“เธอคือน้องสาวของคนที่เกือบฆ่าคนรักของเขา”
“เธอเป็ผู้หญิงเ้าเล่ห์ตามที่พิมพ์นาราบอกไว้”
แต่แล้วทำไม... เขาถึงมองเธออยู่อย่างนี้
่นี้ธีรัชรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป ทุกครั้งที่เดินผ่าน สายตาของเขามักเผลอมองหามินตราโดยไม่รู้ตัว และเมื่อพบว่าเธอนั่งอยู่ตรงนั้น เบื้องหน้าของเขเอง
ธีรัชกลับรู้สึก... สงบใจอย่างประหลาด ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหนีในทุกครั้งที่สายตาพวกเขาประสานกัน เขาไม่ชอบความรู้สึกนี้เลยสักนิด
เขาไม่มีวันรู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนั้น เขาเพียงแค่... สังเกตเธอไว้ ไม่ใช่เพราะสนใจ ไม่ใช่เพราะหวั่นไหว ธีรัชย้ำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ในอกกลับแน่นขึ้นทุกครั้งที่เธอหายไปจากสายตา
ธีรัชเดินลงบันได เสื้อสูทสีดำของเขาเรียบสนิทเพราะต้องออกไปพบลูกค้า แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องรับแขก เขากลับหยุดก้าวเสียอย่างนั้น
“ขอโทษค่ะหนูมินตรา ป้าทำหกเอง หนูไม่ต้องเช็ดให้ป้าก็ได้นะ”
ธีรัชจำเสียงของป้าเพ็ญได้ดี ผู้หญิงคนนั้นทำงานในบ้านนี้มานานกว่าสิบปี เป็คนขยัน แต่ร่างกายเริ่มไม่เหมือนเดิม มือล้า แขนล้า จนบางครั้งก็พลาดแบบนี้
“ไม่เป็ไรหรอกค่ะ ป้าคงเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวมินช่วยเอง”
ดวงตาของหญิงสาวมองป้าเพ็ญตรงๆ ไม่มีแววรำคาญ ไม่มีท่าทางเหนื่อยหน่าย ด้วยอาจเป็เพราะป้าเพ็ญนั้นคือคนเดียวในคฤหาสน์ที่ไม่รังแกหรือดูถูกมินตรา เธอจึงช่วยเหลืออย่างไม่มีเงื่อนไข ทำให้แววตาและรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริงปรากฏขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ธีรัชยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ สายตาจับจ้องภาพตรงหน้าราวกับสมองกำลังทบทวนอะไรบางอย่าง นี่คือผู้หญิงที่พิมพ์นาราเคยเตือนเขาให้ “ระวังไว้ให้มาก” คนเสแสร้ง เห็นแก่ตัว ทำดีเพื่อหวังผล
แต่ตอนนี้…ทำไมเขาถึงเห็นเธอเป็คนละคนกับที่เขาเคยเชื่อมาตลอด? มินตราทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร? หรือว่าเธอไม่ได้เป็อย่างที่พิมพ์นาราเคยพูดจริงๆ?
นี่เป็ครั้งแรก…ที่เขาเริ่มสงสัยว่าตัวเองอาจจะเข้าใจผิดมาโดยตลอด
กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจางๆ อบอวลไปทั่วห้องพักฟื้นในโรงพยาบาล ม่านพลาสติกสีขาวนวลล้อมรอบเตียงอย่างเรียบร้อย เสียงเครื่องวัดชีพจรเต้นเป็จังหวะสม่ำเสมอ
พิมพ์นารายังนอนหลับตา ถึงร่างกายไม่ได้ขยับ แต่จิตใจของเธอกลับไม่ได้หลับตามไปด้วย ภายใต้เปลือกตาที่ปิดสนิท ความคิดของเธอกำลังหมุนวน เธอจำได้... จำได้ทุกอย่างก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ
เสียงยางบดถนน การเหวี่ยงตัวอย่างรุนแรง แสงไฟหน้ารถที่จ้าจนแสบตา และใบหน้าบิดเบี้ยวของมินทร์ในเสี้ยววินาทีก่อนรถจะพุ่งเข้าหาเธอ
ทั้งหมดมันเร็วเกินไป แต่เธอรู้ว่าเพราะอะไร รถคันนั้นถึงพุ่งชนเธอ
ก่อนหน้าจะถูกรถชนไม่กี่นาที เธอเจอมินทร์ พี่ชายของนังมินตรา หรือจะเรียกให้ถูก... เธอเป็คนเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายเอง
"พิมพ์นารา..." เขาเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงที่ไม่ถึงกับเ็า แต่ก็ไม่ต้อนรับนัก
"บังเอิญจังนะคะ ไม่คิดว่าจะเจอกันตรงนี้" พิมพ์นารายิ้มบาง แต่สายตากลับไม่ไหลตามน้ำเสียงนั้นเลยแม้แต่น้อย
มินทร์พยักหน้าช้าๆ ไม่ได้ตอบอะไรเพิ่มเติม
พิมพ์นาราเลื่อนสายตาไปยังซองเอกสารในมือเขา ก่อนจะยิ้มบาง ๆ อีกครั้ง
"จะว่าไป... มินตราสบายดีไหมคะ?"
มินทร์ชะงัก เขาไม่ชอบน้ำเสียงนั้นของหญิงสาวเลย ดูสุภาพ แต่เจตนาไม่ใช่อย่างแน่นอน
"มินตราก็อยู่ของเขา ไม่ได้เดือดร้อนอะไร"
"เหรอคะ" พิมพ์นารายิ้ม มุมปากกระตุกขึ้นนิดหนึ่ง ขณะที่นิ้วเรียวไล้ผมตนเองอย่างจงใจ
"ก็ดีแล้วค่ะ อย่างน้อยก็ยังรู้ที่ต่ำที่สูงบ้าง จะได้ไม่โผล่หน้ามาทำวุ่นวายใครอีก ก็แปลกนะคะ คนบางคนเกิดมาจากสายเืแบบไหน ก็จะเป็อย่างนั้นไม่ผิดเพี้ยน"
มินทร์ขมวดคิ้ว
"หมายความว่ายังไง?" ชายหนุ่มเริ่มกำหมัดอย่างไม่รู้ตัว
"ไม่มีอะไรค่ะ แค่พูดไปเรื่อย... "
"น้องสาวของผมไปทำอะไรให้คุณนักหนา ถึงชอบว่าร้ายเธอแบบนี้"
เธอไม่ตอบ กลับเงียบใส่ชายหนุ่มตรงหน้า
"หรือว่าคุณกลัว กลัวว่าคนชื่อธีรัชบ้าบออะไรนั่น จะหลุดจากเงาของคุณแล้วไปวอแวกับมินตราแทน?"
สีหน้าของพิมพ์นาราเปลี่ยนไปทันที แววตาเยือกเย็นขึ้น
มินทร์มองเห็นชัดเจน เขารู้ว่าตัวเองกำลังพูดแทงใจเธอเข้าอย่างจัง
"แต่มินตราไม่เคยใช้เื่นั้นกับใคร ไม่เคยบอกความจริงและไม่แก้ตัวใดๆ ตอนที่ไปค่ายตอนนั้น ไม่มีใครบิดเบือนและใช้มารยาเที่ยวทำร้ายใครแบบที่เธอทำหรอกนะ พิมพ์นารา"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้