น้ำเสียงอันเจือไว้ซึ่งความอ่อนโยนถูกเอื้อนเอ่ยออกมาทว่าดวงตากลับกวาดมองไปยังเหล่าบุคคลตรงหน้าอย่างถ้วนทั่ว
อันที่จริงพ่อบ้านเติ้งและหลินขุยไม่จำเป็ต้องมาที่นี่แต่พวกเขามาเป็ตัวแทนของท่านอ๋อง
ที่จวนอาจมีได้ทั้งพระชายาและพระชายารองทว่าท่านอ๋อง้าแสดงให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วคนที่กุมอำนาจเหนือสุดยังคงเป็เขา
กวาดสายตามองอีกหนึ่งรอบ ก่อนจะได้เห็นสายตาลุกลี้ลุกลนสองคู่
เมื่อเช้ายังแยกเขี้ยวยิงฟันอยู่เลยนี่เสียใจตอนนี้คงไม่ทันแล้วกระมัง
“พระชายาได้โปรดอภัย พระชายาได้โปรดอภัย พวกหม่อมฉันมีตาหามีแววไม่พวกหม่อมฉันบังอาจล่วงเกินแม่นางป๋ายซ่าว”
ผอจื่อทั้งสองรีบคลานเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าหลินเมิ้งหยาพลางส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญ
พวกนางทั้งสองล้วนเป็ข้าทาสที่เกิดจากสาวใช้ในเรือนนี้เหตุเพราะพระชายาซื้อสาวใช้เข้ามาภายในจวนเป็จำนวนมากดังนั้นจึงคิดว่าจวนแห่งนี้ไม่มีตำแหน่งให้พวกนางอีกต่อไปดังนั้นพวกนางจึงเชื่อฟังคำชี้นำของคุณหนูทั้งสอง
หลินเมิ้งหยาจ้องสาวใช้ทั้งสอง คนหนึ่งใบหน้ามีรอยแผลส่วนอีกคนมีรอยเืติดอยู่ที่มือ
จึงหันกลับไปมองใบหน้าของสาวใช้ตนเอง ท่าทางโกรธแค้นดูท่าฝีมือของป๋ายซ่าวเองก็ไม่เบาเช่นเดียวกัน
“แม้พวกเ้าจะพูดว่ามีตาหามีแววแต่พวกเ้าก็ได้ทำเื่ร้ายแรงลงไป พวกเ้าแหกกฎของจวนอวี้ พ่อบ้านเติ้งท่านลองบอกพวกนางหน่อยว่าตามกฎระเบียบแล้วต้องรับผิดเช่นไร?”
พ่อบ้านเติ้งหันมามองพระชายา ใบหน้าสง่างามเชิดสูงขึ้นเล็กน้อยใครจะรู้ว่าพระชายาเป็จอมวางแผนอันดับหนึ่งของจวนแห่งนี้
ตอนนี้ท่านอ๋องมีผู้ช่วยคนสำคัญอยู่เคียงข้างกายแล้วต่อจากนี้ไปไม่ว่างานภายในหรือภายนอกจวนจะต้องราบรื่นอย่างแน่นอน
“ทูลพระชายา ผอจื่อสองคนนี้ทำให้พระชายาต้องขุ่นเคืองพระทัยหากอิงจากกฎของจวนอวี้ ทาสที่เกิดในเรือนจะต้องถูกถอนชื่อออกจากทะเบียนบ้านและนำตัวไปขายทิ้งแต่หากเป็ทาสที่ทำสัญญาความตายเอาไว้จะต้องถูกโบยห้าสิบทีแล้วไล่ออกจากจวนพ่ะย่ะค่ะ”
ขณะนี้สีหน้าของผอจื่อทั้งสองเริ่มขาวซีดจนเขียว
ถอนชื่อออกจากทะเบียนบ้าน นั่นเท่ากับว่าพวกนางจะถูกตราหน้าว่าเป็พวกเดนมนุษย์
แต่ถ้าถูกส่งตัวไปขาย พวกนางก็จะกลายเป็เพียงทาสชั้นต่ำ
หากยังสาวยังแส้ก็อาจจะขายได้ในราคาดี แต่พวกนางที่อายุมากแล้วเกรงว่าจะได้พบเจอแต่เพียงความทุกข์ทรมานเท่านั้น
“พระชายาได้โปรดไว้ชีวิตพวกหม่อมฉันด้วย! พระชายาได้โปรดมีเมตตาด้วย!”
ผอจื่อทั้งสองร้องไห้คร่ำครวญประหนึ่งฟ้าถล่มดินทลายเพื่อร้องขอความเมตตาจากหลินเมิ้งหยาทว่านางกลับไม่กระดิกตัวเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีใครกล้าออกมาช่วยเหลือทั้งคู่คนที่ทำให้พระชายาต้องขุ่นเคืองพระทัยต้องได้รับโทษเช่นนี้แล้วยังจะมีใครกล้ากระตุกหนวดเสืออีก?
“จวนแห่งนี้มีคนมากขึ้น กฎระเบียบจึงย่อมมากตาม ที่ข้าเรียกทุกคนมาในวันนี้ก็เพื่อตักเตือนหากยังทำเื่อับอายขายหน้าขึ้นมาอีกละก็ชีวิตของพวกเ้าไม่มีทางจบอย่างสวยงามแน่นอน”
น้ำเสียงเ็าทำให้เหล่าข้าทาสตัวสั่นเทิ้ม
ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นสบตาหลินเมิ้งหยาเพราะกลัวจะทำให้นางขุ่นเคืองแต่กลับท่องกฎระเบียบของจวนอวี้ให้ขึ้นใจ
หลินเมิ้งหยาจ้องมองสีหน้าท่าทางของทุกคนแล้วพยักหน้าลงป๋ายจีเข้าไปหยิบถุงเงินขนาดเล็กออกมา
“นี่คือรางวัลของพระชายา หากทำผิดต้องถูกลงโทษแต่หากทำความดีจะได้รับรางวัล”
ป๋ายจีนำเงินขวัญถุงแจกให้ทุกคน
ทุกคนเปิดออกดู ภายในมีเงินสามตำลึงและสร้อยทองอีกหนึ่งเส้น
“รางวัลของข้ามิได้มากมายอะไร นี่เป็เพียงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆถือเสียว่าเป็เงินค่าขนม ทุกคนแยกย้ายกันไปได้แล้ว ต่อไปจงตั้งใจทำงานให้ดีจะได้เป็ผลดีต่อตัวพวกเ้าเอง”
กลยุทธ์ไม้อ่อนและไม้แข็งถูกหยิบยกออกมาใช้แม้จะเป็สาวใช้ระดับหนึ่ง ทว่าเงินเดือนที่ได้ก็เพียงไม่กี่ตำลึงส่วนสาวใช้ระดับอื่นได้เพียงแค่ผ้าเนื้อหยาบและเงินออมเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนพวกข้าทาสเด็กได้รับเงินเพียงน้อยนิด
ดังนั้นหากหลินเมิ้งหยา้าซื้อใจของพวกเขานางจำต้องแสดงความใจกว้างออกมาก่อน
ทว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะแยกย้ายกันไป หน้าประตูสวนหลิวซินกลับปรากฏร่างบางอรชรอ้อนแอ้น
หลินเมิ้งหยาเหลือบมองเล็กน้อยที่แท้ก็คือน้องสาวต่างมารดาที่น่ารังเกียจของนางนั่นเอง
เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดวันนี้นางจึงแบกความกล้ามาหาเื่นางถึงที่นี่?
“ข้ายังไม่เคยมาถวายคำนับท่านพี่เลย ขอท่านมีพบพานแต่ความสุข”
อ้าปากส่งเสียงเรียกท่านพี่อย่างนู้นอย่างนี้แม้หลินเมิ้งหยาจะแอบแค่นหัวเราะเสียงเย็นในใจ ทว่าใบหน้ามิได้เผยความรู้สึกใดๆ ออกมา
“ลุกขึ้นเถิด เหตุใดวันนี้จึงมีเวลาว่างมาหาข้าเล่า?”
วันนี้หลินเมิ้งหวู่สวมใส่ชุดสีเหลืองไข่ศีรษะใส่เครื่องประดับลายดอกไม้ของสาวชาววังใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่มีเสน่ห์น่าดึงดูดขับให้นางดูเหมือนผู้ดีมีชาติตระกูลมากขึ้น
“น้องสาวอายุยังน้อยจึงยังไม่รู้เื่รู้ราวท่านแม่บอกว่าข้าควรมาถวายคำนับท่านพี่นานแล้ว แต่เพราะท่านพี่ยุ่งมากหวู่เอ๋อร์จึงไม่มีโอกาสเข้ามาเลยเ้าค่ะ”
หัวใจของหลินเมิ้งหวู่กลับมีเพียงความเกลียดชังขณะจับจ้องใบหน้าของหลินเมิ้งหยา
พวกนางล้วนเป็ลูกสาวของสกุลหลินแต่หลินเมิ้งหยากลับได้รับความรักความเอ็นดูจากพ่อและพี่ชายเพียงคนเดียว
ทั้งที่นางเป็คนโง่เขลาสติฟั่นเฟือนแต่กลับเป็คุณหนูใหญ่แห่งจวนหลิน
แล้วนางล่ะ? ทั้งที่เป็ลูกสาวเช่นกันทั้งที่นางสง่างามกว่านังแพศยาหลินเมิ้งหยาตั้งหลายเท่าแต่นางกลับทำได้เพียงอิจฉาเท่านั้น
ไม่มีทางยอมรับได้หรอก!
“ช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าวันนี้ที่เ้ามาหาข้าเพราะเหตุอันใด?”
หลินเมิ้งหยาชำเลืองมองหลินเมิ้งหวู่แต่งหน้าแต่งตาสีสันฉูดฉาดหรูหรา เพราะเหตุนี้บรรยากาศในจวนอวี้จึงอึมครึมเช่นนี้สินะ
“พี่สาวผู้แสนดีของข้า แต่ก่อนหวู่เอ๋อร์ไม่รู้เื่รู้ราวหวู่เอ๋อร์ผิดไปแล้วเ้าค่ะ ท่านพี่อย่าได้เอาผิดหวู่เอ๋อร์เลยนะเ้าคะ”
หลินเมิ้งหวู่เข้ามาคล้องแขนหลินเมิ้งหยาด้วยท่าทางออดอ้อนคนนอกที่ได้เห็นล้วนคิดว่าพวกนางสองพี่น้องต่างมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
ทว่าหลินเมิ้งหยากลับชักมือกลับอย่างไม่ไว้หน้านางยังคงมิอาจลืมเลือนเื่ราวในอดีต
เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอันสมควรเท่านั้น
“มีเื่อะไรก็พูดออกมาเถิด ที่จวนยังมีงานอีกมากข้าไม่มีเวลาคุยกับเ้านานนักหรอก”
หลินเมิ้งหยาพูดพลางเดินเข้าไปยังโต๊ะอ่านหนังสือของตนเองนี่เป็ครั้งแรกที่หลินเมิ้งหวู่เข้ามายังตำสวนหลิวซิน
นางเคยคิดมาตลอดว่า เรือนที่มารดาของตนเองอยู่เพริศพริ้งไปด้วยไม้แกะสลักอันแสนหรูหราสง่างามมากแล้ว
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตำหนักที่หลินเมิ้งหยาอยู่จะเป็สิ่งที่เรียกว่าสวยงามดั่งทองที่แท้จริง
ผ้ามุ้งครอบเตียงที่ถักทอจากผ้าไหมชิงหลิงซาฉากกั้นประดิษฐ์ขึ้นด้วยไม้หอมหยุนเซียง แม้แต่อ่างล้างหน้ายังถูกแกะสลักจากหยก
สิ่งของทั้งหมดในตำหนักนี้ควรเป็ของนางถึงจะถูก!
เหตุใดนังแพศยาหลินเมิ้งหยาจึงได้สิ่งเหล่านี้?
นางกักเก็บความอิจฉาริษยาเอาไว้ภายในก้นบึ้งของหัวใจใบหน้าเผยเพียงความสนิทชิดเชื้อ
“ท่านพี่ แม้ว่าครอบครัวของเราจะทะเลาะเบาะแว้งกันสักเพียงไหนแต่ถึงอย่างไรก็เป็ปัญหาภายในครอบครัวมิใช่หรือ? จวนแห่งนี้ก็เหมือนเป็บ้านสกุลหลินของพวกเราข้าที่เป็น้องสาวมิอาจทนเห็นท่านพี่ถูกรังแกได้หรอก”
ช่างเป็เหตุผลที่เหมาะที่ควรเสียเหลือเกิน อย่าว่าแต่หลินเมิ้งหยาเลยแม้แต่หลินเมิ้งหวู่ก็ยังเชื่อในเหตุผลนั้นกระนั้นหรือ?
“โอ้?น่าแปลกจริง เหตุใดข้าจึงไม่รู้เื่อันใดเลยเล่า?”
หลินเมิ้งหยาเข้าใจได้ในทันทีหลินเมิ้งหวู่ผู้นี้้ายืมมือนางกำจัดหนามยอกอกอย่างเจียงหรูฉินใช่หรือไม่?
นางเป็คนวางแผนเก่ง แต่น่าเสียดายที่เลือกเป้าหมายผิด
“ฮึ แม่เจียงหรูฉินผู้นั้นคิดว่าตัวเองเป็ใครกัน?อาศัยข้ออ้างทางสายเืเข้าหาพระสนมเต๋อเฟยเหนียงเหนียงเพื่อทำตัวหยิ่งยโสโอหังที่จวนแห่งนี้ไร้ซึ่งความเกรงใจใดๆนางก็เป็เพียงเด็กที่คลานออกมาจากท้องของเมียน้อยพ่อมิใช่หรือ แต่กลับบังอาจนักคิดจะ่ชิงตำแหน่งพระชายาอวี้”
หลินเมิ้งหยาหลุบตาต่ำเพื่อไม่ให้ใครมองเห็นความรู้สึกที่แท้จริงของนาง
คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเจียงหรูฉินจะเป็เด็กที่เกิดจากอนุภรรยา
ลักษณะท่าทางของเจียงเฉิงไม่เหมือนทายาทที่ต้องสืบทอดมรดกของตระกูลดูท่าสกุลเจียงคงคิดจะใช้ลูกชายและลูกสาวของอนุภรรยามาเป็หมากในกระดานเพื่อประโยชน์ส่วนตนสินะ
ล้วนแต่เป็กลอุบายเก่าคร่ำครึ หาได้มีกลเม็ดใหม่ๆ อันใด
“อย่าเอ่ยเช่นนั้น ผู้สูงศักดิ์มิควรมองคนเพียงเพราะชาติกำเนิดแม้แต่ท่านอ๋องของพวกเราก็เป็ลูกที่เกิดจากภรรยาอนุดังนั้นอย่าได้ทำให้ท่านต้องขุ่นเคือง”
หลินเมิ้งหยาเอ่ยเสียงเบาเพื่อหยุดปากของหลินเมิ้งหวู่หากพูดถึงเื่นี้ อันที่จริงพระสนมเต๋อเฟยเกิดมาในครอบครัวของผู้สูงศักดิ์
ดังนั้นสถานะของหลงเทียนอวี้จึงมิได้ต่ำต้อย
แต่เพราะชาติกำเนิดของหลินเมิ้งหวู่ถูกต้องตามครรลองครองธรรมดังนั้นนางจึงดูแคลนลูกหลานที่เกิดจากภรรยาอนุ
แม้แต่สังคมของหญิงผู้ดีชนชั้นสูงเองก็ยากจะยอมรับในอากัปกิริยาของนาง
ทว่าหลินเมิ้งหวู่เป็ถึงหลานสาวของฮองเฮาอีกทั้งยังเป็บุตรสาวคนที่สองของเจิ้นหนานโหว ดังนั้นพวกนางเ่าั้จึงปิดปากเงียบ
“ใช่ ใช่ ใช่ เพราะความโกรธ ข้าเลยลืมนึกถึงท่านอ๋องไปเสียสนิทแต่ว่าวันนี้นางกลับกล้าตบตีสาวใช้ของท่านพรุ่งนี้นางจะไม่มาขี่คอท่านเล่นอย่างนั้นหรือท่านพี่จะอดทนเช่นนี้ต่อไปไม่ได้นะเ้าคะ!”
เพียงเอ่ยถึงท่านอ๋อง น้ำเสียงกลับอ่อนโยนมากเป็พิเศษแม้แต่ใบหน้ายังแดงระเรื่อขึ้นมา
มือนวลเนียนยกขึ้นหยิบถ้วยชาหอมบนโต๊ะแล้วจิบลงเล็กน้อยทว่านางกลับเหลือบเห็นความอาฆาตมาดร้ายในดวงตาของหลินเมิ้งหวู่
นี่หรือว่าเด็กคนนี้ยังมีแผนการอื่นอีก?
หลินเมิ้งหยาปฏิเสธความคิดของตนเองขนาดยาพิษยังกล้านำมาใช้ต่อหน้าทุกคนแม้แต่คนโง่ยังมองออกเลยว่านางยังมีแผนอื่นเก็บซ่อนเอาไว้
“เื่นี้...ข้าเองก็ลำบากใจ”
หลินเมิ้งหยาแสร้งทำเป็หนักใจ คิ้วขมวดเข้าหากัน
“คุณหนูเจียงเป็ญาติผู้น้องของท่านอ๋อง เป็หลานของพระสนมเต๋อเฟยที่เข้ามาอยู่ในจวนแห่งนี้ได้ก็เพราะได้รับอนุญาตจากพระสนมเต๋อเฟยแล้วหากข้าวางแผนไล่คุณหนูเจียงออกไปจะมิเป็การทำให้พระสนมเต๋อเฟยขุ่นเคืองพระทัยกระนั้นหรือ?”
จงใจเอื้อนเอ่ยวาจาคลุมเครือ
อันที่จริง เจียงหรูฉินอาศัยความไร้ยางอายล้วนๆ ในการยืนหยัดเพื่ออยู่ในจวนแห่งนี้
แม้แต่พระสนมเต๋อเฟยยังรู้สึกรำคาญพระทัยไม่น้อย
แต่หลินเมิ้งหวู่กลับมองไม่ออกอีกทั้งยังหลงคิดไปว่าพระสนมเต๋อเฟยตั้งใจให้เด็กคนนั้นอยู่ที่นี่เพื่อรอการแต่งตั้งเป็พระชายารองของท่านอ๋อง
เพราะความกระวนกระวายในหัวใจทำให้หลินเมิ้งหวู่เกือบกัดลิ้นของตัวเองจนขาด
“ท่านพี่อย่าได้กังวลใจ ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่แล้วข้าจะช่วยท่านพี่จัดการนังแพศยาคนนั้นเอง”
หลินเมิ้งหวู่กลัวว่าหลินเมิ้งหยาจะยอมรับเื่นั้นแต่โดยดี หากเป็เช่นนั้นจริงนางคงไร้ซึ่งหนทาง
ตอนแรกนางคิดจะยืมมือหลินเมิ้งหยาไปกำจัดเจียงหรูฉินแต่เกรงว่าตอนนี้คนที่ต้องลงมือจะกลายเป็นางเสียเอง
เป็ไปดั่งคำของท่านแม่ หาก้าสิ่งใดจะต้องลงมือทำด้วยตนเองจึงจะสมปรารถนา
“โอ้?เช่นนั้นข้าอยากฟังความเห็นของเ้าเหลือเกิน”
หลินเมิ้งหยาหยักยิ้มเล็กน้อยทว่าภายในรอยยิ้มกลับเจือไว้ซึ่งความอำมหิตที่อาจฆ่าคนตายได้โดยไร้หยดเื