“เช่นนั้นหรือ...”
ยังพูดไม่ทันจบ หนีเจียเอ๋อร์ก็รู้สึกได้ว่าร่างของตนหมุนคว้าง เพราะโจวชิงหวาอุ้มนางขึ้นมา ก่อนพาไปนั่งบนเตียง
“ชิงหวา เ้าจะทำอะไรน่ะ?”
โจวชิงหวาเช็ดหยาดน้ำตาบนใบหน้าด้วยมือทั้งสองข้าง ใบหน้าหล่อเหลาแลดูเศร้าโศก หากน้ำเสียงที่เอ่ยถาม กลับเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและโทสะ “บอกข้ามาสิ ว่าใครเป็คนทำ?”
บรรยากาศเยียบเย็นจนหญิงสาวตัวสั่นสะท้าน จึงต้องเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังอย่างคร่าวๆ แต่หลีกเลี่ยงไม่ยอมบอก ว่าที่นางทำร้ายตัวเองก็เพราะหวังจะช่วยเขา ด้วยไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต จึงเอ่ยว่าตนเพียง้าพิสูจน์ตัวเอง เนื่องจากอยากจะฝากตัวเป็ศิษย์ของควงเยวี่ยโหลว
ก่อนที่หนีเจียเอ๋อร์จะพูดจบ ชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้น แล้วหันหลังระงับอารมณ์ ที่ควงเยวี่ยโหลวทวงถามถึงสิ่งมีค่าจากนางอย่างไร้ซึ่งขอบเขต แต่ที่โกรธเคืองยิ่งกว่า ก็เพราะนางไม่รู้จักห่วงตัวเองเลย คิดแต่จะทำเพื่อให้ได้ร่ำเรียนวิชาแพทย์เท่านั้น
แค่โจวชิงหวาก้าวพ้นลานบ้าน อวัยวะภายในซึ่งกำลังบอบช้ำก็พลันประท้วงขึ้นมา ชายหนุ่มสีหน้าซีดเซียว มือเย็นเฉียบ ความเ็ปแผ่ซ่าน จนเหงื่อเย็นๆ ไหลรินลงมาตามขมับ
ยามที่ได้เจอควงเยวี่ยโหลว ร่างกายของเขาก็จวนเจียนจะล้มพับอยู่แล้ว แต่ยังคงฝืนสังขารชักกระบี่ออกมาอย่างแน่วแน่ พลางเดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย ทว่าพอก้าวเข้าไปใกล้ จนกระทั่งอีกแค่สองสามก้าวจะประชิดตัวแล้ว ชายหนุ่มผู้กำลังาเ็กลับล้มแผละ แม้จะประคองตัวเองขึ้นมาได้ แต่ก็ล้มลงไปอีก... เป็เช่นนี้อยู่พักใหญ่
ควงเยวี่ยโหลวหรี่ตาลง ราวกับจะเห็นภาพเขาซ้อนทับกับสตรีผู้เป็น้องสาว ซึ่งทุ่มเทอ้อนวอนให้ตนช่วยรักษาพี่ชายของนาง จนร่างกายทนไม่ไหว ก่อนสลบไสลมิได้สติกลางกองหิมะ...
และตอนนี้ ผู้เป็พี่ชายก็ยังมุ่งมั่นที่จะสังหารเขา แม้สังขารของตนจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม
“พวกเ้าสองคน สมเป็พี่น้องกันจริงๆ” ควงเยวี่ยโหลวเดินไปรับร่างอันอ่อนล้าของโจวชิงหวา
ชายหนุ่มกุมคอตัวเอง แล้วกระอักเืจนตัวสั่นระริก พยายามชูกระบี่ในมือออกไปข้างหน้า “ท่านหมอ โปรดแลกเปลี่ยนดวงตาของข้ากับนาง ช่วยเอาดวงตาคู่นี้ไปรักษานางที”
ควงเยวี่ยโหลวรังเกียจการััแนบชิดกับผู้อื่นมาตลอด แต่วันนี้ กลับปล่อยให้โจวชิงหวาขยุ้มคอเสื้อโดยไม่ถือสา... คงเป็เพราะความรู้สึกที่สายตาคู่นั้นสื่อออกมากระมัง
เขาถอนหายใจ แล้วกระซิบอย่างจนใจ “ขออภัย ที่ข้าไม่อาจรักษาดวงตาของนางได้”
อย่างน้อย ตอนนี้ก็ไม่มีหนทาง...
พอได้ยิน โจวชิงหวาก็ยิ่งเ็ป เขากระอักเือย่างหนัก จนหมดสติไปอีกครั้ง
...
พอได้สติตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาทำ ก็คือการตามหาตัวหนีเจียเอ๋อร์ ด้วยอยากจะพานางลงเขาไปหาหมอคนอื่น
ทว่ากลับถูกปฏิเสธ เพราะตอนนี้ เป้าหมายของนางคือการพิสูจน์ความมุ่งมั่นของตัวเอง ที่จะเป็ศิษย์ในสำนักแห่งนี้
แล้วโจวชิงหวาจะไม่ใส่ใจความมุ่งมั่นของอีกฝ่ายได้หรือ แต่เพราะเห็นนางตาบอด หัวใจของเขาจึงคล้ายจะถูกบีบรัด จนถึงกับพูดไม่ออก
เขาอยากพาหญิงสาวไปรักษาตัว ถึงจะเป็การฝืนใจนาง แต่ก็ต้องพาตัวไปให้ได้ เขาจึงทำให้หนีเจียเอ๋อร์หมดสติ จากนั้นก็อุ้มนางออกจากห้องสมุนไพร
ร่างของโจวชิงหวาเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร จนศิษย์คนอื่นๆ หวาดผวาไม่กล้าเข้าใกล้ มีคนเห็นเป็เื่ร้ายแรง จึงรีบตรงไปรายงานควงเยวี่ยโหลว
ซึ่งในตอนนี้ เขากำลังสอนควงเหยาให้ช่วยดูแลหนีเจียเอ๋อร์ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ เมื่อได้ยินเื่ราวจากศิษย์ คนทั้งสองก็ถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ถูก
...
ท่ามกลางหิมะ ควงเยวี่ยโหลวทะยานเข้ามาขวางหน้า ร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำผมสีดำ ช่างตัดกับความขาวบริสุทธิ์ของหิมะ ประดุจหยินหยาง
เขายืนนิ่ง มิได้ปล่อยจิตสังหารแต่อย่างใด
“โจวชิงหวา ควงเจียเป็ศิษย์ที่เข้าสำนักมาอย่างถูกต้อง นางเป็คนของข้าแล้ว เ้าไม่มีสิทธิ์พานางออกไปตามอำเภอใจ โดยไม่ถามไถ่อาจารย์เช่นข้าก่อน!” เขาพูดเสียงเอื่อยเฉื่อย ไม่ร้อนรน
แต่ด้วยโทสะของโจวชิงหวาในยามนี้ ยากที่จะตกลงกันดีๆได้ “ควงเยวี่ยโหลว เ้าขอดวงตาของนางเป็การแลกเปลี่ยนอย่างนั้นหรือ?”
ควงเยวี่ยโหลวจึงตอบ “เมื่อจ่ายไปแล้ว ก็นับว่าแล้วกัน เ้าไม่ควรไปรั้งมิให้นางทำในสิ่งที่ปรารถนา”
“ข้ามองไม่เห็นหนทาง ว่าเ้าจะให้นางทำในสิ่งที่้าได้อย่างไร?” ยามนี้ โจวชิงหวาเป็เสมือนสัตว์ป่าที่ดุร้าย “วันนี้ข้าจะพานางลงเขาไปหาหมอ เพื่อรักษาดวงตา เ้าอย่าได้มาขวาง!”
“หากควงเจียตื่นขึ้นมา แล้วอยากจะไปกับเ้า ข้าก็จะไม่รั้งไว้” ควงเยวี่ยโหลวขยับตัวไปทางซ้ายสองก้าว เพื่อปิดกั้นทางออกเอาไว้ “สำนักอิ้นเสวี่ยไม่คิดจะรั้ง หากศิษย์ไม่้า”
พูดจบ เขาก็กวาดสายตาไปรอบๆ ศิษย์คนอื่นๆ จึงเดินออกมาพร้อมกัน
พวกเขาโค้งคำนับ พลางเอ่ยอย่างพร้อมเพรียง “เว้นแต่อาจารย์จะเป็ผู้ขับไล่ออกจากสำนัก ศิษย์สำนักอิ้นเสวี่ย ย่อมเป็ศิษย์สำนักอิ้นเสวี่ยอยู่เสมอ”
โจวชิงหวาไม่คิดจะฟัง ทั้งยังไม่อาจรั้งรอได้อีก จึงกอดกระชับร่างของหนีเจียเอ๋อร์ พลางก้าวไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว
ควงเหยารีบพุ่งตัวไปขวางหน้า อาการาเ็ของโจวชิงหวายังไม่หายดี ลำพังแค่อุ้มร่างสตรีอย่างหนีเจียเอ๋อร์ ก็ยังยากลำบาก ไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้กับควงเหยา
แต่ศิษย์พี่ใหญ่ผู้นี้ ก็มิได้คิดจะโจมตีอย่างจริงจัง แค่อาศัยความเร็ว เข้าไปคลายจุดให้หญิงสาวฟื้นขึ้นมาเพียงเท่านั้น
ทันทีที่หนีเจียเอ๋อร์รู้สึกตัว ก็รับรู้ได้ว่ามีสายตาหลายคู่กำลังจับจ้องมาที่ตน หญิงสาวจึงรู้สึกแปลกๆ ชอบกล
นางลูบลำคอที่ปวดแปลบ “เกิดอะไรขึ้นกับข้าหรือ?”
ควงเหยารีบพูดขึ้นในทันใด “พี่ชายของเ้าสกัดจุดให้เ้าสลบไป หวังจะพาเ้าออกจากสำนักอิ้นเสวี่ยลงเขาไปพบหมอ แต่ไม่ว่าจะเป็ผู้ใด ก็ไม่มีทางรักษาอาการาเ็ของเ้าได้!”
โจวชิงหวาผลักควงเหยาออกไป ด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น “เสี่ยวเอ่อร์ วันนี้ข้าจะพาเ้าลงจากเขา ข้าไม่เชื่อหรอก ว่าจะไม่มีหมอคนใดรักษาเ้าได้!”
จากนั้น ก็ดึงมือนางออกเดิน
หนีเจียเอ๋อร์เบี่ยงตัวหลบมืออีกฝ่าย แล้วเดินถอยไปสองสามก้าว ก่อนพูด “ชิงหวา นี่เ้าไม่เชื่อใจข้าหรือ?”
มือของโจวชิงหวาที่ยื่นออกมา ชะงักค้างกลางอากาศ เขามองหญิงสาวด้วยสายตาเ็ป
หนีเจียเอ๋อร์ตัดความหวังของออกฝ่าย ที่คิดจะพานางออกไป พลางเอ่ยเสียงแน่วแน่ “ตอนนี้ข้ามิใช่หนีเจียเอ๋อร์แล้ว ที่นี่มีเพียง ‘ควงเจีย’ เท่านั้น”
ความหมายก็คือ โจวชิงหวาไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซงการตัดสินใจของตน หรือบีบบังคับให้นางออกไปจากที่นี่
โจวชิงหวาลดสายตาลงด้วยความหงุดหงิด “ได้... ข้าเข้าใจแล้ว!”
เมื่อได้ยินเสียงของเขา หนีเจียเอ๋อร์ก็พยายามจะยื่นมือออกไปไขว่คว้า หวังจะปลอบโยนอีกฝ่าย
ควงเหยาเป็คนแรกที่รับรู้ได้ถึงความตั้งใจของนาง จึงเดินมาช่วยประคองหญิงสาว ให้ไปยืนอยู่ตรงหน้าโจวชิงหวา
จากนั้น ก็หันไปพูดกับศิษย์น้องคนอื่นๆ “ไม่ต้องมารุมล้อมแล้ว มีงานใดก็รีบไปทำเถอะ”
ศิษย์ทั้งหลายตาเบิกโพลง ไม่รอให้ศิษย์พี่ใหญ่เอ่ยซ้ำ พวกเขาก็แยกย้ายกันจากไป
ส่วนควงเหยา ก็เดินไปหาควงเยวี่ยโหลว
ควงเยวี่ยโหลวมองไปที่โจวชิงหวา แล้วกล่าวเบาๆ “พิษในร่างของเ้าถูกขับออกไปหมดแล้ว ดังนั้น โปรดออกไปจากสำนักของเราโดยเร็วที่สุด...”
เอ่ยจบ ก็เดินจากไป โดยไม่เปิดโอกาสให้โจวชิงหวาได้ปฏิเสธ
ควงเหยาเหลือบมองคนทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเดินตามควงเยวี่ยโหลวไป
เื่นี้ เขาไม่อาจช่วยอะไรได้จริงๆ...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้