“หากพระชายามีอาการอันใดให้รีบแจ้งข้าทันที”
หลงเทียนอวี้ยืนอยู่ข้างเตียงของหลินเมิ้งหยาออกคำสั่งกับป๋ายจี
“เ้าค่ะ”
หลังจากถวายคำนับป๋ายจีกลับมาสุขุมดังเดิม
เขาจ้องมองร่างบางบนเตียงหลงเทียนอวี้รู้สึกไม่อยากออกห่างจากห้องนี้เลยแม้แต่น้อย
แม้ห้องของหลินเมิ้งหยาจะตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นของยาทว่าหลงเทียนอวี้กลับรู้สึกอบอุ่น
ด้านนอกห้องพระอาทิตย์คล้อยไปทางทิศตะวันตกแล้ว สายลมยามค่ำคืนพัดกระทบร่าง
“หลินขุ๋ยตรวจสอบได้ความว่าอย่างไร? ”
หลังจากที่ิเยว่มาถึงจวนนางถูกส่งไปยังเรือนเล็กเงียบสงบทันที
หลงเทียนอวี้รู้ดีว่าพระสนมเต๋อเฟยพยายามมากขนาดไหนแต่ิเยว่หาใช่ผู้หญิงที่เขาจะจริงใจด้วยไม่
เขายอมรับิเยว่มีหน้าตาที่งดงาม
แม้ลักษณะภายนอกจะดูเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากกว่าหลินเมิ้งหยา
ทว่านับั้แ่ครั้งแรกที่ได้เจอนาง ความรังเกียจพลันผุดขึ้นในใจของเขาทันที
ิเยว่มีบางอย่างคล้ายคลึงกับพระสนมของเสด็จพ่อ
เขาเกิดในตระกูลของฮ่องเต้ได้เห็นเืและหอกดาบจนชิน เคยเห็นกลอุบายอันแสนสกปรกเคยเห็นคนที่ยืมมือผู้อื่นฆ่าคน
ทว่า หลินเมิ้งหยากลับมีความจริงใจที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน
การได้นางมาอยู่ข้างกายเสมือนหัวใจถูกเติมเต็ม
นางมิใช่คนประจบประแจงอีกทั้งยังเ้าเล่ห์เพทุบาย ทว่า ทุกการกระทำกลับแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา
นางโเี้เฉพาะกับคนที่เข้ามายุ่มย่ามกับนางก่อน
นางปฏิบัติกับทุกคนด้วยความเที่ยงธรรมรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนหวาน
หากไม่มีนางเกรงว่าจวนแห่งนี้คงมีแต่เพียงความเหงา
“ตรวจสอบแล้วพ่ะย่ะค่ะพระสนมเต๋อเฟยเป็ผู้ที่ส่งคนไปคุยกับฮ่องเต้ิแต่เื่นี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับป๋ายหลี่อู๋เฉินด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
หลินขุ๋ยกับป๋ายหลี่อู๋เฉินเป็เพื่อนสนิทกัน
ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านอ๋อง เขาไม่อาจปกปิดสิ่งใดได้
“เกี่ยวข้องกับป๋ายหลี่อู๋เฉิน?เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
กลับไปยังห้องของตนเองก่อนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าคิ้วของหลงเทียนอวี้ขมวดแน่น
“ท่านน้าจิ่นเยว่เอ่ยว่าป๋ายหลี่อู๋เฉินเป็ผู้เข้าไปพูดโน้มน้าวพระสนมเต๋อเฟยก่อนฉะนั้นพระสนมเต๋อเฟยจึงส่งคนไปหาฮ่องเต้ิพ่ะย่ะค่ะ”
จิ่นเยว่มองคนออกแต่มิรู้ว่าเพราะเหตุใด นางไม่ค่อยรับฟังความเห็นของน้าจิ่นเยว่
จิ่นเยว่ไม่้าให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองแม่ลูกต้องหมางเมินดังนั้นจึงมักจะพยายามเป็กระบอกเสียงให้ทั้งคู่อยู่เสมอ
“ป๋ายหลี่อู๋เฉินตัวดีข้าคิดว่าเขาคงจะลืมหน้าที่ของตนเองไปแล้ว”
ป๋ายหลี่อู๋เฉินเป็คนเ้าคิดเ้าแค้นแต่ถึงกระนั้นความภักดีของเขาก็ไร้ซึ่งข้อกังขา
แต่ไม่รู้่นี้เขาถูกสิ่งใดกระตุ้นดังนั้นจึงมักตัดสินใจแทนเข้าเสมอ
มีเพียงเื่นี้เื่เดียวที่เขาจะไม่ยอมทนเฉย
การกระทำของเขาในครั้งนี้กระตุ้นต่อมโกรธของหลงเทียนอวี้
ภายในตำหนักหยาเสวียนนานมากแล้วที่ไม่มีเสียงหัวเราะ
ิเยว่มาที่นี่เพื่อทำให้พระสนมเต๋อเฟยคลายเหงายิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบกับคนตรงไปตรงมาอย่างหลินเมิ้งหยานางมักจะใช้วาจาอ่อนหวานเย้าแหย่พระสนมเต๋อเฟย
ปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตนเองเอาไว้จนมิดผันตัวเป็กุลสตรีผู้สง่างาม ดังนั้นพระสนมเต๋อเฟยจึงใจอ่อนเมื่อเห็นนาง
แต่ว่า...มีได้ก็ย่อมมีเสีย
ท่าทางอ่อนโยนอ่อนหวานเช่นนี้มิใช่คนที่พระสนมเต๋อเฟยจะเลือกมาเป็พระชายาเอกอย่างแน่นอน
ไม่ว่าที่ซีฟานหรือต้าจิ้นผู้ที่ช่วยค้ำจุนฟู่จวินได้ต่างหาก จึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งชายาเอก
ยกเว้นว่าหลินเมิ้งหยาจะเจ็บไข้ได้ป่วยจนไม่อาจลุกขึ้นยืนได้หรือตายไป
เช่นนั้นตำแหน่งชายาเอกก็จะตกอยู่ในกำมือของหญิงสาวตรงหน้า
“องค์หญิงทั้งงดงามและอารมณ์ดีพระสนมเต๋อเฟยมิได้อารมณ์ดีเช่นนี้มานานแล้วเพคะ”
จิ่นเยว่ยกขนมมาด้วยตนเองทว่าดวงตาเผยให้เห็นร่องรอยของความผิดหวัง
“นับเป็เกียรติของเยว่เอ๋อร์ยิ่งนักตอนที่ยังอยู่บ้านเสด็จแม่มักจะรับสั่งเสมอว่าสุภาพสตรีอันดับหนึ่งแห่งต้าจิ้นมิใช่ใครที่ไหนแต่เป็พระสนมเต๋อเฟย วันนี้หม่อมฉันได้มาเห็นกับตาตัวเองแล้วรู้สึกว่าพระองค์งดงามสมคำร่ำลือยิ่งนักหากเยว่เอ๋อร์สามารถเรียนรู้งานได้สักครึ่งหนึ่งของพระองค์เช่นนั้นหม่อมฉันจะต้องเก่งขึ้นอย่างแน่นอน”
น้ำเสียงอ่อนหวานละมุนละไมทุกคำพูดที่เอื้อนเอ่ยล้วนแสดงให้เห็นถึงความเคารพนับถือ
พระสนมเต๋อเฟยหยักยิ้มอ่อนโยนเห็นได้ชัดว่าพระองค์ชอบคำชมเช่นนี้มาก
“ปากหวานเสียนี่กระไรเหมือนกับหย๋าเอ๋อร์ไม่มีผิด จิ่นเยว่ หย๋าเอ๋อร์อาการเป็อย่างไรบ้าง?”
หลินเมิ้งหยาเจ็บไข้ได้ป่วยจนนอนซมพระสนมเต๋อเฟยรู้ต้นสายปลายเหตุดีว่าเพราะอะไร
เหตเพราะร่างกายเปียกฝนจึงทำให้เจ็บป่วย
ร่างกายของเด็กคนนี้แท้จริงอ่อนแอเพียงเพราะลมหนาวก็สามารถทำให้นางเจ็บป่วยเกือบตายได้หากภายภาคหน้ามีหลานให้กับนาง หลานของนางจะมิอ่อนแอตามกระนั้นหรือ?
เมื่อเทียบกับิเยว่ร่างกายของนางเหมาะสมยิ่งกว่า
บางทีนางอาจเลือกชายารองได้ถูกคนแล้ว
“หย๋าเอ๋อร์อาการดีขึ้นมากแล้วพ่ะย่ะค่ะขอบพระทัยหมู่เฟยที่เป็ห่วง”
ขณะที่จิ่นเยว่ไม่รู้ว่าจะกราบทูลพระสนมเต๋อเฟยเช่นไรเสียงของหลงเทียนอวี้พลันดังขึ้นจากทางด้านหลัง
พวกนางหันหน้าไปมอง ก่อนจะได้เห็นหลงเทียนหยู๋ในชุดสีทองเข้มเดินสาวเท้ายาว ๆ เข้ามา
“เอ๋อร์จื่อถวายคำนับหมู่เฟย”
แม้จะเปลี่ยนชุดแล้วแต่กลิ่นยายังคงติดตัวมา ดังนั้นภายในห้องโถงจึงเต็มไปด้วยกลิ่นยาจากตัวของเขา
พระสนมเต๋อเฟยขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยถามด้วยความกังวล
“หมู่เฟยรู้ว่าเ้าเอ็นดูพระชายามากแต่เมื่อเ้านายป่วย คนที่ต้องคอยปรนนิบัติรับใช้คือสาวใช้เหตุใดเ้าต้องไปขลุกอยู่ที่นั่นให้เสียเื่ หากเกิดเจ็บป่วยตามมาคนทั้งจวนคงลำบากไปหมด”
ใช่ว่าพระสนมเต๋อเฟยจะไม่เอ็นดูหลินเมิ้งหยาแต่นางเอ็นดูลูกชายของตนเองมากกว่า
โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นหลงเทียนอวี้เอาใจใส่หลินเมิ้งหยาเป็อย่างมากหัวใจของนางทั้งรู้สึกยินดีและกังวล
ลูกชายของนางต้องทำการใหญ่ให้สำเร็จ
การรักและเอ็นดูผู้หญิงคนเดียวมิใช่เื่ดี
หากมิใช่เพราะฮ่องเต้รักและเอ็นดูพวกนางสองแม่ลูกเกรงว่าฮองเฮาก็คงไม่เคียดแค้นพวกนางถึงเพียงนี้
“เอ๋อร์จื่อรู้ดีพ่ะย่ะค่ะตอนนี้หย๋าเอ๋อร์ไม่เป็อะไรแล้ว หมู่เฟยได้โปรดวางพระทัย”
หลงเทียนหยู๋หลุบตาต่ำสายตามิเลื่อนไปมองิเยว่เลยแม้แต่น้อย
แม้นางจะสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์สวยงามหลากสีสันเกล้าผมสูงดูสง่างามดึงดูดสายตา
แต่นางกลับเทียบไม่ได้กับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงใบหน้าขาวซีดอย่างหลินเมิ้งหยา
หลินเมิ้งหยาคือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา
“ท่านอ๋องนี่เป็ยาบำรุงร่างกายที่เสด็จพ่อนำมาให้เพคะยาชนิดนี้เป็สูตรลับของราชวงศ์แห่งซีฟาน แก้อาการหนาวสั่นได้เป็อย่างดีพระองค์ลองเอาไปให้พระชายากินดูเถิดเพคะ”
นางรับกล่องไม้ขนาดเล็กมาจากสาวใช้ที่อยู่ทางด้านหลัง
กล่องไม้รูปร่างหน้าตาธรรมดาทว่ากลับบ่งบอกถึงความเป็ซีฟานได้อย่างชัดเจน
“ไม่จำเป็หมอหลวงมีความรู้ความสามารถ ตอนนี้หย๋าเอ๋อร์อาการดีขึ้นแล้ว”
ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยหลงเทียนอวี้รู้สึกได้ว่าคนของฮ่องเต้ิมิได้ประสงค์ดีกับหลินเมิ้งหยา
“อวี้เอ๋อร์องค์หญิงมีน้ำพระทัย เหตุใดจึงปฏิเสธเยี่ยงนี้”
พระสนมเต๋อเฟยเอ่ยด้วยความไม่พึงพอใจแต่นางรู้ดีว่าอวี้เอ๋อร์มีอุปนิสัยดื้อรั้น
เกรงว่าบ้านเล็กที่นางเป็ผู้เลือกให้เขาในครานี้จะทำให้เขาตั้งแง่กับองค์หญิงิเยว่เสียแล้ว
ดังนั้นในเมื่อไม่มีทางเลือกแต่ถ้าหากทั้งสองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง อวี้เอ๋อร์อาจจะมองเห็นความดีของิเยว่ก็ได้
ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ไม่สำคัญขอเพียงได้ผลลัพธ์ออกมาก็เพียงพอ
“ไม่เป็ไรเพคะพี่รองเคยปฏิบัติกับพระชายาไม่ดี สมควรแล้วที่ท่านอ๋องจะไม่ไว้พระทัย”
มิได้แสดงสีหน้าอึดอัดออกมาแต่กลับเผยให้เห็นถึงความเข้าอกเข้าใจ
พระสนมเต๋อเฟยพึงพอใจเป็อย่างมากแต่อุปนิสัยใจคอของลูกชายตนเองดื้อรั้นจนเกินไป
“แม้จะเคยเกิดเื่เช่นนั้นขึ้นแต่ถึงอย่างไรองค์หญิงิเยว่กับพวกเราก็มิใช่คนอื่นคนไกลกันแล้ว อวี้เอ๋อร์รีบรับของเถิด”
พระสนมเต๋อเฟยบีบบังคับหลงเทียนอวี้รู้สึกไม่พึงพอใจ
แม้แต่ก่อนจะถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับหลินเมิ้งหยาแต่เขายังไม่เคยโกรธมากขนาดนี้
หมู่เฟยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
“หมู่เฟยเอ๋อร์จื่อยังมีเื่ให้ต้องทำ กระหม่อมขอทูลลา”
ยิ่งพูดยิ่งยุ่งยากหลงเทียนอวี้ลุกขึ้นแล้วจากไป
ทิ้งพระสนมเต๋อเฟยและิเยว่ไว้ทางด้านหลังหลงเทียนอวี้กลับไปพร้อมความโกรธ
ดวงตาคู่สวยเจือไว้ซึ่งความโศกเศร้าพระสนมเต๋อเฟยไม่รู้ว่าควรเอ่ยรั้งลูกชายตนเองอย่างไร
หลังจากเด็กคนนี้เติบโตขึ้นเป็ผู้ใหญ่พวกนางก็ยิ่งรู้สึกเหินห่างกันมากขึ้นทุกที
เพราะเหตุใดอวี้เอ๋อร์จึงโกรธเกรี้ยวมากถึงเพียงนี้?
ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อเขามิใช่หรือ?
“เหนียงเหนียงในฐานะที่เป็ผู้หญิง หม่อมฉันอดนึกอิจฉาพระชายาไม่ได้เลยเพคะท่านอ๋องให้ความสำคัญพระชายามากเหลือเกินแม้แต่ที่ซีฟานก็หาคนอย่างท่านอ๋องได้ยากยิ่ง”
ดวงตาของิเยว่เผยให้เห็นความอิจฉา
พระสนมเต๋อเฟยยิ่งคิดยิ่งรู้สึกดีใจไม่ออก
คิดไม่ถึงเลยว่าลูกของนางกับหลินเมิ้งหยาจะรักกันหวานซึ้งถึงเพียงนี้
บางทีอาจเป็ไปตามที่ป๋ายหลี่อู๋เฉินพูดเอาไว้ไม่ผิดหลินเมิ้งหยาจะกลายเป็อุปสรรคในความสำเร็จของหลงเทียนอวี้
ทว่าเมื่อหวนคิดดูอีกครั้ง หลินเมิ้งหยาเป็คนฉลาด บางทีอาจเพราะอาการเจ็บป่วยดังนั้นอวี้เอ๋อร์จึงรู้สึกกังวล
“ใช่แล้วแต่การได้รับองค์หญิงเข้ามาก็ถือว่าชีวิตนี้ไม่เสียเปล่า”
ิเยว่พยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจนักตอนแรกนางคิดจะมาที่นี่เพื่อสร้างความร้าวฉานระหว่างพระสนมเต๋อเฟยและหลินเมิ้งหยา
แต่ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าพระสนมเต๋อเฟยพึงพอใจในตัวลูกสะใภ้คนนั้นเหลือเกิน
นางหยักยิ้มทว่าในใจคิดหาวิธีอื่น
ภายในตำหนักหลิวซินสาวใช้ทั้งสี่ รวมถึงหลินจงอวี้และชิงหูไม่ได้นอนหลับสนิทกันมาหลายวันแล้ว
ง่วง...แต่ก็ทำเพียงฟุบหลับข้างเตียงหลินเมิ้งหยาประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น
หิว...วิ่งออกไปกินข้าวเพียงไม่กี่คำแล้วก็รีบวิ่งกลับเข้ามา
ฉะนั้นทุกคนจึงซูบผอมลง
โดยเฉพาะเยว่ฉีและป๋ายจื่อที่อายุยังน้อยดวงตาของพวกนางแดงก่ำ ปูดบวมเหมือนลูกท้อ
“ยาก็กินแล้วโจ๊กก็กินแล้ว พวกเ้าหมั่นเช็ดตัวให้พระชายา หากที่นอนเปียก จงรีบเปลี่ยนทันที ่บ่ายสามารถโดนลมได้สักครึ่งชั่วโมงส่วนเวลาอื่นให้ปิดประตูหน้าต่างจนสนิท อีกทั้งยาที่หมอหลวงจ่ายให้จะต้องทำให้อุ่นอยู่เสมอ ยาจึงจะออกฤทธิ์ดี”
หมอหลวงอายุมากแล้วเขามิอาจนั่งเฝ้าได้อย่างพวกเด็กอายุยังน้อยเ่าั้
กำชับเรียบร้อยก่อนจะกลับไปยังห้องพักที่พ่อบ้านเติ้งจัดเตรียมไว้ให้
