เซี่ยยวี่หลัวตื่นเต้นเล็กน้อย
เซียวจื่อเมิ่งคีบเกี๊ยวขึ้นมาหนึ่งตัวไม่มีแก่ใจจะรอให้มันเย็น กัดหนึ่งคำ แผ่นเกี๊ยวเหนียวนุ่มประกอบกับไส้หมูใส่ผักจี้ช่าย กลิ่นหอมของเนื้อหมูและผักทำให้เซียวจื่อเมิ่งไม่มีแก่ใจจะสนใจความร้อนกินเกี๊ยวที่เหลืออีกครึ่งตัวลงไปทั้งหมด จากนั้นจึงกล่าวด้วยท่าทางชอบอกชอบใจ "พี่สะใภ้ใหญ่เกี๊ยวอร่อยมาก อร่อยมาก!"
เมื่อเซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าเด็กคนหนึ่งชอบค่อยเบาใจลงเล็กน้อย "อร่อยก็ดี แต่ต้องระวังร้อน เกี๊ยวที่เพิ่งตักขึ้นจากหม้อ อาจลวกปากได้"
จากนั้นจึงทอดสายตามองไปทางเซียวจื่อเซวียนโดยทำทีราวกับไม่ได้ตั้งใจเซียวจื่อเซวียนไม่ได้รีบกินอย่างอดรนทนไม่ไหวเหมือนน้องสาว
เขาคีบขึ้นมาหนึ่งตัวหลังจากเป่าจนเย็น จึงกัดหนึ่งคำ
เซี่ยยวี่หลัวหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่หัวใจเต้นแรงจนดังตึกตักๆ นางจ้องมองเซียวจื่อเซวียนรู้สึกตื่นเต้นกว่าตอนอยู่ต่อหน้าแฟนคลับหลายแสนผ่านหน้าจอเสียอีก
เนื้อหมูสามชั้นที่มีชั้นเนื้อสลับกับมันหมูไม่แห้งและไม่มันเกินไป ประกอบกับกลิ่นหอมของผักจี้ช่าย รวมถึงแผนเกี๊ยวเหนียวนุ่ม
เซียวจื่อเซวียนกินไปหนึ่งตัวยังไม่แสดงความคิดเห็น เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่เร่งเร้า ทำทีเป็ง่วนกับงานที่ทำอยู่แต่ความจริง นางกำลังทำหูผึ่งรอฟังความคิดเห็นของเซียวจื่อเซวียนอยู่
แต่เซียวจื่อเซวียนในตอนนี้กลับรู้สึกตกตะลึงจนไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอะไร
นับั้แ่ตอนที่บิดามารดาจากโลกนี้ไปเขาก็ไม่เคยได้กินเกี๊ยวอีก เมื่อก่อนตอนพวกท่านยังอยู่ ตอนปีใหม่ท่านพ่อท่านแม่จะห่อเกี๊ยว ตอนนั้นรู้สึกว่าเกี๊ยวที่ท่านแม่ห่อเป็อาหารโอชารสทว่า เมื่อได้กินเกี๊ยวที่เซี่ยยวี่หลัวทำในวันนี้อร่อยจนเขาจำรสชาติเกี๊ยวที่ท่านแม่ทำไม่ได้แล้ว
ไม่อาจลืมไปชั่วชีวิตจริงๆ
เซียวจื่อเซวียนวางตะเกียบลง
เซี่ยยวี่หลัวมือลื่นทันทีไส้ของเกี๊ยวที่ห่ออยู่เกือบทะลักออกมา "เป็อะไรไป ไม่อร่อยหรือ?"
น้ำเสียงของนางสั่นระริกเล็กน้อยนางรู้สึกตื่นเต้น
หลอกแฟนคลับหลายแสนคนมาได้แต่หลอกเด็กตัวเล็กแค่นี้ไม่ได้?
เซี่ยยวี่หลัวนะเซี่ยยวี่หลัวเ้ามีความกล้าแค่นี้เองหรือ
เซียวจื่อเซวียนเงยหน้ามองเซี่ยยวี่หลัวทีหนึ่ง เมื่อก่อนเขามองเซี่ยยวี่หลัวด้วยแววตาเรียบเฉยมาตลอดแฝงเร้นด้วยความหวั่นเกรงและหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ครั้งนี้...
เขานั่งอยู่ด้านหลังเตาไฟ แสงค่อนข้างมืดมองเห็นไม่ค่อยชัดเจนนัก
แต่เขาแย้มรอยยิ้มเผยให้เห็นฟันขาวทั้งปาก ยิ้มพร้อมกล่าว "อร่อย!" แววตาของเขาฉายประกายรู้สึกผิดเล็กน้อยทว่า เซี่ยยวี่หลัวไม่ทันสังเกตเห็น
นางผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก "อร่อยก็ดี กินมากหน่อยหากไม่พอเราค่อยต้มเพิ่มอีก"
ไม่ว่าอย่างไร ต่อไปเด็กๆ ต้องได้กินอิ่มทุกวัน
เซี่ยยวี่หลัวรีดแผ่นเกี๊ยวและห่อเกี๊ยวต่อด้วยความดีใจแม้ว่านางจะไม่ได้กินเกี๊ยวสักตัวเดียว แต่ภายในใจรู้สึกดียิ่งนักเห็นเด็กสองคนนี้กิน นางรู้สึกดีกว่าได้กินเองเสียอีก
ไม่รู้ว่าเซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งซุบซิบอะไรกันอยู่ด้านหลังผ่านไปครู่หนึ่ง เซียวจื่อเมิ่งยกเกี๊ยวชามหนึ่งมา กล่าวเสียงใส "พี่สะใภ้ใหญ่นี่เป็ส่วนที่เรายังไม่ได้กิน ท่านกินด้วยกันสิเ้าคะ"
เด็กสองคนกินเกี๊ยวแค่คนละหนึ่งตัวก็แบ่งเกี๊ยวในชามตัวเองออกมาคนละกึ่งหนึ่ง ในชามของเซี่ยยวี่หลัวมีเกี๊ยวเต็มชามส่วนในชามของเด็กสองคนกลับหายไปกึ่งหนึ่ง เหลือเพียงคนละครึ่งชาม
เซี่ยยวี่หลัวย่อตัวลงมองเซียวจื่อเมิ่งที่ว่าง่ายและรู้ความ รู้สึกแสบจมูกเล็กน้อย “ทำไมถึงให้พี่สะใภ้กินมากขนาดนี้?”
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส “พี่รองบอกว่า พี่สะใภ้ใหญ่เป็ผู้ใหญ่ต้องกินถึงจะมีแรงเ้าค่ะ!”
เซี่ยยวี่หลัวหันมองไปด้านหลังเตาไฟนางเห็นแววตาของเซียวจื่อเซวียนที่หลบไม่ทันเข้าพอดี จึงแย้มรอยยิ้มให้เขา
เซียวจื่อเซวียนรีบก้มหน้าลง
สุดท้ายเซี่ยยวี่หลัวก็คืนเกี๊ยวให้เด็กสองคนคนละสองตัวชามใหญ่ขนาดนี้ กระเพาะนางเล็ก อย่างไรเสียก็กินไม่หมด
แม้ว่าเกี๊ยวจะมีแต่เกลือแต่ก็หอมเสียยิ่งกว่าอะไรอาจเพราะเนื้อหมูและผักจี้ช่ายในตอนนี้ล้วนเป็ของจากธรรมชาติทั้งยังมีน้ำจากแม่น้ำที่ใสสะอาดและเตาไฟที่ใช้ฟืนในการเผา ไม่มีกลิ่นจากสารเคมีกลับคงไว้ซึ่งกลิ่นหอมหวนดั้งเดิม
เกี๊ยวมื้อนี้ไม่ใช่แค่เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งที่กินแล้วไม่อาจลืมไปชั่วชีวิตแม้แต่เซี่ยยวี่หลัวก็กินจนไม่อาจลืมไปทั้งชีวิต
เด็กสองคนล้วนมีจิตใจดี ภพก่อนมีจุดจบน่าเวทนาภพนี้ นางต้องดูแลเด็กสองคนให้ดี ให้พวกเขาเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุข มีชีวิตอย่างปลอดภัยและราบรื่นไปชั่วชีวิต
หลังจากเซี่ยยวี่หลัวกินเกี๊ยวเสร็จก็ห่อเกี๊ยวอีกสามสิบถึงสี่สิบตัวจึงหยุด
ยังดีที่เป็ฤดูใบไม้ผลิด้านนอกยังหนาวเย็น เซี่ยยวี่หลัววางเกี๊ยวที่ห่อเสร็จแล้วไว้ภายในห้องครัว วางกระจายบนแผ่นไม้สะอาดก่อนใช้ฝาครอบปิดไว้ ตอนเย็นไม่ได้กินเกี๊ยว เซี่ยยวี่หลัวหั่นหมูตุ๋นน้ำแดงเคี่ยวจนได้น้ำมันหมูชามใหญ่ ส่วนที่เหลือนำมาทำหมูตุ๋นน้ำแดงทั้งหมด
หั่นหมูเนื้อแดงกึ่งหนึ่งสับละเอียดแล้วผสมน้ำ เติมเกลือเพิ่มรสชาติ เติมน้ำในหม้อด้านใน วางตะแกรงอันหนึ่งไว้ในหม้อเพื่อตุ๋นรอจนน้ำด้านในเดือด เซี่ยยวี่หลัวนำเข่งไม้ไผ่มาวางไว้ในหม้อ ปูผ้าขาวบางหนึ่งชั้นนับเกี๊ยวที่ห่อไว้ยี่สิบตัว วางไว้ในเข่งเพื่อนึ่ง
เมื่อนึ่งเกี๊ยวจนสุก ซุปหมูสับก็เสร็จแล้วเหมือนกัน
ท้องฟ้าด้านนอกมืดแล้วเซี่ยยวี่หลัวจุดไฟภายในห้องครัว
วางเกี๊ยวที่นึ่งเสร็จแล้วไว้บนจานเซียวจื่อเซวียนยกเข้าไปในห้อง เซี่ยยวี่หลัวก็ยกซุปหมูสับเข้าไปในห้องแต่ละคนมีซุปหนึ่งชาม และหมูสับหนึ่งชิ้น กินเกี๊ยวอีกไม่กี่ตัวเซี่ยยวี่หลัวก็อิ่มแล้ว
เซียวจื่อเมิ่งก็กินได้ไม่มากถึงอย่างไรตอนบ่ายก็กินเกี๊ยวไปเจ็ดถึงแปดตัวแล้ว หลังจากกินหมูสับและดื่มซุปกินเกี๊ยวอีกไม่กี่ตัวก็บอกว่าแน่นจนทนไม่ไหวแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวยกเกี๊ยวที่เหลือทั้งหมดให้เซียวจื่อเซวียนให้เขาจัดการเสีย
เซียวจื่อเซวียนเป็เด็กผู้ชายทั้งยังอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต จึงกินได้เยอะ และย่อยได้เร็วเกี๊ยวครึ่งชามใหญ่ที่กินไปตอนบ่าย ตอนนี้ก็ย่อยเกือบหมดแล้ว
มื้อเย็น เขาดื่มซุปหนึ่งชาม กินหมูสับหนึ่งชิ้นจากนั้นกินเกี๊ยวอีกสิบกว่าตัว จึงวางชามและตะเกียบลง
เขาก็กินอิ่มแล้ว
เพียงแต่ หลังจากเขากินเสร็จก็มีความรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ
หลังจากกินอาหารเซียวจื่อเซวียนยกชามที่ใช้แล้วเข้าไปในครัว เดิมทีเซี่ยยวี่หลัวคิดจะลงมือเองแต่เด็กคนนั้นไม่ยอม เซี่ยยวี่หลัวได้แต่ปล่อยไป
เซียวจื่อเซวียนล้างชามอยู่ในห้องครัวเซียวจื่อเมิ่งเก็บโต๊ะกินข้าวกับเซี่ยยวี่หลัวก่อนตามเซียวจื่อเซวียนเข้าไปในครัว
เซียวจื่อเมิ่งยืนอยู่ตรงหน้าเตาปรุงอาหารมองดูพี่รองก้มตัวล้างชาม เซียวจื่อเมิ่งยิ้มจนคิ้วโก่งโค้งงาม “พี่รองหากพี่ใหญ่รู้ว่าเรากินอิ่มขนาดนี้ทุกวัน ต้องดีใจแน่”
มือของเซียวจื่อเซวียนที่กำลังล้างชามหยุดชะงักไปพี่ใหญ่ต้องดีใจแน่
เพียงแต่...
เซียวจื่อเซวียนยืนตัวตรงไม่ได้มองใบหน้าของเซียวจื่อเมิ่งที่ยิ้มแย้มเบิกบาน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแ่เบา “พวกเรากินอิ่มแล้วมีทั้งเนื้อหมูมีทั้งเกี๊ยว แต่พี่ใหญ่ล่ะ?”
ตอนนี้พี่ใหญ่อยู่ที่ไหนอยู่สบายหรือไม่?
กินข้าวที่ไหน เขากินอิ่มหรือไม่?
เหนื่อยหรือไม่?
ลำบากหรือไม่?
เซียวจื่อเมิ่งไม่เข้าใจเื่ที่เซียวจื่อเซวียนเป็ห่วงนางเอ่ยถามเสียงใส “พี่รอง ท่านว่าอะไรนะ? พี่ใหญ่ทำไมหรือ?”
บรรยากาศพลันเงียบสงัดแฝงเร้นด้วยความกดดันที่ยากจะบรรยาย