เมื่อพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการเดินทางมาสองสามวันแล้ว ยามเฉินของวันนี้ซินเยว่กับมารดา ไปหานายหน้าเพื่อซื้อที่ดินไว้สร้างบ้าน แต่ที่ดินเปล่าที่นาง้าอยู่ไกลเกินไป จึงเปลี่ยนเป็การซื้อบ้านในเมืองเสียเลย
แต่ต้องมีพื้นที่ว่างกว้างมากพอ ในการต่อเติมที่พักคนงานไว้รอพวกมู่เหวินที่จะตามมาหลังจากนี้ ่บ่ายได้นัดกับช่างก่อสร้างไว้ เพื่อพูดคุยเื่การปรับปรุงโรงเตี๊ยม ส่วนเสี่ยวหลานก็ให้ไปทำงานที่นางถนัดด้านการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับชาวบ้าน
“บ้านหลังนี้ขอรับที่ข้าอยากแนะนำให้พวกท่าน อาจอยู่ในตรอกแต่ก็เงียบสงบไม่ว่นวายและตรงตามที่พวกท่าน้าเลยขอรับ”
“บ้านหลังนี้ถูกใจข้าจริงๆ เ้าค่ะ ตกลงข้าซื้อหลังนี้”
บ้านหลังนี้ถูกใจซินเยว่กับมารดาจริง ๆ ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไปมีสามห้องนอน ห้องเก็บของห้องครัวและโถงรับแขก พื้นที่นอกตัวบ้านก็กว้างขวาง ขนาดสร้างบ้านพักคนงานแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือ ที่สำคัญคือเดินไปเพียงหนึ่งเค่อก็ถึงโรงเตี๊ยม
แต่รู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อยเพราะในตรอกนี้มีบ้านอยู่เพียงสองหลัง ตรงข้ามกับบ้านของนางเป็จวนขนาดใหญ่ ซึ่งไม่รู้ว่าเ้าของเป็ผู้ใดซินเยว่จึงคิดไว้ว่าค่อยไปทำความรู้จักในภายหลัง
“ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ทำสัญญาซื้อขายกันเลยนะขอรับ”
“เ้าค่ะ นี่คือตั๋วเงินหกร้อยตำลึงทอง ส่วนห้าตำลึงเงินนี้ถือว่าเป็ค่าน้ำชาให้ท่าน ที่หาบ้านราคาไม่แพงมากจนเกินไปแถมถูกใจข้าอีกด้วยเ้าค่ะ”
“ขอบคุณขอรับ เป็หน้าที่ของข้าที่ต้องหาบ้านดีๆ ให้ลูกค้าพอใจอยู่แล้วขอรับ”
“ในอนาคตข้าอาจมีเื่ไปรบกวนนายหน้าชุนอีกก็ได้เ้าค่ะ”
“ข้าน้อยจะรอนะขอรับ วันนี้ยังไงข้าขอตัวกลับก่อนขอรับ”
เมื่อทำสัญญาซื้อขายบ้านกันเรียบร้อยแล้ว ซินเยว่และมารดาก็เดินกลับโรงเตี๊ยมทันที
“ท่านตา เสี่ยวเยว่กลับมาแล้วเ้าค่ะ”
“พวกเ้ากลับมาได้ทันเวลาเสียจริง นี่คือชางิช่างก่อสร้างที่นัดไว้”
“คารวะท่านลุงชางิแบบที่จะใช้ปรับปรุงโรงเตี๊ยมข้าได้เตรียมไว้ให้แล้ว ท่านลุงรอสักประเดี๋ยวนะเ้าคะ” ซินเยว่ทำทีเดินไปหยิบของในห้อง พอลับตาคนก็เอาแบบร่างที่อยู่ในมิติ จากนั้นก็กลับออกมาและยื่นให้กับนายช่างชางิ
“นี่เ้าค่ะท่านลุงแบบร่างที่ข้าทำ ท่านลุงดูแล้วสามารถทำตามแบบได้หรือไม่เ้าคะ รายละเอียดต่าง ๆ ข้าเขียนกำกับไว้แล้ว ถ้าท่านลุงไม่เข้าใจตรงไหนถามข้าได้เลยเ้าค่ะ”
ชางิรับแบบร่างมาพิจารณาดูก็รู้สึกสนใจ เพราะในแบบร่างเขียนรายละเอียดไว้ครบถ้วนเข้าใจง่าย แทบไม่ต้องถามอะไรเพิ่มเติมจุดใดอีก
“คุณหนูท่านเป็คนเขียนแบบร่างปรับปรุงร้านนี้เองหรือขอรับ” เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กสาวอายุเพียงสิบหนาว จะมีความสามารถมากถึงเพียงนี้
“ข้าเขียนแบบร่างนี้โดยให้ท่านแม่ช่วยออกความคิดเห็นเ้าค่ะ ว่าอยากปรับปรุงตรงจุดไหนอย่างไรบ้าง”
“อืม ถ้าปรับปรุงตามแบบนี้ละก็น่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน ส่วนค่าของและค่าแรงคนงานรวมแล้ว หนึ่งพันสามร้อยตำลึงเงินขอรับ”
“ห๊ะ!! หนึ่งพันสามร้อยตำลึงเงินไม่แพงเกินไปหรือนายช่าง” เถ้าแก่เซียวใจนอุทานออกมา
“งานนี้มีการปรับปรุงหลายอย่างและตามแบบที่คุณหนูให้มานั้น เป็งานค่อนข้างยากอยู่บ้างขอรับ” นายช่างชางชี้แจงให้เถ้าแก่เซียวฟัง
“ข้าย่อมเข้าใจขอแค่ให้งานที่ออกมาละเอียดและเป็ไปตามแบบก็พอเ้าค่ะ”
ราคาที่นายช่างชางิพูดมาจะไม่แพงได้อย่างไร ถ้าทำออกมาตามแบบที่นางให้นายช่างไป มันอลังการไม่เหมือนใครในแผ่นนี้ เมื่อพูดคุยกันเข้าใจแล้วจึงตกลงทำสัญญา และจ่ายเงินมัดจำครึ่งหนึ่งให้นายช่างชางไปหกร้อยห้าสิบตำลึงเงิน
“ข้าจะเริ่มงานปรับปรุงโรงเตี๊ยมในสามวันข้างหน้า วันนี้คงต้องขอตัวกลับไปเตรียมของและคนงานให้พร้อมก่อนขอรับ”
“เ้าค่ะ”
ซินเยว่รับคำแต่ในหัวก็ขบคิดไปด้วยว่า เงินของนางไหลออกไปหลายร้อยตำลึงอีกครั้งแล้ว ตอนนี้นางต้องรีบหาเงินเข้ามาเติมโดยเร็ว แต่เหมือนมารดาของนางจะััได้ถึงความคิดนี้
“เยว่เอ๋อร์มีอะไรให้แม่ช่วยได้บ้างหรือไม่ เ้าเพิ่งจะสิบหนาวอย่าทำให้ตนเองต้องเหนื่อยมากจนเกินไป” ถึงแม้บุตรสาวของนางจะมีความคิดที่เป็ผู้ใหญ่ แต่ภายนอกของบุตรสาวก็ยังเป็แค่เด็กอยู่ดี
“ข้าย่อมมีเื่ให้ท่านแม่ช่วยแน่นอน ถึงเวลานั้นท่านจะมาบ่นว่าเหนื่อยไม่ได้นะเ้าคะ” ซินเยว่ตอบมารดาคล้ายหยอกเย้าเล็กน้อย จนคนฟังถึงกับยกยิ้มด้วยความดีใจที่จะได้ช่วยบุตรสาวทำงาน
“ท่านตา ท่านแม่ พรุ่งนี้พวกเราย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่กันเ้าค่ะ ข้าจ้างคนไปทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะโรงเตี๊ยมต้องทำการปรับปรุงคงอยู่ที่นี่ไม่ได้”
ั้แ่มาพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ ซินเยว่มักรู้สึกว่าอาเซ่อลูกจ้างคนนี้ทำตัวแปลก ๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่าแปลกอย่างไร นางคงต้องคอยดูท่าทีอีกฝ่ายไปก่อน เพราะตอนนี้เขาช่วยงานเสี่ยวหลานอยู่ พอตกเย็นนางจึงสอบถามเกี่ยวกับงานที่ให้เสี่ยวหลานไปทำก่อนหน้านี้
“พี่เสี่ยวหลานงานที่ข้าให้พี่ไปจัดการเป็อย่างไรบ้าง”
“บ่าวจัดการตามที่คุณหนูสั่งเรียบร้อยแล้วเ้าค่ะ ข้อมูลร้านค้ากิจการที่คุณหนูจดมาให้นั้น บ่าวไปสำรวจมาครบทุกที่คุณหนูจะเริ่มจากตรงไหนก่อนเ้าคะ”
ซินเยว่ใจนอึ้งตะลึงไปเล็กน้อย นางไม่คิดว่าเสี่ยวหลานจะทำงานได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ นี่ผ่านไปเพียงไม่กี่วันพลังในการสืบข่าวของเสี่ยวหลานไม่อาจดูแคลนได้เลย
“ยังก่อน ข้าอยากรู้เื่สตรีคนนั้นพี่หาข้อมูลของนางได้หรือยัง” ซินเยว่ถามถึงอีกเื่และเสี่ยวหลานก็ทำนางต้องอึ้งอีกครั้ง เพราะข้อมูลที่เสี่ยวหลานได้มาช่างครบถ้วนจริง ๆ
“เรียบร้อยครบถ้วนตามที่คุณหนู้าเ้าค่ะ นี่เ้าค่ะ” เสี่ยวหลานพูดจบก็ยื่นกระดาษในมือให้กับซินเยว่
เมื่อได้อ่านรายงานที่เสี่ยวหลานเขียนเอาไว้ เพราะนางสอนให้เสี่ยวหลานเขียนรายงานทุกครั้ง ยามที่ให้ไปสืบข่าวเื่ต่าง ๆ หากนั่งฟังรายงานเป็คำพูดหนึ่งชั่วยามก็คงไม่จบ เพราะเสี่ยวหลานชอบแวะออกนอกเื่ได้ตลอด
“ขอบคุณพี่มากที่ช่วยงานข้า ของในกล่องนี้ข้าให้พี่เป็รางวัล ที่พี่ตั้งใจทำงานเพื่อข้ามาตลอด ชอบหรือไม่เ้าคะ” ซินเยว่ยื่นกล่องเล็ก ๆ ที่ด้านในมีต่างหู ซึ่งทำมาจากไข่มุกในมิติมาให้ เพราะเคยเห็นเสี่ยวหลานมองมันอยู่หลายครั้ง
“ชอบเ้าค่ะบ่าวชอบมากขอบคุณคุณหนู แล้วท่านจะทำอย่างไรกับสตรีนางนั้นหรือเ้าคะ”
“ข้ากลัวว่าท่านแม่จะคิดน้อยใจที่ท่านไม่สามารถช่วยอะไรข้าได้ ดังนั้นควรหางานให้ท่านแม่ทำจะได้เลิกคิดฟุ้งซ่าน”
‘ไอหยา ถึงจะเป็นายหญิงแต่ท่านก็ต้องทำงานนะเ้าคะ ถึงใจบ่าวอยากจะช่วยแต่ก็ไม่สามารถช่วยท่านได้ เพราะเป็งานที่คุณหนูหามาให้ท่านทำเ้าค่ะ’ เสี่ยวหลานพึมพำในใจประหนึ่งสงสารเ้านายเสียเต็มประดา
“พี่อย่าได้กังวลไปเลยงานของท่านแม่เป็งานเบา ๆ สบาย ๆ ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอันใด ควรห่วงตัวเองก่อนเถอะนะ” ซินเยว่ย่อมรู้ว่าเสี่ยวหลานกำลังคิดอะไรอยู่
“ขอเพียงเป็คุณหนูกับนายหญิงที่ออกคำสั่ง และต่อให้เป็งานที่ยากลำบากบ่าวก็จะทำจนสุดความสามารถเ้าค่ะ”
‘แต่ตอนนี้เ้าจะหยุดพูดสักพักได้หรือไม่ เฮ้อออออ’ ซินเยว่ทำเพียงแค่คิดในใจไม่กล้าพูดมันออกมาตรง ๆ ได้
