉันด้วยสีหน้าเป็มิตร ฉันจะไว้ใจเขาได้เหรอเนี่ย ขนาดเฮียเคที่โตด้วยกันมา เขายังหลอกฉันได้เลยน่ะ แล้วอีตานี้เป็ใคร
“พี่ไม่หลอกหนูหรอกน่ะ นิสัยพี่ไม่เหมือนไอเคนะครับ”เขาพูดบอกฉันเหมือนเขารู้ว่าฉันไม่ไว้ใจเขา
“ฉันจะเชื่อใจนายได้จริงๆเหรอ?”ฉันขมวดคิ้วพลางมองสำรวจเสื้อผ้าที่เขาใส่รุกแบดบอยขนาดนี้ มันจะไว้ใจได้จริงๆเหรอวะ
“ได้สิครับ ก็แล้วแต่หนูน่ะ เพราะพี่ก็เป็เสือพี่รู้ว่าเสือชอบอะไรและพอใจอะไรมากที่สุด”
“เหยื่อแบบไหนที่จะอยู่ให้เสือกินไปแบบถาวร”เขายังคงพูดให้ฉันคิด ฉันก็คิดตามที่เขาพูด ใช่ฉันคิดจะจับเสือก็ต้องให้เสือนี้เเหละช่วย
“ถ้านายคิดตุกติกกับฉัน ฉันจะให้เฮียฉันมาะเิสมองนายทิ้งซะ!”ฉันพูดขึ้นพลางยกนิ้วชี้ไปที่หน้าของเขา เขาก็อมยิ้มขึ้นอย่างเลศนัย ฉันจะไว้ใจเสือได้จริงๆเหรอวะเนี่ย เอาวะยังไงอยากได้เสือก็ต้องให้เสือนี้เเหละช่วย
“ด้วยเกียรติของเสือนักล่าเลยครับ^_^”เขาบอกฉันพลางยิ้ม
ร่ามาให้ฉัน มองๆไปแล้วเขาก็มองบื้อๆซื่อๆต๋องๆๆยังไงไม่รู้น่ะ