“เมื่อพวกเรากลับมาจากเยี่ยมบ้านเดิมของเ้าแล้ว จะรีบออกเดินทางไปที่เมืองเป่ยซินทันที หากม้าเร็ววิ่งเต็มฝีเท้า พวกเราอาจจะถึงเมืองเป่าซินภายในสิบวัน” ซ่งจื่อเฉินเองก็รู้หลักการที่ว่า อย่าละทิ้งโอกาสเพราะเวลามิมีวันหวนคืนเช่นกัน พวกเขาจะไปซื้อองุ่นจากเมืองเป่ยซินกลับมาก่อน แล้วค่อยนำมาหมักเหล้า ในวันข้างหน้าพวกเขาอาจจะเปิดโรงหมักเหล้าองุ่นก็ได้
“ต้องปรึกษาเื่นี้กับคนในบ้านก่อน เื่หาร้านมีผู้จัดการให้แล้ว พวกเราจึงมิต้องกังวล” จิ่นเซวียนเองก็อยากรีบไป แต่พวกเขาติดเื่ของครอบครัวอยู่
“ภรรยา พวกเรามิได้จะเปิดร้านชาดหรือ?ข้าจะให้พวกพี่ใหญ่ไปติดต่อกับชาวสวนดอกไม้ในอำเภอเมืองซิ่งหยางเอาไว้ก่อน เมื่อพวกเรากลับมา จะได้เริ่มผลิตน้ำซวงฟูกันทันที เมื่อถึงเวลานั้นก็หาร้านค้าได้แล้ว จะได้มิเสียเวลา”
“ซื้อดอกไม้สดจากชาวสวนดอกไม้มิใช่แผนระยะยาว ข้าวางแผนจะซื้อที่ดินเอาไว้ปลูกดอกไม้ เวลานั้นจะได้มีดอกไม้ไว้ผลิตเองได้” จิ่นเซวียนอยากช่วยเหลือคนในหมู่บ้านสกุลซย่า จึงตัดสินใจซื้อที่ดินในหมู่บ้านสกุลซย่าและสกุลโจว เอาไว้สำหรับทำแปลงปลูกดอกไม้ แปลงเพาะดอกไม้ที่หมู่บ้านซย่า นางจะให้ท่านย่าเล็กช่วยนางจัดการ ส่วนคนงานก็จ้างคนในหมู่บ้าน พวกเขาจะได้มิต้องออกไปทำงานต่างถิ่น
“ขายโสมคนแล้วค่อยไปซื้อที่เถิด ข้าแนะนำให้ซื้อบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียง จะได้ส่งผู้ที่ไว้ใจได้ไปดูแล” ซ่งจื่อเฉินกับจิ่นเซวียนเข้ากันได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเองก็คิดเช่นเดียวกับจิ่นเซวียน
“สามี ข้าสังเกตว่าพวกเรารู้ใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว” จิ่นเซวียนก้าวขึ้นไปคว้ามือของซ่งจื่อเฉินมาจับไว้ นางเดินเล่นกับเขาพลางปรึกษาแผนในอนาคต
“พวกเราเป็สามีภรรยากัน ย่อมรู้ใจกันอยู่แล้ว” ซ่งจื่อเฉินหยิกแก้มจิ่นเซวียนด้วยความเอ็นดู “ภรรยา เ้าจะมิซื้อของขวัญกลับบ้านเดิมจริงๆ หรือ?ข้ากลัวว่าย่าของเ้าจะมองว่าข้าขี้เหนียว”
“ย่าของข้าเป็เช่นนั้นแหละ นางอยากยึดทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ในมือของตนเอง ถึงท่านให้บ้านซ่งทั้งหลังกับนาง นางก็มิพอใจหรอก” จิ่นเซวียนเผยรอยยิ้มขมขื่น หากท่านอาเล็กกับท่านย่าเล็กมิได้อยู่ที่หมู่บ้านสกุลซย่า นางคงมิจะคิดกลับไป
ย่าชั่วช้าของนางเป็คนอย่างไร นางรู้ดี เมื่อใดที่ใจกว้างกับนาง นางจะหยิ่งผยองแน่
เรือนใหญ่บ้านซ่ง!
นอกจากซ่งเป่าจูที่ไปล้างจาน ผู้อื่นล้วนรับลมกันอยู่ตรงลานบ้าน
“จื่อเฉินกับจิ่นเซวียนคงมิได้หลอกพวกเราหรอกนะ พวกเขาจะเพิ่มเงินรายเดือนให้พวกเราจริงหรือ?” เฉินซื่อมิค่อยเชื่อซ่งจื่อเฉินนัก เงินหกตำลึงต่อเดือนมิใช่จำนวนน้อยๆ พวกเขาเก็บเงินมาหลายเดือนยังมิได้เท่านี้เลย
“ข้าเชื่อน้องห้า น้องห้าเป็คนรักษาสัจจะ” ซ่งหงกล่าวอย่างหนักแน่น “พี่สะใภ้ใหญ่ หากพวกเราอยากอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป พวกเราต้องละทิ้งความคิดเดิม น้องห้ากับน้องสะใภ้ห้าเป็คนมีความสามารถ ข้าเชื่อใจพวกเขาขอรับ”
“ท่านแม่ ข้าเองก็เชื่อท่านอาห้ากับท่านอาสะใภ้ห้าเช่นกันขอรับ ท่านอาห้าบอกว่าโสมคนนั้นมีมูลค่าหลายพันตำลึง ด้วยเงินหลายพันตำลึงนี้ ชีวิตครอบครัวของพวกเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ และมิต้องพะวงกับเื่เงินในวันข้างหน้า ตราบใดที่พวกเราร่วมมือร่วมใจกัน บ้านซ่งก็จะดีขึ้น ในทางกลับกัน หากพวกเราเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน จะมีผู้ใดพยายามเพื่อครอบครัวนี้อีกเล่าขอรับ” ซ่งเฉวียนหวังว่าท่านแม่ของเขาจะเลิกสงสัยพวกจิ่นเซวียน ครอบครัวที่แท้จริงมิควรคิดร้ายต่อกัน
แต่พวกเราควรร่วมใจกัน พูดตามตรงหากท่านอาห้ากับท่านอาสะใภ้ห้าจะมิให้เงินกับพวกเขาสักเหวินเดียว พวกเขาก็ตำหนิท่านอาห้ากับท่านอาสะใภ้ห้ามิได้ ยิ่งไปกว่านั้นท่านอาห้ากับท่านพ่อของพวกเขาก็มิใช่พี่น้องแท้ๆ กันด้วย
ตอนที่ซ่งเฉวียนกล่าวคำพูดเหล่านี้ออกมา จิ่นเซวียนกับซ่งจื่อเฉินก็กลับมาแล้ว พวกเขายืนอยู่นอกประตู
อยากฟังว่าทุกคนคิดอย่างไรกับพวกเขา
“พี่สะใภ้ใหญ่ ข้ายอมรับว่าก่อนหน้านี้ข้าเกลียดท่านยิ่งนัก เพราะท่านกับท่านแม่เฒ่าตั้งแง่ใส่ข้าตลอด ข้าคิดว่าที่ซ่งเฉวียนพูดมานั้นมีเหตุผล พวกเราลำบากลำบนกันเช่นนี้ มิใช่เพื่อให้เด็กๆ มีอนาคตที่ดีหรือ” ซย่าตงชิงพูดความในใจออกมา เพราะอยากเริ่มต้นกันใหม่
ในอดีต พวกเราทุกคนต่างมีข้อเสีย และข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดคือความเห็นแก่ตัว
ความจริงแล้วทุกคนต่างก็เหนื่อยที่ต้องวางแผนแย่งชิงสิ่งต่างๆ มาเป็ของตนเอง นางชอบครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียว หรือที่เรียกกันว่าครอบครัวปรองดองทุกสิ่งเจริญรุ่งเรือง
“ข้าเองก็มิชอบท่านกับพี่สะใภ้ใหญ่เช่นกัน พวกท่านสองคนมักจะร่วมมือกันรังแกข้า และยังด่าว่าข้าเป็แม่ไก่แก่ออกไข่มิได้อีก ทุกหนที่ข้าได้ยินพวกท่านพูดเื่ลูก ข้าเ็ปใจยิ่งนัก ข้ามิมีลูกก็เสียใจมากอยู่แล้ว พวกท่านยังมาซ้ำเติมกันอีก หวังว่าั้แ่นี้ต่อไป พวกเราจะละทิ้งอดีต ใช้ชีวิตกันดีๆ และเป็ครอบครัวที่รักใคร่ซึ่งกันและกันนะเ้าคะ” พานซื่อเอ่ยออกมาด้วยความโกรธเคือง นางเองก็มิพอใจในตัวเฉินซื่อและซย่าตงชิงเช่นกัน
“น้องสะใภ้สาม ข้าขอโทษเ้าด้วย จากนี้ข้าจะมิพูดเช่นนั้นแล้ว” ซย่าตงชิงตระหนักถึงความผิดของตนเอง นางลุกขึ้นโค้งขอโทษพานซื่อ นางคิดว่าทุกคนต่างก็เป็สตรีจะมาแขวะกันเองด้วยเหตุใด
“น้องสะใภ้สาม ข้าผิดไปแล้ว” หลังจากที่ซย่าตงชิงขอโทษเสร็จ เฉินซื่อก็ขอโทษพานซื่อต่อ
จิ่นเซวียนและซ่งจื่อเฉินรู้สึกดีใจ เมื่อเห็นพวกเขากลับใจ จิ่นเซวียนและซ่งจื่อเฉินชนะเดิมพันแล้ว
“พี่ชายพี่สะใภ้ทุกท่าน พวกเราทุกคนต่างก็เคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือพวกเรารู้จักแก้ไขมัน จากนี้พวกเราก็อย่าไปคิดถึงอดีตเลย ใช้ชีวิตดีๆ ของพวกเราเถิดเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าทุกคน และส่งยิ้มบางให้พวกเขา
“เซวียนเซวียนเอ๋ย จากนี้พวกเราฟังเ้า” ซ่งหวาในฐานะพี่ชายคนโต เขาสนับสนุนจิ่นเซวียน ผู้อื่นก็มิคัดค้าน บ้านหลังนี้นอกจากซ่งเป่าจูแล้ว ก็มิมีผู้ใดที่มิพอใจจิ่นเซวียนอีก
“พี่ชายพี่สะใภ้ทุกท่าน เมื่อครู่ที่ข้ากับจิ่นเซวียนออกไปเดินเล่นกัน พวกเราก็คิดหาหนทางทำเงินกันได้แล้ว พวกเราตัดสินใจว่าจะทำสามเื่ใหญ่ก่อนขึ้นปีใหม่ อย่างแรกคือส่งอาเจี๋ยกับอาฉีไปเรียนหนังสือในอำเภอเมือง อย่างที่สองคือเปิดร้านค้า เพื่อหาเงิน อย่างที่สามคือจัดซื้อที่นา ส่วนจะดำเนินการอย่างไร ต้องอาศัยความร่วมมือจากพวกท่านด้วยขอรับ”
“สามเื่ที่พวกเ้าพูดถึงมิใช่เื่เล็ก ค่าใช้จ่ายเองก็มากยิ่งนัก” ซ่งหวาถอนหายใจ จะเปิดร้านค้าจำเป็ต้องใช้เงินจำนวนมาก ต่อให้นำโสมคนไปขายก็อาจจะมิพอ
“ร้านค้าของพวกเราเน้นคนรวยเป็หลัก เงินในมือของพวกเราน่าจะเพียงพอแล้ว พวกท่านวางใจ ข้ามิปล่อยให้พวกท่านทำงานเสียเปล่าแน่ ข้าจะแบ่งกำไรให้พวกท่านตามผลงานเ้าค่ะ”
“แบ่งกำไรมีส่วนของข้าด้วยหรือไม่?ข้าจะได้กี่ส่วนหรือเ้าคะ?” ขณะนั้นเองซ่งเป่าจูก็เดินออกมาจากห้องครัว หูนางดี แต่นางมิสนใจเื่อื่น นางสนใจเพียงแค่เื่เงินเท่านั้น
“มิมีส่วนของเ้า” ซ่งจื่อเฉินปรายตามองซ่งเป่าจูอย่างเอือมระอา “หากเ้ามีส่วนร่วมในการดูแลร้าน ร้านมิล้มละลายคงแปลกยิ่งนัก”
พี่ห้าพูดกับนางเช่นนี้ได้อย่างไร นางมิได้ไร้ประโยชน์เสียหน่อย หึ ต้องเป็ซย่าจิ่นเซวียนแน่ ที่พูดถึงนางเสียๆ หายๆ ต่อหน้าพี่ห้า
“เป่าจู พี่ห้าของเ้ามิได้หมายความเช่นนั้น เขาหมายความว่าเ้ามิมีประสบการณ์ทำการค้า ให้เ้าอยู่บ้านเป็คุณหนูใหญ่สบายๆ เมื่อเ้าออกเรือนในวันข้างหน้า เขาก็จะปฏิบัติกับเ้าอย่างดี” จิ่นเซวียนสามารถแบ่งกำไรให้ผู้อื่นได้ แต่มิใช่กับซ่งเป่าจู ในวันข้างหน้า พวกเขาจะเปิดร้านมากกว่าหนึ่งแห่ง มิอาจปล่อยให้คนมิสำคัญเช่นซ่งเป่าจูเข้ามายึดครองทรัพย์สินที่พวกเขาสามีภรรยาแลกมันมาด้วยความยากลำบากหรอก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้