ทันใดนั้นเสียงคำรามของเฉินเฟิงก็ดังขึ้นจากด้านนอก ดังก้องกังวานไปทั่วโรงแรม
"เย่เซียว! เห่าอะไรนักหนา เรียกใครว่าลูกหมาพันทาง หรือแกหมายถึงตัวเอง? เย่ชิงโหรว ฉันจำได้ว่าเมื่อวานนี้ฉันเตือนแล้วนะ ถ้าลูกสาวของฉันได้รับความอยุติธรรมในตระกูลเย่อีก ให้พวกแกล้างคอไว้ได้เลย... คนแรกที่จะตายคือคู่แข่งคนสำคัญในตำแหน่งผู้นำตระกูลอย่างแก เย่เซียว!"
สิ้นคำพูด ตัวเฉินเฟิงยังไม่ทันปรากฏ แต่ดาบหนักไร้คมใหญ่กว่าหนึ่งฟุตพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจากด้านนอกของโรงแรม มันพุ่งตรงไปยังเย่เซียวที่ยืนในส่วนลึกของงาน
เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเฉินเฟิงดังกึกก้องมาแต่ไกลและเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เย่เซียวรู้สึกวิตกกังวลและหวาดกลัวไปชั่วครู่
เมื่อวานนี้ที่โรงพยาบาลตระกูลเย่ เฉินเฟิงใช้ถังออกซิเจนถอนรากถอนโคนกล่องดวงใจของลุงสาม
แต่เย่เซียวฉุกคิดได้ว่าวันนี้เป็วันสำคัญสำหรับผู้นำตระกูลเย่แห่งเมืองโยวเฉิงนี้ เธอต้องแต่งออกนอกตระกูลอย่างงดงามยิ่งใหญ่
เหล่าตำรวจสายตรวจใต้บังคับบัญชาของลุงสามได้เข้าประจำต่างจุดต่างๆ เพื่อรักษาความปลอดภัย
แม้กระทั่งเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็อยู่ที่นี่ภายใต้คำสั่งของเย่สงผู้เป็พ่อเขา ซึ่งมีฐานะเป็ถึงคุณชายลำดับที่สองของตระกูลเย่
ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีคุณลุงใหญ่เย่ คุณชายคนโต พร้อมด้วยเ้าหน้าที่ตำรวจอาวุธครบมือมาช่วยรักษาความปลอดภัยอีกแรง
ถึงแม้ว่าตำรวจอาวุธครบมือจะถูกเฉินเฟิงกดดันเมื่อวานนี้ แต่นั่นเพราะพวกเขามีจำนวนไม่กี่นาย
ดังนั้นวันนี้เหล่าตำรวจรักษาความสงบจึงนำอาวุธมาครบมือยิ่งกว่าเดิม
ถ้าวันนี้เฉินเฟิงกล้ากระตุกหนวดเสือ เขาต้องเจอดีแน่
ระหว่างที่สีหน้าเย่เซียวแปรเปลี่ยนเป็รอยยิ้มแห่งความดีใจ ทันใดนั้น ดาบใหญ่ไร้คมก็กำลังพุ่งตรงเข้าหาเขา
มันเล็งมาที่หน้าอกของเย่เซียว เขาใจนฉี่ราดและรีบร้องไห้ขอความช่วยเหลือ
"ท่านปู่ทวด ท่านปู่ ช่วยผมด้วย!"
ปรมาจารย์แห่งตระกูลเย่ ทหารผ่านศึกสองดาวเย่วู่ ร่วมกับ ปรมาจารย์และหัวหน้ากรมตำรวจเย่ท่ายป๋ายทั้งสองปรากฏตัวขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน พวกเขาขนาบข้างเย่เซียวแล้วสร้างค่ายกลป้องกันตรงหน้าเขา
ในมือสองปรมาจารย์เฒ่ากำดาบเก้าห่วง [1] ไว้แน่น ประสานกันเข้าต้านดาบใหญ่ไร้คมที่เฉินเฟิงโยนมาจากระยะไกลได้ทันอย่างหวุดหวิด
ทว่า
ดาบใหญ่ไร้คมนั้นทรงพลังเกินกว่าสองปรมาจารย์เฒ่าผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเย่จะทำให้มันหยุดนิ่งในทันทีได้
ทั้งสองถูกดันถอยหลังลากไปบนพื้นด้วยพลังของดาบใหญ่จนทิ้งรอยลึกบนพื้นเป็ทางยาว
“แกกล้าแตะต้องลูกสาวฉัน เฉินเฟิงผู้นี้ เมื่อฉันประกาศว่าฉันจะเอาชีวิตแก ย่อมไม่มีใครปกป้องแกได้!”
ในขณะที่ดาบไร้คมถูกสองผู้าุโหยุดไว้ได้ เฉินเฟิงที่แบกโลงศพหยกเยือกแข็งขนาดเล็กก็เหยียบย่ำขั้นไปบนหลังแขกที่ใกลัวจำนวนมาก แล้วพุ่งเข้าหาสองผู้าุโ
เฉินเฟิงแบกโลงศพด้วยมือซ้าย ยื่นมือขวาออกไปดึงด้ามดาบไร้คมที่เพิ่งถูกหยุดไป
ทันใดนั้น กระบี่อ่อนขนาดหนึ่งเมตรพลันถูกดึงออกจากด้ามดาบที่หนาถึงหนึ่งฟุต
เฉินเฟิงร่อนลงบนดาบหนักไร้คมที่ร่วงลงปักลึกในพื้นโรงแรม
เฉินเฟิงที่ยืนบนดาบไร้คมก้มลงมองจากที่สูง ใช้กระบี่อ่อนฟันดั่งอสรพิษพุ่งตัวเข้าโจมตีสองปรมาจารย์เฒ่า
ทว่าพละกำลังของผู้าุโทั้งสองนั้นถูกใช้ปัดป้องดาบใหญ่ไร้คมจนหมดสิ้นแล้ว
ณ ตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงมองดูเฉินเฟิงใช้กระบี่อ่อนในมือฝากรอยแผลเป็ไว้บนใบหน้าของพวกเขาคนละรอย ก่อนที่ปลายดาบซึ่งดูคล้ายกับหัวงูเห่า พุ่งตรงไปยังหว่างคิ้วของเย่เซียวที่พวกเขากำลังปกป้องอยู่
ในชั่วพริบตานี้เอง เสียงกรีดร้องของจู้เจินฉิงดังขึ้น
"เฉินเฟิง หยุดเดี๋ยวนี้ ถ้าแกกล้าฆ่าเย่เซียว ฉันจะบีบคอลูกสาวของเราให้ตายไปด้วยกันนี่แหละ!"
จู้เจินฉิงนึกถึงเย่กัง ชายชราบนรถเข็นที่ถูกตัดอวัยวะเพศชายและไร้ประโยชน์นั่น ไม่สามารถพึ่งพิงมันได้อีกต่อไป เธอจึงตัดสินใจเลือกเกาะผู้สืบทอดคนใหม่ และคนที่เธอเลือกก็คือเย่เซียวนั่นเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เธอเคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับเย่เซียวมาก่อน!
เมื่อเฉินเฟิงได้ยินเช่นนั้น ดาบยาวในมือของเขาจึงหยุดลง แต่ตอนดึงหัวดาบกลับ ดาบได้เฉือนเข้าที่ข้อมือของสองปรมาจารย์เฒ่าแล้ว ดาบเก้าห่วงในมือของพวกเขาต่างหลุดร่วงหล่นจากมือสู่พื้น
บรรยากาศในงานตกสู่ความเงียบงัน ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตก ทุกคนจ้องมองเฉินเฟิงและจู้เจินฉิงด้วยความตกตะลึง
ทางด้านหลี่ฉินหลวนก็กำลังเหม่อมองเฉินเฟิงราวกับเห็นเทพเซียนลงมาจุติ เขาบุกเข้าโรงแรมมาอย่างองอาจ เข้าจู่โจมสองปรมาจารย์เฒ่าผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเย่ทั้งสองจนาเ็สาหัส เธอเหม่อมองเฉินเฟิงนานเกินไปจนทำให้จู้เจินฉิงฉวยโอกาสคว้าตัวเฉินเชียนไปได้
เธอใสุดขีด คุกเข่าลงข้างหนึ่งด้วยความหวาดกลัว ปากร่ำร้องขอความเมตตา
"ศิษย์น้อง ศิษย์พี่หลงใหลในท่าทางองอาจของท่าน ถูกหญิงแพศยาจู้เจินฉิงฉวยโอกาส ไม่สามารถปกป้องเฉินเชียนได้ ขอศิษย์น้องลงโทษศิษย์พี่ด้วย!"
เฉินเฟิงเก็บกระบี่ในมือกลับเข้าฝักดาบไร้คมอย่างไร้อารมณ์
จากนั้นจึงอุ้มโลงศพหยกเยือกแข็งขนาดเล็ก เดินเข้าไปหาจู้เจินฉิงที่กำลังบีบคอลูกสาวของเขาอย่างช้าๆ ระหว่างนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นะเื
"ฮ่าๆ... จู้เจินฉิง! แกคิดว่าฉันจะเอาโลงหยกมาด้วยทำไม? ฉันเอามาเตรียมไว้สำหรับลูกฉันไง!
แกจะบีบคอเธอตายตรงนี้เลยก็ได้ ในฐานะแม่ผู้ให้กำเนิด ยังไงแกก็สนใจแค่ให้เด็กเกิดๆ ไปอย่างนั้น ไม่ได้ใส่ใจจะเลี้ยงดูด้วยซ้ำ คนอย่างแกบีบคอได้อยู่แล้ว เพราะยังไงไอ้หมอลวงโลงนั่นมันก็วินิจฉัยว่าเธอมีชีวิตอยู่ได้เป็วันนี้วันสุดท้าย แต่ถ้าแกลงมือ ฉันก็จะฆ่าเย่เซียว เย่กัง หรือผู้ชายทุกคนที่เคยมีความสัมพันธ์กับแก ดูสิว่าหญิงสำส่อนไร้ยางอายอย่างแก จะมีผู้ชายคนไหนในตระกูลยอมให้แกใช้ปีนขึ้นไปหาอำนาจได้อีก แกอยากพึ่งพาใคร ฉันจะฆ่าคนนั้น จนกว่าชายตระกูลเย่จะตายมันทั้งหมด!"
สิ้นเสียง เฉินเฟิงฉวยโอกาสที่จู้เจินฉิงและทุกคนกำลังตกอยู่ในความสับสน กระโจนพุ่งไปชิงตัวเฉินเชียนคืนได้ในพริบตา
เมื่อช่วยลูกสาวออกมาได้ เฉินเฟิงพูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
"ลูกสาวที่รัก ปะป๊ามาช้าเกินไป ใครตีลูก ใครกลั่นแกล้งลูก พ่อจะจัดการให้เอง ตอนนี้ถึงเวลาเด็กดีนอนกลางวันแล้ว โลงหยกเย็นนี้จะทำให้ลูกฝันดี นอนหลับสบาย เมื่อลูกลืมตาตื่นครั้งหน้า โรคลูคีเมียของหนูจะหายดีเป็ปลิดทิ้ง"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉินเชียนวัยห้าขวบก็ร้องไห้ออกมาในที่สุด เธอร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจและอึดอัดใจ
เธอร้องไห้ซบลงบนไหล่ของเฉินเฟิง
"ปะป๊า ในที่สุดปะป๊าก็มา! เมื่อกี้ หนูกินลูกกวาดไป หนูว่า หนูว่ามันอร่อยมาก หนูเก็บไว้ให้ปะป๊าด้วย แต่ว่าลุงรองเขาเห็นหนูเก็บลูกกวาด เขาตบแก้มด้านขวาหนูแรงมากแถมยังยัดลูกกวาดตั้งหลายลูกเข้าปากหนู เขาบังคับหนูให้กินให้หมด แล้วก็คุณป้าผู้ชั่วร้าย คุณป้าที่บอกว่าเขาเป็มะม๊าของหนู เธอตบหน้าหนูตั้งหลายครั้ง เธอถามหนูว่าทำไมปะป๊าไม่มา เธอบอกหนูด้วยว่าถ้าปะป๊าไม่มา ป้าคนนั้นจะตบหนูจนตาย กับคุณลุงสาม ลุงสามเขาจะควักลูกตาหนูไปให้ลูกเขา ลูกที่เกิดจากคุณป้าชั่วร้ายคนนั้น"
เชิงอรรถ
[1] ดาบเก้าห่วง เป็ดาบโบราณจีนชนิดหนึ่ง สันดาบจะมีรูและวงแหวน 9 วง
