“ค่าคุ้มครองของถนนเส้นหน้าโรงเรียนเยอะมาก” ฮานซานฉางวิเคราะห์
“เยอะกว่าค่าคุ้มครองที่ได้จากสถานีรถไฟอีกเหรอ? ” ฉินหลางส่ายหน้า “น่าจะเป็อย่างอื่น”
“เ้านั่นมัน้าที่จะขายสารเสพติดให้นักเรียนแน่เลย” ฮานซานฉางพูดขึ้นอีก
ฉินหลางส่ายหน้าอีกเช่นกัน “มันไม่สมเหตุสมผล ถ้าแค่้าที่จะขายสารเสพติดอย่างเดียวละก็ นักเรียนไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ดีที่สุด รายจ่ายของพวกเขามีจำกัด และถ้ามีใครมาพบเจอ จะได้รับผลกระทบที่ร้ายแรงมาก”
แค่ดูจากการคาดการณ์ของฉินหลาง ฮานซานฉางก็รู้สึกนับถือเขามากแล้ว ฮานซานฉางพูดในใจอย่างอดไม่ได้ “สมแล้วที่พี่ฉินเป็นักเรียนของโรงเรียนมัธยมชั้นนำ สมองปราดเปรื่องกว่าผมมากจริงๆ ถ้ารู้ั้แ่แรก เมื่อก่อนผมคงจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้นแล้ว”
“พี่ฉิน แล้วพี่คิดว่าซางคุนทำไปเพื่ออะไรล่ะ? ”ฮางซานฉางถามต่อ
“คำถามนี้ ฉันจะไปหาคำตอบที่ชัดเจนเอง” ฉินหลางยิ้มจาง “อีกอย่าง นายมีเบอร์โทรศัพท์ของกระทิงรึเปล่า?”
“มี” ฮานซานฉางตอบด้วยความสงสัย “พี่ฉิน พี่จะถามอะไรกระทิงเหรอ? เขาไม่มีทางบอกพี่แน่นอน”
“ยังไม่ได้ลองจะรู้ได้ยังไง” ฉินหลางหยิบมือถือของฮานซานฉาง โทรไปหากระทิง
“แม่ม ฮานซานฉาง***…”
ทันทีที่รับสาย ก็ได้ยินเสียงกระทิงด่าไม่หยุด แต่เป็การด่าฮานซานฉางไม่หยุด
รอจนกระทิงด่าจบแล้ว ฉินหลางค่อยพูดขึ้น “กระทิง ฉันเองฉินหลาง”
กระทิงเงียบไปทันที สำหรับฉินหลางแล้วเขาค่อนข้างจะจำฝังใจ เพราะถ้าไม่ใช่ฉินหลางแล้วละก็ ตอนนี้เขาคงไม่ต้องมานอนอยู่ในโรงพยาบาลศัลยกรรมกระดูกและข้อแบบนี้
“ฉินหลาง? ฉันจะต้องแก้แค้นนายแน่!” กระทิงพูดอย่างเคียดแค้น
“เชิญตามสบาย” ฉินหลางตอบอย่างไม่ใส่ใจ “กระทิง ถามหน่อย ทำไมซางคุนถึงอยากได้ถนนเส้นหน้าโรงเรียน?”
“มารดามันเถอะ แกคิดว่าฉันมีสมองหมูรึไง ฉันจะบอกแกเหรอ—” คุยผ่านโทรศัพท์ กระทิงยังคงเหิมเกริมเหมือนเดิม
“กระทิง แกมันสมองหมูจริงๆ ด้วย แกพูดแบบนี้เท่ากับกำลังบอกฉันว่า แกรู้สาเหตุ!” พูดจบ ฉินหลางวางสาย แล้วโยนโทรศัพท์คืนให้ฮานซานฉาง “ดูแล้วเ้ากระทิงนี่รู้สาเหตุ”
“แต่เขาไม่มีทางบอกแน่” ฮานซานฉางกล่าว
“เขาจะต้องพูด!” ฉินหลางพูดขึ้นเบาๆ “วันหยุดสุดสัปดาห์ ไหนๆ ก็ว่างอยู่เฉยๆ แล้ว กระทิงอยู่ที่โรงพยาบาลไหน นายรีบไปเช็กให้ฉันหน่อย เดี๋ยวฉันจะเอาดอกไม้ไปเยี่ยมเขาสักช่อ”
ทันทีที่ฮานซานฉางได้ยิน ก็รู้ได้เลยว่าฉินหลางจะเริ่มลงมือแล้ว ทว่าก็แอบรู้สึกเป็ห่วง “ครั้งก่อนกระทิงเพิ่งโดนพี่อัดไป จะต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยแน่ ผมว่า—”
“แค่พวกที่มีฝีมือระดับกระทิง ต่อให้ 18 คนหรือ 80 คนก็ไม่ต่างอะไรจากเดิมหรอก” ฉินหลางยิ้มจางๆ “หรือไม่ เราก็ไปด้วยกัน”
ฮานซานฉางตะลึง ตามมาด้วยความรู้สึกกระตือรือร้น “ดีครับ! ผมจะให้กระทิงกับซางคุนได้รู้ว่า ผมฮานซานฉางไม่ใช่คนที่พวกเขาจะมามีเื่ด้วยได้”
พูดจบ ฮานซานฉางยกเหล้าขึ้นดื่มคำเดียวหมดแก้ว แสดงท่าทีที่ไม่เกรงกลัวความตาย
แน่นอนว่าฮานซานฉางไม่อยากตาย แต่เขาเชื่อมั่นในความสามารถของฉินหลาง
ทั้งสองออกจากประตูร้านคาราโอเกะ พี่เหมาที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูนำเงินที่รีดไถมา 500 หยวนส่งไปถึงมือถึงฉินหลาง “พี่ฉิน นี่คือค่ารถของพี่ครับ”
ฉินหลางรู้ว่าคนขับแท็กซี่ดังกล่าวทำเื่แบบนี้อยู่เป็ประจำ ห้าร้อยนี้ถือเป็การสั่งสอนเขาซึ่งมันก็สมควรแล้ว
“เ้าเหมา ต่อไปหัดตาสว่างกว่านี้หน่อย!” ฮานซานฉางจ้องเ้าเหมาด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม แต่วันนี้เขาไม่มีเวลาสั่งสอนเ้าเหมา ขับรถเก๋งเปิดประทุนไปยังโรงพยาบาลศัลยกรรมกระดูกและข้อเมืองเซี่ยหยาง
20 นาทีผ่านไป รถเก๋งจอดอยู่หน้าร้านดอกไม้ข้างโรงพยาบาล ฉินหลางซื้อดอกเบญจมาศสีขาวสองช่อ เขากับฮานซานฉางประคองดอกไม้คนละช่อ เพื่อเอาไว้บังหน้า เดินอย่างเปิดเผยเข้ามาในแผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาล
ฮานซานฉางเริ่มตระหนก มือข้างหนึ่งประคองช่อดอกไม้เอาไว้ แต่อีกมือหนึ่งเตรียมพร้อมที่จะชักมีดออกมาได้ทุกเมื่อ
“พี่ฉาง ใจเย็นๆ ก่อน เราแค่มาเยี่ยมผู้ป่วย” ฉินหลางหันไปบอกกับฮานซานฉาง
ฮานซานฉางไม่รู้ว่าฉินหลางดูนิ่งสงบขนาดนี้ได้ยังไง เขาไม่กลัว ไม่ตื่นเต้นเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ เหรอ?
ฉินหลางไม่ได้ตื่นเต้นเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ และเขายังหัวเราะร่าเริงตีสนิทกับพยาบาลที่กำลังเข้าเวร ได้หมายเลขห้องของกระทิงมาอย่างราบรื่น จากนั้นจึงเดินไปยังห้องพักผู้ป่วยของกระทิงที่อยู่หน้าบันไดพร้อมกับฮานซานฉาง
ห้องพักผู้ป่วยของกระทิงอยู่ชั้นสี่ เ้านี่ค่อนข้างจะปรนเปรอตัวเองเก่งไม่เบา พักห้องพักผู้ป่วยที่หรูหราที่สุดในโรงพยาบาล แถมยังทิ้งคนไว้บริเวณลิฟต์สองคนเพื่อรักษาความปลอดภัย
ถึงแม้จะมีเพียงสองคน แต่การจะเดินผ่านพวกเขาไปโดยไม่ให้ผิดสังเกตนั้นไม่ใช่เื่ง่ายเลย ทุกวันนี้การติดต่อสื่อสารได้พัฒนาขึ้นมาก เพียงกริ๊งเดียว ก็สามารถตามตัวช่วยกลุ่มใหญ่ๆ มาได้แล้ว
แต่ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ฮานซานฉางเองก็ไม่อยากจะกลับไปมือเปล่าเช่นกัน ในขณะที่จะเดินไปจัดการ กลับโดนฉินหลางเอามือมากดไหล่เอาไว้ “ฉันจัดการเอง”
ฉินหลางเดินประคองดอกไม้เข้าไปในทันที สมุนที่นั่งอยู่เห็นฉินหลางเดินเข้าไป เตรียมพร้อมรีบวางหนังสือพิมพ์ในมือ แล้วลุกขึ้นยืน จับจ้องไปยังฉินหลาง ทว่าฉินหลางกลับไม่ได้หยุดแต่อย่างไร เดินหน้าต่อเรื่อยๆ ผมทองยื่นมือไปหาในช่อดอกไม้ เพื่อดูให้ชัดเจนถึงวัตถุประสงค์ของฉินหลาง ในตอนนี้เองอยู่ๆ ฉินหลางก็ยื่นมือออกมา ปิดปากอันธพาลผมทองไว้อย่างกะทันหัน ยาสลบเข้าไปทางจมูกและปากของเขาทันที
ยาสลบที่ฉินหลางใช้ย่อมเป็ยาสลบชั้นยอดอยู่แล้ว เพียงพริบตาเดียว ผมทองก็สลบไปอย่างรวดเร็ว ฉินหลางวางเขากลับลงไปบนเก้าอี้ดังเดิม จากนั้นก็เอาหนังสือพิมพ์มาปิดหน้าเขาไว้ คนที่ไม่รู้ยังคงคิดว่าอันธพาลผมทองนั่งหลับไปแล้วซะอีก
เห็นการกระทำที่คล่องแคล่ว ว่องไว หมดจดภายในอึดใจเดียว ฮานซานฉางอดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเองในใจ พี่ฉินนี่เก่งจริงๆ พี่ก็คือพี่ ลงมือกระฉับกระเฉง ราวกับดูสุดยอดสายลับในภาพยนตร์อยู่เลย
ฉินหลางจัดการอันธพาลที่อยู่ตรงหน้าลิฟต์อย่างรวดเร็ว แล้วจึงหันมาพยักหน้าให้ฮานซานฉาง เดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยของกระทิง
“แม่ม กระทิง! แกนี่เสพสุขเก่งจริงๆ เลยนะ!” ฮานซานฉางด่ากระทิงที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย “แกคงคิดไม่ถึงว่าบิดาจะมาคิดบัญชีกับแกเองใช่ไหม?”
กระทิงเป่าหูอาหวู่ให้วางยาพิษในเครื่องดื่มของฮานซานฉาง และยังเติมวิตามินซีจำนวนมากลงในอาหารอีก จากนั้นให้คนนั้นที คนนี้ทีเชิญฮานซานฉางไปกินอาหารทะเล เพื่อหลอกตาทุกคนให้เข้าใจว่าฮานซานฉางถูกพิษสารหนูเพราะอาหาร จนเกือบจะต้องจบชีวิต ด้วยเหตุนี้ฮานซานฉางจึงเคียดแค้นกระทิงเอามากๆ แต่ตอนนี้กระทิงได้กลายสภาพมาเป็เสมือนเชลยที่ไร้ทางสู้ ฮานซานฉางกำลังคิดว่าจะทรมานกระทิงอย่างไรดี
ปึง!
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกล็อกจากภายนอก ลูกสมุนคนหนึ่งของกระทิงขวางประตูเอาไว้
ทันใดนั้น ประตูห้องน้ำในห้องพักผู้ป่วยก็เปิดออก อันธพาลสิบกว่าคนที่ถืออาวุธมีดครบมือ เดินเข้ามาล้อมฮานซานฉางกับฉินหลางเอาไว้
“ฮานซานฉาง บิดาคิดไม่ถึงว่าแกจะเป็คนมาเอง!” เสียงของกระทิงดังขึ้น เขาเดินออกมาจากห้องน้ำเป็คนสุดท้าย บนหน้าอกเขามีผ้าผันแผลสีขาวพันอยู่หลายชั้น เพราะก่อนหน้านี้กระดูกซี่โครงของกระทิงโดนฉินหลางถีบหักไปสองท่อน
ฮานซานฉางเห็นท่าทีดังกล่าว ก็รู้ทันทีว่าเขากับฉินหลางตกหลุมพรางของกระทิงแล้ว
กระทิงพูดขึ้นด้วยความสะใจ “ฮานซานฉาง แกนี่มันปัญญาอ่อนจริงๆ ! บิดาขุดหลุมพรางนี้เอาไว้รอฉินหลาง คิดไม่ถึงว่าแกจะปัญญาอ่อนมารนหาที่ตายพร้อมกับมัน แต่ก็ดี จะได้จัดการพวกแกสองคนพร้อมกันไปเลยให้สิ้นเื่สิ้นราว! แกอีกคน ฉินหลาง แกคิดว่าตัวเองเป็ ‘บรูซ ลี’ รึไง เป็กังฟูนิดๆ หน่อยๆ คิดว่าตัวเองแน่มากนักเหรอ! บิดาเพียงแต่ขุดหลุมพรางจัดฉากหลอกแก ตามแบบในภาพยนตร์ ก็สามารถหลอกไอ้หน้าโง่ทั้งสองคนอย่างพวกแกให้มาติดกับได้แล้ว”
“กระทิง พวกเราเอาดอกไม้มาเยี่ยมแก” แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้ ฉินหลางก็ยังคงนิ่งสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีความกังวลให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว “ดอกเบญจมาศสีขาวทั้งสองช่อนี้ เชิญรับไว้ด้วย”
“มารดามันเถอะ ดอกเบญจมาศสีขาวเขาเอาไว้ให้คนตาย พวกแกเก็บเอาไว้ให้ตัวเองเถอะ!” กระทิงสบถด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ
ฟิ้ว!
จู่ๆ ชายที่สวมรอยเป็กระทิงที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย กระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน ในมือถือมีดโค้งฟันไปที่หลังของฉินหลางอย่างแรง
ฉินหลางระวัง ‘ตัวปลอม’ ที่นอนอยู่บนที่นอนไว้ั้แ่แรกแล้ว ได้ยินเสียงลม ก็รู้แล้วว่ามันเริ่มลงมือแล้ว ในจังหวะที่คู่ต่อสู้กำลังกระโจนอยู่กลางอากาศนั่นเอง ฉินหลางได้หันหลังกลับอย่างกะทันหัน ถีบออกไปด้วยความเร็วแรงราวกับสายฟ้าฟาดไปบนหน้าท้องของมัน
ปึง!
คนที่เข้ามาลอบทำร้ายโดนฉินหลางถีบลอยออกไป แขนขาชี้ลงลำตัวโก่งโค้งเป็รูปตัว U กระแทกกับเพดาน้า แล้วจึงตกลงมาบนเตียงผู้ป่วยอย่างแรง กระดูกทั่วทั้งร่างกายของเ้านี่เคลื่อนหลุดออกจากกัน ทำได้เพียงนอนร้องครวญครางอยู่บนเตียงผู้ป่วย แม้แต่มีดยังจับไม่อยู่ ร่วงลงบนพื้น
“เก่งเกิน!”
ครั้งนี้ฮานซานฉางได้เห็นฉินหลางเอาจริงแล้ว คิดไม่ถึงว่าฉินหลางจะบ้าพลังขนาดนี้ แค่การถีบธรรมดาๆ ก็ยังทำเอาผู้ชายตัวโต ที่หนักเกือบสองร้อยกิโลลอยขึ้นไปกระแทกกับเพดานได้ เมื่อเห็นฝีมือของฉินหลาง ความมั่นใจของฮานซานฉางก็ทวีคูณขึ้นมา ตรงกันข้ามกับคนของฝั่งกระทิง ที่ใกลัวจนไม่มีใครกล้าพุ่งเข้าไปโจมตี
“เยี่ยม!” กระทิงสบถพลางหัวเราะเยาะ “ฉินหลาง เก่งจริงๆ ด้วย ไม่น่าล่ะถึงได้โอหังขนาดนี้! แต่แกดันมาเป็ศัตรูกับคนอย่างฉัน เป็ศัตรูกับกระทิง เพราะฉะนั้นไม่ว่ายังไงวันนี้แกก็ต้องตายแน่นอน! แกเก่งมากไม่ใช่เหรอ แม่ม! อยากรู้นักว่าจะเก่งพอที่จะกันะุปืนได้หรือเปล่า!”
พูดจบ กระทิงก็หยิบปืนพกสีดำที่เหน็บอยู่ที่ขอบกางเกงด้านหลังออกมา
ฮานซานฉางหน้าถอดสีในทันที เขาเห็นแล้วว่าปืนกระบอกนี้ของกระทิงเป็ปืนแบบประกอบ แต่ความรุนแรงแทบจะไม่ต่างจากปืนจริงเลย รีบพูดขึ้นว่า “กระทิง! แกบ้าไปแล้วเหรอ! กฏของวงการนี้ ไม่ใช้ปืน แม่ม! แกอยากจะให้ตำรวจแห่กันมารึไง!”
“ปัญญาอ่อน! ฮานซานฉาง นี่แหละที่เป็ตัวกำหนดแล้วว่าพวกแกจะต้องโดนพวกฉันแทนที่!” กระทิงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันฆ่าพวกแกสองคนตายตรงนี้ แล้วหาลูกน้องพิการในแก๊งสักคนมารับผิด เข้าไปติดคุกแทนฉันซะก็สิ้นเื่แล้ว พวกแกยังปัญญาอ่อนคิดว่าตอนนี้ยังเป็ยุคที่อาศัยแค่กำปั้นอย่างเดียวอยู่อีกหรือไง!”
“กระทิง! แกต่างหากที่ปัญญาอ่อน—ดอกเบญจมาศสีขาวสองช่อนี้หอมมากใช่มั้ย?” ฉินหลางยิ้มจางๆ
ทันทีที่ฉินหลางพูดจบ กระทิงก็เห็นคนรอบข้างล้มลงทีละคนทีละคน เหมือนกับคนเมาอย่างไรอย่างนั้น หลังจากนั้น กระทิงก็รู้สึกเหมือนโลกหมุนวนวนมาอีก ร่างกายไม่ฟังคำสั่งและร่วงลงไปกองกับพื้น
“พี่ฉิน พี่นี่เก่งจริงๆ เลย—” ฮานซานฉางรู้สึกนับถือฉินหลางจากใจ แต่คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเริ่มเอนไหวตัวไปมา เหมือนกำลังจะล้มลงเช่นกัน
ฉินหลางรีบหยิบยาเม็ดหนึ่งใส่เข้าไปในปากฮานซานฉาง ยิ้มพลางกล่าวขึ้น “อาฉาง นายจะล้มลงไม่ได้นะ ยังมีเื่ดีๆ ต้องทำอีก”