นางนั่งที่ขอบเตียงมองกงเช่อเช็ดหน้าจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงรับผ้าเช็ดหน้ามาและโยนลงในอ่างล้างหน้า
นางมองเขาดวงตาเป็ประกาย
“ทำไมหรือ?” ใบหน้าของกงเช่อไม่อาจแดงไปมากกว่านี้อันที่จริงเขาไม่ควรไร้เดียงสาถึงเพียงนี้ เพราะปกติพระโอรสสามารถสมรสได้ั้แ่อายุสิบห้าปีทว่าเนื่องจากการอยู่ในตำแหน่งองค์รัชทายาทของเขาไม่ค่อยราบรื่นนัก ดังนั้นการเลือกภรรยาจึงลำบากอย่างยิ่งสูงเกินไปก็ไม่สำเร็จ ต่ำเกินไปก็ไม่้า การแต่งงานจึงถูกเลื่อนออกไป ดังนั้นเขาจึงเป็เช่นนี้
อันที่จริงกงอี่โม่อยากหยิกใบหน้าของเขา ทว่านางตัดใจอดทนไว้จากนั้นจึงทำเป็ไอพร้อมทำสีหน้าจริงจัง
“คืออย่างนี้ เมื่อคืนพอข้าได้ยินเื่ของท่านแล้ว ข้าจึงคิดตลอดทั้งคืนตอนนี้ข้ามีอยู่วิธีหนึ่ง ท่านพี่รัชทายาทอยากฟังไหม?”
เมื่อเห็นนางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง กงเช่อก็ย่อมรอฟังอย่างตั้งใจอันที่จริงเขาอยากรีบหนีออกไปจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดในเวลานี้ให้เร็วที่สุด
กงอี่โม่ไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติของเขา นางคลี่ยิ้มพร้อมกล่าวต่อไป
“ในเมื่อฮองเฮากระทำความผิด อีกทั้งยังมีหลักฐานชัดเจน จึงสมควรถูกลงโทษในเมื่อเป็เช่นนี้ วันนี้ท่านพี่รัชทายาทก็รีบเข้าวังรีบไปก่อนที่ฝ่าาจะมีพระราชโองการลงมา โน้มน้าวฮองเฮาให้คืนตราประทับหงส์ และขอไปปฏิบัติธรรมที่วัดเซิ่งโฝเพื่อชดใช้ความผิด”
นางกล่าวสั้นๆ ไม่กี่ประโยคก็กำหนดเส้นทางของฮองเฮาเรียบร้อยแล้วกงเช่อถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ เหตุการณ์ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้วหากเสด็จแม่คืนตราประทับหงส์ด้วยตัวเองย่อมดีกว่าเสด็จพ่อปลดเสด็จแม่ออกจากการเป็ฮองเฮาเพราะถูกสถานการณ์กดดันอย่างน้อยเสด็จแม่ยังคงรักษาตำแหน่งฮองเฮาเอาไว้รวมทั้งเกียรติศักดิ์ศรีส่วนสุดท้าย
“มันจะง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ?”
กงเช่อรู้สึกสงสัย อีกฝ่าย้าให้เสด็จแม่ถูกปลดแต่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ้าพุ่งเป้าหมายมาที่เขาโดยตรงในเมื่อครั้งนี้ไม่สำเร็จ ก็ย่อมมีครั้งถัดไป
“มันจะง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร!”
กงอี่โม่นั่งอยู่บนขอบเตียงของเขา นางหรี่ตามองขาทั้งสองข้างแกว่งไปมาอย่างไม่ตั้งใจ วันนี้นางสวมกระดิ่งเล็กๆ อยู่ที่ข้อเท้าเมื่อนางขยับขา เสียงกระดิ่งจึงดังกรุ๊งกริ๊งน่าฟัง นางลูบใบหน้าจากนั้นจึงทิ้งคำพูดที่สร้างความตกตะลึงราวกับฟ้าถล่ม
“ท่านพี่รัชทายาท หลังจากโน้มน้าวฮองเฮาได้แล้ว ท่านก็ขอออกจากเมืองหลวงเถิด”
“เสด็จแม่ไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน” กงเช่อเบิ่งตาขึ้นเล็กน้อยเขาหลุดปากเอ่ยออกมา ไม่เพียงเท่านี้ แม้กระทั่งตระกูลหลิวก็ไม่มีทางตอบตกลง
เนื่องจากข้อดีที่สุดของตำแหน่งองค์รัชทายาทก็คือการมีโอกาสอยู่ในพระราชวังมีโอกาสศึกษาอยู่ข้างพระวรกายฮ่องเต้ สามารถคลุกคลีกับราชกิจก่อนเวลาอันสมควรอีกทั้งเวลาที่ฮ่องเต้ไม่อยู่องค์รัชทายาทยังสามารถเป็ตัวแทนช่วยจัดการเื่ราวในราชสำนัก
ความมีเกียรติเช่นนี้มีเพียงหนึ่งเดียว ทว่าหากเขาขอออกไปจากเมืองหลวงนั่นก็หมายความว่าเขายอมทิ้งความได้เปรียบสิ่งสุดท้าย ดังนั้นเสด็จแม่ไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอน
“ท่านพี่รัชทายาทลืมแล้วหรือ? เมื่อวานนี้ ความหมายของฝ่าาชัดเจนมากแล้ว ฝ่าา้าใช้ผลงานเป็ตัวพิสูจน์ความสามารถซึ่งก็คือผลประโยชน์ของประชาชนผู้มีผลงานจึงจะสามารถสืบทอดบัลลังก์ ดังนั้นหากท่านไม่ออกไปจากเมืองหลวงแล้วท่านจะใช้สิ่งใดมาแข่งขันกับพี่น้องคนอื่น?” กงอี่โม่กล่าวอย่างเคร่งขรึม
คำพูดของนางทำให้กงเช่อครุ่นคิดอย่างหนักแต่ไหนแต่ไรไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ดังนั้นความคิดของเขาจึงถูกตีกรอบไว้เขาไม่สามารถมองการณ์ไกลภายในเวลาสั้นๆ
“อีกอย่าง ครั้งนี้แผนการของอีกฝ่ายไม่สำเร็จ พวกเขาก็ต้องวางแผนครั้งถัดไปในสถานการณ์เช่นนี้ ท่านพี่จะรับมือได้อีกกี่ครั้ง? ท่านพี่รีบออกไปจากเมืองหลวงแล้วปล่อยให้พวกเขาสู้กันเองยังดีเสียกว่า”
ประโยคนี้ของนางกระแทกใจกงเช่อเป็อย่างดีกงเช่อได้รับการศึกษาตามแบบแผนขององค์รัชทายาทมาั้แ่เล็กในใจของเขาจึงให้ความสำคัญกับประชาชนมากกว่าการแก่งแย่งแข่งขันเขาจุดตะเกียงอ่านหนังสือในยามค่ำคืนตั้งเท่าไร เขาหวังว่าหากสักวันเขาได้ขึ้นครองราชย์เขาจะต้องเป็ฮ่องเต้ที่ดีเหมือนเสด็จพ่อ
“เสด็จพ่อจะเห็นด้วยไหม?”
เขาเห็นด้วยกับนางแล้ว ทว่าฮ่องเต้จะเปิดโอกาสให้เขาออกจากเมืองหลวงไหม? เขาจะใช้เหตุผลอะไรเพื่อขอออกจากเมืองหลวงจึงจะดีที่สุด? เขาจำเป็ต้องขบคิดถึงปัญหาเหล่านี้อีกทั้งต้องวางแผนอย่างรอบคอบ
“ไม่ยากเลย ข้าวางแผนอันยอดเยี่ยมไว้ให้ท่านพี่รัชทายาทแล้ว”กงอี่โม่พลันฉีกยิ้ม ดวงตาของนางเป็ประกายระยิบระยับ
“หากฝ่าาไม่ยอม ท่านก็สามารถย้อนถามเขา เขากล่าวไว้ว่าพระโอรสทุกคนต่างมีโอกาสเหมือนกันท่านก็เป็พระโอรส เขาก็ต้องมองท่านเหมือนคนอื่น และการออกจากเมืองหลวงครั้งนี้ยิ่งเป็เื่ใหญ่โตมากเพียงใดก็ยิ่งดีเท่านั้น” นางกล่าวเร็วขึ้นเล็กน้อย
กงเช่อตะลึงงัน เพราะประโยคนี้ของนาง... เขาก็เป็พระโอรสเช่นกันพระโอรสและองค์รัชทายาทก็ไม่ได้แตกต่างกัน
นางหรี่ตาเล็กน้อย จากนั้นจึงกล่าวขึ้นอีก “ตอนนี้เป็่คิมหันต์ แดนบูรพา(มณฑลซานตง) ต้องคอยแก้ปัญหาอุทกภัยอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าปีนี้จะเป็เช่นไร?”
“ตอนนี้มีฎีกายื่นขึ้นมา กล่าวว่าปีนี้มีฝนมาก เกรงว่าเขื่อนจะต่ำเกินไปขอให้ทางเมืองหลวงช่วยไปซ่อมแซมเขื่อน” กงเช่อลองคิดดู
“ดีเลย แต่วางใจได้ ปีนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนเพียงแต่ปีหน้าจะเป็ปีน้ำมากที่เกิดขึ้นทุกสามปี ดังนั้นปีหน้าจะเป็เช่นไรยังไม่อาจสรุปได้”กงอี่โม่คลี่ยิ้ม
“น้องคิดจะให้ข้าขอไปซ่อมเขื่อนหรือ?”
“แม้จะถือว่าเป็ผลงาน แต่ผลงานเช่นนี้ยังไม่โดดเด่นมากพออีกทั้งใช้เวลาน้อยและเห็นผลลัพธ์ได้เร็ว เกรงว่าจะมีคนอื่นมาแย่งงานนี้จากท่าน” กงอี่โม่ส่ายศีรษะ
กงเช่อหลุดยิ้มน้องสาวของเขาคนนี้มักกล่าวอย่างชาญฉลาดอยู่เสมอ
เขาเห็นเพียงกงอี่โม่หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากด้านในมันคือแผนที่แคว้นที่นางวาดเองอย่างง่ายๆ นิ้วมือขาวราวกับหยกชี้ไปยังตำแหน่งหนึ่ง“ท่านพี่รัชทายาทลองดูสิ”
กงอี่โม่ชี้ไปที่แม่น้ำหลงเถิงที่อยู่รอบเมืองหลวง จากนั้นจึงชี้ไปที่คลองขนส่งอวี้หลงเน่ยที่อยู่บริเวณแม่น้ำแยงซีนางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ปัจจุบันราชวงศ์ต้าอวี้มีคลองขนส่งอยู่่เดียวก็คือคลองขนส่งอวี้หลงเน่ยที่สร้างขึ้นั้แ่ยุคชุนชิวอีกทั้งยังเป็เพียงการขุดจากแม่น้ำแยงซีไปถึงแม่น้ำหวายที่แดนบูรพา (ซานตง)น้ำในแม่น้ำไหลไม่สะดวก อีกทั้งเกือบร้อยปีมานี้ไม่มีาภายในทำให้คลองขนส่งสายนี้ไม่ถูกใช้ประโยชน์ เกรงว่าตอนนี้แม่น้ำคงตื้นเขินไม่สามารถใช้การได้แล้ว”
เมื่อนางกล่าวออกมา กงเช่อจึงเหมือนมองภาพบางอย่างออก เขาตั้งใจฟังเป็พิเศษ ในขณะเดียวกันขณะที่นางกำลังชี้แนะนั้น ภาพแม่น้ำอันกว้างใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้นในสมองของเขา
“ดังนั้นข้าจึงอยากให้ท่านพี่รัชทายาทรับภารกิจแก้ปัญหาน้ำในแดนบูรพาใช้ภารกิจนี้ขอรับหน้าที่ขุดคลองขนส่งอวี้หลงเน่ยใหม่อีกครั้งอีกทั้งยังสร้างขยายออกไปจนเชื่อมต่ออุดรทักษิณขุดคลองขนส่งจากแม่น้ำหวายทะลุไปถึงหวงหลง (แม่น้ำหวง)ให้ทุกเส้นทางน้ำจรดถึงทิศอุดรสุดท้ายเป็การเชื่อมต่อกับแม่น้ำหลงเถิงทางเมืองหลวงจนกลายเป็เส้นทางตรงจากอุดรถึงทักษิณ”
คำพูดของนางมีข้อมูลมากเกินไป ทำให้กงเช่อตะลึงงัน ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องคิดตามอยู่เป็นานจากนั้นจึงกล่าวขึ้น
“หากมีการเชื่อมต่อทั้งหมดแล้ว เมื่อดูจากลักษณะทางพื้นที่นั่นก็หมายความว่ากำลังส่งกระแสน้ำไปทางเดียวกัน แม่น้ำแยงซีตอนกลางและตอนใต้จะต้องรับแรงกดดันเป็เท่าตัวเช่นนั้นก็หมายความว่าเมื่อแก้ปัญหาแดนบูรพาได้แล้ว แต่กลับเป็การสร้างปัญหาให้กับพื้นที่ทางทักษิณแทนใช่ไหม?”
“น้ำคือการไหลเวียน หากมีการระบายจนถึงที่สุดก็จะไม่เกิดอุทกภัย” กงอี่โม่ลูบปลายคางนางทำท่าครุ่นคิดลึกซึ้ง จากนั้นจึงกล่าวอย่างช้าๆ
“ตอนนี้แดนบูรพาเกิดอุทกภัย ข้อแรกเป็เพราะเส้นทางน้ำของหวงหลงอุดตันคลองขนส่งอวี้หลงเน่ยก็อุดตัน ทำให้น้ำไม่สามารถไหลออกสู่ทะเล เกิดอุทกภัยเขื่อนแตกข้อสองเป็เพราะระดับน้ำสูงเกินไป ตอนที่ท่านขุดคลองขนส่งท่านต้องขยายแม่น้ำให้กว้างขึ้น ปัญหานี้ก็จะได้รับการแก้ไขโดยตรง”
“อีกอย่างเส้นทางน้ำทางทักษิณมีมากเมื่อน้ำไหลเข้าสู่แม่น้ำแยงซีแล้วก็สามารถกระจายน้ำด้วยแม่น้ำเหล่านี้เมื่อเส้นทางหนึ่งสำเร็จ ก็จะสำเร็จทุกเส้นทาง สุดท้ายน้ำจะไหลออกสู่ทะเลขอแค่จัดการอย่างดี การลงแรงครั้งนี้จะสามารถแก้ปัญหาน้ำได้ระยะยาวอีกทั้งไม่ใช่การคิดเหลวไหล”
เมื่อคิดตามคำพูดของนางสมองของกงเช่อจึงปรากฏภาพเส้นทางที่เชื่อมต่ออุดรและทักษิณ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้