ด้านนอกใจกลางทะเลสาบตอนนี้ค่อยๆ เงียบสงบลงแล้ว
อัจฉริยะทั้งหลายพากันเข้าไปในสุสาน เหลือเพียงผู้แข็งแกร่งที่เฝ้าอยู่ภายนอก คอยเป็กำลังสนับสนุนให้อัจฉริยะเ่าั้
เขตกู่ซวีในหุบเขาสุขาวดีตอนนี้เป็่ที่เงียบสงบ เมื่อมีคนออกมาจากในสุสานหรือขุดค้นของล้ำค่าที่ทำให้ตาลุกวาวออกมาได้ ถึงตอนนั้นจะเริ่มมีการแย่งชิงเกิดขึ้น
และการต่อสู้ที่แท้จริงจะเริ่มต้นขึ้นในเวลานั้น
าามารตะวันตกนั่งอยู่บนพรมวิเศษ กำลังดื่มสุรา กินเนื้อวัว สบายใจอย่างที่สุด
าามารทิศเหนือปรายตามองาามารตะวันตก เขาไม่ได้กลับไปหาาามารตะวันตกแต่ไปยังฐานที่มั่นของตนเอง นั่งทำสมาธิฝึกฝน
เหลยป้าเทียนมองซ้ายมองขวา กลับไปอยู่ข้างกายาามารทิศเหนือเช่นกัน
ในเส้นทางเข้าสุสาน เสิ่นเสวียน เสิ่นเสี่ยวเม่ย และเริ่นเสี้ยวเทียนเหาะลงไปเรียงแถว จี๋เล่อน้อยะโลงไปแล้วเพิ่มความเร็ว ทำให้เขาพุ่งลงไปราวกับะุปืน
“พลังของจี๋เล่อน้อยผู้นี้แข็งแกร่งมากเลยนะ!”
เริ่นเสี้ยวเทียนถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
“ไม่เลวเลยทีเดียว าามารตะวันตกไม่มีทางทำอะไรเขาได้เลยในร้อยกระบวนท่า”
เสิ่นเสวียนกล่าวขึ้นเช่นกันพลางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้เข้ามาคลุกคลีอยู่กับพวกเขาไม่ใช่เื่ดีสักเท่าไร
“เอาชนะไม่ได้ในร้อยกระบวนท่า ข้าเดาว่าหากเขาคิดสังหารพวกเราคงไม่ใช่เื่ยาก”
เริ่นเสี้ยวเทียนถอนหายใจ มีคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวขนาดนี้ไม่ใช่เื่ดีเลยจริงๆ
“เอ๋... พวกเ้าสังเกตเห็นอะไรไหม รอบๆ ไม่มีใครเลย”
เริ่นเสี้ยวเทียนพบว่าด้านหลังของตนเองไม่มีใครเหลือแล้ว เหลือเพียงเสิ่นเสวียนและเสิ่นเสี่ยวเม่ยเท่านั้น
“น่าจะโดนพลังของเส้นทางนี้แยกออกจากกัน อย่าออกห่างกันไกลมากนัก”
เสิ่นเสวียนเพิ่งกล่าวขึ้น เริ่นเสี้ยวเทียนที่อยู่ข้างๆ ก่อนหน้านี้ได้หายตัวไปแล้ว
“ท่านพี่ เขาหายไปแล้ว”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยกล่าวกับเสิ่นเสวียน ตอนนี้ทั้งสองคนจับมือกันอยู่ ไม่ได้ปล่อยมือเลย
“เขาตั้งใจน่ะ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ลดปัญหาไปได้มาก”
เสิ่นเสวียนหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็ดึงเสิ่นเสี่ยวเม่ยหายไปจากตรงนั้นทันทีด้วยความเร็วสูง
เมื่อเสิ่นเสวียนหายไปแล้ว เริ่นเสี้ยวเทียนก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
“เสิ่นเสวียนหนอเสิ่นเสวียน เ้าเป็เซียนเทพมาจากไหนกันแน่ ดูเหมือนข้าจะไม่สามารถมีความลับกับเ้าได้ แต่ข้ากลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเ้าเลย”
เริ่นเสี้ยวเทียนถอนหายใจอีกครั้งและมุ่งหน้าต่อไป
ไม่รู้ว่าเดินไปตามเส้นทางนี้นานเท่าไรแล้ว เบื้องหน้าปรากฏม่านน้ำสีฟ้าอ่อนขึ้นมา เมื่อเห็นดังนั้น เสิ่นเสวียนและเสิ่นเสี่ยวเม่ยจึงะโเข้าไปในม่านน้ำนั้นทันที
ูเาเขียว น้ำใส เสียงนกร้อง กลิ่นดอกไม้หอมหวน
ทั้งสองคนยืนอยู่บนทุ่งหญ้าเขียวขจี รอบๆ มีเนินเขาเรียงราย เสียงนกร้องดังมาจากบนต้นไม้ ดูราวกับฉากในสรวง์
“นี่คือที่ไหน”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยมองทุกอย่างตรงหน้าด้วยความสงสัย นางไม่ได้อยู่ในเส้นทางมุ่งหน้าสู่สุสานหรอกหรือ นางจำได้ชัดเจนว่าเข้ามาในสุสาน แต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
“นี่ก็คือสุสาน”
เสิ่นเสวียนมองไปรอบๆ ทุกอย่างนี้เหมือนจริงมาก
“สุสานอย่างนั้นหรือ”
เห็นได้ชัดว่าเสิ่นเสี่ยวเม่ยไม่เข้าใจเลย
ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ก่อนที่ผู้แข็งแกร่งบางส่วนจะล่วงลับไป จะตามหาสถานที่ล้ำค่าเพียบพร้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ใช้พลังทั้งหมดในการผนึกพลังเพื่อสร้างสุสานของตนเองขึ้นมา ส่วนทางเข้าออกสุสานจะอยู่ในสถานที่ห่างไกล ใช้ค่ายกลมากมายในการเชื่อมต่อพวกมันเข้าด้วยกัน
แน่นอนว่า ความสามารถเช่นนี้อย่างน้อยต้องมีพลังยุทธ์ขั้นมหายานจึงจะสามารถทำได้
ผู้เฒ่าจี๋เล่อผู้นี้มีพลังยุทธ์ถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์แล้ว เทียบได้กับยอดฝีมือขั้นมหายาน ซึ่งไม่ได้ยากเลยสำหรับความสามารถเช่นนี้
“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยถอนหายใจ ความสามารถเช่นนี้นางไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้เห็นมาก่อนเลย
“พวกเราไปดูทางนั้นกันเถอะ”
เสิ่นเสวียนและเสิ่นเสี่ยวเม่ยเดินไปยังเนินเขาลูกหนึ่ง ในความเข้าใจของเขา แม้จะสร้างสุสานขึ้นมาก็ต้องอยู่ด้านล่างเนินเขา ส่วนแผนที่ที่าามารตะวันตกมอบให้พวกเขามาก่อนหน้านี้ ตอนนี้อยู่ในมือเริ่นเสี้ยวเทียน จึงไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้ว
ทั้งสองคนไปถึงเนินเขาแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว หลังจากมองเนินเขานั้นแล้ว เสิ่นเสวียนและเสิ่นเสี่ยวเม่ยจึงะโขึ้นไป ตามหาร่องรอยต่างๆ บนนั้นไปเรื่อยๆ
ที่นี่กว้างใหญ่มาก แม้จะมีคนเข้ามานับพัน แต่ที่นี่กลับไม่มีคนอื่นเลย ในพริบตาที่เข้ามาจะถูกส่งไปยังที่ต่างๆ กระจัดกระจายไป ส่วนตอนจะออกไปนั้นง่ายมาก ขอเพียงกลับมายืนอยู่ในตำแหน่งเดิมที่เข้ามาก็จะโดนดูดออกไปด้านนอกเอง
แน่นอนว่าสิ่งที่ดูดออกไปคือสิ่งที่มีชีวิต หากนำสิ่งของอื่นๆ ออกไปด้วย มีเพียงต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน
“ตรงหน้ามีแอ่งน้ำ ระวังด้วย”
เสิ่นเสวียนมองไกลออกไปราวสองลี้แล้วกล่าวกับเสิ่นเสี่ยวเม่ยเบาๆ
แอ่งน้ำนี่ลึกมาก พลังจิติญญามิอาจััลงไปด้านล่างได้ ไม่รับรู้อะไรเลย
เสิ่นเสี่ยวเม่ยยังเหาะไม่ได้ เสิ่นเสวียนจึงคว้ามือบางดึงให้เหาะขึ้นไป้าเพื่อสังเกตไปรอบๆ
ทว่าในขณะนั้นเอง พลันมีพลังรุนแรงแผ่ซ่านออกมาจากแอ่งน้ำนั้น เข้าปกคลุมร่างของทั้งสองคนกลางอากาศ
ปากกว้างใหญ่ขนาดกลืนกินคนสองคนได้อ้าปากกลืนทั้งสองเข้าไปทันที
“เข้าไปในนี้”
ใน่คับขัน เสิ่นเสวียนออกคำสั่งเสียงเย็น ส่งเสิ่นเสี่ยวเม่ยเข้าไปในมิติของเขาทันที แต่เขาหลบหลีกไม่ทันจึงโดนปากใหญ่ด้านล่างงับเข้าปากไปแล้ว
“นี่คือจระเข้เขี้ยวดาบอย่างนั้นหรือ”
เสิ่นเสวียนใช้สองมือยันปากบนกับปากล่างของจระเข้ไว้ เขาโดนขังอยู่ระหว่างฟันสี่ซี่ที่ใหญ่และแหลมคมพอจะแทงทะลุหน้าอกของเขาได้ หากไม่ใช่เพราะใช้สองมือยันเอาไว้ ตอนนี้เขาคงโดนกลืนลงท้องไปแล้ว
จระเข้เขี้ยวดาบคือสัตว์วิเศษในทวีปหลิงโซ่ว รูปร่างคล้ายจระเข้ทั่วไปแต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก เกิดมาก็อยู่ในขั้นห้าแล้ว นับเป็หนึ่งในสัตว์วิเศษขั้นสูงที่หาได้ยาก
ปากที่งับเสิ่นเสวียนเข้าไปมีขนาดราวหกฉื่อ เช่นนั้นลำตัวต้องยาวอย่างน้อยราวๆ สองจั้งครึ่ง ขนาดเท่านี้ยังนับว่าอยู่ใน่กำลังเติบโต จระเข้เขี้ยวดาบที่โตเต็มวัยแล้วอาจมีพลังอยู่ในขั้นเจ็ด เรียกว่าเป็ผู้นำของสัตว์วิเศษเลยก็ว่าได้
แม้พวกมันจะเป็สัตว์วิเศษขั้นสูง แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกมันมีสติปัญญาขึ้นมา โดยปกติแล้ว สัตว์วิเศษขั้นหกอาจสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ สัตว์วิเศษขั้นเจ็ดอาจแสดงร่างมายาเป็ร่างมนุษย์ได้ แต่กับจระเข้เขี้ยวดาบแม้จะอยู่ขั้นเจ็ดแล้ว มันกลับไม่มีความสามารถในการพูดและสติปัญญาบกพร่อง
จระเข้เขี้ยวดาบที่อยู่ตรงหน้านี้อยู่ใน่วัยกำลังเติบโต มีพลังขั้นหก รวมเข้ากับพลังสัตว์วิเศษที่น่ากลัว ทำให้ตอนนี้เสิ่นเสวียนยังหาวิธีจัดการมันไม่ได้
“พี่เสวียน ให้ข้าออกไปสังหารมันเถอะ!”
เสียงของเสิ่นเลี่ยนดังออกมาจากในมิติ
“ไม่ต้องหรอก เ้าฝึกฝนอยู่ในนั้นต่อไปก่อน เสี่ยวเม่ยออกห่างจากเสิ่นเลี่ยนด้วย อย่าให้เป็อันตราย”
เสิ่นเสวียนต้านทานพลังของจระเข้เขี้ยวดาบไว้ พลางกล่าวกับทั้งสองคนที่อยู่ในมิติ
“อืม”
ทั้งสองคนรับคำพร้อมกัน เสิ่นเสี่ยวเม่ยรู้ถึงสถานการณ์ของเสิ่นเลี่ยนอยู่บ้าง จึงไม่ได้ใมากนัก ส่วนเสิ่นเลี่ยนก็ถือกริชเข้าสู้กับหุ่นเชิดคนหนึ่ง แทงเข้าไปตรงหัวใจอย่างแม่นยำ
เสิ่นเสวียนไม่ให้เขาเชือดคอ มิเช่นนั้นหุ่นเชิดจะพังทันที ตำแหน่งหัวใจเขาติดตั้งค่ายกลไว้แล้ว สามารถแทงได้ตามใจ
“ในเมื่อเ้าอยากกลืนข้านัก เช่นนั้นเ้าก็กลืนข้าลงไปเลย”
เสิ่นเสวียนปล่อยมือ จึงโดนจระเข้เขี้ยวดาบกลืนลงท้องไปทันที
หลังจากจระเข้เขี้ยวดาบกลืนเสิ่นเสวียนลงไปแล้ว ดวงตาที่เหมือนลูกกระพรวนทองแดงกวาดมองไปรอบๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ดำลงไปใต้น้ำอย่างเชื่องช้า
เสิ่นเสวียนที่อยู่ในท้อง รอบๆ ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยม่านพลัง สามารถต้านทานพลังภายนอกได้ชั่วคราว
พลังของจระเข้เขี้ยวดาบแข็งแกร่งยิ่งนัก หากต้องสู้กันไม่ใช่เื่ง่ายเลย แต่ถ้าหากอยู่ในนี้ อำนาจจู่โจมก็จะอยู่ในกำมือของเสิ่นเสวียน
เสิ่นเสวียนนั่งลงภายในท้องของจระเข้ ใช้พลังในตันเถียนเสริมเข้าในร่างกายตนเองอย่างต่อเนื่อง เมื่ออยู่ในนี้เขาไม่สามารถดูดซับพลังจากภายนอกได้ เมื่อพลังในตันเถียนหมดลง เขาก็จะตายทันที
ก่อนหน้านี้เขามีโอกาสหนีไป แต่เขาไม่หนี เลือกที่จะถูกกลืนลงท้องมา
เขาตามหาร่องรอยที่โลกภายนอกมานานแล้วแต่ไม่เจออะไรเลย บางทีอาจสามารถใช้จระเข้เขี้ยวดาบตัวนี้ตามหาร่องรอยบางอย่างได้
โชคดีที่เขาเก็บกักพลังไว้ในตันเถียนมากพอ เขาสามารถอยู่ในนี้ได้สิบวันถึงครึ่งเดือนโดยไม่มีปัญหาอะไร
หลังจากอยู่ในท้องได้หนึ่งชั่วยาม จระเข้เขี้ยวดาบที่เคลื่อนไหวอยู่พลันหยุดนิ่งลง น่าจะกลับถึงรังและพักผ่อนแล้ว
เขารู้ว่าในรังนี้อาจมีจระเข้เขี้ยวดาบโตเต็มวัยอยู่ด้วย เขาจำเป็ต้องระวังตัว ไม่อย่างนั้นคงต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆ
“ต้องพึ่งเ้าแล้ว”
ทันใดนั้น กระบี่ัคำรามพลันปรากฏขึ้นในมือของเสิ่นเสวียน แล้วเขาก็แทงกระบี่ใส่ร่างของจระเข้เขี้ยวดาบ