เมื่อได้ยินว่าเจียงเฉิน้าที่จะสร้างที่พักบริเวณที่รกร้างจางเจิ้นใ สำหรับการสร้างคฤหาสน์ให้เจียงเฉินภายในเมืองหงหยางเป็เื่ง่ายดาย และการที่เจียงเฉินคิดจะพักอยู่ที่เมืองหงหยาง แน่นอนว่าทำให้ชาวบ้านมีความสุข แต่สิ่งที่ทำให้จางเจิ้นงุนงงคือเหตุใดเจียงเฉินถึงให้สร้างที่พักบริเวณพื้นที่รกร้าง
"คุณชายเจียง พื้นที่บริเวณนั้นรกร้างและไม่มีสิ่งใดอยู่รอบๆ ให้ข้าเลือกทำเลที่ดีเยี่ยมสำหรับสร้างที่พักให้เหมาะกับสถานะของคุณชายเจียงเถิด"
จางเจิ้นพูดขึ้น
"ใช่แล้ว คุณชายเจียงท่านเป็วีรบุรุษของเมืองหงหยาง พวกเราทุกคนจะจดจำมันไว้ชั่วชีวิต การสร้างคฤหาสน์ให้ท่านเป็สิ่งที่พวกเราสมควรกระทำ แต่พวกเราควรจะสร้างในบริเวณที่มีทำเลดีที่สุด"
จางเฉวียนได้ออกความคิดเห็น พื้นที่รกร้างนั้นอยู่ห่างไกลเกินไปและไม่มีผู้ใดอยู่รอบๆ การสร้างคฤหาสน์สำหรับเจียงเฉินที่นั่น มันไม่ใช่ความคิดที่ดี
"ทำตามที่ข้าบอกเถอะ สร้างคฤหาสน์แบบง่ายๆ ข้าไม่เื่มากเกี่ยวกับมันหรอก"
หลังจากที่พูดจบ เจียงเฉินได้เดินจากไป มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้เหตุผลในการสร้างคฤหาสน์ที่บริเวณรกร้าง
"คุณชายเจียงประหลาดคนเสียจริง เหตุใดเขาถึงไม่้าพื้นที่ทำเลดีกว่านี้กัน และยืนกรานที่จะสร้างคฤหาสน์ไว้บริเวณพื้นที่รกร้างอีก?"
จางเฉวียนอดที่จะพูดออกมามิได้
"น้องเจียงเพียง้าที่จะบ่มเพาะอย่างสงบเท่านั้น เขาไม่ใส่ใจกับสภาพแวดล้อมหรอก พวกเ้าทำตามที่เขาบอกก็พอ"
อี้จื่อฮันพูดขึ้น
"ขอรับ นายน้อยอี้"
จางเจิ้นและและคนอื่นๆคารวะต่ออี้จื่อฮัน ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแค่เป็ศิษย์ในของนิกายเซวียนอี้ เขายังเป็นายน้อยของตระกูลอี้ พวกเขาไม่กล้าคัดค้านคำพูดของเขา
หลังจากที่เจียงเฉินได้กลับไปยังสถานที่พักอาศัย เขาเริ่มที่จะดูดซับแก่นแท้โลหิตทั้งสาม เป็แก่นแท้์ขั้นต้นทั้งสอง และแก่นแท้์ขั้นกลางหนึ่ง การเก็บเกี่ยวครั้งนี้ไม่น้อยทีเดียว
เมื่อทักษะร่างแปลงัได้แข็งแกร่งขึ้น ความเร็วที่เจียงเฉินใช้ในการดูดซับดวงจิตอสูรและแก่นแท้โลหิตรวดเร็วยิ่งขึ้น แก่นแท้โลหิตทั้งสามได้ถูกเขาดูดซับโดยสมบูรณ์ใน่เวลาสั้นๆ หลังจากนี้การสร้างตราประทับัก็จะยากยิ่งขึ้น แต่แก่นแท้โลหิตทั้งสามนี้ได้ทำให้เจียงเฉินสร้างตราประทับัได้ถึงหกดวง
"ในทะเลปราณข้าได้สร้างตราประทับัแล้วเก้าสิบหกดวง อีกเพียงแค่สี่ดวงมันก็จะครบหนึ่งร้อยดวง แม้ว่าข้าหยุดสังหารเหล่าปีศาจโลหิตในระหว่างที่สร้างคฤหาสน์ ข้ายังคงสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ได้โดยการใช้ชีพจรพลังงานนี้"
ดวงตาของเจียงเฉินลุกวาว หลังจากที่เดินทางเส้นทางการสังหารและฆ่าฟันมาเป็เวลานาน ในที่สุดเขาก็สามารถเข้าถึงขอบเขตแก่นแท้์ ตราบที่เขาถึงระดับแก่นแท้์ ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกเป็เท่าตัว แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นปลายก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ในคืนนั้น ปีศาจโลหิตได้หยุดลงมือ เหล่าผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ต่างคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิดรอบๆเมือง ทางตอนเหนือของเมือง ที่รกร้างและเงียบสงัดได้กลายเป็ชลมุนวุ่นวายในคืนนี้ บรรดาชาวเมืองที่ได้รับการช่วยเหลือได้ยินว่าเจียงเฉิน้าที่พัก ดังนั้นพวกเขาต่างที่จะเสนอความช่วยเหลือของพวกเขาอย่างเต็มใจ
วันถัดมา ณ เขตนอกนิกายเซวียนอี้!
ณ เรือนที่พักของเจียงเฉิน เยี่ยนเฉินหยวี่กำลังยืนอยู่บนยอดเขา อาภรณ์ของนางปลิวไสวท่ามกลางสายลมูเาที่พัดผ่าน และวิสัยทัศน์ของนางได้มองไปยังที่ห่างไกล ความงดงามของนางและใบหน้าที่ละเอียดอ่อนได้เต็มไปด้วยความกังวล
"เป็เวลาสองวันแล้วที่ท่านพี่เจียงเฉินได้ออกไป ไม่รู้ว่าเขาพบกับอันตรายหรือไม่...ไม่สิ ท่านพี่เจียงเฉินเป็ผู้เยี่ยมยุทธ พวกปีศาจโลหิตนั่นไม่คณามือท่านพี่เจียงเฉินหรอก"
เยี่ยนเฉินหยวี่พึมพำกับตนเอง
ในขณะนั้นเอง เงาของคนได้บินผ่านเหนือท้องฟ้า แต่ทว่าหันกลับมาและร่อนลงไม่ห่างจากเยี่ยนเฉินหยวี่มากนัก บุรุษผู้นี้หล่อเหลานัก บุรุษผู้นี้มิใช่ใครอื่นนอกจากเฝินคุน
เหตุที่มันหันกลับและร่อนลงที่นี่เพราะมันเห็นถึงใบหน้าที่งดงามของเยี่ยนเฉินหยวี่ สองวันที่แล้วเจียงเหว่ยได้บอกมันว่าเยี่ยนเฉินหยวี่งดงามราวกับนางฟ้า แต่มันไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสที่จะพบนาง เมื่อเขาได้เห็นถึงใบหน้านางโดยบังเอิญ มันได้ตกตะลึงในความงามของนาง ถึงแม้ว่าเฝินคุนจะยโสเพียงใด มันได้พ่ายต่อความงดงามของเยี่ยนเฉินหยวี่
"เ้าเป็ใคร?"
เยี่ยนเฉินหยวี่จ้องไปที่เฝินคุน เมื่อนางััถึงเจตนาไม่ดี อดไม่ได้ที่นางจะขมวดคิ้ว
"ตัวข้ามีนามว่าเฝินคุน และข้าคิดว่าเ้าคือศิษย์น้องหญิงเยี่ยนเฉินหยวี่ ข้าได้พิสมัยศิษย์น้องเยี่ยนเป็เวลานานมาแล้ว! ความงดงามของเ้าไม่ควรที่จะมีอยู่บนโลก ศิษย์น้องหญิงเยี่ยน เ้าเป็อิสตรีที่งดงามที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมา"
เฝินคุนยังคงสำรวจเรือนร่างของเยี่ยนเฉินหยวี่อย่างต่อเนื่อง ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า อดไม่ได้ที่มันจะเกิดไฟราคะ นอกจากนี้ตัวมันและเจียงเฉินต่างเป็ศัตรู
"เ้าคือเฝินคุนผู้ที่้าสังหารท่านพี่เจียงเฉิน?"
เมื่อได้ยินนามของเฝินคุน ท่าทีของเยี่ยนเฉินหยวี่ได้แปรเปลี่ยนไปทันที ความรังเกียจได้ปรากฎขึ้นบนใบหน้านางในทันใด
เยี่ยนเฉินหยวี่ได้เรียกเจียงเฉินว่า 'ท่านพี่เจียงเฉิน' สร้างความอิจฉาให้กับเฝินคุน ในความคิดของมันหญิงงามเช่นนี้สมควรที่จะมาอยู่เคียงข้างมันมากกว่า เ้าเจียงเฉินมันทำบุญด้วยอะไรถึงได้โชคดีเช่นนี้
"ศิษย์น้องหญิงเยี่ยน เ้าเจียงเฉินนั่นมีอะไรดี?มันอ่อนแอกว่าข้า มากับข้าสิ ข้าเฝินคุนจะได้เป็ผู้นำศิษย์ในและเร็วๆนี้ข้าจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็ศิษย์หลักที่แท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นท่านปู่ของข้าเป็ถึงผู้าุโนิกาย หากเ้ากลายเป็สตรีของข้า เ้าสามารถใช้ทรัพยากรที่มีในนิกายเซวียนอี้ได้ตามที่เ้าปรารถนา!"
เฝินคุนพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมนางด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
"ไสหัวไป!"
เยี่ยนเฉินหยวี่ปฏิเสธอย่างไม่ใยดี จากนั้นนางก็หันกลับไปโดยไม่มองเฝินคุนอีกเป็ครั้งที่สอง
เมื่อเห็นเช่นนี้ ท่าทีของเฝินคุนเปลี่ยนเป็บูดบึ้ง การตอบสนองของเยี่ยนเฉินหยวี่ได้ทำร้ายความภาคภูมิใจของมัน ทั่วแคว้นฉี ด้วยระดับการบ่มเพาะและศักยภาพของเฝินคุน มันสามารถได้ตัวหญิงสาวคนใดก็ได้ตามที่มัน้า แค่เพียงนิกายเซวียนอี้ ตัวมันก็รายล้อมด้วยศิษย์สตรี มันยอมลดความยโสและพยายามพูดคุยดีๆกับเยี่ยนเฉินหยวี่ ไม่เพียงนางปฏิเสธความหวังดี นางยังล่วงเกินความภาคภูมิใจของตัวมันอีกด้วย
"ฮึ่ม! เยี่ยนเฉินหยวี่ ข้าจะบอกอะไรให้ พี่ใหญ่เจียงเฉินของเ้าได้ถูกส่งไปกวาดล้างเ้าพวกปีศาจโลหิต และข้าแน่ใจว่ามันเป็เพียงแค่ได้เดินทางไปเท่านั้น การที่มาเป็สตรีของข้าเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว!"
เฝินคุนแค่นเสียงเ็า
"ท่านพี่เจียงเฉินไม่ตายอย่างแน่นอน! แล้วเ้าคิดว่าเ้าเป็ใคร?เ้าไม่แม้จะเทียบกับท่านพี่เจียงเฉินของข้าได้!"
เยี่ยนเฉินหยวี่ยังคงประจัญหน้ากับเฝินคุน ในใจของนางไม่มีผู้ใดสามารถแทนที่เจียงเฉินได้ และเฝินคุนผู้นี้บังอาจมาสาปแช่งเจียงเฉินให้ตกตายต่อหน้านาง มันเหมือนเหยียบไปบนเท้าของนาง ความเกลียดชังของนางที่มีต่อเฝินคุนพุ่งทะยานถึงขีดสุด
"พูดดีๆไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลัง ไร้ยางอายนัก!"
เฝินคุนอารมณ์เสีย
ในตอนนั้นเอง คนผู้หนึ่งได้พุ่งมาด้วยความเร็วสูง และไม่นานก็มาอยู่ข้างๆเยี่ยนเฉินหยวี่ เขาคือผู้าุโกั๋วฉาน
"เฝินคุนเ้ามาทำอะไรที่นี่?"
กั๋วฉานจ้องไปยังเฝินคุนแล้วถามด้วยท่าทางเคร่งขรึม
"ท่านผู้าุโกั๋ว ข้าเคียงแค่ผ่านมาและพยายามที่จะทักทายศิษย์น้องหญิงเยี่ยนเพียงแค่นั้น"
เฝินคุนกุมมือต่อกั๋วฉาน กั๋วฉานเป็หัวหน้านักปรุงยาของนิกายเซวียนอี้ และสถานะของเขาไม่ด้อยกว่าปู่ของมัน มันไม่สามารถที่จะล่วงเกินได้
"ที่นี่ไม่ต้อนรับเ้า ไสหัวไปซะ และอย่าได้กลับมาที่นี่อีก"
กั๋วฉานโบกแขนเสื้อของเขา และพูดออกมาโดยไม่สนใจความรู้สึกของเฝินคุน หากไม่ใช่เพราะเขาไม่้าที่จะยั่วโมโหปู่ของเฝินคุน กั๋วฉานคงจะตบมันกระเด็นไปไกลแล้ว
"ขอรับ"
ด้วยรอยยิ้มบนหน้าเขา เฝินคุนหันกลับและออกไป ในขณะที่มันหันกลับ ท่าทีร้ายกาจได้ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของมันทันที
"ฮึ่ม!เจียงเฉินมันจะต้องตกตายที่เขตหวงฉีแน่นอน และนังแพศยานี่ยังแสดงว่าเป็เด็กสาวที่ซื่อสัตย์ กล้าที่จะปฏิเสธไวน์รสเลิศ กลับมากินขนมปังปิ้ง บิดาจะให้เ้าได้พบกับเื่ดีๆแน่นอน"
ใบหน้าของเฝินคุนดูมืดมนนัก
เมื่อศัตรูได้ลงมือซึ่งหน้าไม่ได้น่ากลัว แต่ศัตรูที่ซ่อนเร้นอยู่ในเงามืดที่กำลังวางแผนร้ายนี่เป็สิ่งที่น่าหวาดกลัว ในตอนนี้เยี่ยนเฉินหยวี่ได้ตกเป็เป้าหมายของเฝินคุน บางทีอาจเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นในเร็วๆนี้ก็เป็ได้
เมืองหงหยาง!
ชาวบ้านต่างใช้เวลาทั้งวันในการก่อสร้างคฤหาสน์ให้เจียงเฉินจนเสร็จ พวกเขากระทั่งตกแต่งที่พักเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้อีกด้วย
เจียงเฉินได้มาถึงคฤหาสน์ อดไม่ได้ที่เขาจะผงกหัว แม้คฤหาสน์อาจไม่ใหญ่โตมากนัก แต่มันก็ไม่ได้เล็กเท่าไร มันตกแต่งอย่างสวยงาม และมีภาพจิตรกรรมตกแต่งอีกด้วย มันสมบูรณ์แบบและเหมาะสมกับเจียงเฉินอีกด้วย
ภายในคฤหาสน์มีห้องชั้นยอดอยู่ทั้งหมดหกห้องและส่วนกลางเป็ห้องโถงประชุมที่งดงามมาก นี่สามารถบอกได้ง่ายๆว่าชาวบ้านนั้นซาบซึ้งต่อเจียงเฉินมากเพียงใด
"คุณชายเจียง ไม่ทราบว่าท่านพึงพอใจต่อคฤหาสน์นี่หรือไม่?"
จางเจิ้นถามด้วยรอยยิ้ม
"อืม เยี่ยมมาก ท่านเ้าเมือง ขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักนะ"
เจียงเฉินตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
"ข้าดีใจที่คุณชายเจียงชอบมัน หากท่านมีสิ่งใดที่้าในอนาคตคุณชายเจียงบอกข้าได้ และพวกข้าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อนำสิ่งนั้นมาให้ท่าน"
จางเจิ้นพูดขึ้น
ในคืนเดียวกัน เจียงเฉินได้วางเบาะไว้ในห้องภายในคฤหาสน์และเชื่อมต่อกับอาคมและชีพจรพลังงาน ด้วยสิ่งนี้ เขาสามารถที่จะนั่งดูดซับพลังงานจากชีพจรพลังงานได้
ตกเย็น ชาวบ้านต่างตื่นใ พวกเขารู้ว่าการลงมือของปีศาจโลหิตรอบที่สามนั้นจะต้องมากกว่าสองรอบที่ผ่านมา อาจจะมีหัวหน้าหน่วยที่ทรงพลังยิ่งกว่ามาก็เป็ได้
แต่สิ่งที่ทำให้ชาวเมืองทุกคนมึนงงคือค่ำคืนได้ผ่านไปอย่างสงบสุข ไม่เห็นปีศาจโลหิตแม้แต่ตนเดียว
"น้องเจียง เ้าพวกปีศาจโลหิตอยู่ๆก็เงียบไม่เคลื่อนไหวใดๆ ข้าแน่ใจว่าพวกมันจะต้องมีแผนบางอย่าง"
อี้จื่อฮันพูดขึ้น
"ใช่ นี่มันดูไม่เหมือนวิธีการของพวกมัน ข้าคาดเดาว่า พวกมันวางแผนที่จะเตรียมการโหมบุกครั้งใหญ่ พวกมัน้าที่จะทำลายเมืองหงหยางในครั้งเดียว อาจจะมีกระทั่งขุนพลปีศาจโลหิตระดับแก่นแท้์ขั้นปลายในการลงมือครั้งถัดไป และบางทีราชันย์จันทราโลหิตอาจมาด้วยตัวเอง"
เจียงเฉินขมวดคิ้ว
"ข้ากังวลเื่นั้นเหมือนกัน หากเป็เช่นนั้น ข้าไม่คิดว่าพวกเราจะสามารถป้องกันตัวพวกเราเองได้"
อี้จื่อฮันพูดอย่างเป็กังวล
"จื่อฮัน เ้าตรวจตราต่อไป พวกเราจะต้องแน่ใจว่าต้องเอาใจใส่ดูแลความปลอดภัยของชาวเมืองให้ดี ตอนนี้ข้าจะเก็บตัวบ่มเพาะเพื่อที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ และเมื่อข้าสามารถทะลวงผ่านแล้ว แม้แต่ขุนพลขั้นแก่นแท้์ขั้นปลายมาด้วยตัวเอง ข้าก็จะสามารถรับมือพวกมันได้"
เจียงเฉินพูดด้วยท่าทีจริงจัง การต่อสู้กับปีศาจโลหิตมันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และเจียงเฉินจะต้องทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็ไปได้ เพียงเท่านั้นที่เขาจะสามารถรับมือในการต่อสู้ที่จะมาถึงได้
"อะไรนะ? เ้าจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์แล้ว?"
อี้จื่อฮันะโขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อขณะที่เขามองไปยังเจียงเฉิน การเติบโตของเจียงเฉินนั้นไม่เคยหยุด เขาได้มายังนิกายเซวียนอี้เมื่อไม่นานมานี้ และตอนนี้เขากำลังจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์
"ถูกต้อง"
เจียงเฉินพูด
"น้องเจียง เ้านี่เป็สัตว์ประหลาดด้านการบ่มเพาะโดยแท้ ข้าทำได้เพียงอิจฉาในพร์ของเ้า ข้าหวังว่าน้องเจียงจะทำให้ดีที่สุดในการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์นะ ตอนนั้นพวกเราจะมากำจัดปีศาจโลหิตด้วยกัน"
หลังจากพูดเสร็จอี้จื่อฮันได้หันหลังกลับและออกไป เจียงเฉินได้ปิดด่านฝึกตน ดังนั้นเื่ราวทั้งหมดของเมืองหงหยางได้อยู่ในความรับผิดชอบของเขา
หลังจากที่อี้จื่อฮันออกไป เจียงเฉินปิดด่านฝึกตนเพื่อทะลวงสู่ขอบเขตแก่นแท้์ ด้วยการใช้ชีพจรพลังงาน
"หวงต้า ตอนนี้ข้ากำลังจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ เ้าช่วยคุ้มกันข้าด้วย"
เจียงเฉินพูดขึ้น
"ปกป้องบิดาเ้าสิ ตอนนี้ข้าจะหลับล่ะ"
หวงต้าหาวออกมา แล้วมันหันกลับไปยังอีกห้องหนึ่ง
เจียงเฉินใ เมื่อเ้าหมานี่เหนื่อยและ้าที่จะนอน มันเป็สัญญาณของการที่จะทะลวงสู่ระดับถัดไป
"มารดามันเถอะ ไม่ใช่ว่าเ้าหมานี่เพิ่งทะลวงระดับเมื่อไม่กี่วันก่อนรึ?"
เจียงเฉินกลอกตาของเขา เขารู้สึกว่ามีบางอย่างต่ำต้อยกว่า เขาได้พยายามถึงที่สุดในการบ่มเพาะ เขาทั้งปล้นชิงแหล่งพลังงานและทรัพยากรจากทุกแห่ง การที่ทะลวงขั้นแล้วขั้นเล่ามันยากเย็นแสนเข็ญ แต่เมื่อเทียบกับเ้าหมานี่ มันช่าง...ช่างมันเถอะ อย่าได้ไปเทียบกับมัน
