ความรู้สึกประหลาดไม่เคยเกิดขึ้นเช่นนี้มาก่อน !!!
... ... ... ...
กลิ่นอับชื้นโชยขึ้นทันที...หลังจากมือของชายวัยกลางคนไขกุญแจผลักประตูเข้าไป เขาเชิญให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างเข้าไปสำรวจพื้นที่ภายในตัวอาคาร ทั้งสองคนก้าวเข้าไปและเดินจากด้านหน้าประตูเข้าไปยังบริเวณที่เรียกว่า โถงบ้าน ซึ่งห่างจากประตูแค่สิบเก้า ทั้งคู่มองตัวบันไดไม้ตรงหน้าแล้วชายวัยกลางคนจึงพยักหน้าให้ชายหนุ่มเดินตามเขาเลยเข้าไปยังด้านใน ซึ่งเป็บริเวณรับแขกติดกันเป็บริเวณแพนทรีซึ่งเป็มุมครัวขนาดเล็ก
จากนั้นทั้งคู่ผลักประตูตรงครัว ก้าวออกไปยังบริเวณสวนด้านหลัง ชายวัยกลางคนเหลียวซ้ายแลขวากวาดสายตามองพื้นที่เต็มไปด้วยวัชพืชในฤดูร้อน เขามองตามหลังชายหนุ่มที่มาด้วยกันกำลังเดินตรงไปยังกำแพงเปลือยที่ก่อเป็อิฐไม่ได้ฉาบปูนด้านซ้ายมือ เขาสงสัยว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังจะทำอะไร ท่าทางบ่งบอกถึงความสงสัยบางอย่าง เขาจึงตามไปสังเกตการณ์
“รู้สึกขนลุก ใจเต้น กำแพงตรงนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหน” เจสันพึมพำคนเดียว
“ก่อนเข้าอยู่ คุณต้องปรับปรุงนิดหน่อย” ชายวัยกลางคน เอเย่นต์หาบ้านเช่าแนะนำชายหนุ่ม
“มิสเตอร์ ริมเมอร์ ช่วยผมหาคนมาดูที่นี่ได้ไหม” เจสันหันหน้าจากตรงกำแพงมาแจ้งเอเย่นต์วัยกลางคน
“ผมขอเวลาหนึ่งสัปดาห์” เดฟ ริมเมอร์ จ้องแววตาของชายหนุ่มตรงหน้า เขากำลังประเมินการปิดดีลครั้งนี้
“ผมขอประเมินค่าใช้จ่ายก่อนตกลงทำสัญญา” คำตอบของเจสันทำให้ชายวัยกลางคนรู้ได้ทันทีว่าการปิดดีลครั้งนี้มีตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาจะต้องเร่งรัดชายหนุ่มคนนี้ให้รีบตัดสินใจ
“คุณมีเวลาแค่สิ้นเดือน โปรโมชั่นทำสัญญาหนึ่งปี แต่จ่ายล่วงหน้าครึ่งปี จะไม่มีอีกแล้ว และบ้านหลังนี้อยู่ในเขตสิบสาม เป็บริเวณที่ดีที่สุดสะดวกกับการเดินทางที่ไม่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว
“เอาเป็ว่าผมรับทราบ และจะรีบพิจารณาก่อนสิ้นเดือน” เจสันจ้องหน้าเอเย่นต์หนุ่มใหญ่ ทั้งสองคนต่างช่างใจกันอยู่ หากดีลครั้งนี้พลาดไปทั้งคู่เสียโอกาส ฝ่ายหนึ่งเสียลูกค้าโปรไฟล์ดี อีกฝ่ายพลาดโปรโมชั่นซึ่งไม่มีเอเย่นต์ใด ที่ได้หาข้อมูลมาก่อนหน้าแล้ว...ว่าจะดีกว่าบริษัทนี้
เจสันเดินนำหน้ากลับเข้ามายังตัวบ้านและก้าวขึ้นบันไดเพื่อสำรวจชั้นบน บ้านหลังนี้มีห้องชั้นบนอยู่สองห้อง ห้องน้ำในตัวทั้งสองห้องที่เรียกว่า en suite ห้องนอนใหญ่ตรงกลางมีเตียงไม้โอ๊กสีดำแดงเงาเลื่อม ฟูกเปลือยสีเหลืองออกคราบดวงๆ อยู่ในสภาพทิ้งไว้นานหลายปีไร้การดูแล
อีกห้องมีขนาดเล็กกว่า เจสันเปิดประตูเข้าไปกลิ่นอับชื้นปะทะขึ้นโพรงจมูก ทำให้เขาจามอย่างรุนแรงหลายครั้ง
สายตาของเขามองสำรวจไปรอบๆ มาสะดุดที่ตู้ขนาดเล็กที่ยังวางอยู่ตรงหัวเตียงข้างขวา กลิ่นของเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะจากตู้เสื้อผ้าในห้องนี้ทำเขาจามขึ้นอีก ทำให้เขาก้าวออกมาทันทีและงับประตูเพื่อไม่ให้กลิ่นโชยตามออกมาด้วย
‘คง ต้องหาคนทำความสะอาดอย่างน้อยเป็อาทิตย์’ เขากำลังคิดถึงใครคนหนึ่งที่น่าจะช่วยเขาได้
หลังจากไปดูบ้านที่เขตสิบสามหลังนี้มาได้สามวัน เขาได้รับสายโทรศัพท์มือถือ... เสียงปลายสายไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หลังจากทักทายแนะนำตัว น้ำเสียงของชายที่โทรเข้ามาแสดงความกังวล!!!
“คุณจะเช่าบ้านหลังนั้นหรือ”
“อืม... แล้วคุณมีปัญหาอะไรกับผม” เจสันถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“ผมแค่อยากเตือน”
“ฮ่า... ทำไม บ้านมีปัญหาเช่าไม่ได้หรือ”
“ผมมีอีกที่หนึ่งดีกว่านี้ ไม่ต้องทำอะไร อยู่ได้เลย” ชายผู้นี้คงคิดแย่งลูกค้ากับเอเย่นต์หนุ่มใหญ่คนนั้น แล้วเขาไปเอาข้อมูลของเจสันจากใคร จึงมาคอยดักแย่งกันแบบนี้
“ขอผมคิดดูอีกครั้ง คุณให้เบอร์โทรผมไว้ หลังจากเราจบการสนทนา” เลขหมายของเจสันจะให้ปลายทางแจ้งรายละเอียดไว้ก่อนวางสายไป ระบบจะอัดเสียงของคู่สนทนาปลายทางโดยอัตโนมัติ
ภายในห้องทำงาน เขานั่งเคาะนิ้วชี้กับพื้นบนโต๊ะทำงาน ชายหนุ่มเพิ่งเดินทางมาถึงต้นเดือน เขาได้อาศัยพักพิงกับเพื่อนสมัยเรียนมัธยม และนิรัตน์ก็คะยั้นคะยอไม่ให้เขาไปพักอยู่ตัวคนเดียว
ด้วยความเป็หนุ่มลูกครึ่งเจสันจึงชอบอยู่ตัวคนเดียวทำตัวเอกเทศ หนุ่มสายพิศมัยความเงียบแนวสันโดษ ไม่อยากไปเบียดเบียนเพื่อนฝูง และบางครั้งหนุ่มโสดยัง้าความเป็ส่วนตัว
... ... ... ...
เจสันตัดสินใจโทรหานิรัตน์ช่วยติดต่อแม่บ้านที่มาทำความสะอาดยูนิตคอนโดที่เขาอยู่ พรุ่งนี้เป็วันเสาร์เขาจะกลับเข้าไปดูบ้านหลังนั้นอีกครั้งพร้อมประเมินค่าทำความสะอาด
แม่บ้านที่นิรัตน์ติดต่อให้ ได้โทรมาหาเขา่หัวค่ำและนัดหมายไปเจอกันที่บ้านหลังนั้นในวันรุ่งขึ้น ตามนัดหมายเขาไปถึงหน้าบ้านหลังนี้ก่อน จากนั้นไม่นานหญิงกลางคนผิวสีรูปร่างอวบเห็นชายหนุ่มยืนรออยู่แล้ว จึงรีบตรงเข้ามาหาทันที
เจสันเอากุญแจดอกที่ขอเก็บไว้จากเอเย่นต์วัยกลางคนเมื่อวันนั้น ไขประตูหน้าบ้าน เขาขอให้แม่บ้านเข้าไปสำรวจภายในเพื่อประเมินค่าใช้จ่าย ตัวเขาเองขอเดินดูบริเวณด้านหน้าบ้านอีกครั้ง...
ในใจของเขาหวนคิดถึงเสียงปลายสายจากมือถือเมื่อสองวันก่อน ชายคนนั้นได้ทิ้งหมายเลขมือถือไว้ เจสันตัดสินใจโทรไปหาเขา
“มอร์นิ่ง คุณเจสัน ผมคิดว่าคุณคงอยากรู้ประวัติบ้านหลังนี้” เสียงปลายสายกระแอมอย่างเป็ต่อ ประมาณให้รู้ว่า ในที่สุดอีกฝ่ายต้องโทรมาหาแน่นอน
“อืม... เพราะคุณอยากเสนออีกที่ใช่ไหม” ชายหนุ่มลูกครึ่งสวนกลับอย่างรู้ทัน
“ผมแค่อยากเตือน บ้านหลังนี้มีคนเช่ามาก่อนหลายคน แต่อยู่ได้ไม่ถึงสัปดาห์”
ไม่ใช่เื่น่าแปลกสำหรับหนุ่มลูกครึ่งอย่างเขา เื่แบบนี้กุขึ้นมาเพียงเพื่อให้ได้ผลตามที่ตนเองตั้งใจ ไม่ว่ายุคสมัยใดอุบายตื้นๆ แบบนี้ย่อมใช้ได้เสมอสำหรับคนหวั่นไหวง่าย
“ผมรับทราบไว้...ก็แล้วกัน” นี่คือคำตอบที่คนอย่างเจสันมักใช้สวนกลับไปเสมอ
หลังจากอีกฝ่ายเหมือนไม่แคร์ไม่ยี่หระ เขาจึง say bye วางสายไปอย่างเขินอาย ถึงกระนั้นก็ยังย้ำท้ายว่า ไม่มีใครอยู่ได้นานเกินสัปดาห์
สำหรับคนรุ่นใหม่อย่างเจสัน มองเื่เหล่านี้เป็การหว่านล้อมเชิงธุรกิจมากกว่า ความเป็จริงที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า…
‘ใครจะทนอยู่ได้!!! ... อับชื้น ฝุ่นละออง คราบเชื้อราจับทั่วบริเวณ’
แม่บ้านที่หายเข้าไปสำรวจทั่วบริเวณ วิ่งออกมาหน้าตาตื่น...
“มิสเตอร์... ฉันรู้สึกเหมือนบางอย่างผิดปกติ” แววตาและสีหน้าใเหมือนเจอสิ่งประหลาด เธอใช้ภาษาอังกฤษว่า something wrong มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่ในวลีนี้
เจสันให้เธอนำทางเข้าไปหาความผิดปกตินั้น... เขาเริ่มคิดถึงคำพูดของชายคนนั้นที่เพิ่งวางสายไป
“ฉันเห็นงูโผล่ออกมา พร้อมกลิ่นประหลาด ที่ตู้หัวเตียงนั้น” แม่บ้านวัยกลางคนชี้ไปที่ตู้ตรงหัวเตียงด้านขวาใบนั้น ที่ทำเขาจามอย่างรุนแรงวันนั้นนั่นเอง
“ไม่มีอะไร... เมนี่ ตาฝาดหรือเปล่า” เจสันก้าวเข้าไปดึงลิ้นชักตู้ใบน้อยออกมา เขาไม่เจออะไรเลย กลิ่นฉุนรุนแรงขึ้นโพรงจมูกจนเขาต้องจาม
กลิ่นจางๆ แห้งๆ เหมือนกลิ่นของดอกไม้ชนิดหนึ่ง แค่รับรู้เพียงว่าขณะนี้เขากำลังหลุดเข้ามายังอีกพื้นที่หนึ่ง เขานึกไม่ออกว่า เคยได้กลิ่นเช่นนี้จากที่ไหน
“ไม่นะ... มิสเตอร์ ฉันขอไม่รับงานนี้” นางปฏิเสธอย่างไม่ใยดี หันหลังเร่งเดินฉับๆ ออกจากประตูหน้าห้องลงบันไดไปโดยไม่กล่าวลา
เจสันไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากเหตุการณ์ยังเป็เช่นนี้อีก คงไม่ง่ายแล้วกับการหาผู้รับจ้างปรับปรุงบ้านหลังนี้
ด้วยนิสัยของชายหนุ่มซึ่งเป็คนรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ เขาจึงได้ถ่ายรูปตัวบ้านหลังนี้ไว้แล้วั้แ่ห้าวันก่อนที่เข้ามาสำรวจกับเอเย่นต์นายนั้น
เมื่อเข้าไปค้นหาข้อมูลประวัติบ้านหลังนี้ในหลายเว็บไซด์ จึงรู้ความเป็มาของบริเวณแถบนี้ ...
เคยเป็ที่เก็บศพของเหล่าทหารสมัยวิกตอเรียน
ขณะนี้เจสันยังคงสำรวจภายในบริเวณบ้านทั้งหมดอีกครั้ง ตรงมุมครัวมีตู้ไม้โอ๊กลอยตัวเต็มไปด้วยฝุ่นละอองแต่ยังคงสภาพพอใช้งานได้ บ้านหลังนี้น่าจะเคยมีการปรับปรุงเพื่อให้ได้ใช้งานมาแล้วใน่ศตวรรษก่อน
เขาเผลอเปิดบานประตูตู้ลอยตัว ... กลิ่นจางไอดินเหมือนตรงสวนหลังบ้านเมื่อวันนั้น ปะทะเข้าหน้าเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำเขาตะลึงไปชั่วครู่
“อะไร... เนี่ย !!!” ขนตามแขนของเขาลุกซู่อย่างพร้อมใจกัน ใจเต้นระทึกก่อนจะโพล่งออกมา
เขาไม่ลังเลรีบตวัดข้อมือปิดประตูตู้...
เสียงดัง ปัง... !!!
แต่มันยังคงดันอ้าออกมาเองอยู่อย่างนั้น เหมือนว่าไม่ยอมให้เขาปิดมันเข้าไป
พลังงานบางอย่างกำลังงัดดันมาออกสู้กับแรงผลักของเขา ประตูตู้เด้งอ้าออกหลังจากเขาปล่อยมือ สิ่งหนึ่งกลิ้งจากชั้นด้านใน ร่วงลงมาทันทีต่อหน้าต่อตาโดยอาศัยพลังงานบางอย่าง ...
เจสันตาโตด้วยความตระหนก... สิ่งนี้ทำให้เขาพรั่นพรึง ก้าวถอยหลังก่อนจะค่อยรวบรวมความกล้าก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา
“อ่า...” เสียงสั่นๆ ดังขึ้นเหมือนไม่เชื่อว่า มันเป็ไปได้ !!!
เขาลนลานปล่อยมันหลุดมือ ตกลงไปที่พื้นดังเดิม
เสียงดัง โพล้ะ... !!! ปะทะเข้าหูอย่างแรง
ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอด...เท้าทั้งสองตะลีตะลานรี่ถอยหลังก้าวออกจากห้องครัว เซลส์ทุกอณูใต้ิัตื่นตัวเต้นระริก ขนลุกตามแขนไล่ลงไปจนถึงหน้าแข้ง อย่างไม่เคยเป็มาก่อน !!!
เจสันตรงไปเปิดประตูหน้าบ้านพรวดพราดออกไป แล้วหันหลังมือไม้สั่นปิดประตูไขกุญแจปิดล็อก... ท่าทางของชายหนุ่มราวกับกระโจนออกไปให้พ้น โดยไม่อยากเหลียวหลังกลับไปอีก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้