เย่งชิงหานจัดเก็บห้องเรียบร้อยและสงบสติอารมณ์ของตนเองอยู่อีกพักใหญ่ จากนั้นกัดฟันแสร้งทำเป็ผ่อนคลายเดินเข้าไปภายในห้องโถงใหญ่ของสวนที่พัก
ภายในห้องโถงใหญ่ เกือบจะทุกคนต่างตื่นกันขึ้นมาหมดแล้วกำลังนั่งคุยเล่นกันอยู่
“ชิงหาน! รีบมานั่งที่นี่ อย่าหาว่าข้าว่าวัยรุ่นอย่างพวกเ้าเลยนะ คออย่างพวกเ้ายังต้องฝึกอีกมาก นึกถึงตัวข้าเมื่อตอนเป็หนุ่มดื่มเหล้าสามวันติดยังไม่รู้สึกเมาแม้แต่น้อย...”
เย่ชิงหนิวมองเห็นเย่ชิงหานกำลังเดินเข้ามาจึงพูดหยอกล้อออกไป น้ำเสียงที่พูดออกมาแสดงออกถึงความรักใคร่เอ็นดูที่มีต่อเย่ชิงหานอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนที่อยู่ภายในห้องโถงใหญ่ต่างสาดสายตามองมาที่เย่ชิงหานเป็จุดเดียว ส่วนเยว่ชิงเฉิงที่อยู่อีกด้านส่งสายตามองมาอย่างห่วงใยเหมือนกับว่ากำลังถามเขาว่าทำไมถึงได้มาสายนัก?
“แหะๆ ถูกต้อง ข้าตาแก่เฟิงเมื่อวานก็ดื่มไม่น้อยไปกว่าเ้าแต่กลับตื่นเช้ากว่าเ้าหลายชั่วโมงนัก เ้าหนูเ้าไม่ไหวแล้วสินะ!” เฟิงจื่อที่อยู่ข้างๆ ก็อ้าปากกว้างพูดหยอกล้อขึ้นเช่นกัน
“ไอ้เด็กเวร เ้าคือตาแก่เฟิงแล้วข้าเป็อะไร? เ้าหนูเฟิงรึ?” คำพูดของเฟิงจื่อทำเอาผู้าุโของตระกูลเฟิงรีบพูดสั่งสอนขึ้นมาทันที ผู้าุโตระกูลเฟิงท่านนี้เป็ลูกพี่ลูกน้องลุงของเขา เห็นเฟิงจื่อไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำกล้าใช้คำว่าตาแก่ต่อหน้าเย่ชิงหนิวและเหล่าผู้าุโทั้งหลาย พูดเช่นนี้ไม่ต่างจากหาเื่ถูกด่า
“ฮ่าๆ...”
บรรยากาศชื่นมื่นและเสียงหัวเราะดังขึ้นทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ ครั้งนี้เขตปกครองเทพาชนะอย่างสมบูรณ์แบบท่วมท้นถล่มทลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่ชิงหานไม่ได้ยึดเอาคะแนนไว้เพียงคนเดียว ทุกตระกูลล้วนได้ส่วนแบ่งคะแนนมาแลกของรางวัล แน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องปลื้มปีติยินดีและมีความสุข
“อืม! แล้วนางหนูอู่ทำไมยังไม่มาอีก? ตอนที่เ้าตื่นขึ้นมาได้เห็นนางบ้างไหม?”
เย่ชิงหานจิตใจไม่ค่อยดีอยู่เป็ทุนจึงทำเพียงประสานมือไปยังทุกๆ คนโดยไม่กล้าพูดอะไรมาก แต่ไม่คิดว่าเย่ชิงหนิวจะหันหน้ามาถามเขาเกี่ยวกับเย่ชิงอู่ขึ้น
“ไม่เห็น! ข้าตื่นขึ้นมาจะเห็นนางได้อย่างไรกัน? ข้าไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับนางสักหน่อย เอ่ออ...ความหมายของข้าคือไม่ได้พบนาง หรือจะลองให้คนไปเรียกดูหน่อย?” เย่ชิงหานมองเห็นดวงตาที่ปูดโปนของเย่ชิงหนิวภายในใจรู้สึกหวาดหวั่นรีบพูดอธิบายขึ้น ด้วยความตื่นเต้นใเกือบจะพลั้งปากพูดอะไรเกินเลยออกไปเสียแล้ว
เย่ชิงหนิวโบกมือขึ้นแล้วพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “อืม...ไม่ต้องไปสนใจนาง คงดื่มเยอะแล้วรู้สึกปวดหัว อีกสักพักรอทานข้าวเสร็จถ้านางยังไม่ตื่นก็ไม่จำเป็ต้องรอนางแล้ว พวกเราไปหอเฝินเซียนแลกเอายาิญญาเทวะกันเลยดีกว่า ท่านหัวหน้าตระกูลส่งข่าวมาบอกั้แ่เนิ่นๆ แล้วว่าสามารถแลกได้ยาิญญาเทวะมาเม็ดหนึ่งแล้ว รออีกเม็ดจากเ้านี่แหละก็จะสามารถช่วยเหลือน้องสาวของเ้าให้ฟื้นขึ้นมาได้!”
“เป็ความจริงหรือ?” เย่ชิงหานเมื่อได้ฟังเกือบจะะโขึ้นด้วยความดีใจ ความกังวลและกลัดกลุ้มที่มีอยู่ภายในใจเมื่อสักครู่ถูกแทนที่ด้วยความยินดีจนหมดสิ้น เขารีบลุกขึ้นในทันทีสีหน้าปลื้มปีติยินดีเป็ล้นพ้นมองไปที่เย่ชิงหนิว เมื่องมองเห็นเย่ชิงหนิวพยักหน้าตอบรับอย่างจริงจัง มุมปากของเขาพลันปรากฏรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย จากรอยยิ้มเปลี่ยนเป็หัวเราะขึ้น และจากหัวเราะเปลี่ยนเป็หัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
มองดูเย่ชิงหานที่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกันคนเสียสติ ทุกคนที่อยู่ภายในห้องโถงใหญ่กลับไม่ได้มีใครแสดงความรู้สึกไม่พอใจหรือรังเกียจออกมาแต่อย่างใด แต่ในทางตรงกันข้ามกลับชื่นชมเขามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เื่ราวของเย่ชิงหานพวกเขาล้วนได้รับรู้กันเป็อย่างดี ได้รับรู้ว่า เนื่องจากสาเหตุการตายของน้องสาวทำให้เขาโกรธเดือดดาลอย่างถึงที่สุด ลงมือสังหารลูกหลานศิษย์สายในของตระกูลเย่หลายคน รวมไปถึงทำลายวรยุทธ์ของเย่ชิงขวงว่าที่ทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเย่รุ่นต่อไปอย่างไม่ลังเล สุดท้ายสังหารเย่หรงในพริบตา ในวินาทีที่พวกเขาได้รับรู้เื่ราวเ่าั้ภายในใจของทุกคนล้วนบังเกิดความชมชอบและความเลื่อมใสศรัทธาต่ออุปนิสัยกล้าแค้นกล้าฆ่าของเขา
ตระกูลเย่เพื่อที่จะดึงจิตใจของเย่ชิงหานกลับมาจึงจำใจต้องส่งเขามาเข้าร่วมงานประลองาระหว่างเขตปกครอง ส่วนเย่ชิงหานเพื่อที่จะช่วยน้องสาว ตลอดมาจึงมุมานะพยายามอย่างหนักพวกเขาล้วนเห็นและเข้าใจดี สุดท้ายจากความพยายามอย่างหนักและบวกกับความโชคดีจนได้รับคะแนนสะสมมาเป็จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยให้เขตปกครองเทพาชนะศึกได้อย่างถล่มทลายอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์
ตอนนี้เย่ชิงหานได้รู้ว่าน้องสาวของตนเองมีโอกาสฟื้นคืนมาได้จึงได้หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความยินดี สำหรับเื่นี้ทุกคนไม่ได้รู้สึกไม่พอใจหรือรังเกียจ แต่กลับชื่นชมและนับถือในน้ำใสใจจริงของคนอย่างเขา และจัดให้เย่ชิงหานไว้เป็บุคคลจำพวกที่น่าคบหาไว้เป็สหายคนหนึ่ง
ทุกคนมองดูเย่ชิงหานหัวเราะอย่างบ้าคลั่งต่างก็ยินดีไปด้วย ดวงตาของเยว่ชิงเฉิงที่มองดูเย่ชิงหานที่กำลังหัวเราะอยู่อย่างบ้าคลั่งนั้นกลับเริ่มมีน้ำตาขึ้นมา ในเวลานี้นางไม่เพียงแต่มีความปลื้มปีติยินดี แต่ยังเปลี่ยนความสงสารเห็นใจและความไม่ได้รับความเป็ธรรมมาเป็ความภาคภูมิใจแทน... สงสารเห็นใจต่อภาระที่เย่ชิงหานต้องแบกรับ ความไม่เป็ธรรมที่เย่ชิงหานต้องประสบพบเจอ และความภาคภูมิใจที่ผู้ชายของตนเองเป็บุรุษที่มีจิตใจอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่อาจหาญเยี่ยงวีรบุรุษเช่นนี้...
“ไป ไปหอเฝินเซียนกัน!” หลังจากเย่ชิงหานหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งเสร็จ เขาไม่ได้พูดอะไรมากหมุนตัวเดินตรงออกไปภายนอกในทันที ในตอนนี้แม้แต่วินาทีเดียวเขาก็ไม่อยากที่จะรอ อยากที่จะรีบแลกยาิญญาเทวะแล้วรีบกลับไปยังตระกูลเย่ รีบกลับไปหาเด็กสาวชุดขาวเพื่อช่วยนางกลับมา จากนั้นแม้แต่วินาทีเดียวก็จะไม่อยากห่างนางอีก...
“เ้าเด็กนี่...ไปกันเถอะ! ทุกคนไปหอเฝินเซียนด้วยกันเถอะ!” มองเห็นเงาร่างของเย่ชิงหานเลือนหายไปจากประตูห้องโถงใหญ่ เย่ชิงหนิวถอนหายใจออกมาอย่างอับจนปัญญา จากนั้นลุกขึ้นยืนยิ้มออกมาให้ทุกคนพร้อมกับพูดขึ้น
“ไป ไป! ไปแลกของดีกัน!” เฟิงจื่อ ฮวาเฉ่าต่างก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วติดตามออกไปในทันที...
.................................
หอเฝินเซียนตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของนครแห่งเทพ เป็หน่วยงานที่นครแห่งเทพตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการเื่ราวต่างๆ เกี่ยวกับทั้งสามเขตปกครอง จ้าวหอก็คือ - เฝินเสินเว่ย
ตอนนี้คนของเขตปกครองเทพากลุ่มหนึ่งกำลังเดินบ่ายหน้ามาทางหอเฝินเซียนอย่างเปิดเผย คนที่อยู่บนถนนต่างส่งสายตามองมาที่พวกเขา ประชาชนของนครแห่งเทพเดิมทีก็เป็คนของทั้งสามเขตปกครอง ตอนที่ถูเสินก่อตั้งนครแห่งเทพขึ้นมาได้ย้ายคนจากทั้งสามเขตปกครองมาเขตปกครองละหนึ่งหมื่นคน เวลาพันกว่าปีผ่านไปประชาชนภายในนครแห่งเทพก็เริ่มค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ นครแห่งเทพมีการขยายเมืองอยู่หลายครั้งจำนวนคนยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ครั้งนี้เขตปกครองเทพาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตปกครองเดียวสู้รบต้านทานทั้งสองเขตปกครอง สังหารจนเขตปกครองเทพปีศาจและเขตปกครองเทพคนเถื่อนกลัวจนขี้เยี่ยวแตกไปเลยละ...” ประชาชนของนครแห่งเทพแม้จะเป็ทายาทของทั้งสามเขตปกครอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็พันๆ ปีพวกเขาจึงถือว่าตนเองเป็ประชาชนของนครแห่งเทพที่อยู่สูงเหนือทั้งสามเขตปกครองไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ยอมรับว่าตนเองเป็คนของทั้งสามเขตปกครอง
“ถูกต้อง! ได้ยินว่าเผ่ามนุษย์มีคนที่ชื่อเย่ชิงหานดุดันห้าวหาญเป็อย่างมาก ตามที่เล่ากันมาแม้แต่บุตรชายของเยาเสเขาก็ยังกล้าสังหาร...เมื่อวานที่ลานเกียรติยศเยาเสเตรียมที่จะอาละวาดขึ้นที่นั่น...”
“เย่ชิงหาน ไม่รู้ว่าเป็คนไหน ตามที่ได้ยินมาอายุของเขาเพียงแค่สิบหกปีเท่านั้นเอง สุดยอดจริงๆ!”
ประชาชนของนครแห่งเทพเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเกรียวกราวขึ้น ถึงแม้ว่าเื่ราวเกี่ยวกับงานประลองาระหว่างเขตปกครองพวกเขาจะไม่รู้มากนัก แต่ในฐานะที่เป็ประชาชนของนครแห่งเทพข่าวสารบางอย่างก็พอจะมีช่องทางให้รับรู้ได้บ้าง ตอนนี้เห็นคนของเขตปกครองเทพาเดินบ่ายหน้าไปยังหอเฝินเซียนอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรจึงอดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา
เย่ชิงหานไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนใจคำพูดของผู้คนที่อยู่ข้างถนน เขารีบเดินตรงเข้าไปภายในหอเฝินเซียนอย่างเดียวโดยไม่สนใจต่อสิ่งอื่นใด เมื่อเข้าไปถึงจึงเอ่ยปากพูดขึ้นต่อผู้ที่สวมชุดคลุมสีทองหลายคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า “เขตปกครองเทพา เย่ชิงหานนำคะแนนมาแลกของรางวัล!”
ห้องโถงใหญ่หอเฝินเซียนสามารถจุคนได้ถึงหนึ่งร้อยคน แต่ภายในตอนนี้กลับมีคนที่สวมเสื้อคลุมสีทองเพียงไม่ถึงสิบคน ในกลุ่มคนเ่าั้ผู้ที่นั่งอยู่ตำแหน่งตรงกลางไม่ได้สวมหมวกคลุมปกปิดส่วนศีรษะเหมือนคนอื่นๆ แต่กลับเปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามของหญิงสาวมีอายุของนาง
“คำนับเฝินเสินเว่ย เ้าหนูของตระกูลไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติบุ่มบ่ามเข้ามา ขอโปรดอย่าได้ถือสา!” เย่ชิงหนิวเดินเข้ามาเป็คนที่สอง มองเห็นตรงกลางมีหญิงสาวเสื้อคลุมสีทองนางหนึ่งนั่งอยู่พลันตกตะลึงขึ้นชั่วครู่ ถลึงตามองเย่ชิงหานแล้วรีบประสานมือแสดงการคารวะออกไป
“คำนับเฝินเสินเว่ย!” เหล่าผู้าุโที่ตามมาด้านหลังล้วนแสดงการคารวะออกมาพร้อมกัน
“เหอะๆ ไม่เป็ไร ไม่จำเป็ต้องมากพิธี!” เฝินเสินเว่ยโบกมือขึ้นราบเรียบ ใบหน้าหญิงมีอายุยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยขึ้น มองดูจากลักษณะแล้วเฝินเสินเว่ยผู้นี้น่าจะมีอายุไม่น้อยอยู่เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าน้ำเสียงที่พูดออกมากลับดุจดั่งน้ำเสียงของสาวน้อยอย่างไรอย่างนั้น
เฝินเสินเว่ยหันหน้ามองมาที่เย่ชิงหาน สุดท้ายสายตาจับจ้องไปที่แหวนสีเหลืองที่อยู่บนนิ้วมือซ้ายของเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น “เ้าคงเป็เย่ชิงหานสินะ ไม่เลว! ั้แ่โบราณกาลมาวีรบุรุษล้วนเกิดขึ้นจากคนหนุ่ม คะแนนของเ้ามีไม่ต่ำกว่าสองหมื่นคะแนน ไม่รู้ว่าเ้าอยากแลกของสิ่งใด?”
“ยาิญญาเทวะ!” เย่ชิงหานรีบประสานมือพูดตอบออกไปอย่างเคารพนอบน้อม
“อืม...เื่ราวของเ้าข้าได้ยินมาบ้าง ข้าก็รู้สึกซาบซึ้งอยู่มาก วีรบุรุษหนุ่มที่มีน้ำจิตน้ำใจเป็หนึ่งเลิศลบธรณีไม่มีสองเช่นเ้าหาได้ยาก เอ้านี่ ยาิญญาเทวะรับไปเถอะ!” เฝินเสินเว่ยยิ้มราบเรียบออกมาอีกครั้งหนึ่ง ภายในดวงตาปรากฏแววของความชื่นชมออกมาเล็กน้อย สะบัดมือข้างซ้ายครั้งหนึ่ง กล่องหยกสีเขียวที่วางอยู่บนโต๊ะพลันลอยเข้ามาหาเย่ชิงหาน
มองดูกล่องหยกที่เปล่งประกายแสงสีเขียวสวยวิจิตรตระการตาลอยตรงเข้ามา เย่ชิงหานรีบยื่นมือออกไปรับไว้พร้อมกับจิตใจที่ตื่นเต้นดีใจอย่างล้นพ้น ในที่สุดยาิญญาเทวะก็มาอยู่ในมือ ความมุมานะพยายามของตนเองในที่สุดก็ได้รับการตอบแทนกลับมา มีทางช่วยน้องสาวแล้ว!
“ห้ามเปิด เดี๋ยวพลังิญญาที่อยู่ภายในจะสลายไปหมด ข้างในเป็ยาิญญาเทวะของแท้แน่นอน ยังไม่รีบขอบคุณท่านเฝินเสินเว่ยอีก!” เย่ชิงหานคิดที่จะลองเปิดกล่องหยกออกดูว่ายาิญญาเทวะที่เล่าลือกันนั้นหน้าตาเป็อย่างไร แต่เมื่อได้รับการส่งกระแสเสียงมาจากเย่ชิงหนิวจึงไม่กล้าประมาทรีบเก็บกล่องหยกไว้อย่างดีทันที จากนั้นทำการโค้งคำนับไปทางเฝินเสินเว่ยอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง
“เหอะๆ...ไม่ต้องมากพิธี ทั้งหมดนี้คือของรางวัลที่สามารถแลกได้ในงานประลองาระหว่างเขตปกครองในครั้งนี้ ของหลักๆ ก็จะมีสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์คุณภาพระดับต่ำชิ้นหนึ่ง สมบัติล่ำค่าระดับวิเศษคุณภาพระดับสูงห้าสิบชิ้น...ทุกท่านเชิญทำการปรึกษาหารือกันก่อนค่อยทยอยมาแลกเปลี่ยนน่าจะดีกว่า!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้