เหลียงเจิ้นเวยใมากจนแม้แต่เริ่มสงสัยว่ากระบี่ของฉินเฟิงมาจากไหนสายตาของเขาจดจ้องไปที่กระบี่เจินกังในมือของฉินเฟิง ซึ่งปล่อยแสงสีเหลืองจางๆออกมา
เขารู้ว่านี่ต้องเป็กระบี่ล้ำค่าแน่นอนและอาจจะเป็สมบัติวิเศษจากหนึ่งในสำนักเร้นลับพวกนั้น สมบัติวิเศษทั้งหมดมีจิติญญาและจะเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้ใช้อย่างมากเมื่อได้ต่อสู้
เหลียงเจิ้นเวยอยากจะฉกกระบี่นั่นในมือของฉินเฟิงอย่างไรก็ตาม เขาลืมไปว่าเขาแพ้แล้ว และกำลังจะตาย
ฉัวะ!
หลังจากฟันแส้ให้ขาดฉินเฟิงไม่ลังเลที่จะฟันออกไปอีกครั้ง แสงสีเหลืองเบลอผ่านอากาศ และในไม่กี่วินาทีต่อมาเหลียงเจิ้นเวยรู้สึกหนาวะเืที่คอร่างกายของเขากระตุกอย่างรุนแรงก่อนที่จะล้มลงกับพื้นจมกองเื
“ติ๊ง...ขอแสดงความยินดีแก่โฮสต์ฉินเฟิงที่ทำภารกิจฆ่าเหลียงเจิ้นเวยได้สำเร็จคุณได้รับแต้มสำราญ 1,000 แต้มเป็รางวัล”
“ติ๊ง...ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ :ทลายขีดจำกัดให้ถึงกำลังภายในขั้นสอง”
“ระยะเวลาภารกิจ : 1 เดือน”
“เมื่อภารกิจลุล่วงจะได้รับแต้มสำราญ 500 แต้มเป็รางวัลหากล้มเหลว โฮสต์จะสูญเสียวิชากระบี่พื้นฐาน”
...
ทันทีที่เหลียงเจิ้นเวยตายระบบก็ประกาศออกมา เมื่อเห็นว่าเขาได้รับแต้มสำราญ 1,000 แต้มอีกครั้งฉินเฟิงก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ
จ้าวหลิงเซียนถึงกับต้องตะลึงการต่อสู้ที่เข้มข้นแบบนี้เหนือกว่าที่เธอเคยเห็นมาทั้งหมดเงาแส้ของเหลียงเจิ้นเวยที่คลุมได้ทั้งฟ้าดินและกระบี่เจินกังที่เรืองแสงสีเหลืองจางๆ ทั้งหมดอยู่เหนือเหตุผลของเธอโดยสิ้นเชิง
ความจริงเธอแม้แต่สงสัยว่ากำลังฝันอยู่หรือเปล่าไม่งั้นเอฟเฟค CG อลังการจะโผล่ขึ้นในชีวิตจริงได้อย่างไร?
“หลิงเซียน ไม่เป็ไรนะ?” ฉินเฟิงมาหาจ้าวหลิงเซียนและเห็นว่าเธอค่อนข้างใเขาดึงร่างกายที่สั่นเทิ้มของเธอเข้ามาในอ้อมกอด
เมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นของร่างกายฉินเฟิงและกลิ่นอายความเป็ชายของเขาจ้าวหลิงเซียนก็ใจเย็นลง
เธอยืนยันว่านี่ไม่ใช่ฝันและทั้งหมดก็เกิดขึ้นจริง
เธอรีบผลักฉินเฟิงออกไปขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงดูกังวล“ฉินเฟิง นาย...นายฆ่าคน!”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉินเฟิงฆ่าคนมาก่อนและเขาก็ชินกับมันนานแล้วหลังจากได้รับระบบมา ตอนนี้เขาก็ได้เข้าใจความหมายของ‘ผู้อ่อนแอเป็เหยื่อของคนแข็งแกร่ง’
“ฉันฆ่าคนไปงั้นเหรอ? ฉันนึกว่าเพิ่งฆ่าศัตรูพืชไปซะอีกหลิงเซียน เธอทำตัวเว่อร์เกินไปแล้ว” ฉินเฟิงลูบหลังของจ้าวหลิงเซียนเบาๆพยายามทำให้เธอใจเย็นลง
เมื่อคิดว่าเหลียงเจิ้นเวยหยิ่งมากขนาดไหนตอนที่อยู่บ้านของเธอความหยาบคายที่เขามีกับพ่อของเธอและความคิดต่ำช้าที่มีต่อเธอจ้าวหลิงเซียนได้พบว่าเธอไม่ได้สนใจมากนักที่เขาตายดวงตาโตของเธอมองไปที่ฉินเฟิงอย่างอ่อนโยนขณะที่ถาม “ฉินเฟิง ทำไมถึงฆ่าเขาล่ะ?”
แม้ว่าจ้าวหลิงเซียนจะได้ยินสิ่งที่ฉินเฟิงพูดแต่แรกแล้วแต่เธอก็อยากฟังเขาพูดกับเธอโดยตรง
“เพราะฉันรู้สึกว่ามันน่ารำคาญไปหน่อยเธอก็รู้ว่าฉันคือนายน้อยเ้าสำราญเอาแต่ใจที่พึ่งแต่อำนาจพ่อฉันเห็นใครที่ไม่ชอบบ่อยๆ ฉันก็จะฆ่าล้างมันทั้งตระกูล” หลังจากสู้เสร็จฉินเฟิงก็กลับสู่โหมดกะล่อนตามปกติ
นี่เป็เพราะว่าฉินเฟิงยังไม่อยากแสดงเจตนาที่แท้จริงของเขาให้จ้าวหลิงเซียนรู้ในตอนนี้
จ้าวหลิงเซียนรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่ฉินเฟิงแกล้งทำเป็เซ่อต่อหน้าเธออย่างไรก็ตาม เธอจำอาการาเ็ของฉินเฟิงได้และเดินไปข้างหลังเขาเมื่อเธอเห็นแผลฉีกขาดที่เต็มไปด้วยเืจากแส้ จ้าวหลิงเซียก็เริ่มน้ำตาคลอ
“ฉินเฟิง มะ...มาที่บ้านกับฉัน ฉันจะใส่ยาให้นาย”จ้าวหลิงเซียนกล่าวขณะที่กลั้นน้ำตาไว้
ฉินเฟิงไม่ได้รีบแม้ว่ามันจะดูค่อนข้างสาหัส มันก็เป็แค่าแที่เนื้อเขาให้ความสำคัญกับร่างกายของเหลียงเจิ้นเวยมากกว่า
ตอนนี้เขาเก็บกวาดสมาชิกของตระกูลเหลียง2คนแล้วขณะที่คิดถึงภารกิจทำลายล้างตระกูลเหลียงทั้งตระกูลในเมืองหลวงและได้แต้มสำราญ 20,000แต้มเป็รางวัล ฉินเฟิงก็ตื่นเต้น
ตอนนี้ตระกูลฉินกำลังพัวพันกับการต่อสู้กับตระกูลฮ่าวดังนั้นฉินเฟิงจึงไม่รบกวนลุงฝูในตอนนี้ จางเปียวก็ไปซ่อนตัวอยู่เขาตระหนักได้ว่าเขาขาดแคลนลูกน้องเพื่อที่จะให้ดูแลเื่ให้กับเขาด้วยเหตุนี้เขาจึงหยิบโทรศัพท์มาโทรหาพ่อ
“เฟิงเอ๋อ ลูกได้ไปเยี่ยมอาจ้าวหรือเปล่า?” เสียงของฉินหวงดังออกมาจากปลายสาย
“ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านของอาจ้าวอาจ้าวบอกว่าเขาคิดถึงพ่อและอยากจะชวนพ่อไปดื่มไวน์เป็บางครั้งด้วย”ฉินเฟิงเอาใจพ่อด้วยคำพูด แล้วก็เข้าสู่เื่หลัก “พ่อ พ่อช่วยผมปล่อยคน 3คนจากกรง 12 ในสำนักงานย่อยเขตเหนือได้ไหม?ตอนที่ผมถูกขังอยู่ พวกเขาช่วยผมไว้นิดหน่อยและผมสัญญาว่าผมจะปล่อยตัวพวกเขาถ้าผมออกไปได้”
ฉินเฟิงสร้างเื่ขึ้นมาซึ่งฉินหวงก็ยอมรับ หลังจากวางสาย ฉินเฟิงลากศพของเหลียงเจิ้นเวยไปไว้ที่พุ่มไม้มันดึกแล้วและคงจะไม่โดนพบในเร็วๆ นี้
“ฉินเฟิง นายจะทำอย่างไรกับมัน?” เมื่อเห็นฉินเฟิงโยนศพของเหลียงเจิ้นเวยไปไว้ในพุ่มไม้จ้าวหลิงเซียนรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมนัก
ฉินเฟิงยิ้มและตอบ“ไม่ต้องห่วง ลูกน้องฉันกำลังมาเร็วๆ นี้แหละ ฉันจะให้พวกมันจัดการเองไม่ใช่เธอบอกว่าจะช่วยใส่ยาให้ฉันเหรอ? ไปที่ห้องเธอกันเถอะ”
หลังจากจัดการเหลียงเจิ้นเวยฉินเฟิงยิ้มให้กับจ้าวหลิงเซียน ตั้งใจเย้ายวนเธอเต็มที่จ้าวหลิงเซียนหงุดหงิดนิดหน่อย และรีบวิ่งกลับบ้าน
เมื่อพวกเขากลับถึงที่พักตระกูลจ้าวจ้าวต้าไห่ก็หลับไปแล้ว พวกเขาสองคนจึงย่องเข้าไปในห้องของจ้าวหลิงเซียนทำให้จ้าวหลิงเซียนรู้สึกแปลก มันเหมือนกับว่าพวกเขาแอบคบกันอยู่
เมื่อเข้าห้องจ้าวหลิงเซียนแล้วกลิ่นหอมบางๆ ก็แตะจมูกของฉินเฟิง มันเป็กลิ่นเดียวกันกับกลิ่นของจ้าวหลิงเซียน
ฉินเฟิงชอบกลิ่นนี้มันหอมหวานชื่นใจ ความจริงเขาเริ่มดมฟุดฟิดในอากาศ ทำให้จ้าวหลิงเซียนหมดคำพูด
ในห้องของจ้าวหลิงเซียนฉินเฟิงรู้สึกผ่อนคลายมาก ราวกับเป็ห้องของตัวเอง เมื่อเขาเข้ามาเขาก็อยากจะนอนลงบนเตียงสีชมพูของเธอ
กลิ่นหอมหวนที่เข้มข้นบนเตียงฉินเฟิงนอนลงอย่างสบายและสำราญใจกับกลิ่น เมื่อเห็นเขาที่ทำตัวโรคจิตจ้าวหลิงก็จ้องเขม็ง แต่ไม่ได้ไล่ออกไป
ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อยไม่เคยมีผู้ชายมานอนบนเตียงของเธอมาก่อน ความจริง แม้แต่นั่งบนเตียงก็ยังไม่เคย
จ้าวหลิงเซียนหยิบกล่องยาออกมาและใส่ยาฆ่าเชื้อโรคบนสำลีอย่างระมัดระวัง
หลังจากที่ให้ฉินเฟิงนอนคว่ำลงเธอเช็ดาแที่สาหัสมากที่สุดบนหลังของฉินเฟิงอย่างเบามือเสื้อเชิ้ตสีขาวของฉินเฟิงฉีกขาดและย้อมไปด้วยเืซึ่งทำให้ยากที่จ้าวหลิงเซียนจะทำความสะอาดแผล ใบหน้าของเธอแดงขึ้นขณะที่ลังเลก่อนจะถามด้วยเสียงเบาหวิว “ฉินเฟิง นายถอดเสื้อออกได้ไหม? แบบนี้มันทำความสะอาดแผลลำบาก”
รอยยิ้มชั่วร้ายโผล่ขึ้นบนใบหน้าของฉินเฟิงทันทีเขาแกล้งทำเป็เหนื่อยและตอบ “น้องหลิงเซียน ฉันเหนื่อยจนขยับไม่ไหวแล้วให้ฉันนอนสักพักเถอะ ถ้าเธออยากถอดก็ถอดให้หน่อย”
ใบหน้าของจ้าวหลิงเซียนแดงระเรื่อจากอาการเขินอายหลังจากหยุดสักพักหนึ่ง เธอกัดฟันและช่วยฉินเฟิงถอดเสื้ออย่างช้าๆ
ในบางที่เสื้อของเขาได้ติดกับหนัง จ้าวหลิงเซียนจึงต้องแกะมันออกอย่างระมัดระวังแต่ก็ยังทำให้าแบางแห่งเปิดขึ้นมา เมื่อเห็นอย่างนี้น้ำตาก็เกือบไหลออกมาจากดวงตา
ฉินเฟิงกัดฟันตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ร้องออกมาเพราะกลัวว่าจะเพิ่มแรงกดดันให้กับจ้าวหลิงเซียน ในที่สุดหลังจากถอดเสื้อของฉินเฟิงได้แล้วจ้าวหลิงเซียนก็เริ่มช่วยเขาถอดกางเกง ซึ่งมันง่ายกว่ามาก
ทั้งอย่างนั้นฉินเฟิงก็จบด้วยการนอนลงบนเตียงของจ้าวหลิงเซียนด้วยบ็อกเซอร์
ตอนนี้ใบหน้าของจ้าวหลิงเซียนแดงแจ๋เหมือนแอปเปิ้ลลูกใหญ่เธอใช้สำลีทำความสะอาดแผลของฉินเฟิงต่อ
เมื่อรู้สึกนิ้วของจ้าวหลิงเซียนที่เลื่อนไปบนิัฉินเฟิงเกือบจะครางออกมาด้วยความสุข อย่างไรก็ตามเขาเหนื่อยมากหลังการต่อสู้กับคู่แข่งสุดหินอย่างเหลียงเจิ้นเวยและค่อยๆเคลิ้มหลับไป
เขาไม่รู้ว่าเขาหลับไปนานขนาดไหนแต่เสียงเคาะประตูก็ปลุกเขาตื่นขึ้นทันที เขารีบลุกขึ้นนั่งแต่ไม่ได้ตระหนักว่าจ้าวหลิงเซียนกำลังทำความสะอาดแผลอยู่บนอกของเขาซึ่งทำให้เธอร้องออกมา
“หลิงเซียน เกิดอะไรขึ้น?” เป็จ้าวต้าไห่ที่เคาะประตูเขาค่อนข้างเป็ห่วงเมื่อได้ยินจ้าวหลิงเซียนร้องออกมา
“อ๊ะ...พ่อ ไม่มีอะไร หนูหลับไปและพ่อก็มาเคาะประตูเลยทำให้หนูในิดหน่อย”จ้าวหลิงเซียนตอบสนองอย่างว่องไวและไม่กล้าขยับแม้แต่นิดในแขนของฉินเฟิง
สถานการณ์แบบนี้ค่อนข้างปลุกใจเลยทีเดียวอาจ้าวที่กำลังยืนอยู่นอกประตูแต่เขาที่อยู่ข้างในกำลังกอดกับลูกสาวของเขาด้วยหน้าอกเปลือยเปล่าฉินเฟิงรู้สึกซนขึ้นมาและวางมือลงบนต้นขาของจ้าวหลิงเซียน
จ้าวหลิงเซียนสะดุ้งเฮือกและรีบไล่มือของฉินเฟิงไปแล้วถลึงตาใส่เขาอย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงแสยะยิ้มและกดริมฝีปากเขาเข้ากับริมฝีปากของจ้าวหลิงเซียน
อื้ม...
จ้าวหลิงเซียนเริ่มดิ้นเมื่อคิดว่าพ่อของเธออยู่ด้านนอกประตู ใบหน้าของเธอก็แดงเป็ลูกตำลึง
“หลิงเซียน ลูกไม่เป็ไรจริงๆ เหรอ? พ่อแค่อยากบอกว่าฉินเฟิงกับเหลียงเจิ้นเวยกลับไปแล้วคนของตระกูลเหลียงนั้นหยิ่งมากพ่อจะไม่พยายามจัดการแต่งงานของลูกกับพวกเขาอีกในอนาคต ั้แ่ตอนนี้ลูกจะเป็คนที่ตัดสินใจการแต่งงานของลูกเอง ตราบใดที่ลูกชอบคนคนนั้นพ่อก็จะสนับสนุนลูกเต็มที่ แม้ว่ามันจะเป็คนเก็บขยะก็ตาม”
“อ้อ ไอ้หนุ่มฉินเฟิงนั่นจริงๆ แล้วเป็คนดี พ่อมองเขาเติบโตมาและแม้ว่าเขาจะเสเพลเหลวไหลไปหน่อย แต่เขาก็ใจดีมันก็แค่ว่าเขาเลิกล้มการแต่งงานของเรา ไม่อย่างนั้นนะ เฮ้อ...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้