หลังจากพ่นยาและประคบน้ำแข็งมาทั้งวันตอนบ่ายแขนของเธอก็เริ่มหายบวม
วันนี้ลู่เป๋าเหยียนเลิกงานก่อนเวลาเขาถึงบ้านตอนห้าโมงตรง ูเี่อันรีบยื่นแขนให้เขาดูทันทีที่เขากลับมาอย่างดีใจ
“ดูสิ หายแล้วเห็นไหม!”
“หายแล้ว?”
ลู่เป๋าเหยียนจิ้มนิ้วลงไปบนแขนของเธอเบาๆูเี่อันเจ็บจนแทบดิ้น เธอผลักเขาออกไปอย่างโกรธๆ
“นายตั้งใจแกล้งฉัน!”
ถังอวี้หลันเดินยิ้มเข้ามาหา“พอแล้วจ้ะ หยุดแกล้งกันได้แล้ว ลุงสวีฝากบอกว่า ช่างแต่งหน้ามากันแล้วนะพวกลูกรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า”
ลู่เป๋าเหยียนลากูเี่อันขึ้นชั้นบนก่อนจะหยิบชุดของเขาออกมาจากตู้เสื้อผ้า
“เธอเข้าไปเปลี่ยนข้างใน”
“อืม”ูเี่อันตอบก่อนจะล็อกประตูห้องแต่งตัวพลางมองไปยังชุดราตรียาวที่แขวนอยู่ในตู้ดูสะดุดตา
ที่จริงเธอไม่ค่อยชอบไปงานที่ต้องแต่งชุดจัดเต็มขนาดนี้ยิ่งต้องใส่ชุดราตรียาวเรี่ยพื้นที่เคลื่อนไหวลำบากแบบนี้ด้วยแล้วนี่คือเหตุผลที่เมื่อก่อนเธอไม่ชอบออกงานสังคมกับซูอี้เฉิงสักเท่าไร
แต่ครั้งนี้เพื่อลู่เป๋าเหยียน เธอยอมลุกขึ้นมาแต่งตัว ยอมเสียเวลาแต่งหน้าอย่างประณีตเป็ชั่วโมงๆทำทุกอย่างให้ตัวเองดูงดงามไร้ที่ติด เพื่อออกงานในฐานะคุณนายลู่เธอยอมปั้นหน้ายิ้มอยู่ในสถานที่ที่เธอไม่คุ้นเคย
ยามเมื่อเธอยืนเคียงข้างเขาพวกเธอทั้งสองคนจะดูเหมาะสมกัน จนใครก็ไม่อาจสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเธอได้
ทั้งที่ในความจริง...มันอาจจะไม่ได้ดูสวยงามดั่งอุดมคติขนาดนั้น
เพราะแขนขวาได้รับาเ็เธอจึงพยายามฝืนใช้มือซ้ายดึงชุดขึ้นมาจนปิดหน้าอก แต่ก็เกินกำลังที่จะรูดซิปหรือจัดชุดให้เรียบร้อย
ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้แต่เดินวนไปวนมาในห้องแต่งตัวอย่างกระวนกระวายใจงานยังไม่ทันเริ่ม เธอก็แย่เสียแล้วเนี่ย
ไม่นานเสียงลู่เป๋าเหยียนก็ดังเข้ามา
“เจี่ยนอัน?”
ูเี่อันตอบเสียงเบา
“มะ มีอะไร”
เดิมทีลู่เป๋าเหยียนแค่อยากจะบอกเธอว่าช่างแต่งหน้ามาแล้วแต่หลังจากได้ยินเสียงแปลกๆ ของเธอ รวมถึงคิดขึ้นได้ว่าเธอกำลังเจ็บแขนเขาก็เข้าใจอะไรบางอย่าง จึงยื่นมือไปเคาะประตู
“เปิด”
ูเี่อันมองตัวเองในกระจกเธอในตอนนี้แค่เพียงปล่อยมือ ชุดก็จะเลื่อนตกลงไปจนเผยให้เห็นท่อนบนทั้งหมด
เปิดประตูตอนนี้คงไม่ดีมั้ง?
ลู่เป๋าเหยียนเหมือนรู้ว่าูเี่อันกำลังลังเลจึงพูดเสริม
“ไม่ยอมเปิดประตูแล้วเธอใส่เองได้งั้นเหรอ?”
ก็ไม่ได้น่ะสิ...
ูเี่อันนิ่งคิดก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูออกไป ถึงยังไงวันก่อนตอนที่ลองชุด ลู่เป๋าเหยียนก็เคยเห็นเคยจับมาแล้วนี่คงไม่เป็ไรล่ะมั้ง
เธอเดินไปหน้าประตูก่อนจะหลับตาปี๋และบิดล็อกประตูออก
ลู่เป๋าเหยียนเตรียมใจเอาไว้แล้วก็จริงแต่เมื่อเห็นูเี่อัน เขาก็อดใจเต้นแรงไม่ได้
เธอคงไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในห้องแต่งตัวมานานมากจนตอนนี้แก้มใสของเธอเริ่มแดงระเรื่อ ไรผมด้านหน้าเริ่มยุ่งเหยิงแถมยังใช้สายตาออดอ้อนอย่างไม่รู้ตัวมามองที่เขาอีก
ทุกอิริยาบถของเธอในตอนนี้ช่างเย้ายวนใจคนมองเหลือเกิน
เพราะเธอไม่สามารถรูดซิปด้วยตัวเองได้ทำให้ผิว่ไหล่และแผ่นหลังเผยออกมาให้เห็นผิวของเธอขาวนวลเนียนเปล่งประกายราวไข่มุกและในตอนนี้เธอกำลังใช้มือซ้ายปิดบังหน้าอกเอาไว้...
สีหน้าขวยเขินแต่ท่าทางที่ดูเย้ายวนนั้น คือภาพของูเี่อันในขณะนี้
ลู่เป๋าเหยียนเริ่มหายใจถี่เขารีบเดินอ้อมไปที่ด้านหลังของเธอ ก่อนจะพยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
“ปล่อยมือออก”
ใบหน้าของูเี่อันร้อนรุ่มจนแทบะเิเธอ “อืม” ตอบเขากลับไปด้วยเสียงแ่เบา ก่อนจะเอามือออกโดยมีลู่เป๋าเหยียนช่วยประคองชุดเอาไว้
ลู่เป๋าเหยียนช่วยจัดทรงของชุดให้เรียบร้อยทำให้บางครั้งมือของเขาเผลอมาโดนตัวเธอ ตอนแรกูเี่อันแค่รู้สึกถึงนิ้วอุ่นๆ ของเขาแต่ยิ่งนานเข้าอุณหภูมิจากปลายนิ้วเขาก็เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขาััเธอรู้สึกเหมือนถูกไฟแผดเผาจนอดเกร็งตัวไม่ได้
ไม่รู้ว่าเป็เธอหรือเขากันแน่ที่ใจกำลังร้อนรุ่ม
ณห้องแต่งตัวอันกว้างขวาง บรรยากาศอ่อนหวานบางอย่างกำลังเข้ามาครอบงำอย่างช้าๆ
ลู่เป๋าเหยียนพยายามควบคุมตัวเองอย่างหนักไม่ให้ทำอะไรที่น่าใลงไปเมื่อจัดทรงชุดเธอเสร็จเรียบร้อย เขาก็รู้สึกคอแห้งผาก
“หมุนตัวกลับมา”
ูเี่อันก้มหน้าเล็กน้อยก่อนจะทำตามที่เขาบอกโดยไม่ทันสังเกตว่า วันนี้ลู่เป๋าเหยียนดูจะพูดน้อยผิดปกติ
ลู่เป๋าเหยียนค่อยๆ รูดซิปขึ้นมาชุดราตรีที่ถูกตัดเย็บอย่างพอดีตัวค่อยๆ แนบไปตามเรือนร่างงดงามของเธอสายตาของลู่เป๋าเหยียนยิ่งลุกโชนไปด้วยความปรารถนาบางอย่าง
ไม่รู้ว่าเพราะความเขินอายหรือกระไรูเี่อันจึงก้มหน้ามองต่ำตลอดเวลา ขนตางอนยาวของเธอที่หลุบขึ้นลงอย่างช้าๆ ราวกับปีกผีเสื้อเรียวปากบางที่ถูกเธอเม้มจนเป็สีแดงสดดูอิ่มเอิบราวกับดอกไม้แรกแย้มลู่เป๋าเหยียนเบือนสายตาหนีภาพตรงหน้าอย่างยากลำบาก
“เสร็จแล้ว”เขารูดซิปเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะถอนหายใจยาว
ูเี่อันเดินไปส่องกระจกก่อนจะลองขยับตัวซ้ายขวา
ชุดไม่มีปัญหาอะไรก็จริงแต่เธอไม่นึกเลย...ว่าคนที่จะช่วยเธอใส่ชุดนี้จะเป็ลู่เป๋าเหยียน
คิดแล้วหน้าเธอก็แดงก่ำยิ่งกว่าเดิมเธอลอบมองเขาผ่านกระจกเงา แต่ดันสบกับสายตาของเขาพอดี ลู่เป๋าเหยียนรีบเดินออกไป
“ช่างแต่งหน้ากำลังรออยู่รีบออกไปล่ะ”
เขาก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมั์ตาที่ฉายแววบางอย่างูเี่อันอดสงสัยไม่ได้
“นายจะไปไหน”
“อาบน้ำ”ลู่เป๋าเหยียนตอบ
อาบน้ำอีกแล้วเหรอ? ูเี่อันงงตอนเช้าเขาก็อาบไปรอบแล้วไม่ใช่หรือไง แล้วตอนนี้ยังจะอาบอีก? รักความสะอาดเกินไปมั้ยเนี่ย...
เธอเดินไปยังห้องแต่งหน้าที่อยู่ด้านข้างก่อนจะล้างหน้าล้างตา และล้างคราบยาออกจากแขนขวาจากนั้นจึงเดินไปนั่งลงหน้ากระจกให้ช่างแต่งหน้าเริ่มลงมือทำงานของเธอ
“คุณนายลู่ค่ะวันนี้ดิฉันจะแต่งหน้าโทนธรรมชาติให้เหมือนเดิมนะคะ”ช่างแต่งหน้าคนนี้เป็คนเดิมกับคราวที่แล้ว“มันดูเข้ากับคุณและชุดในวันนี้อย่างลงตัวเลยล่ะค่ะ”
“ค่ะ”ูเี่อันยิ้มตอบ
เมื่อเธอแต่งหน้าเสร็จลู่เป๋าเหยียนก็เปลี่ยนชุดเดินออกมาจากห้องพอดีโดยที่ในมือเขาถือกล่องเครื่องประดับออกมาด้วย
แต่ความสนใจทั้งหมดในตอนนี้ของูเี่อันอยู่ที่ใบหน้าของเขา
‘หล่อเพอร์เฟคไร้ที่ติ’คำนี้คงเหมาะสมที่สุดที่จะใช้อธิบายภาพของลู่เป๋าเหยียนที่เธอเห็นในตอนนี้ โครงหน้าหล่อเหลาคมเข้มของเขาทำใหู้เี่อันรู้สึกตะลึงไปไม่แพ้ครั้งแรกที่เธอได้พบกับเขาเลย
เขาเป็คนชอบใส่สูทสีเข้มที่ตัดเย็บจากผ้าเนื้อดีและดีไซน์ประณีตมันทำให้ลู่เป๋าเหยียนดูสุขุมมีเสน่ห์ยิ่งกว่าเดิม
ผู้ชายคนนี้เกิดมาเพื่อพิชิตหญิงสาวโดยแท้ถึงแม้ว่าบางครั้งูเี่อันจะรู้สึกเซ็งกับนิสัยของเขาก็ตาม
ไม่ว่าเขาจะเป็คนอย่างไรผู้หญิงส่วนใหญ่ก็คงอดเผลอใจไปกับเขาไม่ได้
ขนาดตอนที่เขาเดินเข้ามาคุณช่างแต่งหน้าเองยังจ้องไม่วางตา จนลืมไปว่าตัวเองควรจะออกจากห้องไปได้แล้ว
ตอนนี้ในห้องแต่งหน้าจึงเหลือเธอกับเขาแค่สองคน
ูเี่อันรีบเก็บสายตาเพ้อฝันของตัวเองแล้วทำเป็ไม่รู้ไม่ชี้
ลู่เป๋าเหยียนเองก็ไม่ได้พูดอะไรเขาวางกล่องเครื่องประดับลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง ทันทีที่เปิดมันออกมาแสงประกายแวววาวของบางสิ่งสะท้อนเข้าตาเธอทันที
ูเี่อันไม่ใช่คนชอบอัญมณีก็จริงแต่เธอก็เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่มักถูกของสวยงามดึงดูดสายตาเมื่อเห็นชุดเครื่องเพชรตรงหน้า ูเี่อันก็ถึงกับอึ้ง
ไม่ใช่เพราะว่ามันมีราคาแพงไม่ใช่เพราะเครื่องเพชรชุดนี้มีดีไซน์ที่สวยงาม
แต่เพราะเธอจำมันได้
เพชรน้ำงามที่เดิมทีก็หายากอยู่แล้วแถมเธอยังเคยเห็นภาพของมันจากในข่าวต่างๆ ดังนั้นเธอมั่นใจว่า เพชรที่ประดับอยู่บนเครื่องประดับเหล่านี้คือเพชรอันเดียวกันกับที่ลู่เป๋าเหยียนประมูลมาได้เมื่อสี่เดือนก่อน
เขาประมูลมันมาและให้ร้านเครื่องประดับแบรนด์ดังเป็คนจัดทำเครื่องเพชรชุดนี้ออกมา
“เธอคงยังไม่รู้ว่าก่อนที่พวกเธอจะแต่งงานกันที่แอฟริกาใต้มีการขุดพบเพชรน้ำงามยิ่งกว่าเพชรครูรีนานเสียอีกและเป่าเหยียนเป็คนซื้อมันไว้ ส่วนที่ว่าเขาซื้อมาทำอะไรเธอลองกลับไปค้นข่าวตามอินเทอร์เน็ตดูสิแล้วค่อยคิดดูอีกครั้งว่าจะให้ฉันเปลี่ยนคำเรียกชื่อเธอดีหรือเปล่า”
คำพูดของหานรั่วซีเมื่อหลายวันก่อนนั้นเธอยังจำฝังใจเธอไปเสิร์ชหาข่าวตามคำบอกของหานรั่วซีและพบว่าทุกคนต่างคิดว่าลู่เป๋าเหยียนประมูลเพชรชิ้นนี้มาเพื่อให้กับคนที่รักการสะสมอัญมณีอย่างหานรั่วซี
ในตอนนั้นเธอรู้สึกเสียใจจริงๆ อย่างที่หานรั่วซีหวังไว้
แต่ตอนนี้ความจริงไม่ใช่อย่างที่เธอคิด
สายตาของเธอทอประกายปนงุนงงเธอมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ
“ลู่เป๋าเหยียนนาย...”
ลู่เป๋าเหยียนค่อยๆ หยิบแหวนเพชรขึ้นมา
“ยื่นมือมา”
ูเี่อันยื่นมือออกไปพลางพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ
“นายแน่ใจ...ว่าจะให้ฉัน?”
“เครื่องประดับทุกชิ้นถูกทำขึ้นมาเพื่อเธอไม่ให้เธอแล้วจะให้ใคร” ลู่เป๋าเหยียนจับมือซ้ายของเธอก่อนจะใส่แหวนเพชรลงไปที่นิ้วนาง เพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ว่า เธอแต่งงานแล้ว
นิ้วเรียวยาวและขาวเนียนของูเี่อันถูกประดับด้วยแหวนเพชรน้ำงามที่ผ่านการเจียระไนอย่างประณีตขนาดของเพชรที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ดูเรียบง่ายทว่ามีเสน่ห์เหมือนกับนิสัยของูเี่อันไม่มีผิด
ูเี่อันมองสำรวจแหวนเพชรก่อนจะเอ่ยอย่างข้องใจ
“นายสั่งทำั้แ่เมื่อไร”
“หลังจากตกลงจะแต่งงานกับเธอ”ลู่เป๋าเหยียนตอบ
ูเี่อันลองนึกย้อนกลับไปซูอี้เฉิงกับถังอวี้หลันเสนอให้พวกเธอแต่งงานกันก่อนหน้าที่พวกเธอจะไปจดทะเบียนสองเดือนและหลังจากนั้นหนึ่งเดือนพวกเธอก็ตกลงแต่งงานกัน ซึ่งตรงกับเวลาที่เขาบอกพอดี
ในตอนนั้นที่เธอไม่เห็นข่าวลู่เป๋าเหยียนประมูลเพชรชิ้นนี้ก็เพราะที่เมือง C มีคดีใหญ่ เธอกับเจียงเส้าข่ายเลยต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างเมือง
ไม่อย่างนั้นละก็เธอคงไม่เชื่อหานรั่วซีง่ายๆ แบบนั้นจนทำให้ตัวเองต้องเสียใจไปค่อนคืน
แต่ได้รู้ความจริงตอนนี้ก็ยังไม่สายนี่เนอะ
ลู่เป๋าเหยียนเห็นูเี่อันนิ่งคิดอะไรอยู่จึงหยิบสร้อยคอออกมาพลางถาม
“เธอไม่ชอบ?”
“ใครบอกนาย?”ูเี่อันหันหลังให้ลู่เป๋าเหยียนโดยอัตโนมัติ “รีบๆ ใส่ให้ฉันเร็ว”
ลู่เป๋าเหยียนช่วยติดตะขอสร้อยคอเส้นบางที่แทบจะเนียนไปกับผิวของเธอก่อนจะมองหญิงสาวในกระจกพลางขยับให้จี้เพชรเลื่อนเข้ามาอยู่ตรงกลางทำให้ลำคอระหงของเธอยิ่งดูงดงามเมื่อถูกประดับด้วยจี้เพชรแสนสวย
ในกล่องเครื่องเพชรยังมีตุ้มหูและสร้อยข้อมืออีกแต่เนื่องจากูเี่อันไม่ได้เจาะหูและชุดในวันนี้ก็คงไม่จำเป็ต้องใส่สร้อยข้อมือเพื่อประดับเพิ่มเติมของทั้งสองชิ้นจึงถูกเก็บไว้ดังเดิม ลู่เป๋าเหยียนปิดกล่องเครื่องเพชรลงก่อนจะถามูเี่อันอย่างสงสัย
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันสั่งทำ?”
รอยยิ้มของูเี่อันชะงักไปชั่วครู่
“อะแฮ่มพวกเราควรออกเดินทางกันได้แล้วมั้ง”
ลู่เป๋าเหยียนรั้งตัวเธอไว้
“ตอนนั้นเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันซื้อเพชรชิ้นนี้มาใครเป็คนบอกเธอ?”
