“เช่นนั้นก็ดี อย่างไรเสียวันนี้เปิ่นกงเองก็พบเจอเหตุการณ์นี้เช่นกัน ข้ามิอาจทนเฝ้าดูอย่างนิ่งดูดายได้แล้ว” ฮองเฮาอวี่เหวินเลิกคิ้ว พลางขึ้นเสียง “ไปเชิญท่านหญิงอิ้งเสวี่ยมาเถิด”
ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสออกคำสั่ง ไม่มีผู้ใดที่นี่อาจหาญบังอาจละเลยได้
เหนียนเย่าเดินออกจากห้องด้วยตนเอง เตรียมที่จะเชื้อเชิญจ้าวอิ้งเสวี่ย คนอื่นในห้องต่างกลั้นหายใจ นอกเหนือจากเสียงร้องเ็ปของเหนียนเฉิงที่ดังขึ้นเป็ครั้งคราว ก็มิมีผู้ใดกล้าส่งเสียงใดๆ ขึ้นมาเลย บรรยากาศแปลกประหลาดสุดจะพรรณนา
ผ่านไปไม่นาน ท่านหญิงอิ้งเสวี่ยก็ถูกเชิญมา
จ้าวอิ้งเสวี่ยเข้ามาด้านในภายใต้การประคองของสาวใช้ผิงเอ๋อร์และจิ้นหวางเฟย ทุกคนต่างหลบหลีกทางให้
นางในยามนี้เดินเยื้องย่างอย่างเชื่องช้า ยังคงแต่งกายด้วยชุดสีขาว ทว่าการแต่งกายในยามนี้ดูแตกต่างจากในยามปกติ หมวกซาเม่าที่นางเคยสวมในอดีตกลับไม่ได้สวม ไร้การปกปิดจากผ้าคลุมหน้า ใบหน้าที่ถูกไฟลวกเผยให้เห็นทั่วกัน ปรากฏในสายตาของทุกคน
ผู้คนมากมายได้เห็นใบหน้านี้แล้ว ยามที่อยู่ในห้องโถงเมื่อครู่นี้ ทว่าการได้เห็นอีกครั้งก็ยังคงตกตะลึงเช่นเดิม
ฮองเฮาอวี่เหวินและองค์หญิงใหญ่ชิงเหอมองดูจ้าวอิ้งเสวี่ยที่เข้ามา พวกนางยิ่งใมากขึ้นไปอีก แม้แต่เหนียนยวี่ที่ก้มศีรษะอยู่ด้านหลังฮองเฮาอวี่เหวิน ยังอดไม่ได้ที่จะหยุดมองนางครู่หนึ่งยามที่นางเข้ามา
ใบหน้านั่น...อะไรกัน!
รอยแผลเป็สีชมพูและสีม่วงกระจัดกระจายทั่ว แลดูน่าหวาดกลัว ทำให้คนที่ได้มองรู้สึกแน่นในอกอย่างประหลาด
"จ้าวอิ้งเสวี่ยถวายบังคมฮองเฮาเพคะ ถวายบังคมไทเฮาเพคะ ถวายบังคมองค์หญิงใหญ่ชิงเหอเพคะ" จ้าวอิ้งเสวี่ยทักทายสายตาของทุกคนและโค้งคำนับให้คนทั้งสามที่นั่งอยู่อย่างนอบน้อม
เสียงที่แหบแห้งทำให้ฮองเฮาอวี่เหวินและองค์หญิงใหญ่ชิงเหอขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
ไม่มีผู้ใดรู้ว่า จ้าวอิ้งเสวี่ยได้รับาเ็สาหัสในกองไฟ!
ใบหน้าพังพินาศเช่นนี้ เกรงว่านางคงจิตใจพังทลายไม่ต่างกัน!
ไม่น่าแปลกใจเลย แม้เปลี่ยนเป็ผู้อื่น ไม่ว่าผู้ใดหากได้รับความทุกข์ทรมานจากความเ็ปรุนแรงเช่นนี้ คงไม่มีทางปล่อยคนที่ทำให้นางต้องทนทุกข์ง่ายๆ หรอก!
เหนียนยวี่จ้องมองจ้าวอิ้งเสวี่ย นึกเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของหนานกงเยวี่ย นางมาเยือนอย่างสงบนิ่งและใจเย็นเช่นนี้ แปลว่านางมีแผนรองรับไว้แล้วหรือ
"ฮองเฮาทรงเรียกพบอิ้งเสวี่ย ด้วยเหตุใดหรือเพคะ" จ้าวอิ้งเสวี่ยเลิกคิ้ว ท่าทีเคารพนบน้อม ทว่าแฝงความราบเรียบเฉยเมย
ฮองเฮาอวี่เหวินเห็นทุกสิ่งในสายตา นางรู้ว่าจ้าวอิ้งเสวี่ยภายในใจนางคงรู้สึกขุ่นเคืองฝ่าาและแม้กระทั่งนาง เพราะเหตุการณ์เพลิงไหม้ ทว่ายามนั้น ฝ่าาทรงเป็ห่วงอำนาจของตระกูลหนานกง จึงจำใจต้องเก็บชีวิตของเหนียนเฉิงไว้
“เื่อะไรน่ะหรือ จ้าวอิ้งเสวี่ย เ้าทำอะไรลงไป ในใจเ้าจะไม่รู้เลยจริงหรือ?” หนานกงเยวี่ยสังเกตเห็นความรู้สึกผิดและความสงสารในสายตาของฮองเฮาอวี่เหวินยามที่นางมองไปที่จ้าวอิ้งเสวี่ย ในใจนางตื่นตระหนกทันที รีบเอ่ยโน้มน้าวผู้คน
เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาของนาง จ้าวอิ้งเสวี่ยไม่แม้แต่จะตื่นตระหนก และไม่แม้แต่จะมองไปที่หนานกงเยวี่ย “ข้าไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรไป แท้จริงยังรู้สึกไม่เข้าใจนัก ไม่สู้เชิญให้ฮูหยินเหนียนเป็คนพูดจะดีกว่า ว่าอิ้งเสวี่ยแท้จริงแล้วนั้นทำอะไรลงไป”
“เ้า...” หนานกงเยวี่ยไม่คิดว่านางจะสงบนิ่งเยือกเย็นได้ขนาดนี้ มือชี้ไปที่เหนียนเฉิงที่อยู่ด้านข้าง “ท่านหญิงอิ้งเสวี่ย เ้าโหดร้ายเหลือเกิน เ้าทรมานเหนียนเฉิงของข้าทุกวัน ยามนี้ยังวางยาพิษอีก เ้าหมายเอาชีวิตเหนียนเฉิงของข้าเลยหรือ?”
"วางยาพิษหรือ?" จ้าวอิ้งเสวี่ยหัวเราะเบาๆ "ไหนเล่าหลักฐาน? กล่าวหาลอยๆ ไร้หลักฐานต่อหน้าผู้สูงศักดิ์ ล้วนเป็เื่ใส่ความ การใส่ความท่านหญิงแห่งราชนิกุล ฮูหยินควรคิดให้ดีก่อนลงมือ"
คิดให้ดีงั้นหรือ? หนานกงเยวี่ยในใจรู้สึกเย็นเยียบ หยิบชามยาที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งและเข็มเงินที่เปลี่ยนสี
"นี่คือหลักฐาน!"
จ้าวอิ้งเสวี่ยเหลือบมองสิ่งเ่าั้อย่างราบเรียบ โค้งคำนับให้ฮองเฮาอวี่เหวิน "ฮองเฮาเพคะ อิ้งเสวี่ยโง่เขลา อาศัยเพียงชามยาพิษก็ด่วนตัดสินว่าเป็อิ้งเสวี่ยเป็ผู้กระทำ มิรู้ว่าสิ่งนี้จะดูขัดกับสามัญสำนึกหรือไม่เพคะ"
ฮองเฮาอวี่เหวินขมวดคิ้ว
“แน่นอนว่าย่อมขัดกับสามัญสำนึก” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอกล่าวเสียงดัง “แม้แต่สตรีมีครรภ์เช่นข้ายังรู้เลยว่า จะจับโจรจับขโมยก็ควรอยู่บนฐานของความเป็จริง เพียงแค่ถ้วยชามใบหนึ่งมียาพิษ ข้าเองก็พูดได้ว่าเป็นายท่านเหนียนที่ลงมือ หรือจะพูดว่าเป็ฮูหยินเหนียนที่วางยายังได้เลยมิใช่หรือ”
คำพูดอย่างไม่ใส่ใจขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ทำให้เหนียนเย่าขมวดคิ้ว แม้แต่หนานกงเยวี่ยยังแปลกใจและขึ้นเสียงทันที "จะเป็ไปได้อย่างไร? หม่อมฉันเป็มารดาของเหนียนเฉิง หม่อมฉันจะวางยาพิษให้บุตรชายตนเองได้อย่างไรเพคะ?"
ภายใต้ชายแขนเสื้อ หนานกงเยวี่ยกำหมัดแน่น
ท่าทีตอบสนองของนาง ดูจะใหญ่โตเกินไปสักหน่อย!
เหนียนยวี่เหลือบมองนางอย่างครุ่นคิด
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอยิ้มจางๆ "ฮูหยินเหนียน เปิ่นกงเพียงแค่เปรียบเทียบ ฮูหยินเหนียนรักบุตรชายอย่างสุดซึ้ง คอยปกป้องบุตรชายเยี่ยงดวงชีวี จะวางยาพิษบุตรชายของตนได้อย่างไร?"
"เพคะ เป็เพียงตัวอย่าง" หนานกงเยวี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ ดึงความสงบกลับมาอย่างรวดเร็ว หันมองจ้าวอิ้งเสวี่ย แล้วทูลขอพระราชเสาวนีย์ "แต่จ้าวอิ้งเสวี่ยนั้นน่าสงสัยที่สุด หม่อมฉันทูลขอให้ค้นเรือนหรูอี้ของนางเพคะ หากพบหลักฐาน นั่นจะยังเป็การคืนความยุติธรรมให้เหนียนเฉิงของหม่อมฉันด้วยเพคะ"
ค้นเรือนหรูอี้?
ทุกคนมองไปที่จ้าวอิ้งเสวี่ย หากพบสิ่งใด หนานกงเยวี่ยจะงัดเื่ที่จ้าวอิ้งเสวี่ยทำร้ายเหนียนเฉิงและทำเื่หย่า เกรงว่าแม้แต่ฮองเฮาอวี่เหวินคงทำได้เพียงแค่ต้องยอมรับ
"ตกลง จะค้นก็ค้นไป" จ้าวอิ้งเสวี่ยกล่าวอย่างเ็าโดยไม่ตื่นกลัวสักนิด
"อ้อ ค้นให้ดีๆ เล่า" จิ้นหวางเฟยเอ่ยขึ้นตามมาอย่างกดดัน "ไม่เพียงแต่เรือนหรูอี้ของจ้าวอิ้งเสวี่ย แต่ที่อื่นๆ ในจวนแห่งนี้ก็ควรถูกค้น เพื่อความยุติธรรมต่ออิ้งเสวี่ยเช่นกัน"
"หึ ยุติธรรมหรือ?" หนานกงเยวี่ยพ่นลมหายใจเสียงเ็า นึกถึงแผนของตน รออีกไม่นานแม้จ้าวอิ้งเสวี่ยนางจะให้ฟ้าประทานความยุติธรรม ก็คงทำได้เพียงร้องเรียกว่าฟ้าไม่สงเคราะห์
"งั้นก็ค้นให้ทั่ว" ฮองเฮาอวี่เหวินพูดเบาๆ "เริ่มค้นหาจากเรือนหรูอี้ของจ้าวอิ้งเสวี่ยที่แรก"
ฮองเฮาอวี่เหวินออกคำสั่ง นางยกมือขึ้น เหล่านางกำนัลที่อยู่ข้างหลังก็ก้าวไปข้างหน้า นางออกจากห้องไป และทุกคนในห้องก็ไม่กล้าละเลยและตามไปทันที เพียงครู่หนึ่ง ทุกคนก็มาถึงเรือนหรูอี้ ถัดจากหออี๋ชุน
กลุ่มคนยืนอยู่ในลาน จือเถานำคนใช้ของจวนเหนียนเข้าไปในบ้าน ฮองเฮาอวี่เหวินนั่งหันหลังให้ทุกคน ข้างหลังนาง มีนางกำนัลยืนอย่างเรียบร้อย และความคิดของทุกคนก็อยู่ตรงหน้านาง แม้แต่คนของจวนเหนียนก็ไม่ทราบว่านางกำนัลในราชสำนักคือเหนียนยวี่
เวลาผ่านไปทุกนาที และหลังจากนั้นประมาณหนึ่งธูป จือเถาก็เดินออกจากเรือนพร้อมกับใครสักคน
"เป็อย่างไรบ้าง สามารถหาหลักฐานได้หรือไม่" ฮองเฮาอวี่เหวินไต่ถาม
เกือบทุกคนจ้องมองมาที่จือเถา หนานกงเยวี่ยลอบกัดฟันและค่อยๆ เกิดร่องรอยของความกระหยิ่มใจในหัวใจของนาง ต้องพบหลักฐานและตัดสินความผิดของจ้าวอิ้งเสวี่ยในวันนี้ เฉิงเอ๋อร์ไม่ควรทนทุกข์โดยเปล่าประโยชน์
นาง้าเห็นหลักฐานอันแ่า จ้าวอิ้งเสวี่ยจะเล่นลิ้นได้อย่างไร!
"ทูลฮองเฮาเพคะ ทูลพระนางทั้งสอง ไม่มีสิ่งใดผิดปกติในเรือนของท่านหญิงจ้าวอิ้งเสวี่ยเพคะ" จือเถาโค้งคำนับ เอ่ยรายงานอย่างไม่เดือดไม่ร้อน
หลังจากคำพูดนั้น หลายคนขมวดคิ้ว แต่หนานกงเยวี่ยกลับตกตะลึง
ไม่มีอะไรผิดปกติ?
นางให้อีหลานจัดการแล้ว ยาต้องซ่อนอยู่ในห้องของจ้าวอิ้งเสวี่ยแต่...ทำไมถึงไม่มีอะไร?
"ไม่ เ้าไม่ได้ค้นหาอย่างละเอียดรอบคอบ เรือนหรูอี้นี้ต้องมีหลักฐานแน่!"