ตอนที่ 24 ไม่ได้ไก่ เสียข้าวอีกกำ [1]
ไป๋เซียงจู๋ชำเลืองมอง แววตาดุจเข็มเย็นเฉียบทิ่มแทงลู่ชางหลง ลู่ชางหลงถอยหลัง รีบร้อนกลับห้องไปด้วยความขลาดกลัว ไม่กล้ายุ่งกับเซียงจู๋แม้เพียงเล็กน้อยอีกต่อไป
ไป๋เซียงจู๋หันกลับมา ยิ้มน้อยๆ ให้ไป๋ชิงโหรวที่หน้าซีดเผือดอยู่ข้างตน “น้องรัก เ้าคงยังไม่ลืมเดิมพันของพวกเราสินะ”
ไป๋ชิงโหรวผวา ตอนแรกที่นางตอบรับเดิมพันนั่นเพราะมั่นใจว่าไป๋เซียงจู๋ไม่มีทางชนะ ใครจะคิดว่านางกลับเป็คนแพ้! บัดนี้ขี่หลังเสือแล้วลงยากเหลือเกิน
ไป๋ชิงโหรวเจ็บใจเป็ที่สุด ทันใดนั้นนางก็รู้แจ้งว่าไป๋เซียงจู๋จอมโง่เง่าที่เคยยอมให้นางกดขี่ข่มเหงคนเดิมในตอนนี้เหมือนกลายเป็อีกคนหนึ่งไปแล้ว โดยเฉพาะแววตานั่น ทั้งคมกริบและน่ากลัว ทำให้นางอึดอัดยิ่งนัก
อวี๋ซื่อจะทนเห็นลูกสาวคุกเข่าให้นางเด็กเหลือขอนี่ได้อย่างไร นางส่งสายตาตักเตือนให้ไป๋เซียงจู๋ “จู๋เอ๋อร์ เ้าเป็พี่สาวนะ ไยจึงต้องทำให้น้องเ้าลำบากใจเล่า สองสามวันที่ผ่านมาโหรวเอ๋อร์เป็หวัด จนถึงตอนนี้นางก็ยังคงเวียนหัวอยู่ เื่เดิมพันก็เป็แค่การหยอกล้อเล่นกันระหว่างพวกเ้าพี่น้องเท่านั้น เ้าอย่าทำลายความปรองดองเลย ให้โหรวเอ๋อร์ยกน้ำชาให้เ้าแล้วก็เลิกแล้วต่อกันเถอะนะ”
จิตใจของไป๋ชิงโหรวหมดความอดทนไปนานแล้ว เมื่อได้ยินอวี๋ซื่อพูดเช่นนี้ สมองของนางประมวลผลในชั่วพริบตา ซ่อนความกราดเกรี้ยวและไม่เต็มใจที่ปรากฏอยู่บนหน้าทันที พลันกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานงดงามแทน “ใช่เ้าค่ะ ข้ากับท่านพี่หยอกกันเล่นเท่านั้น ท่านย่าอยู่ตรงนี้ ท่านพี่คงจะไม่ทำให้น้องต้องลำบากใจหรอกกระมัง”
ประกายแสงบางอย่างแล่นผ่านั์ตาไป๋เซียงจู๋ นางคลี่รอยยิ้มละไม “จริงแท้แน่นอน พี่ไม่คิดทำให้น้องลำบากใจ แต่...” นางไม่รอให้อวี๋ซื่อหรือใครอื่นพูดต่อ พลันตะเบ็งเสียงดังสนั่น “โบราณว่า วาจาที่ลั่นไปไม่หวนกลับ! ท่านยาย ท่านว่าใช่หรือไม่เ้าคะ!”
อวี๋ซื่อถูกปิดปาก แม้ว่าชิงชังเกินทน แต่ก็มิอาจเอ่ยคำว่า ‘ไม่’ ออกมาได้
พอไป๋ชิงโหรวได้ยินดังนั้นก็แทบลุกพรวดพราดขึ้น ทว่าอวี๋ซื่อจับไว้แน่น
ขณะนี้ฮูหยินเฒ่าไป๋กำลังหงุดหงิดไร้ที่ระบาย อวี๋ซื่อพร่ำพูดว่านางประหยัด แต่กลับหน้าใหญ่ใจโตให้เงินรางวัลแก่บ่าวไพร่มากขนาดนี้ สามีกับลูกชายตนระหกระเหินอยู่ข้างนอกตลอดทั้งปี ตรากตรำทำงานหนักแทบไม่ได้พักผ่อน เพื่ออะไรเล่า มิใช่เพื่อทั้งจวนไป๋หรืออย่างไร แล้วดูสิ่งที่อวี๋ซื่อทำ บริหารกิจภายในจวนจนกลายเป็แบบนี้ แล้วยังไม่อบรมสั่งสอนบุตรสาวให้ดี ลูกชายคนรองก็เป็เลนที่ขึ้นรูปไม่ได้ ทำให้นางขัดเคืองเต็มประดา
ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับไป๋เซียงจู๋ที่ทุกคำพูดมีเหตุผลในครั้งนี้ ฮูหยินเฒ่าย่อมเอนเอียงมาทางนางอย่างเห็นได้ชัด
แต่ส่วนหนึ่งก็เป็เพราะวันนี้ตนไม่ค่อยพอใจอวี๋ซื่อนัก ไม่ใช่ว่านางปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อไป๋เซียงจู๋หลานสาวคนนี้แล้ว
นางมองไป๋ชิงโหรวที่ไม่อยากจะอับอาย ขมวดคิ้วพูดด้วยท่าทีขึงขัง “เต็มใจเดิมพันยอมรับความพ่ายแพ้ คุกเข่าเถอะ”
ไป๋ชิงโหรวเงยหน้าขึ้นอย่างไม่เชื่อหู นางกระเด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ในทันใด ถลึงตากลมโตแผดเสียง “ทำไมข้าต้องคุกเข่าให้นางคนชั้นต่ำนี่ด้วย! ท่านย่า โหรวเอ๋อร์เป็หลานสาวแท้ๆ ของท่านนะเ้าคะ ไฉนจึงยอมให้นางนี่มาขี่อยู่บนหัวข้า!”
“สามหาว! ใช้วาจาหยาบคายเช่นนี้กับพี่สาวของตนเองได้อย่างไร!” ฮูหยินเฒ่าไป๋ตวาดเสียงแข็ง ความโกรธที่ระงับไว้ก่อนหน้านี้ถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดจากการกระทำเสียมารยาทเช่นนี้ของไป๋ชิงโหรว
ต่อให้ไม่โปรดไป๋เซียงจู๋สักแค่ไหน แต่นางก็เป็ลูกจากครรภ์ของบุตรสาวตน แล้วตนจะปล่อยให้ไป๋ชิงโหรวพูดจาว่าร้ายนางได้อย่างไร นี่มิใช่การฉีกหน้าตนหรือ
“ท่านแม่ โหรวเอ๋อร์ไม่ได้ตั้งใจเ้าค่ะ นางนิสัยเช่นไรท่านแม่ก็รู้ดี โหรวเอ๋อร์ ยังไม่รีบขออภัยจากท่านย่าอีก!” อวี๋ซื่อปรี่เข้าไปดึงไป๋ชิงโหรว
“ท่านแม่ ทำไมพวกท่านถึงช่วยนางกันหมด! นางก็เป็แค่เืชั่ว... นอกคอก!”
เพียะ—
เสียงฝ่ามือดังฟังชัด ไป๋ชิงโหรวกุมแก้มที่รู้สึกเจ็บแสบ จ้องอวี๋ซื่อด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ น้ำตาไหลพรั่งพรูในบัดดล
“ท่านตบข้า!”
“วาจาหยาบคาย ว่าร้ายพี่สาวเ้า ยังไม่รู้สำนึกผิดอีก รีบไปคุกเข่ายกน้ำชาเดี๋ยวนี้นะ!” พอเห็นแก้มซีกหนึ่งของบุตรสาวบวมแดง อวี๋ซื่อก็ปวดใจไม่น้อย แต่ความเป็เหตุเป็ผลบอกนางว่าเวลานี้นางจะใจอ่อนไม่ได้ ฮูหยินเฒ่าไม่ชอบให้คนอื่นเอ่ยถึงเื่ในอดีตของไป๋ฉีหลัวต่อหน้านางเป็ที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครกล้าพูดว่าไป๋เซียงจู๋เป็ลูกที่เกิดมาอย่างผิดธรรมเนียมต่อหน้านายหญิง ถ้านางไม่ลงมือปรามด้วยตนเอง ไป๋ชิงโหรวอาจจะถูกขังในห้องเก็บฟืนได้
“ยังไม่คุกเข่าอีก!” ฮูหยินเฒ่าโกรธหน้าเขียว นางใช้ไม้เท้าหัวัในมือเคาะพื้นอย่างแรง
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครช่วยนางแก้ต่างสักคน ความแค้นเคืองในใจไป๋ชิงโหรวลุกโชนดั่งเปลวเพลิง นางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เดินไปอย่างรวดเร็ว รับน้ำชาที่สาวใช้ยื่นมาให้ ปกปิดอารมณ์ชิงชังข้างในแทบไม่มิด กล้ำกลืนฝืนทนค้อมศีรษะลง กัดฟันถ่มสองคำออกมา “ท่าน... พี่”
แค่คุกเข่าก็เจ็บใจแล้วหรือ ตอนสั่งตัดแขนขาคนคนหนึ่ง ทำไมจิตใจถึงโเี้ประหนึ่งอสรพิษเล่า! ไป๋ชิงโหรว เมื่อเทียบการคุกเข่าของเ้าในวันนี้กับความทุกข์ทรมานที่ข้าเคยได้รับ มันยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ!
ไป๋เซียงจู๋ยิ้มกว้าง ยกมือเพื่อเตรียมรับถ้วยชามา ใครจะรู้ว่าถ้วยชาลายกล้วยไม้กลับทะยานขึ้นกลางอากาศแล้วลอยห่างไปไกลหลายก้าว น้ำชาร้อนจัดบังเอิญกระเซ็นใส่ฮูหยินเฒ่า เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์กะทันหันนี้ ทุกคนพากันตื่นตระหนก
ไป๋เซียงจู๋เลิกคิ้ว ดึงผ้าปูโต๊ะออกมาบัง น้ำชาเดือดสาดโดนผ้าปูโต๊ะทั้งหมด
ฮูหยินเฒ่าไป๋ที่ยังอยู่ในอาการใเบิกตากว้างจนแข็งทื่อ
“น้องรัก พี่รู้ว่าการให้เ้าคุกเข่ายกน้ำชามันทำให้เ้าเจ็บช้ำน้ำใจจริงๆ แต่เ้าจะระบายความโกรธกับท่านยายไม่ได้นะ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น...” ไป๋เซียงจู๋โยนผ้าปูโต๊ะทิ้งไป มองไป๋เซียงจู๋ด้วยดวงสายตาเจือเจตนาตำหนิเล็กน้อย
เมื่อคำพูดนี้สิ้นสุด สีหน้าของฮูหยินเฒ่าเปลี่ยนทันที สีหน้าของเหล่าบ่าวรับใช้ก็เปลี่ยนเช่นกัน พวกเขานึกว่าเมื่อครู่คุณหนูรองแค่เผอิญสะดุดล้มจนทำถ้วยชาพลิกคว่ำ แต่พอได้ยินคุณหนูใหญ่กล่าวเช่นนี้... ก็ลองพิจารณาว่าทำไมถ้วยชาถึงลอยสูงได้ขนาดนั้นอย่างไม่มีเหตุผล อีกทั้งเป้าหมายยังเป็ทิศทางที่ฮูหยินเฒ่านั่งอยู่ พอครุ่นคิดได้ดังนี้แล้ว สรุปได้เพียงคุณหนูรองไม่ยอมเลิกแล้วต่อกัน มิเช่นนั้นจะบังเอิญปานนั้นเชียวหรือ...
“ไม่ ไม่ใช่ข้านะ... ข้าไม่ได้ทำ ท่านย่า... หลานไม่ได้คิดจะทำร้ายท่านย่า” ไป๋ชิงโหรวลนลาน ปากเริ่มสั่นเทา แม้ในใจนางยังไม่ยอมรับ ทว่าก็รู้ผิดชอบชั่วดี จะคิดสาดน้ำชาใส่ย่าของตนได้อย่างไร
อวี๋ซื่อตกตะลึง รีบคุกเข่าขอความปรานีให้ไป๋ชิงโหรวทันที
“ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเ้าคิดว่าหญิงชราอย่างข้าคนนี้ตาบอดแล้วหรือ! ชิงโหรว เ้าเคืองย่าที่ลงโทษเ้าให้คุกเข่าต่อเซียงจู๋ เ้าคิดจะแก้แค้นย่าอย่างนั้นหรือ!” นายหญิงไป๋ลั่นเสียงต่อว่า เส้นเืบนใบหน้าเกือบะเิทะลุออกมาแล้ว
อวี๋ซื่อตะลึงงัน ส่วนไป๋ชิงโหรวนั้นก็ลืมตาโตด้วยความใไม่แพ้กัน
“ท่านย่า ข้าไม่ได้ทำนะเ้าคะ ท่านย่า...” ไป๋ชิงโหรวคุกเข่าลงกับพื้น เกรงกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้น นางจ้องไปยังไป๋เซียงจู๋ที่ยืนอยู่อีกด้าน ั์ตาแดงก่ำ “เป็เพราะคนชั้นต่ำอย่างเ้า เ้าทำลายข้า!”
พูดจบก็จะโถมตัวเข้าไปหาไป๋เซียงจู๋
“ยังไม่รีบลากนางออกไปอีก จับขังในห้องเก็บฟืนให้คิดทบทวนเสีย ไร้การอบรมอะไรปานนี้ เ้าสั่งสอนลูกสาวอย่างไร!” ฮูหยินเฒ่าไป๋ติเตียนพร้อมกับมองอวี๋ซื่ออย่างเ็า
ไป๋ชิงโหรวได้ยินคำว่าจับขังในห้องฟืนก็กำลังจะเริ่มอาละวาด ทว่าถูกอวี๋ซื่อสั่งคนให้ดึงรั้งไว้แล้วเคาะไปที่กระดูกสันหลังของนางเบาๆ สองที
ในขณะนี้นี่เอง อยู่ดีๆ เซียงเอ๋อร์สาวใช้ข้างกายไป๋ชิงโหรวก็ะโอย่างตื่นกลัว “แย่แล้ว คุณหนูรองเป็ลมไปแล้วเ้าค่ะ!”
ไป๋เซียงจู๋ปรายตามอง ใจคิดว่าน่าขันยิ่งนัก ฟันยังขบกันแน่นอยู่เลย เสแสร้งแกล้งทำอะไรกันหนอ
“ลูก!” อวี๋ซื่อถือโอกาสวิ่งเข้ามา โอบไป๋ชิงโหรวไว้ในอ้อมอก บ่าวรับใช้เจ็ดแปดคนล้อมวง พยุงคุณหนูรองขึ้นพากลับห้อง
เชิงอรรถ
[1]偷鸡不成蚀把米 ไม่ได้ไก่ เสียข้าวอีกกำ มาจาก ขโมยไก่ไม่สำเร็จ ทั้งยังเสียข้าวที่ใช้ล่ออีกกำมือ หมายถึง พยายามจะหาผลประโยชน์ แต่จบลงที่สูญเสียเอง