หลินเยว่รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันทีแต่แล้วเขาก็สังเกตเครื่องเคลือบทั้งชิ้นอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็ของแท้หรือของปลอมอยู่ดีสุดท้ายเขาจึงได้แต่วางมันลงอย่างจนปัญญา เพราะเวลามีอยู่จำกัด เขาจึงคิดจะไปสำรวจเครื่องเคลือบชิ้นอื่นๆก่อน และเมื่อสำรวจจนครบแล้วค่อยตัดสินใจใหม่อีกทีตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะใช้พลังพิเศษตาทิพย์ เพราะเขาไม่สามารถใช้พลังพิเศษสำรวจเครื่องเคลือบจนครบทุกชิ้นเขาจึงจำเป็ต้องตัดตัวเลือกที่มั่นใจว่าเป็เครื่องเคลือบปลอมออกไปก่อนเมื่อเหลือเครื่องเคลือบที่มีจุดน่าสงสัยเพียงไม่กี่ชิ้นแล้วค่อยใช้พลังพิเศษตาทิพย์ในการตัดสินว่าเป็ของแท้หรือของปลอมการวางแผนแบบนี้ถึงจะเหมาะสม
แต่ทว่าการวางแผนนี้จะสามารถใช้ได้ผลเมื่อมีเวลาเหลือในตอนท้ายเท่านั้นภายใต้สถานการณ์ที่ให้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง เขาจำเป็ต้องตัดสินเครื่องเคลือบว่าเป็ของแท้หรือของปลอมให้มากที่สุดและเร็วที่สุดหลังจากนั้นใน่สุดท้ายที่เวลาเหลือน้อยมากแล้วเขาค่อยใช้พลังพิเศษตาทิพย์ในการกวาดตามองเครื่องเคลือบที่เหลืออย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงเท่านี้เอง
ขณะที่หลินเยว่กำลังจะยอมแพ้กับเครื่องเคลือบชิ้นนี้แล้วนั้นเขาพลันเห็นรอยตำหนิตรงขาแจกันที่แทบจะสังเกตไม่เห็นอยู่รอยหนึ่งและรอยนี้ก็ทำให้หลินเยว่อึ้งไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนเป็สีหน้าดีใจขึ้นมาทันที
ของปลอม มันเป็ของปลอมแน่ๆ!
รอยตำหนินี้เป็ร่องรอยที่เกิดจากรถสามล้อในปัจจุบันท่านเฮ่อฉางเหอเคยบอกหลินเยว่ไว้ว่า รถสามล้อเป็รถที่ช่างซ่อมแซมเครื่องเคลือบเลือกใช้งานโดยเฉพาะ
ในเมื่อมีรอยตำหนิจากรถสามล้อนั่นก็แสดงว่ามันเป็ร่องรอยที่เกิดขึ้นตอนที่ซ่อมแซมเครื่องเคลือบอย่างไม่ตั้งใจและร่องรอยนี้ก็เป็หลักฐานที่สามารถลบล้างข้อพิสูจน์ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าเครื่องเคลือบชิ้นนี้เป็ของแท้ได้ทั้งหมด
ไอ้บ้าเอ๊ย ลอกเลียนแบบได้แเีจริงๆ!
จากสถานการณ์นี้ก็แสดงว่า่สมัยสาธารณรัฐจีนก็มีเซียนด้านนี้ไม่น้อยเลย!
เขาเกือบจะถูกหลอกแล้วไหมล่ะ!
หลินเยว่เกือบจะต้องปาดเหงื่อหากเขาไม่พบรอยตำหนินี้ ไม่รู้ว่าเขาจะต้องเจอกับสถานการณ์แบบไหนอีกไม่แน่เขาอาจจะต้องเสียพลังในการใช้ตาทิพย์ไปอย่างสูญเปล่าทำให้พลังจิตของเขาถูกใช้หมดไปอย่างน่าเสียดาย มันเป็เหตุการณ์ที่เสี่ยงจริงๆ
โชคดีที่เขาเห็นรอยตำหนินี้ก่อน!
หลินเยว่ลอบถอนหายใจเขาวางแจกันเคลือบใบนี้ลงกลับคืนที่เดิม แล้วสำรวจเครื่องเคลือบชิ้นถัดไป
เขาใช้เวลาไปทั้งหมด 4 นาทีกว่าๆ กับเครื่องเคลือบชิ้นที่ 2 เมื่อรวมเวลาที่ใช้ในการสำรวจเครื่องเคลือบทั้งสองชิ้นก็เป็สัดส่วนถึง1 ใน 3 ของเวลาทั้งหมดนี่เป็การกระทำที่ไม่น่าให้อภัยเลย เขาจำเป็ต้องพิสูจน์ให้เร็วกว่านี้!
เครื่องเคลือบชิ้นที่3 แก้วเคลือบเขียนสีเฝินไฉ่แปดเซียนในสมัยรัชศกคังซี
หลินเยว่มองก้นแก้ว เห็นตัวอักษรเขียนไว้ว่า“ทำขึ้นในรัชศกคังซีแห่งราชวงศ์ชิง” ในใจของเขาก็เกิดข้อสรุปทันที
ของปลอม!
เครื่องเคลือบเขียนสีลงยาฝ้าหลางไฉ่ในสมัยจักรพรรดิคังซีจะเขียนลายที่ไม่มีความหลากหลายเช่น ดอกไม้พร้อมก้าน แต่ไร้นกน้อย แต่ทว่ารูปแบบจะมีความสวยงามหรูหราเมื่อถึงสมัยจักรพรรดิยงเจิ้งฝ้าหลางไฉ่ถึงจะมีการผสมผสานกับภาพวาดพู่กันจีนแบบดั้งเดิมกลายเป็การเขียนสีลงบนพื้นสีขาวเป็หลัก เกิดเป็รูปลักษณ์ที่ประณีตงดงาม และเครื่องเคลือบเขียนสีเฝินไฉ่ก็ได้รับการพัฒนาอย่างน่าตกตะลึงในสมัยนี้จนเกิดเป็ความนิยมในการเขียนสีลงบนสีเคลือบ
การเขียนสีเฝินไฉ่ทำให้ในสมัยจักรพรรดิคังซีเริ่มมีการนำชาดเข้ามาภายในประเทศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากสีที่ดูจืดชืดและแข็งกระด้างในสมัยโบราณไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากนั้นการใช้สีต่างๆ จึงเริ่มมีความหลากหลาย ทำให้เกิดความรู้สึกตื้นลึกหนาบางใกล้ไกลได้อย่างชัดเจนและมีเสน่ห์ดึงดูดมากยิ่งขึ้นสีที่ดูนุ่มนวลเรียบหรูนี้จึงได้รับความนิยมไปทั่วอย่างรวดเร็ว เครื่องเคลือบเขียนสีเฝินไฉ่ในสมัยยงเจิ้งตัวเนื้อดินเป็สีขาวและมีความบางมากจนได้ชื่อว่า “เกรงว่าสายลมจะพัดหายไปเกรงว่าพระอาทิตย์จะเผาไหม้สลายไป”
แก้วเคลือบแปดเซียนใบนี้จึงไม่ใช่รูปแบบเครื่องเคลือบในสมัยจักรพรรดิคังซีดังนั้น มันจึงเป็ของปลอม
หากเป็่เวลาปกติตอนที่อยู่บนถนนวัตถุโบราณหลินเยว่จะต้องสังเกตต่อว่าแก้วเคลือบแปดเซียนใบนี้จะเป็ของในสมัยจักรพรรดิยงเจิ้งหรือเปล่าแต่ทว่าตอนนี้เขาไม่มีเวลาพอให้ทำเช่นนี้ เขาแค่สรุปว่าเครื่องเคลือบเบื้องหน้าไม่ใช่เครื่องเคลือบในสมัยจักรพรรดิคังซีก็พอแล้ว
ตอนนี้คือการพิสูจน์ไม่ใช่การเก็บตก!
เครื่องเคลือบชิ้นที่ 3 หลินเยว่ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีก็สำรวจเสร็จแล้วซึ่งเป็การเหลือเวลาให้กับเครื่องเคลือบที่เหลือได้เป็อย่างดี แต่ทว่าความเร็วเท่านี้ก็ยังถือว่าช้าจนเกินไป
เครื่องเคลือบ 3 ชิ้น เขาใช้เวลาไปถึง 10 นาที หากครบ 30 นาทีแล้ว เขาจะสำรวจเครื่องเคลือบได้เพียง 9ชิ้นตอนนี้เขาจำเป็ต้องควบคุมเวลาในการสำรวจเครื่องเคลือบแต่ละชิ้นให้เหลือเพียง 3นาที ห้ามเกิน 3 นาทีอย่างเด็ดขาด! เช่นนี้เขาถึงจะมีโอกาสหาเครื่องเคลือบของแท้ออกมาจนเจอ
เร็วสิ!
ต้องสำรวจให้เร็วมากกว่าเดิม!
หลินเยว่พยายามสงบสติอารมณ์ แต่ยิ่งคิดเช่นนี้เขากลับรู้สึกรนยิ่งกว่าเดิม เวลานี้มือของเขาก็เริ่มสั่นเพราะความตื่นเต้น
ไม่ได้ หากเป็เช่นนี้ต่อไปต้องแย่แน่ๆ!
หลินเยว่หยุดก้าวเท้า เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆพยายามให้สติของตนเองสงบลง
เขารู้ตัวว่าหากเขายังตื่นเต้นเช่นนี้มันต้องส่งผลร้ายต่อตัวเขาเองหากตอนนี้เขายังตื่นเต้นจนถึงขนาดนี้ เดี๋ยวเมื่อถึงตอน่ท้ายๆ เขาก็จะตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมเมื่อถึงตอนนั้นเกรงว่าเขาจะเกร็งจนอาจจะสั่นไปทั้งตัว ด้วยสภาพแบบนั้นการรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังพิเศษตาทิพย์ก็คงจะยากลำบากมากยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเข้าถึงสภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กเลย
ดังนั้น ตอนนี้เขาจำเป็ต้องสงบสติอารมณ์ของตัวเองหากไม่สามารถทำได้ ความพยายามทุกอย่างที่เขาทำมาก่อนหน้านี้ก็คงจะสูญเปล่า
ต้องสงบนิ่ง ต้องสงบนิ่ง!
หลินเยว่หลับตาลงทั้งสองข้างเขาพยายามปรับระดับลมหายใจของตัวเอง สมาธิทั้งหมดจดจ่อกับลมหายใจเข้าออกอย่างช้าๆของตน เขาไม่สนใจสิ่งแวดล้อมภายนอก เวลานี้เขาจะใจร้อนไม่ได้ ยิ่งใจร้อนพลังของเขาก็ยิ่งถูกใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์
ผ่านไป 2 นาทีในที่สุดจิตใจของหลินเยว่ก็สงบลง
ตอนนี้เขาสงบนิ่งจนเกือบถึงขนาดหากยังคงทำต่อไปสภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กก็คงจะปรากฏขึ้นแล้ว
เขาใช้เวลาไปอีก 2 นาที ตอนนี้เขาเหลือเวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น
หลินเยว่ฝืนยิ้มตรงมุมปากแต่เขาไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนเมื่อสักครู่ เพราะความสำเร็จเกิดจากความพยายามของตนเองหากเขาใช้พลังพิเศษตาทิพย์แล้วยังไม่สามารถพิสูจน์เครื่องเคลือบว่าเป็ของแท้หรือของปลอมได้ถ้าเช่นนั้น คนอื่นๆ ก็ยิ่งไม่มีทางทำได้สำเร็จภายในระยะเวลาสั้นๆ 30 นาที
หลินเยว่เดินเข้าไปหาเครื่องเคลือบชิ้นที่ 4
เครื่องเคลือบชิ้นที่4 คือจานใบหนึ่ง มันเป็จานเคลือบเขียนลายัเมฆาสีแดงแสด
ตัวจานเขียนลายัสีแดง ดูมีชีวิตชีวามากราวกับัสีแดงที่พุ่งออกมาจากลาวา ตรงกลางจานเป็ลวดลายวงกลม้าเขียนลายัสองตัวที่กำลังไล่ตามกัน ดูมีพลังแข็งแกร่ง เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล
ตัวพื้นเครื่องเคลือบเป็สีขาวจึงทำให้ลวดลายั้ามีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
หลินเยว่หยิบจานเคลือบขึ้นมาสังเกตเขามองสีเคลือบและลวดลาย้าอย่างละเอียด
สีเคลือบ้า หลินเยว่มองไม่ออกว่าเป็การทำเลียนแบบขึ้นมาหากเครื่องเคลือบใบนี้เป็ของแท้ก็น่าจะเป็เครื่องเคลือบในสมัยราชวงศ์ิตอนกลางถึงตอนปลาย ลวดลายไม่ผิดเพี้ยนการััด้วยมือไม่เลว สีเคลือบไม่เลว ไม่เกิดความรู้สึกสว่างแบบแข็งกระด้างเลย
แต่เขามีบทเรียนจากเครื่องเคลือบ 3 ชิ้นแรกมาแล้วหลินเยว่จึงไม่กล้าสรุปว่าเครื่องเคลือบชิ้นนี้เป็ของแท้หรือของปลอมเพราะหากเขาตั้งข้อสรุปไว้แล้ว ต่อไปก็ยากที่จะหาหลักฐานมาลบล้างความคิดนี้ได้
หลินเยว่พลิกจานกลับขึ้นมาสุดท้ายก็ยังจำเป็ต้องสังเกตก้นจาน เพราะตรงก้นจานจะเป็ส่วนที่พบรอยตำหนิได้ง่ายและทำให้รู้ว่าเป็ของแท้หรือของปลอมเพราะว่าตำแหน่งตรงนี้เป็ส่วนที่ทำลอกเลียนแบบได้ยากที่สุด
เมื่อพลิกจานแล้วหลินเยว่จึงสังเกตภาพรวมรูปลักษณ์ของจานทั้งหมด ตรงก้นจานมีส่วนที่เป็ขาจานยื่นออกมาและเอียงเข้าด้านในจนเกิดเป็รูปสี่เหลี่ยมคางหมูกลับด้านซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็ลักษณะเฉพาะของจานเคลือบและชามเคลือบในรัชศกเจียจิ้งในสมัยราชวงศ์ิลวดลายหัวัที่เป็ภาพหน้าตรงจะเป็ลวดลายที่เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชศกเจียจิ้งและลวดลายับนจานใบนี้ก็เป็ภาพหน้าตรงพอดีสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็หลักฐานที่พิสูจน์ว่าจานเคลือบใบนี้อยู่ในรัชศกเจียจิ้งแห่งราชวงศ์ิ
หลินเยว่มองก้นจาน ้าเขียนไว้ว่า “ผลิตขึ้นในรัชศกเจียจิ้งแห่งราชวงศ์ิ”
ผลิตขึ้นในรัชศกเจียจิ้งแห่งราชวงศ์ิ?
หลินเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่แล้วเขาก็หลุดหัวเราะออกมาทันที
เป็ของปลอมอีกแล้ว
เพื่อจัดการแข่งขันในครั้งนี้ทางจิ่งเต๋อเจิ้นก็ลงมือลงแรงไปไม่น้อยเครื่องเคลือบแต่ละชิ้นล้วนเป็ของเลียนแบบเกรดเอ หากมีบางจุดที่ผู้เข้าแข่งขันไม่ได้สังเกตให้ดีก็อาจจะได้ข้อสรุปว่าเป็ของแท้อย่างง่ายดาย
ยกตัวอย่างจากจานเคลือบใบนี้ก็ได้ ทั้งสีเคลือบตัวเครื่องเคลือบ รูปทรงไม่ว่าจะดูส่วนไหนก็เป็เครื่องเคลือบในสมัยรัชศกเจียจิ้งแห่งราชวงศ์ิแต่มีเพียงตรงตัวอักษรตรงก้นจานที่มีปัญหา ปัญหานี้ไม่ได้มีสาเหตุจากรูปแบบตัวอักษรเพราะลักษณะอักษรบนเครื่องเคลือบใบนี้ก็เหมือนรูปแบบอักษรที่เป็ลักษณะเฉพาะในสมัยรัชศกเจียจิ้งแห่งราชวงศ์ิจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้