“อืม...”
คำพูดของผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบคนนี้ทำให้เสว่อู๋เหินที่กำลังเดินวนไปมาหยุดชะงักลงในทันที และทำให้สีหน้าของผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบอีกคนที่อยู่ข้างๆ ดำคล้ำลงยิ่งกว่าเดิมหลายส่วน
ถูกต้องอย่างที่สุด! เื่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่ไปสืบดูว่าอะไรที่เป็สาเหตุทำให้เย่ชิงหานแข็งแกร่งขึ้นมาถึงเพียงนี้ แต่เป็การคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง ดังเช่นที่กล่าวมาแล้วว่า การปฏิบัติตัวของเสว่อู๋เหินในครั้งนี้จะต้องทำให้เย่ชิงหานและพวกหลงไซ้หนานเกิดความสงสัยขึ้นมาแน่ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเสว่อู๋เหินได้ปล่อยแมลงอำพรางเอาไว้บนร่างเขา แต่ถ้าหากพวกเขาเกิดความสงสัยขึ้นมาสักหน่อยแล้วบีบบังคับถามเอาความจริงกับหมันก้าน เื่ที่เสว่อู๋เหินทำไว้คงต้องถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมดเป็แน่
ดังนั้นดูจากรูปการณ์แล้ว ความเป็ไปได้ที่พวกเขาจะถูกเปิดโปงนั้นเป็ไปได้สูง หากเื่ถูกเปิดโปงออกมาละก็ ทั้งเสว่อู๋เหินและคนของตระกูลเสว่จะไม่ต่างจากหนูสกปรกที่วิ่งข้ามถนนที่ไม่ว่าใครเห็นก็ร้องด่าและไล่ตี ดังนั้นพวกเขาต้องรีบหนีภัยในครั้งนี้ไปก่อนที่เย่ชิงหานและพวกหลงไซ้หนานจะกลับมาถึงเขตพื้นที่จุดรวมพลชั่วคราวแห่งนี้
“คงต้องหนีแล้วละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไปภายในคืนนี้ด้วย เสาะหาสถานที่มิดชิดหลบพักอยู่จนกว่าจะสิ้นสุดงานประลอง หลังจากสิ้นสุดงานประลองพวกเราจะถูกเคลื่อนย้ายไปนครแห่งเทพโดยตรง ถึงตอนนั้นพวกเราก็ปลอดภัยกันแล้ว” ดวงตาเสว่อู๋เหินปรากฏแววอาฆาตแค้นขึ้น นิ่งเงียบไปเนิ่นนานก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“ข้ารู้จักถ้ำที่มิดชิดแห่งหนึ่งอยู่บริเวณเขตแดนรอบนอกป่ามายาพิศวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งละแวกใกล้เคียงมีมารอสูรระดับเจ็ดคุณภาพสูงอยู่ตัวหนึ่ง หน่วยลาดตระเวนธรรมดาทั่วไปไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้บริเวณนั้นแน่ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ออกเดินทางกัน พาสมาชิกกองกำลังคนอื่นๆ ไปด้วยหรืออย่างไร?” ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบที่สีหน้าดำคล้ำพยักหน้าเห็นด้วย พลันนึกถึงสถานที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศพิเศษที่ตนเองเคยพบเจอ จึงเอ่ยออกมา
ดวงตาคู่ดำเทาของเสว่อู๋เหินเปล่งประกายแสงโเี้วาบผ่าน ส่ายหน้าแล้วพูดปฏิเสธออกมา “ไม่! คนเดียวก็ไม่พาไปด้วย แค่พวกเราสามคนพอ พวกเ้ารีบกลับไปเตรียมการเถอะ อย่าลืมนำเสบียงอาหารแห้งไปเยอะหน่อย! คืนนี้พวกเราค่อยแอบหนีออกไป!”
“เอ่ออ...เอาอย่างนั้นก็ได้!” ผู้มีพลังฝีมือระดับเขตจ้าวนักรบที่มีสีหน้าดำคล้ำคิดลังเลอยู่สักพักก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างจำใจ จากนั้นเดินจากไปพร้อมกับผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบอีกคน
มองดูทั้งสองคนเดินจากไป ดวงตาหยินหยางของเสว่อู๋เหินปรากฏแสงแปลกประหลาดขึ้น เขามองลอดผ่านปากถ้ำออกไปยังท้องฟ้าที่อยู่ห่างไกลออกไปพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “เย่ชิงหาน วันนี้เ้าบีบบังคับให้ข้าต้องหนีหัวซุกหัวซุนถึงเพียงนี้ สักวันข้าจะทวงคืนกับเ้าทั้งต้นทั้งดอก ถึงวันนั้นไม่เพียงข้าจะเฉือนเนื้อเ้าทั้งเป็ ตระกูลเย่ข้าก็จะถูกบดขยี้ให้ราพณาสูรไม่ให้เหลือ รวมไปถึงเยว่ชิงเฉิง นางผู้หญิงแพศยานั่นอีกคน ข้าจะทำให้มันเสียใจไปตลอดชีวิต...”
.................................
เย่ชิงหานกำลังฝันดีและเป็ฝันที่ยาวนาน เขาฝันว่าตนเองตะลุยกวาดล้างไปทั่วทั้งสี่ทิศ สยบนักรบต่างเผ่าจนราบคาบ เก็บสะสมคะแนนได้อย่างมากมายนำมาแลกยาิญญาเทวะได้สำเร็จ เดินทางกลับไปยังตระกูลพบว่าเย่เทียนหลงถือยาิญญาเทวะอีกเม็ดไว้ในมือยืนรอคอยต้อนรับเขาที่ประตูใหญ่เมืองชาง สุดท้ายเขาฝันเห็นน้องสาวเย่ชิงอวี่กลืนยาทั้งสองเม็ดลงไป จากนั้นนางค่อยๆ ลืมตาที่หลับใหลมาอย่างยาวนานขึ้น ในขณะเดียวกันเส้นผมที่ขาวทั้งศีรษะของนางเริ่มเปลี่ยนกลับมาเป็ดำมันวาวเช่นเดิม เขามองดูรอยยิ้มน่าเคลิบเคลิ้มบนใบหน้าเล็กๆ ที่อ่อนโยนและบอบบางของน้องสาว พร้อมกับกลิ่นหอมจางๆ ที่แผ่ออกมาจากเส้นผมของนาง...
เพียงแต่ เมื่อเขาตื่นขึ้นมาสิ่งที่มองเห็นยังคงเป็ใบหน้าที่สวยหยาดเยิ้มและจมูกก็ยังได้กลิ่นหอมจางๆ ที่ลอยมาจากเส้นผมดำขลับ แต่ทว่า...ใบหน้าที่เห็นกลับไม่ใช่ใบหน้าของเย่ชิงอวี่ กลิ่นหอมจางๆ ที่ลอยมาจากเส้นผมกลับไม่เหมือนกลิ่นหอมที่คุ้นเคยจากเส้นผมของเย่ชิงอวี่ ทำให้รู้สึกผิดหวังจนต้องหลับตาลงไปอีกครั้ง...
“ชิงหาน! เป็อะไรมากไหม? ยังมีตรงไหนที่ไม่สบายอีก?” เยว่ชิงเฉิงมองดูใบหน้าสดใสที่อยู่ตรงหน้าซึ่งแฝงไว้ด้วยความรู้สึกความเศร้า รันทด ภายในใจอดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกเป็ห่วงกังวลขึ้น จึงรีบเอ่ยถามขึ้นด้วยความห่วงใย
“ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่เพียงคิดถึงเื่บางเื่ขึ้นมาเท่านั้นเอง!” เย่ชิงหานนิ่งเงียบไปสักพัก หลับตาทำการตรวจสอบดูทั่วร่างกายจนแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี จากนั้นถึงค่อยลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง มุมปากปรากฏรอยยิ้มเกรงใจออกมาแล้วลุกนั่งขึ้น
“อืม พูดให้ชิงเฉิงฟังได้ไหม? เื่เกี่ยวกับน้องชิงอวี่ใช่หรือไม่?” เยว่ชิงเฉิงมองเห็นรอยยิ้มที่เกรงใจของเย่ชิงหาน ภายในใจรู้สึกยินดีขึ้น เย่ชิงหานเริ่มใส่ใจต่ออารมณ์ความรู้สึกของนางแล้ว จากนั้นจึงเอ่ยถามต่อ
“อืม...เื่มันยาว เื่นี้เอาไว้ก่อนเถอะต่อไปเดี๋ยวเ้าก็คงรู้เอง ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนกันแล้ว?” เยว่ชิงหานยิ้มออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืน บิดร่างกายยืดเส้นยืดสายไปมาแล้วเริ่มมองดูรอบๆ ตอนนี้เขาอยู่ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง ขณะนี้เป็เวลา่บ่ายแสงแดดภายนอกยังคงร้อนแรง
“อืม” เยว่ชิงเฉิงพยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วลุกขึ้นยืนตาม จากนั้นพูดอธิบายขึ้น “ตอนนี้พวกเรากลับมาที่เขตพื้นที่รวมพลชั่วคราวของเขตปกครองเทพาภายในสนามรบตะลุมบอน เนื่องจากสมาชิกกองกำลังาเ็เป็จำนวนมากแม่นางหลงจึงออกคำสั่งให้หยุดพักฟื้นกันที่นี่ก่อน ทุกอย่างรอเ้าตื่นขึ้นมาค่อยว่ากัน ส่วนเหตุการณ์ต่างๆ ปกติดี!”
“อืม!” เย่ชิงหานยิ้มขึ้น ยืนมืออกไปจับมือที่สวยราวกับหยกแกะสลักของเยว่ชิงเฉิง จากนั้นหมุนตัวกลับมาพูดขึ้นต่อหน้าของเยว่ชิงเฉิง “ชิงเฉิง รอข้าช่วยน้องสาวจนฟื้นกลับคืนมาได้ข้าจะไปสู่ขอเ้าที่ตระกูลเยว่ ตอบแทนที่เ้าทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อข้ามาโดยตลอด เย่ชิงหานไม่มีอะไรจะให้ ทำได้เพียงแค่ใช้ทั้งชีวิตที่มีปกป้องเ้า ปกป้องตระกูลเยว่เพื่อตอบแทนความรักที่เ้ามีต่อข้า!”
เยว่ชิงเฉิงถูกเย่ชิงหานจับมืออย่างไม่ทันตั้งตัวรู้สึกเขินอายเป็อย่างมาก มองดูดวงตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้งของเย่ชิงหาน นางรีบก้มหน้าที่แดงด้วยความเขินอายนั้นลงในทันที มือที่ขาวราวกับหยกแกะสลักนั้นก็เปลี่ยนเป็สีชมพูขึ้นมาไม่ต่างกัน ยิ่งได้ฟังคำพูดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งนางยิ่งไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปดี ทำเพียงเงยหน้าขึ้นมาอย่างเอียงอายและพยักหน้าลงตอบรับอย่างหนักหน่วงอยู่เช่นนั้น
“ฮ่าๆ...ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเยว่ก็เขินอายเป็ด้วย! ไป ออกไปดูของรางวัลที่ได้จากการสู้รบของพวกเรากัน...” เย่ชิงหานแหงนหน้าหัวเราะเสียงยาวออกมา จากนั้นจูงมือเยว่ชิงเฉิงเดินออกมาภายนอกถ้ำ
“สวัสดีนายน้อยหาน สวัสดีแม่นางชิงเฉิง!”
“สวัสดีนายน้อยหาน แม่นางชิงเฉิง!”
เมื่อเดินออกมาจากภายในถ้ำ ภายใต้การชี้บอกของเยว่ชิงเฉิงทั้งสองเดินตรงไปยังห้องประชุมของจุดรวมพลชั่วคราว ตลอดทางที่เดินผ่านไม่ว่านักรบระดับหัวกะทิคนไหนๆ ที่พบเจอกับเย่ชิงหานจะต้องแสดงการคำนับแก่เขาอยู่ตลอดด้วยสีหน้าอาการตื่นเต้น เย่ชิงหานคือคนที่ช่วยชีวิตพวกเขา เป็ราวกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่ชิงหานมีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ สามารถนับได้ว่าเป็ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งคนหนึ่งของเขตปกครองเทพาเลยก็ว่าได้ และยอดฝีมือที่แข็งแกร่งก็สมควรที่จะต้องได้รับความเคารพยำเกรง
“ไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยจริงๆ หนึ่งแสนสามหมื่นกว่าคะแนน พวกเรานี่เจ๋งเป็บ้าเลย ไม่แน่ว่าอาจจะเป็ครั้งที่ได้รับคะแนนสะสมมากที่สุดั้แ่เริ่มมีงานประลองาระหว่างเขตปกครองมาเลยก็เป็ได้ พวกเราสร้างประวัติศาสตร์อันเป็ะขึ้นมากันแล้ว...”
“เฟิงจื่อหน้าเ้านี่ช่างด้านเสียเหลือเกิน ทั้งหมดนี้เป็ผลงานของนายน้อยหาน ไม่ได้เกี่ยวกับเ้าเลย ประวัติศาสตร์อันเป็ะ ล้มไม่รู้โด่เป็ะแทนเอาไหม?”
“เ้ากะเทย เ้าไม่ขัดข้าสักเื่จะได้ไหม ข้าคุณชายเฟิงกำลังอารมณ์ดีไม่อยากจะปะทะคารมกับเ้า ต่อไปถ้ายังขืนขัดข้าอยู่อย่างนี้อีก ข้าจะสาปแช่งให้เ้าน้ำแห้งไปทั้งชีวิต...”
ยังไม่ทันที่จะเดินเข้าไปภายในถ้ำก็ได้ยินเสียงทุ้มใหญ่ที่ร้องดังออกมาจากภายใน และเสียงเล็กแหลมของฮวาเฉ่า ทั้งเย่ชิงหานและเยว่ชิงเฉิงมองตากันต่างก็ส่ายหัวไปมาอย่างอับจนคำพูด
“ฮ่าๆ คนบ้ากับกะเทย วันเดือนปีเกิดของพวกเ้าทั้งสองคงจะเป็ปฏิปักษ์กันแน่ๆ อยู่ด้วยกันทีไรต้องทะเลาะกันทุกทีเลย!”
เย่ชิงหานและเยว่ชิงเฉิงเดินตรงเข้ามา มองดูภายในถ้ำค่อนข้างกว้างใหญ่มีผู้คนมากมายนั่งอยู่ภายในทั้งรู้จักคุ้นเคยและไม่รู้จัก เย่ชิงหานประสานมือไปรอบทิศทางแล้วกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้