อาทิตย์ต่อมา น้ำมนต์ต้องเริ่มทำงานร่มฉัตรก็พาน้ำมนต์มาส่งพร้อมทั้งจอดรถหาบริษัทของน้ำเพชร น้ำมนต์ที่ไม่ได้คิดอะไรมากก็ลงจากรถ
“มนต์ เอาบัตรนักศึกษาฝึกงานมาด้วยใช่มั้ย อย่าลืมใส่ด้วยนะ แล้วจะกลับเองหรือให้แม่มารับดีคะ”
“มนต์กลับเองได้ค่ะ ไม่ต้องรบกวนแม่ฉัตรหรอก เดี๋ยวมนต์เรียกรถตามแถวนี้เอาได้ แม่ฉัตรไปทำงานเถอะค่ะ” น้ำมนต์ปิดประตูรถและยกมือไหว้ร่มฉัตร
“ทำตัวดี ๆ นะมนต์ อย่าดื้อกับคุณเพชร เรียนรู้งานจากคุณเพชรให้ได้มากที่สุด แม่ก็ได้คุณเพชรสอนเหมือนกัน เราถึงมีวันนี้ มนต์ต้องเชื่อฟังนะคะ เด็กดีของแม่”
“ค่ะ คุณแม่ฉัตรคนสวย ไปได้แล้ว มนต์ไม่ดีหรอกค่ะ ถ้าผู้ใหญ่ทำตัวน่าเคารพ เหมือนแม่ฉัตรของมนต์ มนต์เคยดื้อ จริงมั้ยคะ”
“ค่ะ ไปนะ แล้วเจอกันเย็นนี้ค่ะ”
“คุณแม่ ไม่อวยพรหนูหน่อยหรือคะ” น้ำมนต์หันไปมองน้ำใสที่นั่งคร่อมอยู่บนร่มฉัตรตรงเบาะเดียวกัน ก็ก้มหน้าหลบสายตาของน้ำมนต์เหมือนเดิม แต่ก็บอกลูกในไส้ว่า
“แม่รักลูกนะ น้ำมนต์ของแม่ ตั้งใจทำงานนะ แม่ทำกับข้าวเอาไว้รอ”
“มนต์จะกลับไปทานค่ะ มนต์จำได้ แค่ครั้งเดียวที่คุณแม่ทำข้าวผัดให้มนต์ทาน มนต์จำได้ไม่เคยลืม มนต์รักคุณแม่น้ำใสที่สุดนะคะ รักถึงแม้ว่าคุณแม่จะไม่เคยกอดมนต์เลยก็ตาม”
“แม่ขอโทษ แม่ก็รักน้ำมนต์” ร่มฉัตรที่รับรู้ถึงการสั่นเล็กน้อยของคนรักก็บอกน้ำมนต์
“ไปเถอะน้ำมนต์ แค่จำเอาไว้ก็พอ คุณแม่ของน้ำมนต์ คลอดน้ำมนต์ออกมาด้วยความรัก แต่คุณแม่ไม่สบาย น้ำมนต์ก็ทราบ อย่ากวนคุณแม่เลยนะ เราสองคนรักน้ำมนต์มากนะลูก”
“มนต์ก็รักพวกคุณสองคนมากที่สุด คุณแม่คนสวยทั้งสองคนของน้ำมนต์” น้ำมนต์พยายามเอามือเอื้อมเข้าไปจะจับมือน้ำใส แต่ร่มฉัตรส่ายหัวห้าม น้ำมนต์ก็เข้าใจ จึงเดินเข้าไปในบริษัทและด้วยผลการเรียนที่ดีของน้ำมนต์ที่อยู่ในระดับแถวหน้าของคณะมาตลอดก็ทำให้ไม่ยากเลยที่จะเข้าฝึกงานเป็เลขาของคุณน้ำเพชรได้ด้วยผลการเรียนที่ดีมาตลอดทั้งสี่ปี น้ำมนต์ห้อยบัตรนักศึกษาฝึกงานเอาไว้ที่คอ
แต่ก็ไม่ได้มีน้ำมนต์เพียงคนเดียวที่เข้ามาฝึกงานที่บริษัท ยังมีจากอีกหลายๆ มหาลัยที่เข้ามาฝึกพร้อมน้ำมนต์ แต่มีหรือน้ำมนต์จะแคร์ เพราะเธอเข้ามาด้วยความสามารถของตัวเองโดยที่ร่มฉัตรไม่ได้ใช้เส้นสายอะไรเลย คนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า น้ำมนต์ตำแหน่งสูงกว่าทุกคนในที่นี้ด้วยซ้ำ ร่วมถึงน้ำเพชรด้วย แต่น้ำมนต์ก็แค่นิ่งรอให้หัวหน้าของแต่ละแผนกมารับนักศึกษาฝึกงานไปที่แผนกของตน
สักพักก็มีก็มีคนมารับน้ำมนต์ให้เดินตามไปที่แผนกของตัวเอง นั้นคือชั้นบนสุดที่เห็นห้องทำงานของน้ำเพชร ที่น้ำมนต์ต้องฝึกงานตลอดสามเดือน แต่อยู่ ๆ ก็มีหนึ่งคนแทรกมาดันน้ำมนต์ไปติดกำแพงลิฟต์ และมีพนักงานห้าคนตามเข้ามาพร้อมกันทำให้ภายในลิฟต์ทำให้น้ำมนต์อึดอัดมาก แต่เพราะคนแรกที่เข้ามาเอามือสองข้างค้ำยันเอาไว้ไม่ให้คนอื่นเข้าถึงตัวน้ำมนต์ได้
“รีบๆ ปิดลิฟต์สักที จะรอให้แน่นหรือไงฉันอึดอัด ที่หลังถ้าเห็นฉันเข้ามา พวกเธอไม่ต้องตามเข้ามา เข้าใจมั้ยฉันไม่ชอบ” น้ำเพชรที่ยืนปกป้องน้ำมนต์เอาไว้ ก็หัวเสียไม่น้อย แต่ปกติน้ำเพชรไม่เคยใช้ลิฟต์ของพนักงาน แต่เพราะเห็นน้ำมนต์พึ่งรีบเดินตามเข้ามา น้ำมนต์ที่คุ้นเสียงก็เงยหน้าขึ้นไปดู และไม่ผิดจากที่เธอคิด ผู้ใหญ่ที่เสียมารยาทจูบเธอที่ริมหาดวันนั้น
“ค..คุณ” น้ำมนต์ที่ดูใและอึดอัดมากที่ถูกน้ำเพชรเบียดกันขนาดนี้ แต่ลิฟต์ก็ไม่ยอมขึ้นสักที เพราะอยู่ๆ ลิฟต์ของพนักงานก็ทำเื่จนได้ ค้างเอาตอนที่น้ำเพชรขึ้นพอดี
“พวกเธอจะถอยไปหน่อยได้มั้ย ฉันอึดอัด แล้วเรียกช่างสิ จะปล่อยให้อากาศหายใจหมดจนตายกันหรือไง ทำไมต้องให้ฉันบอกนะ” น้ำเพชรที่ดูหัวเสียพอสมควรเพราะพนักงานทำอะไรช้า ไม่ได้ดั่งใจน้ำเพชร แต่ไม่ใช่หรอก น้ำเพชรกลัวตัวเองหมดความอดทน จะรุกรานเด็กสาวตรงหน้า ต่อหน้าทุกคน
“นี่คุณ พูดดีๆ กับคนอื่นไม่เป็หรือไง บอกพวกพี่เขาดีๆ ก็คุณก็พนักงานเหมือนกัน ไปสั่งพวกเขาแบบนั้น ใครจะทำให้คุณ ถ้าอยากให้พวกเขาทำให้ก็พูดดีก่อนมันจะตายหรือไง”
“ปากเก่งเหมือนเดิมเลยนะ ใช่ฉันก็พนักงานเงินเดือนคนหนึ่ง จะให้ฉันพูดดีใช่มั้ย งั้นเธอเองก็ควรมีมารยาทก่อนมั้ยสาวน้อย ก่อนที่จะสอนฉัน” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยปากบอกว่า
“เอ่อน้องค่ะ คนนี้คือ...” น้ำเพชรหันไปส่งสายตาห้าม
“ไม่ต้อง เดี๋ยวก็รู้เอง คุณญาดา ช่วยโทรเรียกช่างซ้อนด่วนเลยนะคะ ฉันอึดอัดมากจริงๆ ยังไงก็บอกว่าขอด่วนที่สุด” คุณญาดา เลขาหน้าห้องรีบทำตามที่เ้านายสั่ง
“พวกเขาทราบแล้วค่ะ และกำลังรีบแก้มาคะ ไม่เกินสิบนาที”
“ขอบคุณมาก” น้ำมนต์ที่เริ่มมีอาการไม่ดี เพราะเธอไม่ชอบที่แคบๆ และอากาศก็น้อย ทำท่าเหมือนจะหายใจไม่ออก ก็ซบหน้าไปที่น้ำเพชร
“คุณ ฉันหายใจไม่สะดวก ฉะ ฉัน ฉันกลัวที่แคบ” น้ำเพชรเอามือทั้งสองค้างผละน้ำมนต์ออกจากอกและมองดู ก็เห็นน้ำมนต์หน้าเริ่มซีด มีเหงื่อซึมออกมาและเริ่มทรุดลงไปนั่งกับพื้นตัวสั่น หายใจเริ่มติดขัด
น้ำเพชรจึงประคองน้ำมนต์ให้พิงหลังกับกำแพงลิฟต์และเอาแฟ้มจากคุณญาดามาพัดให้กับเธอ น้ำมนต์บีบมือของน้ำเพชรเอาไว้แน่นจนน้ำเพชรรู้สึกถึงความแรงที่น้ำมนต์จิกเล็บลงมาและมองสบตาน้ำเพชรเหมือนขอความช่วยเหลือ
"ไม่ ไม่ไหว มนต์กลัวหายใจไม่ออกจริงๆ ช่วยด้วย.." น้ำเพชรก็ถอดสูทด้านนอกของตัวเองออกเพื่อเอารองหัวของน้ำมนต์เอาไว้
“น้ำมนต์ เธอโอเคมั้ย น้ำมนต์ ลืมตาก่อนค่ะ คุณเพชรบอกให้หนูลืมตาไง น้ำมนต์ของคุณเพชร”
น้ำมนต์ที่หมดสติไป ทำให้น้ำเพชรผลักทุกคนให้ออกไปหน้าลิฟต์ เพื่อเว้นพื้นที่ให้น้ำมนต์หายใจได้สะดวก
“ถอยไป ขอพื้นที่หน่อย ไม่เห็นหรือไง น้องเป็ล้มไปแล้ว”
น้ำเพชร รีบประกบจูบน้ำมนต์อย่างเร็ว เพื่อแบ่งอากาศเข้าไปภายในปอดของเธอให้ได้มากที่สุด หวังแค่ว่า ใครก็ได้รีบมาเปิดประตูลิฟต์สักที น้ำเพชรเปิดปากของน้ำมนต์ออกและประกบจูบอีกครั้งเพื่อเป่าลมเข้าไปในปอดเป็การผายปอดหวังแค่ว่าสิ่งที่ทำในตอนนี้จะช่วยน้ำมนต์ได้บ้าง
“น้ำมนต์ คุณเพชรขอร้อง ฟื้นเถอะค่ะ ถ้าหนูเป็อะไรไป น้ำมนต์จะบอกคุณแม่ทั้งสองว่ายังไง น้ำมนต์ขา ได้ยินเสียงคุณเพชรมั้ย” น้ำมนต์ที่หมดสติไปโดยสิ้นเชิงก็ยิ่งทำให้น้ำเพชรกังวลมาก พยายามผายปอดให้น้ำมนต์ จนตัวเองก็แทบจะหมดอากาศ
“ให้พี่ช่วยมั้ยค่ะ คุณเพชร” น้ำเพชรผลักคุณญาดาออกไป
“ไม่ต้องค่ะ เด็กของเพชร เพชรดูแลเองได้ แค่เร่งให้คนมาเปิดประตูลิฟต์ก็พอ”
แต่แล้วก็มีคนมาเปิดประตูลิฟต์ ทำให้น้ำเพชรรีบอุ้มน้ำมนต์ขึ้นมาอย่างเร็วต่อหน้าพนักงานทุกคนที่ชั้นหนึ่ง รีบวิ่งไปที่ลิฟต์ส่วนตัวอย่างเร็ว เพื่อนำเธอไปยังชั้นบนสุด ที่เป็ห้องพักของน้ำเพชรที่เอาไว้ใช้พักผ่อน ก็รีบวางน้ำมนต์ลงบนเตียงอย่างเร็วและไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าและตามแขนให้เธอ เพื่อให้น้ำมนต์รู้สึกดีขึ้น
“น้ำมนต์ ตื่นเถอะนะ” แต่พอน้ำเพชรยิ่งมองน้องเวลาหลับ มันก็ยิ่งทำให้น้ำเพชรยิ่งสติหลุดลอยไปเผลอตัวประกบจูบน้องอีกครั้งแต่คราวนี้กลับนุ่มลึก และเนิ่นนานพอที่จะทำให้คนถูกจูบ ลืมตาขึ้น ก็ใพอสมควรที่เขากล้ามาจูบเธออีกแล้ว
“อืออออ..พ...พอแล้ว” น้ำมนต์ผละคนที่พยายามรุกรานโพรงปากของเธอแต่พอเธอส่งเสียงเท่านั้น เขาก็รีบแทรกปลายลิ้นร้ายเข้าไปตวัดกวัดแกว่งหยอกเย้ากับปลายลิ้นของน้องอย่างเชิญชวน แต่น้ำมนต์ที่จูบไม่เป็ก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ดันอกของคนที่รังแกเธอให้ถอนริมฝีปากของตัวเองเพื่อคืนอิสระให้กับริมฝีปากของเธอ
“อืออออ..ห...หายใจ ม...ไม่ออก” น้ำมนต์เมื่อถูกประกบจูบจนไม่มีช่องว่างให้หายใจก็เริ่มร้องขออากาศจากคนที่รุกรานปลายลิ้นอยู่ในโพรงปากของเธอ เหมือนน้ำเพชรเก็บเกี่ยวความหวานจนพอใจก็ปล่อยเธอ
น้ำมนต์ที่นอนหอบหน้าใจแรง และสูดอากาศเข้าปอดอย่างเต็มแรง ก็ลุกขึ้นแต่เธอไม่ได้ตบน้ำเพชรนะ แต่กลับต่อว่า
“เจอกันทุกครั้ง คุณก็ฉวยโอกาสกันตลอด ขออย่าให้เจอกันที่แผนกเลย ฉันไม่อยากทำงานร่วมกันคนแบบคุณ”
“เดี๋ยวก็รู้ ว่าจะเจอฉันมั้ย น้ำมนต์เลขาส่วนตัวของคุณน้ำเพชร ไปทำงานได้แล้ว เลยเวลางานมานานมากแล้ว ถ้าไม่อยากให้เสียเวลาก็รีบเดินตามฉันมา”
น้ำเพชรไม่พูดถึงเื่จูบเธอสักคำ ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ทำให้น้ำมนต์ยิ่งโมโหและไม่ชอบหน้าน้ำเพชรมากกว่าเดิม ยิ่งน้ำมนต์ไม่ชอบคนที่มีอายุด้วย เพราะอาจารย์ที่มหาลัยทำตัวไม่น่าเคารพและน่ารำคาญในสายตาของน้ำมนต์ น้ำมนต์จึงไม่ชอบผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ นอกจากแม่ๆ ของเธอที่ยังสาวและสวยอยู่มาก
“คนบ้าอำนาจ สั่งเป็อย่างเดียวหรือไงคุณ” น้ำเพชรหันกลับมามอง
“ใช่ สั่งเป็และสอนเป็ด้วย รีบตามมาเสียเวลางานของฉัน หรือจะให้อุ้มอีก”
น้ำมนต์รีบถอยหลังหนีอย่างเร็ว เพราะไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวเธออีก
“ไม่ต้อง ฉันเดินเองได้ นำไปสิถ้ารีบขนาดนั้น จะพาขึ้นมาทำไมก็ไม่รู้”
“เถียงคำไม่ตกฟาก ดีฉันชอบ กล้าดี เหมาะเป็ผู้นำ มั่นใจในตัวเองแบบนี้ให้ตลอดนะน้ำมนต์” น้ำมนต์ก็เดินตามไปจนถึงชั้นบนที่มีเพียงห้องทำงานของน้ำเพชรและมีโต๊ะทำงานของพนักงานไม่ถึงสิบคนที่มีคนนั่งทำงานแล้ว ซึ่งน่าจะเป็ของพนักงานประจำแผนก คุณญาดาก็รออยู่หน้าประตูห้อง น้ำเพชรที่เดินนำมาก็เดินเข้าห้องไปและหันหลังกลับมา
“จะยืนนิ่งอะไรอยู่น้ำมนต์ ตามเข้ามาสิ จะต้องให้เรียกกี่รอบจะฝึกงานมั้ย ถ้าจะฝึกงานก็ตามเข้ามา” คุณญาดาพยักหน้าให้น้ำมนต์ที่มองตาคุณญาดา
“ใช่ค่ะ น้องน้ำมนต์ นั้นคุณน้ำเพชร เ้านายของพี่ และคนที่จะฝึกงานให้คุณน้ำมนต์โดยตรงตลอดสามเดือน” น้ำมนต์มองไปยังน้ำเพชรที่ไปนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ของตัวเองตรงบนทำงาน
“รีบเข้าไปเถอะค่ะ อย่าให้เธอรอนาน เดี๋ยวเราจะซวยกันหมด วันนี้ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีด้วย ปกติจะเข้าหาง่ายกว่านี้ แต่วันนี้น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้”
“ไม่เห็นน่ากลัวเลย ก็แค่ผู้ใหญ่บ้าอำนาจ มนต์ไม่กลัวหรอก ฉวยโอกาสเก่งอีกต่างหาก”
น้ำมนต์ทำหน้าไม่พอใจอีกครั้งเมื่อคิดถึงเื่ที่ถูกน้ำเพชรฉวยโอกาสกันถึงสองครั้ง แต่เธอก็ทำให้เป็ไม่สนใจอะไรเช่นกัน เพราะร่มฉัตรสั่งเอาไว้ให้เชื่อฟังและเคารพ แต่น้ำมนต์จะทำเอาที่จำเป็ ในฐานะเ้านาย น้ำมนต์เดินเข้าไป ที่หน้าโต๊ะทำงานของน้ำเพชรที่เปิดดูแฟ้มประวัติของน้ำมนต์ก็พอใจมากที่สุด เกียรตินิยมอันดับสอง ก็ยังดีเพราะน้ำเพชรไม่ได้หวังให้น้ำมนต์เป็ที่หนึ่งในทุกด้าน ขอแค่มีความเป็ผู้นำก็พอ และไม่ทำตัวเป็ไม้แก่ที่ดัดยาก
“นั่งลงสิจะยืนค้ำหัวฉันอีกนานมั้ย” น้ำมนต์ขบริมฝีปากล่างจนแน่น ด้วยความรำคาญ แต่ไม่อยากเถียงอะไรอีก เพราะน้ำเพชรตอนนี้คือเ้านาย แต่ถ้ามากกว่านี้เธอก็คงไม่ทน
“จะกัดปากตัวเองอีกนานมั้ยน้ำมนต์ หยุดได้แล้ว มันดูไม่ดี”
“คุณนี้มัน...” น้ำเพชรปิดแฟ้มและลุกขึ้นไปที่น้ำมนต์ เอามือไปวางไว้ที่วางแขนทั้งสองข้างตรงเก้าอี้ของน้ำมนต์และหันหน้ามาหาน้ำเพชร
“ฉันมันทำไม พูดให้ดีๆ นะน้ำมนต์ อย่าลืม เธอเป็เด็ก ฉันเป็ผู้ใหญ่ และที่สำคัญตอนนี้ เธอเป็เด็กในความดูแลของฉันโดยตรง ทำตัวให้น่ารักสมกับเป็เด็กหน่อย”
“คุณนั่นแหละ ทำตัวให้น่าเคารพก่อนดีกว่ามั้ย ดูแต่ละอย่างที่คุณทำ ทำให้ฉันควรเคารพคุณมั้ย”
“เถียงไม่หยุดเลยนะ โต๊ะทำงานของเธออยู่นั้น กลับไปนั่งซะ แล้วนี่เอกสารที่เธอต้องเรียงใหม่ให้กับฉัน แล้วก็คัดลองรายชื่อมาให้ฉันด้วย ขอภายในวันนี้นะน้ำมนต์ แค่นี้คงทำได้ใช่มั้ย”
น้ำมนต์ไปที่โต๊ะของตัวเองพร้อมแฟ้มเอกสารที่มันสูงเกือบพ้นหัวของเธอไป นี้แค่วันแรกเขากะจะสั่งงานให้เธอทำจนดึกเลยหรือไง น้ำมนต์ก็ได้แต่นั่งคัดลอกรายชื่อสินค้าลงในคอมพิวเตอร์และจัดเรียงเอกสารให้เป็ระเบียบ แต่เธอก็ต้องอ่านทุกบรรทัด ซึ่งมันคือความ้าของน้ำเพชรที่้าให้น้องรู้ถึงรายละเอียดของงานให้ได้มากที่สุดผ่านกันคัดลอกโดยการอ่านผ่านสายตา ซึ่งน้ำมนต์ก็เป็คนฉลาดที่มีความจำดีเลิศ ไม่ต่างจากน้ำใส ที่ความจำดีมาก จบมาด้วยเกียรตินิยมเช่นกัน ถึงได้ไปช่วยงานร่มฉัตรที่ทำงานทุกวัน เพราะเธอเองก็ห่างจากร่มฉัตรไม่ได้เลย ด้วยโรคประจำตัวของเธอเอง ที่ถูกพ่อแท้ๆ ของน้ำมนต์ทำเอาไว้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้