ไม่ใช่ว่า ลูกสาวของเ้าของที่ดินโจวคงไม่แอบเลี้ยงบุรุษไว้หรอกใช่หรือไม่
ในครอบครัวคนมีเงิน เื่เช่นนี้มีไม่น้อยเลย
แม้แต่องค์หญิงของแคว้นองค์นี้ จากที่ได้ยินมา หลังจากสามีเสีย ด้านหลังจวนก็เลี้ยงบุรุษไว้ไม่น้อย ความจริงแล้ว พูดตรงๆ สักหน่อยคือเลี้ยงดูบุรุษเพื่อบำเรอ
“เ้าของที่ดินโจว ชอบลูกสาวคนโตของตนเองมากเป็พิเศษ คุณหนูใหญ่ออกเรือนไปได้ไม่ถึงหนึ่งปี ก็ถูกพาตัวกลับมา”
“ปกติแล้ว จะถูกพาตัวกลับมาได้อย่างไร นั่นไม่ถูกต้องใช่หรือไม่?” เฉินเนี้ยนหรานไม่เข้าใจ
ในสถานการณ์ปกติ คนเช่นเ้าของที่ดินโจว เหตุใดจึงเป็ฝ่ายที่มีอำนาจอยู่ฝั่งเดียว แล้วพาคนกลับมาได้อย่างง่ายดายกัน นี่มันไม่ถูกต้องแน่นอน
“ไม่กลับไม่ได้หรอก เ้าไม่รู้ คุณหนูใหญ่เป็คนที่มีความสามารถจริงๆ ออกเรือนไปวันเดียว กลับทำร้ายสาวใช้ที่หน้าตางดงามในจวนให้เสียโฉมทุกคน ทำให้เสียโฉมก็ช่างมันเถิด วันต่อมายังทำร้ายเ้าบ่าวจนลงจากเตียงไม่ได้ ต่อมา ยังทำร้ายตาเฒ่าของจวนหรงจนคลานขึ้นมาไม่ได้ ทำเื่ใหญ่เช่นนี้ หลังจากนั้นคนในจวนสกุลหรงต่างไม่สนใจชื่อเสียง ขอเพียงได้หลุดพ้นจากคุณหนูใหญ่ จึงยอมฉีกหน้าพวกเขา เ้าของที่ดินโจวย่อมทำสิ่งใดไม่ได้”
“ดังนั้นคนในจวนสกุลหรงจึงมีเื่ไปถึงทางการ และพูดเื่ทั้งหมดออกมา เ้าของที่ดินโจวพอเห็นว่าเื่มันไปจนถึงขั้นนี้แล้ว จึงรับคุณหนูใหญ่กลับมา อย่างไรสกุลโจวของเขาก็มีเงิน เลี้ยงลูกสาวที่ถูกทางบ้านสามีรังเกียจจนถึงขั้นส่งกลับบ้าน ย่อมไม่เป็ปัญหา”
“จะแย่ก็แย่ที่หลังจากคุณหนูใหญ่ได้ลองมีเื่รักๆ ใคร่ๆ ของบุรุษสตรี คล้ายจิตใจเริ่มว้าวุ่น ในตอนแรกเริ่มสุด ยังเพียงยั่วยวนบ่าวภายในจวน แต่นานวันเข้า สายตาของคุณหนูใหญ่กลับไม่เหมือนเดิมแล้ว นางชอบบุรุษหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะพ่อค้าที่เดินทางมาจากตอนใต้ นางยิ่งชอบมากที่สุด”
“หากเ้าอยากรู้ ยังสามารถพบเห็นได้นะ ตอนที่เจอกัน มีพี่สาวคนหนึ่ง มักจะแต่งตัวสวยงามมาก มักมาดื่มชาที่ถนนสายนี้ คนผู้นั้นคือคุณหนูใหญ่ ปกติแล้วพ่อค้าที่นางถูกใจ ล้วนไม่มีผู้ใดหลุดพ้นจากเงื้อมมือของนาง จากการคาดเดาของคนเฝ้ามองของพวกข้า สองปีนี้คุณหนูใหญ่ได้พาคนกลับไปไม่น้อย”
เมื่อได้ยินเื่พวกนี้ เฉินเนี้ยนหรานแอบเดาะลิ้นในใจ คุณหนูใหญ่ของเ้าของที่ดินโจวคนนี้ เป็ดอกไม้ที่สวยงามมากนัก
การกระทำเปิดเผยเช่นนี้ แม้แต่องค์หญิง เกรงว่าจะไม่มีความกล้าถึงเพียงนั้น
“เ้าของที่ดินโจว การกระทำของสตรีที่ยากจะปล่อยวางเช่นนี้ ผู้คนในหมู่บ้านและทางการพวกนี้ เหตุใดจึงไม่มีใครพูดอะไรเลย?” เฉินเนี้ยนหรานถามออกมาอีกครั้งด้วยความสงสัย
อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยนี้ที่ผูกมัดสตรี ย่อมไม่ปล่อยให้สตรีคนหนึ่งกระทำเื่เช่นนี้
“เฮ้อ ไม่ใช่ไม่พูดนะ คนที่พวกเราพาไป ต่างถูกลูกสาวเ้าของที่ดินโจวตอกหน้ากลับมาทั้งสิ้น มีลูกสาวจงอย่าเลียนแบบลูกสาวสกุลโจว แต่ช่วยไม่ได้ คนของเ้าของที่ดินโจว แม้จะไม่ใช่คนของเมืองหลวง แต่ได้ยินว่าบางทีคงจะโหดร้ายกว่าคนในราชวงศ์เสียอีก จากที่ได้ยินมา สกุลโจวมีกั๋วซือเกิดมา ดังนั้น…”
ฟังจนถึงตรงนี้ เฉินเนี้ยนหรานพอจะเข้าใจแล้ว รู้สึกว่าเป็เ้าของที่ดินที่สามารถมีอำนาจมากกว่าองค์หญิง
จะต้องรู้ว่ากั๋วซือในยามนี้ใช้สกุลโจวพอดี
เหมือนที่โจวอ้าวเสวียนเดินทางออกมาแล้วยังมีการต่อสู้กันภายในครอบครัว จึงย่อมมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับกั๋วซือคนนี้อย่างใกล้ชิด
โจวกั๋วซือ…
“แปลก หรือว่านี่คือครอบครัวของท่านกั๋วซือ? ไม่เช่นนั้น เหตุใดถึงได้ปกป้องสกุลโจวเช่นนี้?”
“สกุลโจวของพวกเรา ความจริงแล้วแบ่งออกเป็หลายสาย…” เมื่อคิดถึงตอนแรกที่โจวอ้าวเสวียนจากไป เขาเคยพูดความลับของสกุลนี้เอาไว้ เฉินเนี้ยนหรานสูดลมหายใจเย็นๆ เข้าปอด
ไม่มีทาง เหตุใดถึงได้บังเอิญเช่นนี้ พวกนางเดินทางมาถึงครอบครัวหลักของสกุลโจว!
หากเป็เช่นนั้นจริงๆ โจวอ้าวเสวียนที่ถูกจับเข้าไปในจวนสกุลโจวก่อนหน้านี้ หากถูกลูกสาวเ้าของที่ดินโจวต้องตา นี่ นี่ไม่กลายมาเป็รักร่วมสายเืหรือ!
***
เรือนสกุลโจวของที่นี่ เป็ตระกูลหลักของโจวอ้าวเสวียนใช่หรือไม่?
หากไม่ใช่เรือนของตระกูลหลัก เหตุใดเขาจึงออกจากเขตปาเจียวและมาที่นี่?
ไม่สิ ตอนนั้นเขาบอกว่าจะแยกจากกันหนึ่งปีกว่า
หากราบรื่นมีความเป็ไปได้ว่าจะเป็หนึ่งปี หากไม่ราบรื่น กำหนดกลับนั้นไม่แน่นอน
สถานที่ที่เขาไปเป็ที่ใดกันแน่?
คือที่อื่น หรือที่นี่?
หรือเพียงเดินทางผ่านที่นี่ และเจอกับเื่นี้เข้าพอดี?
เละแล้ว เละแล้ว!
ไม่พูดไม่ได้เลยว่า ในสมองของเฉินเนี้ยนหรานตอนนี้ อยู่ในสภาวะวุ่นวาย
“เอ๋ เ้าคือสาวใช้หราน?”
ในตอนที่สมองของนางกำลังวุ่นวายอยู่นั้น จู่ๆ กลับมีเสียงดังมาจากด้านนอก พอนางเงยหน้าขึ้น เห็นใบหน้าซูบตอบตรงหน้า มองไปแล้วรู้สึกคุ้นตา
“เ้าคือ?”
ใบหน้าขาวซีดนี้ มีหนวดเคราอยู่ทั่ว ในชั่ววินาทีนั้นเฉินเนี้ยนหรานรู้สึกแค่ว่าใบหน้านี้ช่างคุ้นตานัก!
แต่เขาเป็ผู้ใดนั้น นางไม่รู้!
คนที่มาใหม่อายุประมาณยี่สิบ ตอนที่เห็นนาง เขาดูตื่นเต้นเป็พิเศษ
“ข้าชุนเทียนอย่างไรเล่าขอรับ ชุนเทียนเด็กรับใช้ที่อยู่ข้างกายคุณชายห้า แม่นางหราน คงไม่ใช่ว่าจำข้าไม่ได้หรอกใช่หรือไม่!”
พอพูดขึ้นมา เฉินเนี้ยนหรานถึงนึกออก คนคนนี้คือหนึ่งในเด็กรับใช้ที่คอยติดตามข้างกายของโจวอ้าวเสวียนนามว่าชุนเทียน
“หา ชุนเทียน เป็เ้าหรือ เหตุใดเ้าถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้? ผอมเสียจนคนไม่กล้าจำได้ แล้วอู่เอ๋อร์เล่า คุณชายของเ้าเล่า?”
อู่เอ๋อร์เหมือนกับชุนเทียน ั้แ่เด็กก็คอยเป็บ่าวรับใช้ของโจวอ้าวเสวียน ตอนนี้กลับมีแค่ชุนเทียนเพียงคนเดียว อีกทั้งสีหน้ายังขาวซีดเช่นนี้…
ใจของเฉินเนี้ยนหรานเต้นโครมครามอีกครั้ง
“ฮือ แม่นางหราน ข้าไม่ได้ทานอะไรมาสามวันแล้ว เ้าให้ข้าทานข้าวก่อนได้หรือไม่?”
ได้ เ้าคนนี้ หิวจนกลายเป็เช่นนี้ เฉินเนี้ยนหรานยอมแล้วจริงๆ
ก่อนไปซื้อกับข้าวร้านข้างๆ มา มองดูเ้าคนนี้ทานข้าวมูมมาม เฉินเนี้ยนหรานจึงคอยพูดห้ามเขาให้ทานช้าลงสักหน่อย
กว่าเ้าคนนี้จะเติมท้องให้อิ่ม ชุนเทียนจึงเล่าเื่ราวทั้งหมดออกมา
“ข้ากลับมาจากการส่งจดหมาย บอกคุณหนูหนิงเซียงว่าคุณชายพบความลำบาก ให้นางช่วยคิดหาวิธีตามหาท่านกุนซือ ไม่ทราบว่านางหาเจอแล้วหรือยัง ตอนนี้คุณชายกับอู่เอ๋อร์อยู่ที่ใด? ฮือ เขาถูกองค์หญิงที่อยู่เขตเปียนโม่ถูกใจ ้าพาเขาไปเป็บุตรเขย”
“อะไรนะ โจวอ้าวเสวียนไม่ได้ถูกขังอยู่ในจวนสกุลโจวที่นี่ แต่ถูกจับให้ไปเป็บุตรเขยที่เขตเปียนโม่อย่างนั้นหรือ!”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เฉินเนี้ยนหรานจึงอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว
มารดา เสียแรงที่ข้ายังกังวลว่าเขาจะถูกคุณหนูใหญ่สกุลโจวจับไปทำร้าย คุยกันอยู่นาน เื่ราวเลวร้ายไม่ใช่สกุลโจวของที่นี่ก่อขึ้น แต่กำลังเสพสุขอยู่กับความรักไม่ธรรมดาขององค์หญิงอยู่ที่เปียนโม่
ชุนเทียนร้องไห้น้ำตานองหน้า เขาทำชี้มือชี้ไม้ขึ้นฟ้าลงดิน
“แม่นางหราน เ้าเข้าใจคุณชายของข้าผิดแล้ว องค์หญิงที่เขตเปียนโม่ ข้าได้ยินมาว่าหลายปีมานี้บุรุษที่นางต้องตา ไม่มีสักคนที่สามารถหนีออกมาได้ ตอนนั้นคุณชายเพียงไปเจรจาการค้ากับคนของเปียนโม่เท่านั้น ผู้ใดจะคิดว่าเขากลับถูกต้องตา จากนั้นตอนนี้เขาก็ถูกขังอยู่ในจวนขององค์หญิง”
“ฮือ สตรีที่เปียนโม่แข็งแรงมาก พวกนางไม่เพียงจะทำาได้ ยังทานเนืุ้์อีกด้วย ข้าได้ยินมาว่า องค์หญิงซิกเกลย่าเป็คนเคียดแค้นเพราะความรัก จึงยั่วยวนบุรุษเข้าไปมากมาย คุณชายของข้าหน้าตางดงามราวกับดอกไม้แรกแย้ม คนเช่นนี้เข้าไปในจวนขององค์หญิง หากไม่รีบหาคนไปช่วยล่ะก็ ชีวิตของคุณชายคงอยู่ได้ไม่นานแล้ว”
เฉินเนี้ยนหรานเบิกตากว้าง ในใจของนางจุกขึ้นมาอย่างประหลาด
นางในยามนี้ หลังจากได้ยินว่าคนที่เข้าไปติดอยู่ในเรือนเ้าของที่ดินโจวไม่ใช่โจวอ้าวเสวียน ไม่รู้ว่าเหตุใดในใจกลับสงบลงอย่างประหลาด
ความจริงแล้วเมื่อคิดอย่างละเอียด ด้วยความฉลาดของโจวอ้าวเสวียน เขาจะถูกองค์หญิงที่อยู่เปียนโม่บังคับได้อย่างไร คนเช่นเขา อย่างไรย่อมต้องจัดการได้ ชุนเทียนคนนี้ เกรงว่าจะกังวลถึงเ้านายตนเองเป็หลัก จึงได้ทำให้เื่ราววุ่นวายเช่นนี้
เมื่อจัดการอารมณ์ตนเองแล้ว เฉินเนี้ยนหรานค่อยกลับมานิ่งสงบได้
ชุนเทียนร้องไห้อยู่นาน เมื่อเห็นว่าเฉินเนี้ยนหรานที่อยู่ตรงข้ามตนเองไม่ตอบกลับ จึงรู้สึกน้อยใจขึ้นมา เขาถลึงตาใส่เฉินเนี้ยนหรานด้วยความโกรธ
“แม่นางหราน ตอนแรกเ้ารั้นจะขึ้นเตียงกับคุณชายให้ได้ ตอนนั้นเ้าช่วยคุณชายเอาไว้ เหตุใดตอนนี้พอได้ยินว่าเขากำลังลำบาก กลับไม่เป็ห่วงเขาสักหน่อยเล่า เ้า เ้าไร้จิตใจไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว”
ชุนเทียนกับอู่เอ๋อร์
อู่เอ๋อร์เป็คนชาญฉลาด เขาคงสามารถรับมือกับเื่ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันได้ แต่สมองของชุนเทียนนั้นไม่ได้ เ้าหมอนี่มีเพียงความสามารถด้านการต่อสู้ที่พอไปได้ หากพูดถึงสมอง ยังห่างกันอีกไกล
ไม่รู้ว่าเหตุใดยามนั้นโจวอ้าวเสวียนถึงได้เก็บชุนเทียนไว้ข้างกาย คนโง่เขลาเช่นนี้ นอกจากฝีมือการต่อสู้ ทุกอย่างล้วนคอยรั้งท้าย ตอนที่อยู่ในจวน ชุนเทียนมักถูกคนดูถูกไม่น้อย
“ชุนเทียน ความสามารถในการต่อสู้ของเ้าเก่งมากไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้กลายเป็เช่นนี้เล่า?”
เฉินเนี้ยนหรานดึงแขนเสื้อของเขา ก่อนที่กลิ่นเหม็นจะลอยเข้ามา นางรีบปล่อยเสื้อของเขาแล้วรีบพัดลมทันที “เอ๋ๆ ชุนเทียน เ้าไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้วเนี่ย!”
ชุนเทียนเมื่อถูกถามเช่นนี้พลันรู้สึกขัดเขินอยู่สักหน่อย
“อืม ความจริง…ข้าไม่ได้อาบน้ำไม่นานเท่าใดนักหรอก ก็…ก็แค่ไม่ได้อาบมาหนึ่งเดือนเท่านั้น”
เมื่อเห็นชุนเทียนก้มหน้าลง เฉินเนี้ยนหรานหมดคำจะพูด
“อ๊าก…”
เสียงคำรามโวยวายดังขึ้น สตรีผู้น่าสงสารวิ่งออกไปล้างมือ
นาง นางไปจับเสื้อของบุรุษที่ไม่ได้อาบน้ำมาหนึ่งเดือน…
มือนี้ ยังมีกลิ่นติดอยู่เลยนะ
“ชุนเทียน…เ้าบอกข้ามาเสียตอนนี้ เหตุใดเ้าไม่ได้อาบน้ำมาหนึ่งเดือน แล้วเหตุใดไม่ได้ทานข้าวมาสามวัน!”
ชุนเทียนลูบหัวตัวเอง
“ตอนที่ข้าถูกอู่เอ๋อร์ส่งกลับมาขอความช่วยเหลือ ข้าไปหาคนช่วยเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ คนที่เขียนจดหมายเก็บค่าเขียนแพงไปสักหน่อย แค่จดหมายฉบับเดียวก็เอาเงินในตัวของข้าไปจนหมดเลย เมื่อทำอะไรไม่ได้ ตลอดทางที่กลับมา ข้าจึงต้องคอยช่วยผู้อื่นทำงานถึงจะสามารถกลับมาได้ หากไม่มีงานทำข้าคงทำได้แค่หิ้วท้องหิว”
เฉินเนี้ยนหรานเบิกตากว้าง
“เ้า เ้า เ้า…”
“ตอนที่ท่านอาจารย์ของข้าให้ข้าออกมาก็เคยสั่งสอนเอาไว้ว่า ออกมาข้างหน้าห้ามขโมยของ ห้ามแย่งของ ยิ่งไม่สามารถใช้วิชากังฟูรังแกคนอื่น ปกติแล้ว ที่ดีที่สุดคือให้ตนเองเป็คนตัวเล็กๆ ในบรรดาผู้คน ข้าจึงคอยเชื่อฟังคำสอนของอาจารย์ ไม่กล้ามองหรือขโมยของของผู้ใด”
เมื่อเห็นคนตรงหน้าช่างใสซื่อเสียจนนางหมดคำจะพูด เฉินเนี้ยนหรานจึงส่ายหน้า
นางในตอนนี้ในที่สุดก็เข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดโจวอ้าวเสวียนถึงได้ให้ชุนเทียนออกไปทำงานน้อยมาก เกรงว่าเ้าคนนี้จะทำงานได้ไม่ดี สุดท้ายจะเพิ่มเื่ยุ่งมาให้อีก
นางจึงพาชุนเทียนกลับไป แล้วให้เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด
