“เด็กผู้นี้เหิมเกริมยิ่งนัก ข้าจะทำลายเขาเอง!”
ทันทีที่เฉิงกังถูกเย่เฟิงซัดกระเด็นตกเวทีประลองก็มีเสียงเย็นเยือกดังขึ้น นาทีต่อมาเห็นเงาร่างหนึ่งมาเยือนที่ด้านหน้าเย่เฟิง พร้อมมองเย่เฟิงด้วยสายตาคมกริบ
“เป็เหยียนเหิง อัจฉริยะตระกูลเหยียนแห่งอาณาจักรเว่ย!”
ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งจำผู้มาได้ในทันที จึงกล่าวเช่นนั้นด้วยความประหลาดใจ
ตระกูลเหยียนคือหนึ่งในสี่กองกำลังที่ทรงอิทธิพลแห่งอาณาจักรเว่ย ทุกกองกำลังล้วนไม่ใช่กองกำลังของอาณาจักรจ้าวจะสู้ด้วยได้ ซึ่งตระกูลเหยียนทรงอิทธิพลที่สุดในบรรดาสี่กองกำลังนี้ เป็กองกำลังที่ใหญ่และมีผู้ฝึกยุทธ์นับไม่ถ้วน ส่วนเหยียนเหิงคือลูกหลานสายตรงของตระกูลเหยียน เขาอายุไม่ถึง 19 ปีแต่ก็อยู่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 7 มีพลังแกร่งกล้ากว่าเฉิงกัง ผู้คนที่รู้จักเหยียนเหิงต่างทราบเื่นี้ดี
“เหยียนเหิงออกโรงเช่นนี้ เย่เฟิงผู้นั้นจะรอดหรือ?” ผู้คนคิดในใจ พวกเขาคิดว่าเย่เฟิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหยียนเหิง ตบะของทั้งสองคนห่างชั้นกันเกินไป อีกอย่างเหยียนเหิงก็เป็อัจฉริยะมากฝีมือ เย่เฟิงไม่มีทางเอาชนะเขาได้
“ชาวอาณาจักรเว่ยข้าจะถูกสวะเยี่ยงเ้าดูถูกได้อย่างไร?”
เหยียนเหิงกล่าวกับเย่เฟิงด้วยเสียงเย็นะเืพร้อมมองด้วยสายตาหยิ่งผยอง เหยียนเหิงนั้นเติบโตในกองกำลังใหญ่ ๆ จึงทำให้เขาโตมามีนิสัยแข็งกร้าว
“ข้ามีสองทางเลือกให้เ้า ทางแรก ตัดแขนตัวเองแล้วคุกเข่าขอโทษข้า ทางที่สอง ถูกข้าฆ่าตายที่นี่ เ้าจะเลือกทางไหน?” เหยียนเหิงกล่าวพลางเชิดหน้าราวกับมองมดแมลงก็ไม่ปาน
เย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็เหยียดยิ้มจาง ๆ อย่างเ็า “ถ้าข้าไม่เลือกทั้งสองทางล่ะ?”
“งั้นเ้าก็ตายซะเถอะ!”
เหยียนเหิงเห็นเย่เฟิงไม่ยอมเชื่อฟังแต่โดยดี จู่ ๆ มีดยาวเล่มหนึ่งปรากฏในมือเขา ก่อนจะฟันเย่เฟิงอย่างไม่ลังเล ซึ่งรังสีมีดยาวสามจั้ง และพลอยให้เกิดเสียงลมแรง
“ไปให้พ้น!”
ดวงตาของเย่เฟิงเผยประกายเย็นเยือก เห็นได้ชัดว่ารังสีมีดของเหยียนเหิงหมายชีวิตของเขา เช่นนั้นเขาจะเกรงใจไปไย?
ทันใดนั้นพลังหยวนรวมตัวที่ฝ่ามือ ก่อนจะวาดฝ่ามือภูผาพิฆาตโจมตีเหยียนเหิง โดยไม่สนใจรังสีมีดนั่นแม้แต่นิดเดียว
“เ้าหมอนี่รนหาที่ตายหรือ? รังสีมีดของเหยียนเหิงทรงพลังมาก แต่ไม่นึกว่าเขาจะใช้กำปั้นธรรมดาโจมตี สงสัยเขาอยากตายมากกระมัง!”
ผู้คนเห็นฉากนี้ต่างก็เบิกตากว้างด้วยความใ คิดว่าเย่เฟิงกำลังรนหาที่ตาย
“ในเมื่อเ้าอยากตายมากขนาดนี้ งั้นข้าจะสนองเ้าให้ตายเร็ว ๆ!”
เหยียนเหิงเห็นเย่เฟิงรนหาที่ตาย รอยยิ้มหยันพลันผุดที่มุมปากเขา เขาเองก็คิดว่าเย่เฟิงรนหาที่ตาย อำนาจมีดของเขานั้นบรรลุขั้นผันแปร่กลางแล้ว จึงไม่ใช่ปัญหาในการจัดการผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ที่ 3 อย่างเย่เฟิง
จากนั้นสองการโจมตีเข้าปะทะกัน ตามมาด้วยเสียงะเิดังกึกก้อง
นาทีต่อมาผู้คนเห็นรังสีมีดของเหยียนเหิงสลายหายไปเพราะฝ่ามือของเย่เฟิง จู่ ๆ พลังทำลายล้างเข้าปกคลุมร่างเหยียนเหิง ทำให้เหยียนเหิงส่งเสียงร้องด้วยความเ็ป ตัวสั่นระริกไม่หยุด เขารู้สึกว่ามีพลังสายหนึ่งบุกรุกร่างกายเขา และทำลายอวัยวะภายในของเขา
“ข้ายอม...”
เหยียนเหิงเผยสีหน้าตื่นตระหนก เขาไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะมีพลังมากเพียงนี้ เขาเปราะบางเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เฟิง แม้แต่มดแมลงก็เทียบไม่ได้ เขาอยากะโบอกยอมแพ้ แต่กลับเป็ไปไม่ได้
ด้วยพลังทำลายล้างนั้น อวัยวะภายในของเหยียนเหิงถูกทำลายไปหลายส่วน หลังจากแสงทำลายล้างนั้นหายไป ร่างเหยียนเหิงก็ล้มลงไปกองกับพื้นโดยไร้เรี่ยวแรงใด ๆ ใบหน้าก็ยังขาวซีดราวกับกระดาษ
เขาเหยียนเหิงคือลูกหลานสายตรงของตระกูลเหยียนแห่งอาณาจักรเว่ย มีฐานะสูงส่ง ทว่าบัดนี้กลับถูกชาวอาณาจักรจ้าวทำลายในการประลองยุทธ์เลือกคู่ที่ทางราชวงศ์จ้าวจัดขึ้น ถือเป็เื่ที่เหยียนเหิงไม่สามารถยอมรับได้
“ชายผู้นี้...”
ผู้คนเห็นฉากที่น่าเหลือเชื่อนี้ต่างก็ใจเต้นโครมคราม บางส่วนใกับพลังที่เย่เฟิงแสดงออกมา บางส่วนก็ไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะลงมือโเี้เช่นนี้ โดยทำลายตบะของเหยียนเหิง
การลงมือครั้งนี้เด็ดขาดมาก มิหนำซ้ำยังไร้ซึ่งความปรานีใด ๆ ช่างกล้าหาญยิ่งนัก
“เ้ากล้าดียังไงมาทำลายตบะของข้า?” เหยียนเหิงซักถามขณะมองเย่เฟิงด้วยสายตาอาฆาตแค้น
“เ้าคิดอยากฆ่าข้าก่อน หากข้าจะฆ่าเ้า ป่านนี้เ้าจะยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้หรือ?”
เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็นขณะมองเหยียนเหิงที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือคนอย่างเหยียนเหิง เมื่อ้าฆ่าผู้อื่นก่อน แต่เมื่อตนเองล้มเหลวกลับเสแสร้งทำเป็ไร้เดียงสา ช่างโง่เง่าสิ้นดี
“เวทีนี้ไม่เหมาะกับเ้า ไสหัวไปซะ!”
เมื่อสิ้นเสียงเย่เฟิง จากนั้นเห็นเขาเตะร่างเหยียนเหิงจนได้ยินเสียงดังปัง ทำเหยียนเหิงร้องโอดครวญ ก่อนร่างเหยียนเหิงจะกระเด็นตกจากเวทีและหมดสติไปในทันที
“หึ! อ่อนหัด แค่นี้ก็รับมือไม่ได้” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็นแฝงด้วยความดูถูก
“นี่เพิ่งแค่รอบแรกก็เท่านั้น ไยต้องลงมือโเี้เช่นนี้ด้วยเล่า?”
จู่ ๆ มีเสียงเย็นเยือกดังมาจากฝูงชนที่อยู่ด้านล่างเวทีประลอง นาทีต่อมาเห็นเงาร่างหนึ่งรุดไปช่วยเหยียนเหิงด้วยความรวดเร็วปานฟ้าแลบประหนึ่งภูตผีก็ไม่ปาน
เมื่อเงาร่างนั้นปรากฏตัว ในนาทีต่อมาก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมราวกับไม่เคยเคลื่อนไหวใด ๆ
“เขา้าฆ่าข้า หรือเ้าไม่เห็น?” เย่เฟิงกล่าวกับผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเหยียนคนนั้น
“ดีมาก ข้าจะจำสิ่งที่เ้าทำกับตระกูลเหยียนข้า!”
เมื่อผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเหยียนเห็นเย่เฟิงไม่อ่อนข้อจึงกล่าวเช่นนั้นด้วยโทสะ พร้อมไอสังหารแผ่ออกจากร่าง แต่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการประลองยุทธ์เลือกคู่ แม้เขาจะโกรธ แต่ก็ทำอะไรเย่เฟิงไม่ได้
สายตาเย็นเยือกหลายคู่ที่แฝงไปด้วยความอาฆาตแค้นต่างมองไปยังเย่เฟิง ซึ่งเ้าของสายตาเหล่านี้ก็คือผู้ฝึกยุทธ์อาณาจักรเว่ย
เย่เฟิงเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์อาณาจักรเว่ยสองคนติดต่อกัน นี่เท่ากับเป็การตบหน้าพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นเย่เฟิงเป็ศัตรูตัวฉกาจ
“มองอะไร? ผู้ใดไม่ยอมก็เข้ามา! หากไม่กล้าก็ไสหัวไปซะ!”
เย่เฟิงกล่าวเสียงกร้าวขณะมองคนเ่าั้
