หยางเฉินพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์พลางโยนชายร่างสูงลอยเคว้งบนอากาศก่อนตกลงมายังรถโฟร์คสวาเก้นที่จอดอยู่หน้าประตูบ้านอย่างแรง
โครงสร้างของรถเยอรมันนั้นแข็งแกร่งไม่ธรรมดาเมื่อชายร่างสูงกระแทกใส่แน่นอนว่าความรู้สึกนั้นเหมือนโดนค้อนเหล็กทุบจนกระอักเื
"หัวหน้า!"
เหล่าลูกน้องรู้สึกใเป็อย่างยิ่งที่หัวหน้าพวกมันไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ผู้ใดมาก่อน พวกมันรีบเข้าไปดูอาการพลางเหลือบมองหยางเฉินด้วยความหวาดกลัว
ชายร่างสูงสูดหายใจเข้าปอดอย่างยากลำบากกระอักเืออกมาจำนวนมาก แล้วแข็งใจกล่าวว่า
"ไป...ออกไปจากที่นี่"
ราวกับได้ยินเสียง์พวกลูกน้องรีบเปิดประตูรถั้แ่คำแรกที่ชายร่างสูงเอ่ยรีบขับรถออกจากหมู่บ้านด้วยความเร็วสูง
หยางเฉินไม่ได้ขัดขวางใดๆเ้าพวกนี้น่าจะมีคนหนุนหลังที่ไม่ธรรมดา หยางเฉินไม่อยากมีเื่ไปมากกว่านี้เมื่อก่อนเขาเป็คนวู่วาม และไม่คิดถึงคนรอบตัวใครหลายคนที่เกี่ยวข้องกับเขาจึงโดนทำร้าย หยางเฉินไม่้าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก
แต่แน่นอนว่าความอดทนของมนุษย์ย่อมมีขีดจำกัด
เมื่อหยางเฉินเดินเข้าไปในบ้านป้าหวังที่ร้องไห้อยู่ที่พื้นเห็นดังนั้นก็รีบลุกขึ้นจับมือหยางเฉิน
"คุณชายเป็อะไรหรือเปล่าคะ"
เมื่อได้รับความห่วงใยจากป้าหวังแล้วอบอุ่นก็ก่อตัวขึ้นในหัวใจของหยางเฉิน
"ผมสบายดีครับต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ใ"
"คุณชายไม่ต้องพูดอะไรแล้วค่ะพวกนั้นตั้งใจมาหาเื่แน่ๆ พวกมันทำตัวอย่างกับเป็เ้าของบ้านแค่มองพวกมันฉันก็โมโหแล้ว"
"ไม่ต้องกังวลครับถ้าพวกมันมาอีกแค่โทรเรียกผมก็พอ รับรองพวกนั้นไม่กล้าทำอะไรแน่นอน"
ป้าหวังถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนพูดว่า
"ฉันไม่เป็ไรหรอกค่ะแต่ฉันกังวลว่าคุณชายอาจต้องไปมีเื่กับผู้มีอำนาจบางคนใช่ไหมคะพวกมันดูเหมือนเป็คนของรัฐบาล เมื่อครั้งที่คุณหญิงย่ายังอยู่เธอพร่ำบอกอยู่เสมอว่า เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับพวกนั้น คนธรรมดาอย่างเราจะไปมีปัญญาต่อต้านรัฐบาลได้อย่างไรคุณควรบอกสิ่งที่เกิดขึ้นให้คุณหนูทราบนะคะ เธอมีญาติทำงานกับทางรัฐบาลอยู่ไม่น้อยบางทีเธออาจช่วยคุณชายได้"
"ผมไม่ไปมีเื่กับใครหรอกครับผมไม่ทราบเหตุผลที่พวกมันบุกมาด้วย ไม่ต้องเดือดร้อนถึงหลินรั่วซีหรอกครับแค่นี้ผมจัดการเองได้"
ป้าหวังเห็นว่าหยางเฉินไม่อยากพูดอะไรอีกเธอก็กลับเข้าครัวไปทำอาหารเย็นต่อ ส่วนหยางเฉินเดินไปในห้องนั่งเล่นแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาใครบางคน
สายถูกรับอย่างรวดเร็วเสียงหยาบที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
"คุณหยาง่หลังไม่ค่อยติดต่อผมเลยนะครับ ฮ่า ๆ"
หยางเฉินไม่มีอารมณ์จะคุยเล่นเขาบอกกับจางหู่ไปอย่างตรงไปตรงมาว่า
"จางหู่ฉัน้าความช่วยเหลือจากนาย ฉัน้าคนฝีมือดี มาคุ้มกันบ้านและคนของฉันหน่อย"
พูดจบเสียงจากปลายสายก็เงียบลงก่อนที่จางหู่จะพูดด้วยเสียงค่อยว่า "คุณหยางครับเอ่อ... คุณเฉียงเวย้าคุยกับคุณน่ะครับ..."
"เฉียงเวย?เธออยู่กับนายงั้นเหรอ?"
หยางเฉินตกตะลึงเขาฝืนหัวเราะออกมาเล็กน้อยเหตุผลที่เขาเลือกติดต่อกับจางหู่ก็เพราะ้าหลีกเลี่ยงเฉียงเวยแต่ไม่คาดคิดว่าเธออยู่ข้างๆ จางหู่
เสียงของเธอยังคงฟังดูเนือยๆแต่ก็มีเสน่ห์เช่นเคย แม้ว่าหยางเฉินจะไม่เห็นแต่เขาก็รู้ว่าเธอกำลังยืนยิ้มอย่างผู้มีชัยแน่ๆ
"คุณสามีคุณ้าคนทำไมไม่บอกฉันล่ะคะ?" คำพูดแทงใจดำของเฉียงเวยถึงกับทำให้หยางเฉินพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
"...ผมกลัวคุณจะไม่ว่างน่ะได้ยินมาว่าคุณกำลังยุ่งอยู่กับพวกพันธมิตรตะวันตก ผมเลยไม่อยากให้เื่เล็กน้อยพวกนี้มารบกวนเวลาอันมีค่าของคุณ"
"อย่าพูดอย่างงั้นสิสามีของฉันเอ่ยปากขอร้องมาทั้งที จะไม่ว่างได้ยังไงไหนว่ามาซิว่าคุณ้าคนไปทำอะไร?" เฉียงเวยถามอย่างรุกเร้า
หยางเฉินรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีไหวพริบที่เป็เลิศจนเขาไม่สามารถปกปิดเื่นี้ไว้ได้
"เมื่อเร็วๆนี้ ผมไปมีปัญหาพวกคนกลุ่มหนึ่ง ในวันนี้พวกมันจึงบุกมาที่บ้านของผมผมเลยจะหาคนที่ฉลาดๆ และฝีมือดีมาเฝ้าระวังที่บ้านและที่สำคัญที่สุดคือรายงานผมทันทีที่มีอะไรเกิดขึ้น"
"โอ้วเป็บ้านที่คุณพักกับภรรยาตามกฎหมายสุดสวยของคุณใช่ไหม คุณไม่เคยบอกฉันเลยว่ามันอยู่ที่ไหน?"
หยางเฉินคิดว่าเื่แบบนี้จะบอกตรงๆได้อย่างไร แต่เวลานี้ไม่มีวิธีอื่นแล้วเขารู้ว่ายังไงเฉียงเวยก็ต้องหาที่นี่เจอได้อยู่ดีคิดได้ดังนั้นหยางเฉินจึงกล่าวต่อเรียบๆ
"คนที่อยู่ในหมู่บ้านสวนหลงจิ่งต่างร่ำรวยทุกคนจนฉันรู้สึกกดดันขึ้นมาแล้วสิ" เฉียงเวยหัวเราะร่าด้วยอารมณ์ดี
"พอแล้วอย่าประชดอย่างนี้สิ ในอนาคตถ้ามีโอกาสผมให้คุณทั้งสองรู้จักกันแต่ตอนนี้ผมกลัวว่าจะโดนเลื่อยไฟฟ้าผ่าร่างในตอนกลางคืนน่ะสิ..."
"ฉันไม่ไปหาเธอหรอกมันน่าอายเกินไป" เฉียงเวยปฏิเสธเสียงราบเรียบ
"ฉันจะไปพบเธอเมื่อฉัน้านี่เป็เื่ระหว่างผู้หญิง ผู้ชายไม่ได้รับอนุญาตให้ยุ่งเกี่ยว"
หยางเฉินถามอย่างใจจดใจจ่อ"ที่รักคุณจะไม่ใช้วิธีในโลกใต้ดินใช่ไหม?"
เฉียงเวยได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเสียงดัง
"คุณสามีคุณนี่ตลกจัง ฉันจะทำแบบนั้นได้อย่างไร? ในฐานะภรรยาน้อยแล้วสิ่งที่ฉันทำได้คงเป็การมุ่งมั่นปรนนิบัติสามีอยู่ห่างๆ ฉันอยากจะเอาใจคุณนะเพราะถ้าฉันทำร้ายคุณภรรยาหลวง ฉันต้องโดนคุณฆ่าทิ้งแน่ๆ..."
หยางเฉินหัวเราะเขาตัดสินใจจะไปพบกับเธอที่บาร์โรสในภายหลัง และวางสายไป
ทางด้านหลินรั่วซีนั้นหยางเฉินไม่กังวลความสัมพันธ์ของเขากับเธอนั้นน้อยคนนักที่จะรู้และถึงจะรู้ก็คงไม่มีใครกล้าทำร้ายเธอง่ายๆ เพราะฐานะทางสังคมของเธอนั้นสูงส่งอีกทั้งยังเคยติดต่อกับคนของรัฐบาลอีกด้วย
วันรุ่งขึ้นเวลาเที่ยงที่สถานีรถไฟจงไห่ขบวนรถไฟรุ่นเก่าค่อยๆ ชะลอความเร็วลงก่อนจอดเทียบสถานี ภายในชานชาลาหยางเฉินนั่งรอบนเก้าอี้อย่างสงบในขณะที่เฉินป๋อนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง หยางเฉินคาบบุหรี่ในปากหลุบสายตาลงต่ำเหมือนกำลังหลับ เอ่ยถามเฉินป๋อข้างๆ ว่า
"นายแน่ใจนะว่าเป็ขบวนนี้?"
"ต้องใช่แน่ๆผมมั่นใจว่าใช่แน่นอน" เฉินป๋อรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
"นี่เป็ครั้งแรกที่น้องสาวของผมเดินทางมายังที่ห่างไกลขนาดนี้ครอบครัวของผมเป็ห่วงเธอมาก ผมจะกล้าจำผิดได้ยังไง"
"น้องสาวนายเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเสฉวนงั้นหรือ?"
"จริงๆแล้วน้องสาวของผม สอบติดมหาวิทยาลัยปักกิ่งเช่นกัน แต่เธออยากจะดูแลพ่อแม่มากกว่าดังนั้นจึงเลือกไปเรียนที่เสฉวนซึ่งอยู่ใกล้บ้านแทนอย่างไรก็ตามเธอได้รับทุนการศึกษาทุกปี และเกรดของเธอนั้นก็ยอดเยี่ยมมาก!"เฉินป๋อตอบเสียงเศร้าเล็กน้อย
"นายสองคนพี่น้องเรียนเก่งทั้งคู่เลยนะ"หยางเฉินยิ้ม และกล่าวว่า "แตกต่างจากฉันที่ไม่เคยได้เรียน"
เฉินป๋อได้ยินดังนั้นก็ถามอย่างสงสัย"หยางเฉินคุณไม่ได้จบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดหรือไง? ทำไมคุณบอกว่าคุณไม่เคยเรียน?"
หยางเฉินยิ้มแต่ไม่ได้อธิบายอะไรเขาไม่อาจบอกได้ว่าใบปริญญาที่ได้มานั้นถูกยัดเยียดโดยคณบดีหญิง ประจบเอาใจเขา
ไม่นานหลังจากนั้นประตูรถไฟก็เปิดออกผู้คนเดินต่างลงจากขบวนอย่างรีบร้อน หยิบกระเป๋าเดินทาง และพร้อมมองไปรอบๆก่อนเดินไปยังทางออก
เฉินป๋อชะโงกหัวมองหาน้องสาวของตนตลอดเวลาเขาดูกังวลเป็อย่างมาก จนกระทั่งคนลงจากขบวนจนหมดแล้วเฉินป๋อก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ะโออกมาว่า
"คนสุดท้ายนั่นไงเธอมาแล้ว"
"พี่ใหญ่!!"เสียงใสแจ๋วดังขึ้นอย่างมีความสุขจากในขบวนรถ
หยางเฉินยืนขึ้นมองดูเด็กสาวผมม้าที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย เธอสวมเสื้อสีเหลืองกางเกงลินินสีน้ำตาลดูทะมัดทะแมง วิ่งมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบค่อนข้างเก่ายิ่งมองใกล้ๆ หยางเฉินก็สังเกตว่าเด็กสาวผู้นี้รูปร่างผอมบาง พร้อมใบหน้าที่หมดจดและผิวขาวเนียนละเอียดราวหิมะเหมือนเฉินป๋อ
เนื่องด้วยอากาศที่ร้อนจัดใบหน้าเด็กสาวจึงชื้นไปด้วยเหงื่อ รอยยิ้มของเธอช่างสดใสบริสุทธิ์ซึ่งยากที่จะพบเห็นได้ในหญิงสาวชาวเมือง
เฉินป๋อกอดน้องสาวไถ่ถามเื่ราวระหว่างการเดินทาง และเื่ของครอบครัว อยู่เกือบครึ่งชั่วโมงเมื่อเขาสังเกตเห็นหยางเฉิน เฉินป๋อก็ยิ้มเขินพลางกล่าวว่า
"ผมขอโทษครับผมตื่นเต้นจนเกินเหตุเพราะไม่ได้เจอน้องสาวมานาน"
"พวกนายสองพี่น้องนี่เหมือนกันจริงๆเป็ฝาแฝดกันหรือเปล่าเนี่ย"
หยางเฉินรู้สึกว่าถ้าเฉินป๋อเป็ผู้หญิงพวกเขาสมควรเป็คู่พี่น้องดอกไม้งามที่ใครๆ ต่างก็อยาก
เฉินป๋อลูบใบหน้านวลเนียนของน้องสาวกล่าวขึ้นอย่างภาคภูมิใจว่า
"ญาติและเพื่อนของผมก็มักจะบอกเช่นนี้เหมือนกันถึงผมจะเกิดก่อนเธอมาหลายปี แต่พวกเราก็ใกล้ชิดยิ่งกว่าฝาแฝดซะอีก"
"พี่คะพี่ชายท่านนี้คือ?" เด็กสาวมองหยางเฉินอย่างระมัดระวัง
เฉินป๋อได้ยินดังนั้นก็รีบแนะนำให้เธอรู้จัก
"นี่คือเพื่อนร่วมงานของพี่เองเขาชื่อหยางเฉิน"
"สวัสดีค่ะพี่ใหญ่หยาง ฉันชื่อเฉินหรง" เฉินหรงใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อไม่รู้ว่าเป็เพราะอากาศหรือว่าเขินอาย
"ฉันเป็แค่คนขับรถและเพื่อนของพี่ชายเธอเท่านั้นไม่ใช่เ้านายที่ไหน เพราะงั้นไม่ต้องเคารพฉันขนาดนั้นก็ได้ฉันไม่มีอั่งเปาให้เธอหรอกนะ" หยางเฉินพูดติดตลก
เฉินหรงหัวเราะออกมาแล้วกล่าวว่า
"ฉันขอขอบคุณพี่หยางที่ใจดีขับรถมารับฉันนะคะ"
คำพูดของหยางเฉินทำให้หญิงสาวผ่อนคลายทั้งสามพูดคุยกันสักพักก็เดินทางออกจากสถานีรถไฟ
พวกเขาเดินออกมาได้ไม่นานหยางเฉินก็สังเกตเห็น เงาร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่ที่ชานชาลาที่ห่างออกไปเป็ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดสีฟ้ายืนอยู่คนเดียวด้วยท่าทางสง่างามและโดดเด่นกว่าใครอื่น แน่นอนว่าเธอคือโม่เชี่ยนนี
โม่เชี่ยนนีไม่ได้สังเกตเห็นหยางเฉินเลยแม้แต่น้อยราวกับว่าเธอกำลังรอใครสักคนด้วยหัวใจที่หนักอึ้งในเวลานี้หยางเฉินต้องไปส่งพี่น้องตระกูลเฉิน เขาจึงไม่ได้เข้าไปทักทายเธอ
ภายในรถเฉินหรงพยายามหดตัวให้ลีบเล็กที่สุดสายตากวาดมองไปรอบคันรถด้วยกลัวว่าจะเผลอไปััถูกอะไรเข้า ด้วยการเดินทางที่ยาวไกลเฉินหรงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังต่อสู้อยู่กับความง่วงเป็เวลานานและไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปในที่สุด
หยางเฉินมองเฉินหรงผ่านกระจกหน้ารถเอ่ยถามเฉินป๋อด้วยเสียงแ่เบา
"น้องสาวนายมาที่นี่เธอวางแผนไว้หรือยังว่าจะไปทำงานอะไร"
เฉินป๋อมองเฉินหรงที่กำลังกลับอยู่ฝืนยิ้มกล่าวว่า
"ผมไม่อยากให้เธอไปทำงานแบบผมผม้าให้เธอทำงานในสถานที่ที่ปลอดภัย"
หยางเฉินคิดสักครู่ก่อนกล่าวว่า"ผมมีสถานที่ที่จะแนะนำให้น้องสาวของนายแม้เงินเดือนอาจจะไม่สูง แต่รับรองว่าปลอดภัยแน่นอนนายสนใจหรือไม่?"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้