ใช่ว่าหลงหว่านเอ๋อร์ไม่เชื่อคำพูดของเย่เฟิง แต่ทักษะที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้มันยากที่จะเชื่อจริงๆ ทักษะที่ทำให้รับรู้อย่างที่อยู่รอบข้างเหมือนเรดาร์ หากทุกคนบนโลกเทวะเป็ผู้ฝึกวิถีเซียนกันหมด ทุกอย่างบนโลกก็ไม่มีความลับเลยงั้นเหรอ?
“หลังจากบรรลุขั้นหยินเสิน ผู้ฝึกวิถีเซียนจะใช้จิตหยั่งรู้ได้โดยธรรมชาติ” เย่เฟิงยิ้ม “เพราะงั้นในโลกเทวะ ทักษะนี้จึงไม่พิเศษอะไร แต่บนโลกนี้ แค่พวกเรามีจิตหยั่งรู้ ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถปกปิดการรับรู้ของเราได้”
เพียงไม่นานหลงหว่านเอ๋อร์ก็เชื่อคำพูดของเย่เฟิงสุดหัวใจ เมื่อเธอสามารถใช้จิตหยั่งรู้จนรับรู้การเคลื่อนไหวที่อยู่รอบข้างได้
การมีเย่เฟิงอยู่ด้วย ช่วยให้เธอบรรลุขั้นหยินเสิน จนสามารถใช้จิตหยั่งรู้ได้ แม้ครั้งแรกจะไม่ง่ายนัก แต่เมื่อพยายามอยู่นาน ในที่สุดหญิงสาวก็สามารถใช้จิตหยั่งรู้สำรวจทั่วทั้งห้องได้
หลงหว่านเอ๋อร์ประหลาดใจ ทักษะนี้จะน่าทึ่งเกินไปหรือเปล่า?
ตอนนี้เหมือนเธอสามารถมองทะลุตู้เสื้อผ้า ข้างบ้าน หรือแม้แต่รับรู้สถานการณ์ข้างนอกได้! ความรู้สึกนี้ไม่ใช่เพียงมองเห็น แต่ราวกับได้ััสิ่งเ่าั้ด้วยมือตัวเองทีเดียว แม้ยังมีความรู้สึกต่างกันอยู่บ้าง
ความรู้สึกน่าทึ่งนี้ ทำให้หลงหว่านเอ๋อร์หลงระเริงกับมันครู่ใหญ่ เธอกอดเย่เฟิงอย่างพึงพอใจ พร้อมระดมจูบเขา
เมื่อได้ััความนุ่มนิ่มของหญิงสาวในอ้อมกอด เย่เฟิงแทบอยากกดเธอไว้ใต้ร่าง น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาทำเื่แบบนี้ เขายังมีสิ่งสำคัญต้องไปจัดการ
ไม่รู้ว่าอาการของเด็กหนุ่มสวมหน้ากากจากตำหนักไท่จี๋จะเป็อย่างไรบ้าง เขาถูกแทงด้วยดาบอสนีบาต มองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าอาการสาหัส แม้แต่เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์ก็คงช่วยได้ไม่มากนัก
อีกเื่ที่สำคัญคือ เขาไม่อาจพลาดาาปะการังที่กำลังโตเต็มที่ในคืนนี้ เขาต้องเอามันมาให้ได้ ฉะนั้นเขาต้องเก็บแรงเอาไว้ หากตอนนี้ใช้แรงเล่นกับหลงหว่านเอ๋อร์ เมื่อถึงเวลาจำเป็ เขาคงนึกเสียใจแน่
โอกาสที่จะเพิ่มระดับพลังถึงห้าปี เขาไม่สามารถปล่อยโอกาสเช่นนี้หลุดมือไปได้!
“อ่า น้ากำลังมา”
หลงหว่านเอ๋อร์ที่เล่นสนุกอยู่บนเตียงรับรู้ได้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่นอกประตู เธอจึงให้เย่เฟิงเงียบเสียง
เย่เฟิงโอบร่างอีกฝ่ายพลางใช้จิตหยั่งรู้สำรวจจึงรู้ว่าคนที่อยู่ด้านนอกคือชูชู ดูเหมือนเธอลังเลที่จะเคาะประตู
เวลานี้ชูชูอาบน้ำเสร็จแล้ว เธอเห็นชุดกระโปรงยาวที่ดูสะอาดหนึ่งตัวในห้องจึงนำมาใส่ ซึ่งทำให้เย่เฟิงแทบจะทนไม่ไหว เพราะชุดสีดำตัวนั้นเป็คอวีค่อนข้างลึก ทำให้เธอดูมีเสน่ห์เย้ายวนแบบผู้ใหญ่
“เสี่ยวเฟิง หว่านเอ๋อร์ อยู่ในห้องกันหรือเปล่าจ๊ะ?”
หลังจากลังเลอยู่นาน ชูชูก็เคาะประตูห้องและเอ่ยปากในที่สุด
“ตายแล้ว เราจะทำยังไงกันดี?”
หลงหว่านเอ๋อร์ทุบอกเย่เฟิงเบาๆ ตอนนี้พวกเขาเปลือยเปล่ากันทั้งคู่ แบบนี้จะให้ไปเปิดประตูได้อย่างไร?
หญิงสาวใช้จิตหยั่งรู้กวาดมองทั่วห้องจึงพบว่าเสื้อผ้าของเธอและเย่เฟิงแขวนอยู่ในห้องน้ำ โดยมีบอลไฟคอยทำความร้อนให้เสื้อผ้าแห้ง แต่ดูเหมือนว่ามันยังไม่แห้งสนิท
“เดี๋ยวฉันไปเปิดเอง เธอนอนพักเถอะ”
เย่เฟิงจูบซอกคออีกฝ่ายก่อนลุกจากเตียง
“น้าชูชู รอสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มะโบอก
เขาเข้าห้องน้ำเพื่อใส่เสื้อผ้าที่ยังไม่แห้งสนิท ถึงอย่างไรก็ต้องลงทะเลอยู่แล้ว เสื้อแห้งหรือไม่แห้งก็คงไม่ต่างกัน ส่วนเสื้อผ้าของหลงหว่านเอ๋อร์ใช้บอลไฟให้ความร้อนต่ออีกหน่อยไม่นานก็คงแห้ง
หลังจากเย่เฟิงสวมเสื้อผ้า เขาก็เดินมาเปิดประตู จึงเห็นชูชูในชุดกระโปรงสีดำคอลึกยืนรออยู่เงียบๆ
เมื่อเห็นเย่เฟิง ใบหน้าเธอก็เห่อแดงด้วยความอาย เนื่องจากรู้ตัวดีว่าชุดที่ใส่ไม่ค่อยเหมาะสม แต่เพราะไม่มีทางเลือก เสื้อผ้าของเธอเปียกอยู่ หลังจากค้นหาเสื้อผ้าในห้องอยู่นานก็พบว่ามีเพียงชุดนี้ที่ยังสะอาดและสามารถสวมใส่ได้
“น้าชูชู เชิญเข้ามาสิครับ”
เย่เฟิงเห็นว่าเธอาุโกว่า จึงปฏิบัติต่อเธออย่างสุภาพ เขารู้ว่าสถานะของเธอตอนนี้เป็เช่นเดียวกับหลงหว่านเอ๋อร์ ไม่สามารถกลับตระกูลหลงได้อีกแล้ว
“ไม่ต้องสุภาพกับน้ามากก็ได้” เมื่อเห็นความสุภาพของเย่เฟิง ใบหน้าชูชูก็แดงระเรื่อพร้อมส่งยิ้มให้เขา “พวกเธอยังเด็ก ต้องรู้จักควบคุมตัวเองให้มากกว่านี้ดีกว่านะจ๊ะ…”
หลังจากเคาะประตูเมื่อครู่ เธอยืนรออยู่สักพักกว่าเย่เฟิงจะเปิดประตู ทั้งยังมาด้วยท่าทีรีบร้อนและสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย เป็ธรรมดาที่เธอพอจะเดาออกว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่! ยิ่งเธอเห็นหลงหว่านเอ๋อร์นอนขดตัวอยู่บนเตียงและดูเหมือนไม่สวมเสื้อผ้า ยิ่งทำให้ชูชูมั่นใจในสิ่งที่เธอกำลังคาดเดา
เมื่อเย่เฟิงได้ฟังก็งุนงง เขาต้องควบคุมอะไรงั้นเหรอ?
หรือชูชูคิดว่าเขากำลังทำเื่ไม่เหมาะสมกับหลงหว่านเอ๋อร์?
แต่เมื่อลองคิดดู มันก็น่าสงสัยจริงๆ นั่นแหละ…
เย่เฟิงส่ายหัวไม่อยากคิดอะไรอีก เขาเพียงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “น้าครับ เข้าไปหาหว่านเอ๋อร์เถอะครับ ผมจะไปดูเด็กคนนั้นว่าเขาเป็ยังไงบ้าง”
“อ่า?” ชูชูใ “น้าแค่จะมาทำแผลให้เธอน่ะ…”
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่เป็อะไรแล้ว”
เย่เฟิงยิ้ม าแตรงอก เขาใช้เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์รักษาแล้ว
“ยังหนุ่มยังแน่น รู้จักถนอมร่างกายบ้างสิ”
ชูชูมองหน้าเย่เฟิงอย่างตำหนิเล็กน้อย เด็กหนุ่มสมัยนี้ไม่รู้จักถนอมร่างกายตัวเองเสียเลย หน้าอกเขาถูกแทงด้วยกระบี่ของหลงโม่หราน าแมันจะหายในเวลาอันรวดเร็วได้อย่างไร?
“มาให้น้าดูแผลหน่อยสิ จะได้พันแผลเอาไว้”
ชูชูคว้าแขนเขาแล้วลากเข้าห้อง
เมื่อรับรู้ความร้อนจากััของอีกฝ่าย รวมถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอ เย่เฟิงพลันหน้าแดงก่อนก้มหน้า ทำให้มองเห็นร่องอกอวบอิ่มเย้ายวนที่โผล่พ้นชุดคอลึกที่เธอสวมใส่
ให้ตายเถอะ ทำไมน้าชูชูถึงดื้อรั้นนักนะ นี่เธอไม่เชื่อว่าแผลของเขาหายดีแล้วงั้นเหรอ?
เย่เฟิงอึดอัดใจ แต่รู้ว่าชูชูทำด้วยความหวังดี เขาไม่ทันได้บ่ายเบี่ยงก็ถูกลากเข้าห้องและกดให้นั่งลงบนโซฟา
“หน้าแดงอีกแล้ว เราเป็ครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่ใช่คนนอกเสียหน่อย ยังต้องอายอะไรกันอีก?”
เมื่อชูชูเห็นท่าทางของเย่เฟิงก็ปิดปากยิ้มขำ ก่อนแหวกเสื้อของเขาเพื่อดูแผลตรงหน้าอก
กระบี่ของหลงโม่หรานแทงทะลุเสื้อของเย่เฟิง จนเสื้อฉีกขาดหลายจุด ชูชูดึงเสื้อส่วนที่บังแผลออก แต่ทันทีที่เห็นผิวบริเวณอกของคนตรงหน้า ก็เบิกตากว้าง พร้อมยกมือปิดปาก นี่มันไม่น่าเชื่อเลย
เกิดอะไรขึ้น ตรงอกของเย่เฟิงไม่หลงเหลือาแเลยแม้แต่น้อย!
“น้าชูชู เขาหายดีแล้วค่ะ ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ” หลงหว่านเอ๋อร์ที่ขดตัวอยู่บนเตียงเห็นท่าทีของชูชูก็รู้สึกขบขัน “เขาสามารถรักษาแผลตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ”
หลงหว่านเอ๋อร์รู้อยู่แล้วว่าเย่เฟิงใช้เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์ในการรักษา!
“เอ่อ… งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ทั้งสองคนคุยกันไปเถอะ”
เย่เฟิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับชูชู เมื่อออกจากห้องมาได้ เขาก็โล่งอก แต่ถึงออกมาแล้ว ก็ยังอดนึกถึงร่างอวบอิ่มน่าดึงดูดของชูชูไม่ได้…
เย่เฟิงส่ายหัว พยายามไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้ เขาไปดูอาการของเด็กหนุ่มที่หมดสติว่าฟื้นหรือยัง จากนั้นเตรียมตัวสำหรับศึกชิงาาปะการังในคืนนี้
ชายหนุ่มเชื่อว่าาาปะการังเป็สมบัติ์ ซึ่งเพิ่มระดับพลังให้ผู้ฝึกวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งพอจะมัน ไม่ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายเพียงใด ทุกคนต่างดิ้นรนเพื่อแย่งชิงมัน!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้