ไป๋หลี่ชางอยากร้องไห้
นับั้แ่ครั้งแรกที่เขาได้พบกับหลัวเลี่ย ชีวิตของเขาก็เริ่มมีความไม่แน่นอน และแม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์มากมายแต่เขาก็ไม่สามารถทนต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะเื่ที่ผู้าุโใหญ่เหยียนอู่ซู่พูด หากหลัวเลี่ยเห็นด้วย เขาคงตกที่นั่งลำบากแล้ว และเมื่อคิดถึงศักยภาพของหลัวเลี่ยอีกครั้ง เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าอนาคตของเขามืดมนแล้ว
ความก้าวหน้าในการฝึกฝนวิชามหาหลุนิที่ไปถึงระดับถ่องแท้ของหลัวเลี่ยและประกอบกับระยะเวลาฝึกฝนเพียงสั้นๆ นี้ทำให้ผู้คนตื่นเต้นมาก ดังนั้นผู้าุโจากตำหนักเซียหยาง เมืองเฉียงเฮ่อ เผ่าั และผู้าุโคนอื่นๆ จึงเทียบเชิญและมอบข้อเสนอต่างๆ ให้หลัวเลี่ย
และผู้ที่ไม่ได้แสดงท่าทีแบบนั้นก็คือหลิวจื่ออั๋งจากหอเซียวเหยา
หลัวเลี่ยไม่เคยคาดหวังว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
เดิมทีเขาคิดว่ากลุ่มอินทรีดำสิบสามคน นักดาบทั้งเจ็ด และเลี่ยหงหยุนจะลงมือกับเขา ใครจะคิดว่าตอนนี้แม้แต่หอการค้าฟ้านเทียนก็เปลี่ยนท่าทีจากหน้ามือเป็หลังมือ
เมื่อพิจารณาคำเชิญจากกองกำลังที่ทรงพลังมากมายนี้แล้ว หลัวเลี่ยไม่ได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย และเขาก็ไม่มีความสนใจที่จะเขาร่วมกับกองกำลังใด
“ทุกท่าน ข้อเสนอของทุกท่านกะทันหันเกินไป ข้าไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์เช่นนี้เลย ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถตัดสินใจได้ในตอนนี้ ขอเวลาให้ข้าทบทวนเื่นี้หน่อยเถิด”
ผู้าุโจากเผ่าัพยักหน้าและพูดว่า “ถูกต้อง เ้าไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ เ้าต้องคิดให้รอบคอบ” เขาเขียนบางอย่างลงบนกระดาษแล้วโยนให้หลัวเลี่ย “นี่คือข้อเสนอจาก เผ่าัของข้า”
หลัวเลี่ยหยิบมันขึ้นมาและเหลือบมอง ข้อเสนอในนั้นเป็ข้อเสนอที่ดึงดูดใจผู้คนมาก หนึ่งในข้อเสนอนั้นคือหากฝึกฝนพลังไปจนถึงระดับแก่น์ได้แล้วจะสามารถแต่งงานกับองค์หญิงแห่งเผ่าัและถือเป็คนของเผ่าัโดยแท้จริงได้
เมื่อเห็นแบบนี้ คนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยเขียนข้อเสนอของพวกเขา
เมื่อพวกเขาไม่พูด และทำได้แค่เขียน จึงหมายความว่ามีแค่หลัวเลี่ยที่จะรู้ข้อเสนอทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงเขียนข้อเสนอที่น่าดึงดูดมากขึ้น
หลังจากนั้นแผ่นกระดาษก็ลอยมาหาหลัวเลี่ยที่ละแผ่น
หลัวเลี่ยรับข้อเสนอทั้งหมดไว้และแสดงความขอบคุณทุกคน
“ท่านอ๋องน้อย จวนของข้าทำความสะอาดเสร็จแล้ว” ท่านราชครูแห่งเมืองจินหลานเดินเข้ามา
“จวนของท่านราชครูไม่เหมาะที่คนอย่างข้าจะพักอาศัยอยู่ ก่อนหน้านี้ถือได้ว่าข้ารบกวนท่านแล้ว” หลัวเลี่ยพูดอย่างนิ่งสงบ เขาจำได้ถึงท่าทีของคนในจวนนั้นตอนที่เขาเดินทางออกจากจวนของราชครู คนรับใช้พวกนั้นหากไม่ได้รับคำสั่งจากเ้านายจะกล้าแสดงออกเช่นนั้นหรือ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจของท่านราชครูซาเฉียนหลี่ และหลัวเลี่ยก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนแบบนี้
เมื่อราชครูซาเฉียนหลี่ได้ยินคำพูดของหลัวเลี่ย เขาก็เต็มไปด้วยความขมขื่น มันขมยิ่งกว่ากินหวงเหลียนเข้าไปเสียอีก(หวงเหลียนเป็สมุนไพรจีนที่มีรสขมที่สุด)
เดิมทีเขาควรจะเป็คนที่มีโอกาสมากที่สุดในการผูกมิตรกับหลัวเลี่ย และก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของเขากับหลัวเลี่ยก็ค่อนข้างดีมาโดยตลอด แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจท่านอ๋องน้อยหลัวเลี่ยจากเมืองที่อ่อนแอมากนัก แต่เขาก็ไม่ได้เสียมารยาทอะไรออกไป
แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่หอการค้าฟ้านเทียนพุ่งเป้าไปที่หลัวเลี่ย ทำให้เขากลัวที่จะโดนหางเลขไปด้วย ดังนั้นเขาจึงให้คนรับใช้แสดงท่าทางแบบนั้นออกไป
ใครจะคาดคิดว่าหลัวเลี่ยจะพลิกทุกอย่างจากหน้ามือเป็หลังมือได้แบบนี้
ช่างน่าเสียดาย!
หลัวเลี่ยเดินตรงไปที่าาแห่งเมืองจินหลาน “ฝ่าา หม่อมฉันไม่มีที่อยู่ในเมืองหลวงของเมืองจินหลานแล้ว หม่อมฉันคิดว่าจวนขององค์ชายสามไม่เลวเลย หากหม่อมฉันจะขอใช้สถานที่นั้นสักสองสามวัน ฝ่าาจะคิดเห็นเช่นไรพะยะค่ะ”
“ได้สิ นั่นนับว่าเป็เกียรติขององค์ชายสามแล้ว” าาแห่งเมืองจินหลานเห็นด้วยทันที
“อ่า หม่อมฉันค่อนข้างมีนิสัยแปลกๆ อยู่นิดหน่อย นั่นคือไม่ชอบอยู่กับคนอื่น” หลัวเลี่ยกล่าว
“ไม่เป็ไร เช่นนั้นก็ให้เขาออกไป” าาแห่งเมืองจินหลานโบกมือด้วยความโกรธหลังจากนั้นองค์ชายสามก็กลายเป็คนไร้บ้านโดยทันที
องค์ชายสามที่อยู่ข้างๆ รู้สึกผิดจนแทบจะร้องไห้
หลัวเลี่ยครุ่นคิดและพูดว่า “แบบนี้ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะอย่างไรนี่ก็เป็จวนขององค์ชายสาม เช่นนั้นก็ให้องค์ชายสามอาศัยอยู่ที่จวนต่อไปแล้วหม่อมฉันจะเป็คนจัดสถานที่ให้องค์ชายสามอยู่อาศัยเอง”
าาแห่งเมืองจินหลานกล่าวว่า “เขาจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านอ๋องน้อยอย่างแน่นอน”
“อืม เช่นนั้นก็ดี” ขณะที่หลัวเลี่ยกำลังจะจากไปเขาก็คิดอีกเื่ขึ้นมาได้ “จริงสิ เื่ของรางวัลที่หม่อมฉันจะได้จากการชนะการประลองยุวราชัน หม่อมฉันได้พูดไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่หม่อมฉันคิดว่าพวกของซือสิ่งหลงก็เป็ผู้ชนะเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาก็ควรได้รับรางวัลด้วย หม่อมฉันได้ยินมาว่าที่เมืองจินหลานทีถ้ำลึกลับอยู่ เช่นนั้นก็ให้รางวัลพวกเขาด้วยการให้พวกเขาเข้าไปฝึกวรยุทธ์ในถ้ำนั้นสักหนึ่งเดือนเถิด เกี่ยวกับเื่นี้ฝ่าาคิดเห็นว่าอย่างไรพะยะค่ะ”
าาแห่งเมืองจินหลานจะกล้าไม่เห็นด้วยได้อย่างไร
ดังนั้นซือสิ่งหลงและคนอื่นๆ จึงได้รับประโยชน์จากเื่อย่างไม่คาดคิด
และสุดท้ายหลัวเลี่ยก็ได้เชิญหลิวจื่ออั๋งผู้าุโเจ็ดแห่งหอเซียวเหยาไปเยี่ยมชมจวนขององค์ชายสามกับเขาด้วย
พวกเขาขึ้นรถม้าไล่ตามพระจันทร์ไปที่จวนขององค์ชายสาม
เมื่อเห็นหลัวเลี่ยจากไปอย่างปลอดภัย ไป๋หลี่ชางรู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าเขาจะมีหน้ากลับไปที่หอการค้าฟ้านเทียนได้อย่างไร
“เ้าคิดว่าหอการค้าฟ้านเทียนปฏิบัติต่อเ้าอย่างไม่ยุติธรรมหรือ?” ผู้าุโใหญ่เหยียนอู่ซู่พูดเบาๆ
ไป๋หลี่ชางเงยหน้าขึ้นและเตรียมเอ่ยถึงคุณความดีของเขาที่ทำเพื่อหอการค้าฟ้านเทียน แต่เมื่อเขาเห็นท่าทางนิ่งสงบของเหยียนอู่ซู่ที่เขารู้จัก หัวใจของเขาก็สั่นไหว “ผู้าุโใหญ่ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเราต้องยื่นข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่นั้นให้หลัวเลี่ย”
เหยียนอู่ซู่ยืนอยู่ที่หน้าต่างโดยเอามือไพล่หลัง เขามองไปยังเมืองหลวงของเมืองจินหลานที่คึกคักและพูดด้วยรอยยิ้มเบาๆ ว่า “เ้าคิดว่าหลัวเลี่ยจะเลือกพวกเราหรือไม่”
“ไม่ หากไม่รวมถึงอคติของเขาที่มีต่อหอการค้าฟ้านเทียนของพวกเรา ด้วยหลิวจื่ออั๋งที่คอยช่วยเหลือเขาในครั้งนี้ จากนิสัยของหลัวเลี่ย เขาจะเข้าร่วมกับพวกเราและเป็ศัตรูกับหลิวจื่ออั๋งได้อย่างไร ตรงกันข้าม มีแนวโน้มที่เขาจะเข้าร่วมกับหอเซียวเหยามากกว่าด้วยซ้ำ” ไป๋หลี่ชางวิเคราะห์
“ถูกต้อง เขาไม่มีทางเข้าร่วมกับพวกเราแน่” เหยียนอู่ซู่กล่าว
ไป๋หลี่ชางรู้สึกงงงวยและพูดว่า “แล้วเหตุใดผู้าุโใหญ่จึงยื่นข้อเสนอที่มีค่าขนาดนั้นเพื่อดึงตัวหลัวเลี่ยมา”
เหยียนอู่ซู่ยิ้มเบาๆ และพูดว่า “หากข้าไม่ทำอย่างนั้น ข้าจะมีโอกาสพูดเื่ความสามารถที่ไม่ธรรมดาของหลัวเลี่ยและชักจูงให้กองกำลังพวกนั้นแย่งตัวหลัวเลี่ยได้อย่างไร”
“เอ๊ะ?” ไป๋หลี่ชางประหลาดใจ
“เ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ?” เหยียนอู่ซู่กล่าว
ไป๋หลี่ชางคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นดวงตาของเขาก็เป็ประกายทันที เขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ยืมดาบคนอื่นเพื่อฆ่าคน!”
เหยียนอู่ซู่ยิ้มและพูดว่า “ถูกต้อง ศักยภาพของหลัวเลี่ยยิ่งใหญ่เกินไป เขามีพลังอยู่ในระดับผู้ฝึกตนแท้ๆ แต่กลับมีกระดูกวิถียุทธ์ เข้าใจเคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดิน และฝึกฝนวิชามหาหลุนิถึงระดับถ่องแท้ได้ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน กองกำลังทุกกองต่างสนใจในความสามารถนี้ และไม่ว่าหลัวเลี่ยจะเข้าร่วมกับกองกำลังไหน ความสามารถของเขาย่อมทำให้กองกำลังที่เหลือหวาดกลัว ดังนั้นมันจึงเป็เื่ธรรมดาที่เขาจะกลายเป็เป้าในการถูกกำจัด และด้วยวิธีนี้ เงื่อนไขอันถึงชีวิตที่ตราราชันข่งเชวี่ยมีต่อหอการค้าฟ้านเทียนของเราก็จะถือว่าเป็โมฆะไปด้วย”
ในตอนแรกหลัวเลี่ยใช้คำสั่งของตราราชันข่งเชวี่ยเพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกหอการค้าฟ้านเทียนตามสังหาร
แต่เื่ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับหอการค้าฟ้านเทียน และหากหลัวเลี่ยตาย ย่อมเป็สิ่งที่ทำให้หอการค้าฟ้านเทียนปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แล้ว
ไป๋หลี่ชางยิ้มอย่างน่ากลัวและพูดว่า “หลัวเลี่ยอาจจะเข้าร่วมกับหอเซียวเหยา หากเป็อย่างนั้นไม่เพียงแค่ศัตรูของหอเซียวเหยา แต่ผู้ที่ขัดแย้งกับหลิวจื่ออั๋งจะต้องพุ่งเป้ามาที่หลัวเลี่ยแน่!” ไป๋หลี่ชางยกนิ้วให้เหยียนอู่ซู่ “ผู้าุโใหญ่กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคนของท่านนั้นยอดเยี่ยมมาก”
ภายในรถม้าไล่ตามพระจันทร์หลัวเลี่ยและหลิวจื่ออั๋งนั่งอยู่ตรงข้ามกัน
หลัวเลี่ยรู้สึกซาบซึ้งใจมากสำหรับความช่วยเหลือของหลิวจื่ออั๋งแม้ว่ามันจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ตาม
ท่ามกลางความหนาวเย็นกลับมีผู้ที่หยิบยื่นความอบอุ่นมาให้นั้นเป็สิ่งที่น่าประทับใจที่สุด
หลัวเลี่ยได้ตัดสินใจแล้วว่าหากหลิวจื่ออั๋งเชิญเขา เขาก็จะเข้าร่วมกับหอเซียวเหยา
แต่คำพูดของหลัวจื่ออั๋งก็ทำให้หลัวเลี่ยมองเขาแตกต่างออกไปอีกครั้ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้