“จางเหมยหัวหน้าเลขาของพี่ชายเธอ” ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกแปลกใจ “เธอไม่รู้จัก?”
“ฉันเคยไปบริษัทพี่แค่ไม่กี่ครั้งนอกจากเสี่ยวตงผู้ช่วยของเขา ฉันก็ไม่รู้จักใครเลยอีกอย่างพี่ชายฉันเปลี่ยนเลขาออกจะบ่อย”
พูดจบ อยู่ๆ ูเี่อันก็หันหน้ามองลู่เป๋าเหยียน
“ว่าแต่นักธุรกิจแบบพวกนายนี่ชอบหาเลขาสาวๆ สวยๆ กันงั้นเหรอ”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม“พรุ่งนี้เธอตามฉันไปที่บริษัทเดี๋ยวก็รู้”
เหอะูเี่อันกระแทกเสียงก่อนจะเดินขึ้นรถบริการไปกับลู่เป๋าเหยียน
“สวัสดีค่ะ ผอ.ลู่”จางเหมยทักทายลู่เป๋าเหยียนอย่างมีมารยาทจากนั้นจึงโค้งศีรษะลงเล็กน้อยใหู้เี่อัน “สวัสดีค่ะคุณหนูซู ดิฉันชื่อจางเหมยเป็เลขาของผอ.ซูค่ะ”
ูเี่อันปรายตามองซูอี้เฉิงหนึ่งทีดูท่าเขาคงไม่คิดจะแนะนำจางเหมยให้เธอรู้จัก
แต่ก็ไม่แปลกหลายปีมานี้พี่ชายเธอเปลี่ยนแฟนมาก็หลายคนนอกเสียจากเวลาที่เธอบังเอิญเจอเขากับแฟนสาวตอนกำลังเดตกันเขาไม่เคยคิดจะแนะนำพวกเธอให้รู้จักเลยไม่แม้แต่จะบอกอีกฝ่ายด้วยซ้ำว่าเธอคือน้องสาวของเขา
ไม่รู้ว่าเพราะเขาสนใจที่เธอเป็เพื่อนกับลั่วเสี่ยวซีหรือเพราะเขาคิดว่าไม่จำเป็ต้องแนะนำให้มากความกันแน่
แต่การที่เป็แบบนี้มันทำให้เธอกลับยิ่งสบายใจเพราะอย่างน้อยก็หมายความว่า หญิงสาวที่กำลังเดตกับเขาอยู่ในตอนนี้ไม่มีทางมาเป็พี่สะใภ้ของเธออย่างแน่นอน
ส่วนคุณจางเหมยคนนี้บรรยากาศระหว่างเธอกับซูอี้เฉิงไม่ได้ดูสนิทสนมแต่ก็ไม่ได้เหินห่างเท่าที่เธอวิเคราะห์จากนิสัยของพี่แล้ว เขากับจางเหมยคงไม่ใช่แค่เลขากับเ้านายธรรมดาแต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาถึงขั้นไหนแล้ว
ูเี่อันยิ้มและตอบอย่างมีมารยาท
“สวัสดีค่ะคุณจางเรียกฉันว่าเจี่ยนอันก็ได้ค่ะ”
รถบริการเริ่มเคลื่อนตัวเพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามเทนนิส
อากาศบนยอดเขาช่างสดชื่นบริสุทธิ์เมื่อทอดสายตาออกไป ก็จะเห็นภาพของทิวเขาที่เรียงตัวไล่ระดับสูงต่ำและป่าไม้สีเขียวขจีที่อยู่รายล้อม
รถค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านแมกไม้เขียวชอุ่มนานๆ ทีจะมีแสงแดดสีทองอ่อนสาดส่องเล็ดลอดผ่านใบไม้ลงมา สายลมที่พัดผ่านไม่มีความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอีกต่อไปแต่ในขณะนี้กลับเต็มไปด้วยบรรยากาศของฤดูร้อนที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น
ณสนามเทนนิสกลางแจ้งขนาดใหญ่คนที่มาถึงก่อนต่างนั่งรออยู่ใต้ร่มกันแดดพลางคุยกันฆ่าเวลา
เสิ่นเยว่ชวนมู่ซือเจวี๋ย ผู้จัดการของ HC กับคู่ควงของเขา และ...ฉินเว่ยกับลั่วเสี่ยวซี
รถบริการจอดลงที่หน้าทางเข้าสนามเทนนิสชายหนุ่มทั้งสองลงจากรถก่อนจากนั้นจึงยื่นมือมาประคองคู่ควงของตนอย่างเป็สุภาพบุรุษูเี่อันจับมือลู่เป๋าเหยียนแน่น พลางส่งสายตาทำนองว่าอย่าเพิ่งไปให้กับเขา
เธออยากรู้ว่าถ้าพี่ชายเห็นลั่วเสี่ยวซีอยู่กับฉินเว่ยจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
เมื่อซูอี้เฉิงกวาดสายตามองไปรอบๆเขาก็เห็นลั่วเสี่ยวซีกับฉินเว่ยที่นั่งอยู่ด้วยกัน ไม่รู้ว่าฉินเว่ยกำลังพูดอะไรคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างลั่วเสี่ยวซีถึงได้หัวเราะเสียงดังพลางตีไหล่ฉินเว่ยเบาๆจากนั้นจึงก้มตัวลงกระซิบข้างหูเขาอย่างสนิทสนม ดูอย่างไรทั้งสองคนก็ไม่เหมือนคนที่เป็แค่เพื่อนกันเท่านั้น
การร่วมมือกันระหว่างตระกูลลั่วกับตระกูลฉินเื่ที่ทายาทของทั้งสองตระกูลกำลังเริ่มต้นพัฒนาความสัมพันธ์กันนั้น ซูอี้เฉิงเองก็ได้ยินมาบ้าง
แต่เมื่อได้มาเห็นกับตาแววตาของเขากลับเปี่ยมไปด้วยความเย้ยหยันประชดประชัน
จางเหมยยิ้มพลางพูดว่า“ท่าทางคุณชายตระกูลฉินกับคุณลั่วจะเข้ากันได้ดีนะคะ”
ซูอี้เฉิงยกมุมปากแย้มยิ้มอย่างไม่ตอบรับหรือปฏิเสธเขาเบนสายตาออกจากภาพตรงหน้าราวกับไม่ได้ใส่ใจอะไร จากนั้นจึงเดินเข้าสนามเทนนิสไป
ูเี่อันเห็นดังนั้นก็มึนตึ้บเธอคล้องแขนลู่เป๋าเหยียนโดยไม่รู้ตัว
“พี่ชายฉันทำแบบนี้...หมายว่ายังไงอ่ะ?”
ที่ซูอี้เฉิงออกปากของร้องลู่เป๋าเหยียนให้รับลั่วเสี่ยวซีเข้าสังกัดเพื่อทำให้ความฝันที่จะเป็นางแบบของลั่วเสี่ยวซีเป็จริงนั่นก็เพราะแคร์ความรู้สึกของลั่วเสี่ยวซีไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมพอเห็นลั่วเสี่ยวซีกับฉินเว่ยคุยกันจี๋จ๋าขนาดนั้นกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยล่ะ?
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มบาง“คนอย่างพี่ชายเธอ ถึงใบหน้าจะไม่แสดงออก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในจะไม่รู้สึกอะไรเข้าใจไหม”
ูเี่อันมองลู่เป๋าเหยียนอย่างงุนงงเธอพยักหน้า แต่แล้วก็ส่ายหน้า
“เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจอ่ะ”
ลู่เป๋าเหยียนถอนหายใจ“อีกหน่อยเธอจะเข้าใจเอง”
ูเี่อันยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจและเดินตามลู่เป๋าเหยียนเข้าสนามไป ไม่ว่าเธอจะเข้าใจหรือไม่ซูอี้เฉิงก็คงไม่ฟังคำเตือนของเธออยู่ดี
ในสนามลั่วเสี่ยวซีเองก็เห็นซูอี้เฉิงกับจางเหมยแล้ว แต่เธอก็แค่รู้สึกแปลกใจที่เขาก็มาที่นี่เธอยังคงพูดคุยยิ้มแย้มกับฉินเว่ยราวกับไม่สนใจว่าเขาจะเปลี่ยนคู่ควงคนใหม่อีกแล้วแม้แต่ปรายตามองซูอี้เฉิงอีกสักนิดเธอก็ไม่ทำ
ทั้งที่ถ้าเป็เมื่อก่อนเธอคงหาโอกาสเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างแน่นอน
ฉินเว่ยเองก็รู้สึกแปลกใจเขายิ้มพลางเล่นละครทำเป็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานพลางพูดเสียงต่ำ
“รู้หรือเปล่าว่าคนที่ซูอี้เฉิงพามาด้วยคือใครเธอคนนั้นเป็หัวหน้าเลขาคนใหม่ของเขา อืม...สวยเหมือนกันนะเนี่ย”
“ชิ”ลั่วเสี่ยวซีสะบัดเสียงพลางปอกเปลือกพิสตาชิโอ “ฉันี้เีจะมองถึงจะเปลี่ยนอีกกี่คนก็มาสไตล์เดิมเหมือนกับสูทของเขานั่นแหละ เปลี่ยนแค่เปลือกนอกไส้ในก็เหมือนเดิม”
ฉินเว่ยหัวเราะเสียงดัง
ลั่วเสี่ยวซีพูดต่อ“จะว่าไป ถ้าเป็เื่ควงสาว ซูอี้เฉิงเทียบนายไม่ติดเลยนายนี่ั้แ่แนวโลลิคอนยันสาวแม่ม้าย นางพยาบาลยันแอร์โฮสเตส สาวน้อยแอ๊บแบ้วยันสาวใหญ่รุ่นพี่สไตล์ไม่เคยซ้ำกันเลย แต่เขากลับชอบแต่แนวผู้หญิงเก่งที่รู้จักออดอ้อนนายว่าเขาไม่เบื่อบ้างหรือไง”
ฉินเว่ยปอกเปลือกพิสทาชิโอแล้วส่งให้ลั่วเสี่ยวซี
“อย่าไปว่าเขาแบบนั้นเขานี่ระดับเทพเลยนะผู้หญิงเก่งที่รู้จักออดอ้อนคือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสาวน้อยแอ๊บแบ้วกับสาวทำงานเก่งเขาคบแค่คนเดียว แต่ได้ััรสชาติที่หลากหลาย แถมยังได้เลขาไว้ใช้งานอีก แหมยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวสมแล้วที่เป็นักธุรกิจหนุ่มมือฉกาจความสามารถเทียบเคียงกับลู่เป๋าเหยียน”
กรุบ!ลั่วเสี่ยวซีเคี้ยวพิสทาชิโอขณะเงยหน้ากวาดตามองไปทางอื่นอย่างไม่สนใจสิ่งที่ฉินเว่ยได้กล่าว
ที่จริงเธอก็เริ่มชินชาแล้วสิบกว่าปีมานี้ ซูอี้เฉิงเปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้า เธอเองก็เคยเจอพวกเธอมาเกือบหมดแต่ถ้าจะให้มานั่งเสียใจทุกครั้งที่เจอแล้วล่ะก็ หัวใจเธอคงช้ำในตายไปแล้ว
เสิ่นเยว่ชวนเห็นทุกคนมากันครบแล้วจึงลุกขึ้นมาวอร์มอัพยืดกล้ามเนื้อ
“เริ่มเล่นกันเถอะ”
ูเี่อันดึงชายเสื้อลู่เป๋าเหยียน“ช่วยจัดให้คู่พี่ชายฉันแข่งกับคู่ของเสี่ยวซีได้หรือเปล่า”
ลู่เป๋าเหยียนรู้ดีว่าูเี่อันกำลังคิดจะทำอะไร
“ฉันได้ยินมาว่าพี่ชายเธอกับเลขาของเขาเล่นเทนนิสไม่เลวเลย”
“อื้อ งั้นยิ่งน่าสนุก”ูเี่อันยิ้ม “ลั่วเสี่ยวซีเองก็เล่นเทนนิสเก่งมากถ้าพวกเขาแข่งกันต้องมันส์แน่ๆ! เสี่ยวซีคงไม่อ่อนข้อให้จางเหมยแน่นอน”
ลู่เป๋าเหยียนทำตามที่เธอบอกแมตช์แรกจึงเป็การแข่งขันระหว่างคู่ของเขากับูเี่อันและเสิ่นเยว่ชวนกับมู่ซือเจวี๋ย
เสิ่นเยว่ชวนหยิบแร็กเกตขึ้นมาพลางปรายตามองูเี่อัน
“พวกเราสองคนแข่งกับพวกนายจะดูไม่ยุติธรรมหรือเปลา”
ูเี่อันพยักหน้าเห็นด้วย“ไม่ยุติธรรมสุดๆ เลย”
“ใช่มะ”เสิ่นเยว่ชวนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ที่จริงผม...”
ูเี่อันตบไหล่เสิ่นเยว่ชวนเบาๆเสิ่นเยว่ชวนนึกว่าเธอจะบอกเขาว่าไม่เป็ไร แต่เธอกลับพูดขึ้นว่า
“งั้นฉันคงต้องขอโทษคุณไว้ก่อนละกันนะ”
พูดจบเธอก็วิ่งจากไปเสิ่นเยว่ชวนนิ่งงันไปสักพักแล้วถึงเข้าใจว่า ที่แทู้เี่อัน้าบอกว่าคนที่จะรู้สึกไม่ยุติธรรมคือเขากับมู่ซือเจวี๋ย!
ให้ตายเห็นหน่วยก้านของมู่ซือเจวี๋ยแล้ว เธอยังไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน!
ูเี่อันยื่นแร็กเกตให้ลู่เป๋าเหยียนจากนั้นจึงเริ่มปรึกษากันว่าใครจะคุมโซนไหน ลู่เป๋าเหยียนไม่คัดค้าน
“เอาตามที่เธอว่า”
“นายเชื่อใจฉัน?” ูเี่อันพูดกึ่งล้อเล่น“เกิดแผนฉันพลาดขึ้นมาล่ะ?”
“พลาดก็ไม่เป็ไร”ลู่เป๋าเหยียนพูดอย่างสบายอารมณ์ “เพราะฉันเก่ง”
“...”นี่ใช่ไหมที่เรียกว่ากร่าง!?
เสียงนกหวีดดังขึ้นให้สัญญาณเริ่มการแข่งขันลูกเทนนิสสีเขียวลอยวาดเส้นโค้งไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกคนต่างคิดว่าเสิ่นเยว่ชวนและมู่ซือเจวี๋ยคงชนะคู่สามีภรรยาลงได้อย่างสบายๆ ทว่าหลังการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นได้ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มรู้สึกว่าชัยชนะจะเป็ของใครนั้นยังไม่แน่นอน
นั่นก็เพราะว่าลู่เป๋าเหยียนกับูเี่อันเล่นเข้าขากันได้ดีเหลือเกิน
ถึงเื่พละกำลังทางเสิ่นเยว่ชวนและมู่ซือเจวี๋ยจะได้เปรียบแต่ลู่เป๋าเหยียนเองก็ไม่น้อยหน้า เื่เทคนิคแล้วเขาทำได้ดีกว่าสองคนนั้นอยู่เล็กน้อยแถมพวกเขาเองก็ไม่กล้าตีลูกแรงๆ ใสู่เี่อันเพราะเกรงใจที่เธอเป็ผู้หญิงส่วนูเี่อันเองเทคนิคก็ไม่เป็สองรองใคร เธอแรงเยอะกว่าผู้หญิงทั่วไปอยู่มากและที่ร้ายที่สุดคือ เธอกับลู่เป๋าเหยียนเล่นเข้าคู่กันได้ดีราวปาฏิหาริย์
การแข่งขันดำเนินไปได้ครึ่งชั่วโมงกว่าทั้งสองคนแบ่งกันรับซ้ายขวาหน้าหลังอย่างชัดเจนแต่เมื่อลูกตกลงตรงกลางคอร์ทลู่เป๋าเหยียนและูเี่อันก็ผลัดกันรับโดยไม่แย่งลูกกันแม้แต่ครั้งเดียวราวกับต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าใครจะเป็คนออกไปรับลูกนั้น
ขณะที่ทางด้านของเสิ่นเยว่ชวนและมู่ซือเจวี๋ยไม่ว่าลู่เป๋าเหยียนกับูเี่อันจะตีลูกที่รับยากแค่ไหนพวกเขาก็รับได้หมดแต่ดันชอบแย่งตีลูกกันเอง ทำให้พลาดเสียคะแนนไปหลายครั้ง
เมื่อการแข่งขันครึ่งแรกจบลงชายหนุ่มร่างโตทั้งสองกลับเป็ฝ่ายตามหลัง พวกเขาโยนลูกเทนนิสให้พนักงานข้างสนามจากนั้นก้มตัวกุมเข่าหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยผิดกับทางด้านลู่เป๋าเหยียนที่ดูสบายๆ
“เหนื่อยไหม”ลู่เป๋าเหยียนรับแร็กเกตจากูเี่อันส่งให้พนักงานและรับขวดน้ำเปล่าที่มีคนยื่นมาเปิดขวดส่งใหู้เี่อัน
“ฝีมือของคุณนายลู่ทำให้ผมแปลกใจ”
“คุณนายลู่เองก็ขอชื่นชมคุณลู่นะคะว่าเล่นได้ไม่เลวทีเดียว” ูเี่อันยิ้ม จากนั้นจึงยกน้ำขึ้นดื่มไปหลายอึกเธอสังเกตเห็นเหงื่อที่ไหลลงมาตามแนวหน้าผากของเขา
“นายเหงื่อออก”
เธอหยิบผ้าขนหนูจากนั้นจึงใช้มันซับเหงื่อให้กับลู่เป๋าเหยียน
ผ้าขนหนูสี่เหลี่ยมจัตุรัสผืนเล็กค่อยๆซึมซับหยดเหงื่อบนหน้าผากของเขาการกระทำของเธอดูเป็ธรรมชาติราวกับเคยทำแบบนี้มานับล้านครั้งลู่เป๋าเหยียนถึงกับนิ่งงัน เขามองสีหน้าจริงจังของเธอ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกดีอย่างประหลาด
คนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเสิ่นเยว่ชวนถึงกับทนไม่ไหว
“พวกนายสร้างความบอบช้ำให้ฉันยังไม่พอชนะในเกมก็แล้วไป แต่นี่ยังจะมาโชว์สวีทหวานต่อหน้าฉันอีกเรอะ!”
คนที่นั่งชมอยู่ข้างสนามอย่างซูอี้เฉิงถึงกับถอนหายใจพลางบ่น
“ที่เขาว่ากันว่าลูกสาวมักจะเป็ของคนอื่นท่าจะจริง เจี่ยนอันเล่นเทนนิสกับฉันมาตั้งหลายครั้งแต่เธอไม่เคยช่วยเช็ดเหงื่อให้ฉันสักครั้งเลย”
มีเพียงูเี่อันเท่านั้นที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตนกำลังใกล้ชิดกับลู่เป๋าเหยียนมากแค่ไหนเธอค่อยๆ เช็ดเหงื่อให้เขาทุกซอกทุกมุม เมื่อเช็ดเสร็จแล้วจึงพูดว่า
“เริ่มแข่งครื่งหลังกันเถอะ”
ลู่เป๋าเหยียนหยิบแร็กเกตจากนั้นจึงให้สัญญาณสลับฝั่งกับมู่ซือเจวี๋ย ขณะที่พวกเขาเดินสวนกัน ลู่เป๋าเหยียนก็ได้รับสายตาริษยาอาฆาตจากเสิ่นเยว่ชวนมาเต็มๆ
เขายกมุมปากยิ้มอิจฉาริษยาแล้วได้อะไร?
อิจฉาไปก็ไม่ได้เมียมานอนกอดสักหน่อย
ครึ่งหลังทางมู่ซือเจวี๋ยและเสิ่นเยว่ชวนเล่นเข้าขากันดีมากขึ้นพวกเขาแย่งลูกกันน้อยลง ทว่าทางูเี่อันกับลู่เป๋าเหยียนเองยิ่งเล่นก็ยิ่งเข้าคู่กันได้ดีพวกเขาสบตากันเป็ครั้งคราวขยันสร้างาแทางจิตใจให้กับเสิ่นเยว่ชวนอย่างไม่หยุดหย่อน สุดท้ายชายหนุ่มร่างโตทั้งสองจึงพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย
“พวกเราชนะแล้ว?”ูเี่อันมองลู่เป๋าเหยียนอย่างไม่อยากเชื่อ “ชนะแล้วจริงๆ งั้นเหรอ?”
เธอคาดหวังไว้ว่าอย่างดีที่สุดพวกเธอคงทำได้แค่เสมอแต่สุดท้ายพวกเธอกลับเอาชนะสองคนนั้นได้
ลู่เป๋าเหยียนลูบหัวเธอเบาๆจากนั้นจึงให้คำยืนยัน
“พวกเราชนะแล้ว”
ูเี่อันพุ่งเข้าไปกอดลู่เป๋าเหยียนอย่างดีใจลู่เป๋าเหยียนอึ้งไป จากนั้นจึงยิ้มออกมาและกอดตอบคนที่กำลังดีใจสุดๆ ตรงหน้า
“เฮ้ๆๆ”เสิ่นเยว่ชวนปิดตา “ให้ตายฉันก็จะไม่แข่งกับพวกนายอีกแล้ว”
“ฉันว่ามันแปลกๆ”มู่ซือเจวี๋ยมองูเี่อันพลางกล่าว“เธอดูไม่เหมือนคนที่แต่งงานกับลู่เป๋าเหยียนเพื่อผลประโยชน์สักนิดเธอดูบริสุทธิ์ใจกับลู่เป๋าเหยียนขนาดนี้ อีกหน่อยร้านสาขาเมือง A ของฉันจะต้อนรับแต่คนแบบเธอเท่านั้น”
“ถ้าไม่พูดนี่ฉันคงลืมไปเลยว่ามีเื่จะถามนายทำไมอยู่ๆ ถึงคิดจะเปิดร้านสาขาที่เมือง A? ร้านดั้งเดิมของนายอยู่ที่เมือง G นายเคยบอกว่าไม่คิดจะหาเงินจากธุรกิจนี้นี่” เสิ่นเยว่ชวนถามอย่างข้องใจ
“หาเงินอะไรขาดทุนชัวร์ๆ” มู่ซือเจวี๋ยยิ้มเย็น “แค่เพราะเมียบอกว่าชอบกินคนบางคนเลยสั่งให้ฉันเปิดร้านสาขาที่เมืองนี้น่ะสิ ทำเลเขาหาขาดทุนเขาก็ยอมช่วยโปะ”
“พอๆๆ”เสิ่นเยว่ชวนกุมขมับ “ถ้านายพูดต่อฉันคงได้กระอักเืตายแน่ๆ!”
