“เรารู้จักดี?” โม่เชี่ยนนีไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
“บอสหลี่คะ คุณหมายความว่ายังไง?เราไม่รู้จักใครในฮ่องกงเลย ถึงแม้ว่าเราจะรู้จักกันแต่แน่นอนว่าพวกเราล้วนเป็เพื่อนกัน แล้วเขาจะทำเช่นนี้ทำไม?”
หลี่มู่หัวส่ายหัวกล่าวว่า “คนที่ผมพูดถึงไม่ได้อยู่ในฮ่องกงเขาเป็ศัตรูที่มีอำนาจในเมืองจงไห่ เ้าของธุรกิจเทคโนโลยีั์ใหญ่ ซูจื้อหง”
ซูจื้อหง?
“มันจะเป็ไปได้ยังไง?” โม่เชี่ยนนีขมวดคิ้วถามว่า “สิ่งที่เรากำลังร่วมมือกันอยู่ในขณะนี้คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์แฟชั่นตัวใหม่ที่เป็มิตรกับสิ่งแวดล้อมสิ่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีของบริษัทตงหัวด้วยงั้นหรือคะ?”
ในแววตาของหยางเฉินเต็มไปด้วยความสงสัยเื่นี้ค่อนข้างซับซ้อนกว่าที่เขาคิดไว้
หลี่มู่หัวถอนหายใจ “มันยากที่จะอธิบายเป็คำพูดผมคิดว่าด้วยเหตุผลหลายประการบอสหลินจะต้องเก็บมันไว้เป็ความลับโดยไม่บอกพวกคุณแน่ๆพวกคุณสองคนไปที่ห้องน้ำชาในบ้านพักกันมั้ยครับ? แล้วเราจะดื่มชากันไปคุยเื่นี้กันไปแทนที่จะมายืนคุยกันอยู่ในทางเดินนี่”
หยางเฉินและโม่เชี่ยนนีหายง่วงเป็ปลิดทิ้งหลังจากที่พวกเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว พวกเขาก็ตรงไปที่ห้องน้ำชาพร้อมกัน
ทางด้านหลี่มู่หัว ในเวลาเดียวกันเขาได้ส่งคนไปเชิญรองประธานที่กำลังหลับสนิทคืออู๋เต๋าของบริษัทฉางหลินนั่นเอง
พวกเขาเริ่มพูดคุยกันหลังจากเสิร์ฟชา
เมื่อได้ยินว่าหยางเฉินและโม่เชี่ยนนีเกือบถูกสังหารอู๋เต๋าจึงเกิดอาการใกลัวจนหายง่วงนอนเช่นกัน ท่าทีของเขาดูร้อนรนหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น
“บอสหลี่เกิดเื่แบบนี้ขึ้นได้ยังไงกันครับ? ผมไม่อยากตายในฮ่องกงนะครับ!”อู๋เต๋าเอ่ยด้วยความเสียอารมณ์แต่ยังคงกังวลหลังจากรู้ว่ามีคนคอยลอบสังหารอยู่ เขาจึงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
หลี่มู่หัวกล่าวปลอบโยนว่า
“ไม่ต้องห่วงครับคุณอู๋คนร้ายควบคุมตัวไว้แล้ว ตอนนี้กำลังถูกส่งไปยังสถานีตำรวจมาตรฐานความปลอดภัยของเราขณะนี้ได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นผมเชื่อว่าพวกคุณจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน”
“ดีแล้ว ดีแล้วล่ะงั้นเรามาพูดถึงเื่ธุรกิจกันดีกว่า” อู๋เต๋าซับเหงื่อที่ผุดขึ้นเต็มใบหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มที่แข็งทื่อ
หลี่มู่หัวกำลังจิบชาเขียวเขาเรียงลำดับความคิดของเขาแล้วเริ่มพูดว่า
“ผมขอเริ่มต้นด้วยเหตุผลที่ว่าทำไมบริษัททั้งสามของเราถึงมาทำงานร่วมกันผมเชื่อว่าคุณหยาง และคุณโม่อาจไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเื่นี้เหตุผลหลักที่ทำให้บริษัทมู่หยุนของเราตัดสินใจที่จะร่วมมือกับฉางหลินมีเดียของตระกูลเฉิงก็เพราะความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของผมกับ ผู้นำตระกูลเฉิงคนปัจจุบัน เฉิงเหว่ยเฉียงพวกเขาเป็เพื่อนกันในสมัยาเวียดนาม ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตระกูลหลี่และตระกูลเฉิงมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาตลอดจึงเป็เหตุผลว่าทำไมโครงการที่สำคัญนี้ถึงไม่มีใครเหมาะสมสำหรับไปกว่าเราที่จะร่วมมือกับฉางหลินมีเดีย”
“แล้วทำไมคุณถึงเลือกอวี้เหล่ยเป็หุ้นส่วนการขายล่ะ?แม้จะไม่มีบริษัทไหนๆ ที่เทียบเท่ากับเราได้แต่ที่ฉันรู้อย่างน้อยก็ยังมีอยู่ห้าแห่งในจีน” โม่เชี่ยนนีกล่าว
หลี่มู่หัวพยักหน้า “ใช่แล้วครับ สามสิบปีมานี้ทั้งยอดขายและชื่อเสียงที่ยอดเยี่ยมของแบรนด์นั้นทำให้เราเลือกอวี้เหล่ยและยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นก็เพราะว่าเป็ความสัมพันธ์ทางการเงินและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล จากการตรวจสอบของเราไม่มีบริษัทแฟชั่นอื่นๆที่สามารถฉีดเงินทุนจำนวนมากได้ในครั้งเดียวเหมือนกับในอวี้เหล่ยอีกอย่างซีอีโอหลินรั่วซียังเป็รุ่นน้องในมหาวิทยาลัยของซีอีโอเฉิงซินหลินอีกด้วยความสัมพันธ์เช่นนี้สำคัญกับเรามาก”
“มีอีกเื่หนึ่งครับ” อู๋เต๋าที่สงบนิ่งอยู่ก็หัวเราะคิกคักขึ้นมา และกล่าวว่า “เท่าที่ผมรู้ ซีอีโอหลินของคุณ ดูเหมือนกำลังเป็ศัตรูกับตระกูลซูอยู่นะครับ”
ขณะที่หมุนถ้วยชาเล่นในมือ หยางเฉินถามขึ้นว่า “ผมเคยเจอซูจื้อหงมาแล้วหลายครั้งความร่วมมือครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลซูอย่างไรหรือครับ? ทำไมเขาถึงเข้ามายุ่งกับเื่นี้ และถึงกับส่งคนมาทำร้ายเรา?”
หลี่มู่หัวกล่าวต่อด้วยสีหน้าจริงจังว่า
“ถึงแม้ว่าผมจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนร้ายนั้นถูกส่งมาจากตระกูลซูจริงแต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน ตระกูลซูนั้นน่าสงสัยมากที่สุดโครงการวิจัยนี้เป็โครงการใหม่ที่สำคัญของตระกูลซูด้วยเช่นกัน”
“ตระกูลซูมีการวิจัยวัสดุใหม่ๆด้วยหรือ?” โม่เชี่ยนนีถามอย่างสงสัย “ไม่ใช่มู่หยุนหรอกหรือที่เป็ผู้นำในด้านของการวิจัยนี้?”
“เมื่อเทียบกับสถาบันวิจัยทั่วโลกนะครับมู่หยุนของเราเป็บริษัทที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดหัวหน้านักวิจัยของโครงการนี้เป็ญาติห่างๆ ของตระกูลหลี่ของเราเอง ก็คือดอกเตอร์หลี่กวางซุ่นแต่น่าเสียดายที่ดอกเตอร์กรีนแซนด์เลอร์ รุ่นน้องของดอกเตอร์หลี่กวางซุ่นเป็หัวหน้าวิจัยของบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่โดยตระกูลซูเช่นกัน
พวกเขาทั้งสองคนเกือบจะได้อยู่ในระดับเดียวกันเราไม่สามารถการันตีได้ว่าพวกเขาจะสามารถให้ผลลัพธ์แบบใดได้ใครที่ทำได้สำเร็จก่อนจะได้จดสิทธิบัตรอย่างถูกต้องในยามคับขันเช่นนี้จะต้องไม่เกิดความผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้น"
“ในสถานการณ์เช่นนี้การร่วมมือในครั้งนี้จะไม่อันตรายเกินไปสำหรับพวกเราหรือ? ใครจะสามารถการันตีได้ว่าเราจะเป็เ้าแรกที่ได้จดสิทธิบัตร?”โม่เชี่ยนนีคิดเื่นี้โดยทันที
หลี่มู่หัวพยักหน้า และพูดว่า “ถูกต้องอย่างที่ผมได้เรียนไปข้างต้น อวี้เหล่ยสามารถให้เงินทุนได้เป็จำนวนมากนี่เป็สิ่งที่สำคัญมาก ตามที่ ดร.หลี่กวางซุ่นบอกมาเทคโนโลยีนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีในการวิจัย และพัฒนาภายในครึ่งปี จำนวนเงินทุนจะส่งผลโดยตรงต่อความเร็วที่เราจะได้รับผลลัพธ์ตระกูลซูเป็หนึ่งในห้าตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในจงไห่ในแง่เศรษฐกิจของตงหัวจัดว่าแข็งแกร่งถึงแม้เทคโนโลยีอาจไม่เท่าเทียมกับพวกเราสามคน แต่ด้วยการสนับสนุนของตระกูลซู พวกเขาจะมีอำนาจกว่าพวกเราทุกคน ดังนั้นโดยการร่วมมือกันของทั้งสามบริษัทจะต้องมีผลกระทบกับตระกูลซูอย่างมหาศาล”
เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ ในที่สุดหยางเฉินก็เข้าใจไอ้บ้าซูจื้อหงนั่นน่าสงสัยที่สุดนอกจากนี้เนื่องจากความสัมพันธ์ของเขากับหลินรั่วซีแน่นอนว่าซูจื้อหงจะต้องอยากให้เขาตายเร็วที่สุดเท่าที่เป็ไปได้ดังนั้นการส่งคนทำร้ายพวกเขาจึงสมเหตุสมผลขึ้นมา
“ช่วยไม่ได้ที่ตระกูลซูจะทำเช่นนี้โครงการวิจัยนี้จะทำกำไรได้อย่างมหาศาลอย่างแน่นอนหลายประเทศทางตะวันตกต่างอยากได้งานวิจัยชิ้นนี้มากแต่น่าเสียดายที่ทีมวิจัยของพวกเขานั้นล่าช้ากว่างานวิจัยของพวกเราอยู่หลายขุม”หลี่มู่หัวพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่ผมก็ไม่คิดว่าตระกูลซูจะใจร้อนถึงขนาดพยายามฆ่าพวกคุณสองคนที่เป็ตัวแทนของการเจรจาอย่างไรก็ตามพวกเราเข้าใจเื่นี้เป็อย่างดี แม้ว่าพวกเขาจะไม่ทำเช่นนี้พวกเราก็จะไม่ให้พวกนั้นทำการวิจัยได้อย่างสงบสุขอย่างแน่นอน”
"ฉันไม่สนับสนุนวิธีการของพวกเขาถ้ามันมีการแข่งขันแบบนี้ เหมือนเขาฆ่าคนของพวกเขาเองมันโเี้เกินไปสำหรับโลกของธุรกิจ ไม่ว่าใครจะออกแบบผลิตภัณฑ์ก่อนแน่นอนว่ามันมีหลากหลายวิธีที่ใช้หลีกเลี่ยงกฎหมายและสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันได้ไม่มีความจำเป็ต้องใช้ชีวิตของนักวิทยาศาสตร์เ่าั้เพื่อเงิน!” โม่เชี่ยนนีกล่าวด้วยอารมณ์ไม่พอใจกับคำพูดของหลี่มู่หัว
หลี่มู่หัวรีบโบกมือแก้ตัวอย่างรวดเร็ว
“คุณโม่ คุณกำลังเข้าใจผิดนะครับสิ่งที่ผมหมายถึงคือ ดร.กรีนเป็รุ่นน้องของ ดร.หลี่กวางซุ่น ถ้าเราสามารถชักชวนให้ดร.กรีนเข้าร่วมการวิจัยควบคู่ไปกับ ดร.หลี่กวางซุ่นผลิตภัณฑ์ของเราจะผลิตได้เร็วขึ้น!”
“น่าเสียดายที่มันเป็เื่ยากเกินไปเห็นได้ชัดว่าคนอเมริกันที่ชื่อกรีนเป็คนหัวดื้อย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขาอายุยังน้อย ตระกูลซูเชื่อใจเขามากจนถึงกับตั้งสถาบันวิจัยให้กับเขามันอาจพูดได้ว่าเขาตัดสินใจอยู่กับตระกูลซูไปแล้วเขาจะเอียงมาอยู่ข้างเราได้ยังไง?” อู๋เต๋าพูด
“ไม่ว่าจะเป็ไปได้น้อยแค่ไหนเราก็คงต้องลองสักตั้ง”
เมื่อได้ยินเสียงแหบแห้งอย่างคนชราจากข้างนอกห้องน้ำชาทุกๆ คนก็หันไปมองตามต้นเสียงเขาคือหลี่เต๋อเซินที่นั่งรถเข็นเข้ามาพร้อมกับพนักงานของเขา
หลี่มู่หัวรีบลุกขึ้นเดินไปข้างหน้า และทักทายว่า
“พ่อ มันดึกแล้วนะครับทำไมพ่อถึงมาที่นี่?”
หลี่เต๋อเซินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “ฉันอาจจะดูแก่และร่างกายอาจจะไม่ค่อยดี แต่ฉันก็ยังไม่แก่สักหน่อย มีคน้าทำร้ายแขกผู้มีเกียรติสองคนของเราและแกก็ยังพยายามจะปิดบังสิ่งสำคัญเช่นนี้กับฉันอย่างนั้นหรือ?”
“เปล่าครับผมแค่คิดว่าจะแจ้งพ่อพรุ่งนี้ตอนเช้า เมื่อคุณพ่อตื่นน่ะครับ” หลี่มู่หัวกล่าวขอโทษ
“เื่เร่งด่วน และไม่เร่งด่วนอย่าลืมสิ่งที่ฉันสอนแก” หลี่เต๋อเซินถลึงตามองลูกชายคนที่สองของเขาจากนั้นยิ้มให้โม่เชี่ยนนีและหยางเฉิน พร้อมกล่าวว่า
“คุณหยาง คุณโม่ครับต้องขอโทษที่ทำให้ใ แต่ผมรับประกันว่าจะไม่มีคนร้ายคนอื่นแอบเข้ามาได้อีกแล้ว”
“ประธานหลี่! ซีอีโอ!เกิดเื่ขึ้นครับ!!”
ก่อนที่หลี่เต๋อเซินจะพูดอะไรอีกก็เกิดเสียงเอะอะดังขึ้นจากภายนอกห้องน้ำชาเป็ผู้จัดการ Twilight Villa ที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามา
บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวในขณะที่เขาะโด้วยเสียงสั่นเครือ
“เกิดเื่ขึ้นครับท่านประธาน!ก่อนหน้านี้มีคนโทรมาขู่วางะเิ เขาคนนั้นพูดว่ามีะเิเคมีซุกซ่อนอยู่ภายในวิลล่าของเราครับ!”
“ว่าไงนะ!?” หลี่เต๋อเซินที่เพิ่งให้แขกของเขาสงบจิตใจลงเมื่อสักครู่นี้กลับพังทลายลงด้วยใบหน้าอันซีดเผือด “พูดอีกครั้งซิพูดให้ชัดๆ”
ในขณะที่ผู้จัดการกำลังจะพูดออกมาทันใดนั้นโทรศัพท์ของผู้ช่วยของหลี่เต๋อเซินก็ดังขึ้นทันที เขามองไปที่โทรศัพท์และพูดว่า
“ท่านประธานครับ เบอร์แปลกครับ”
เมื่อผู้จัดการมาได้ยินเข้า เขาเลยพูดว่า
“ท่านประธาน! นั่นเขา!เขาบอกให้ผมบอกคุณแล้วเขาจะโทรมาคุยกับท่านประทานเป็การส่วนตัวเอง!”
ทุกคนในตอนนี้เผยสีหน้ากังวลเื่ตัดสินคนร้ายเพิ่งจะจบ ทำไมถึงมีเื่วางะเิเคมีอีก?
“รับสายของมัน! เปิดลำโพง!” หลี่เต๋อเซินสั่งการอย่างใจเย็น
เมื่อผู้ช่วยของเขารับสายก็ได้ยินเสียงที่ฟังดูเหมือนใช้เครื่องดัดเสียงดังจากปลายสายทันที
“ท่านประธานหลี่ซีอีโอหลี่กำลังดื่มชาอยู่ดึกดื่นปานนี้ ความสัมพันธ์ของคุณจะต้องดีมากแน่ๆ”
ทุกคนรู้สึกตกตะลึงมากที่เขาสามารถล่วงรู้เบอร์ส่วนตัวของหลี่เต๋อเซินมิหนำซ้ำคนคนนี้รู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ในห้องน้ำชา?
“พวกคุณทุกคนไม่ต้องใถ้าผมไม่สามารถติดตามตำแหน่งของคุณได้ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าะเิที่ผมซ่อนไว้จะมีผลกับพวกคุณโดยตรงหรือเปล่า? แล้วผมจะทำให้คุณเชื่อว่าผมฝังะเิไว้จริงๆ หรือเปล่า”
“แกเป็ใครกันแน่?” หลี่เต๋อเซินขมวดคิ้วเข้าหากันขณะที่เขาถาม
เสียงอิเล็กทรอนิกส์จากโทรศัพท์เป็เสียงหัวเราะออกมาอย่างดังแล้วพูดว่า
“ผมเป็ใครไม่สำคัญหรอกสิ่งที่สำคัญก็คือตราบใดที่ผมค่อยๆ แตะที่ปุ่มนี้ต่างหากะเิเคมีที่ถูกฝังเอาไว้จะสร้างความเสียหายไปทั่วทั้ง Twilight Villa ผ่านท่อระบายอากาศ และมันก็ยากมากหากคุณจะออกจากที่นี่ไปได้แม้จะมีปีกงอกออกมาจากกลางหลังของคุณก็ตาม”