“เยว่หลิว เ้าก็เห็นความสามารถของหวางฟางเฟยแล้ว ไยต้องว่านางด้วย” เป็ครั้งแรกที่เพื่อนร่วมชั้นออกโรงปกป้อง
“ใช่ ๆ เหตุใดเ้าจึงต่อว่านาง ว่าเป็กาฝาก ทั้งที่นางก็ช่วยเหลือเ้าทุกอย่าง ั้แ่เรียนร่วมชั้นกันมา ข้าเห็นเ้าเอาแต่รังแกนาง ดูสิ นางเสียใจมากแค่ไหน” ว่าแล้วเพื่อนก็หันไปยังหวางฟางเฟย ที่แกล้งปาดน้ำตาเบา ๆ
“ไม่ต้องร้อง หากเยว่หลิวคิดจะรังแกเ้า ข้าจะปกป้องเ้าเอง แต่เ้าต้องตอบแทนข้า ด้วยการสอนข้าเขียนภาพนะ” หนึ่งในนั้นเรียกร้องผลประโยชน์ ก่อนหวางฟางเฟยจะพยักหน้ารับข้อเสนอ ทำให้เยว่หลิวเก็บความโกรธไว้ แล้วสะบัดตัวเดินจากไป
หวางฟางเฟยแอบยิ้มเล็กน้อย แล้วหาจังหวะปลีกตัวแยกออกมาจากเพื่อน ๆ นางเดินกลับไปยังห้องพักตามลำพังพร้อมสายลมอ่อนพัดโชยมาปะทะกาย
หลังจากเปิดประตูเข้าไป หญิงสาวหัวใจตกวูบ เมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มหล่อเหลา นั่งจิบชาเงียบ ๆ เพียงลำพัง
“พี่ใหญ่ ท่านเข้ามาได้ยังไง” คำถามของนางทำให้เขาวางถ้วยชาลงช้า ๆ แล้วพูดขึ้น
“เหตุใดข้าจะเข้ามาไม่ได้ ในเมื่อเ้าพักเพียงคนเดียว เพราะไม่มีเพื่อนร่วมชั้นคนใด อยากนอนร่วมห้องกับเ้า” เขาค่อนข้างรู้ภูมิหลังของนางเป็อย่างดี ทำให้หวางฟางเฟย ตัดสินใจย่อตัวลงนั่ง
“แต่ถึงอย่างไร ก็ไม่ควรเข้ามา ชายหญิงร่วมห้องมิสมควร”
“เป็คนสกุลเดียวกัน เหตุใดต้องคิดให้วุ่นวาย เ้าก็เหมือนดังน้องสาวของข้า อีกอย่างเ้าลืมไปแล้วเหรอ ว่าเ้าเองก็ทำอาหารรอข้า อยู่กันสองต่อสองเกือบทุกวัน” นางอึกอักเล็กน้อย แล้วตั้งสติ
“ท่านมีเื่ใด จึงเข้ามาเวลานี้” พูดจบ ชายหนุ่มก็แบมือ
“หมายความว่าอย่างไร” นางเลิกคิ้วมองมือเขาเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“กล่องพู่กันสีแดงของหวังเยี่ยนหวาง” ได้ยินดังนั้น หญิงสาวจึงทำหน้าเฉไฉ
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร ว่าอยู่ที่ไหน”
“อยู่ที่ตัวเ้า จะให้ดี ๆ หรือให้ข้าค้นตัว” นางนึกหงุดหงิดจึงเอ่ยขึ้น
“ข้าบอกว่าไม่รู้ เหตุใดจึงต้องคาดคั้น”
“เพราะว่าข้าเห็นกับตา ว่าเ้าเก็บกล่องพู่กันของหวังเยี่ยนหวางได้น่ะสิ” เมื่อได้ยินดังนั้น หญิงสาวจึงสูดลมหายใจเข้าจนสุด แล้วยอมล้วงเอากล่องพู่กันออกมาวางไว้บนมืออย่างจำใจ เขากำกล่องพู่กันนั้นแล้วยึดกลับไป ก่อนจะพูดขึ้น
“หากนางรู้ว่ากล่องพู่กันของนางอยู่ที่เ้า คนที่ลำบากก็จะเป็เ้าเอง แม้แต่ข้าก็ช่วยเ้าไม่ได้”
“นางทำตก เกี่ยวอันใดกับข้า”
“เก็บของผู้อื่นได้ แต่ไม่คืนเ้าของ ต้องเป็คนเช่นไร” หญิงสาวหน้าเง้าเล็กน้อย
“นิสัยเช่นนาง โดนเช่นนี้ก็สมควรแล้ว” นางพึมพำไม่เต็มเสียงมากนัก ก่อนชายหนุ่มจะปรับสีหน้าจริงจังแล้วเอ่ยเตือน
“หวางฟางเฟย เ้าแตกต่างจากเมื่อก่อนราวกับคนละคน ทั้งความสามารถ และกิริยา ล้วนไม่เหมือนเ้าเลยสักนิด แต่ข้าจะไม่ใส่ใจ เ้าควรรู้ไว้ ว่าเยี่ยนหวางเป็บุตรสาวของเสนาบดีหวังที่รั้งตำแหน่งเสนาบดีกรมโยธา จะให้พูดตามตรงก็เป็หัวหน้าของใต้หลิวนั่นแหละ” เมื่อพูดถึงตรงนั้น สีหน้าของหวางฟางเฟยก็เปลี่ยนไปในฉับพลัน
“ท่านพี่หมายถึง เสนาบดีหวัง อาจมีส่วนรู้เห็นการตายของใต้เท้าหลิวงั้นเหรอ” เขานิ่งเงียบแล้วเอ่ยขึ้น
“ยังไม่มีหลักฐานในตอนนี้ แต่ข้าแค่อยากเตือนเ้า ว่าอำนาจของสกุลหวัง ไม่ใช่ใครก็คิดลามปามได้ เยี่ยนหวางเป็บุตรสาวคนเล็กที่เสนาบดีหวังรักมาก หากเ้าเล่นเกินพอดี ก็จะทำให้ตัวเ้าลำบาก ข้ามาเตือนด้วยความหวังดี” เขาพูดจบก็เก็บกล่องพู่กันเข้าซอกเสื้อ แล้วเบี่ยงตัวเดินออกจากห้องไป พร้อมสายตาสั่นไหวของหวางฟางเฟย
‘เสนาบดีหวังงั้นเหรอ? เช่นนั้นจิวอี้ซิงจะมีความสามารถเอาผิดเสนาบดีหวังได้จริง ๆ เหรอ เขาเป็ถึงบิดาของพระสนมเถียนหลัน อดีตคนรักเชียวนะ’ นางหรี่ตาทบทวนอย่างเงียบ ๆ
ภายในตำหนักของพระสนมเถียนหลัน เยี่ยนหวางนั่งน้ำตาซึมด้วยความคับแค้นใจอย่างถึงที่สุด
“เ้าพลาดอันดับหนึ่ง ในการเขียนภาพ ซึ่งเป็เื่ที่เ้าถนัดที่สุด เ้าจงให้เหตุผลข้ามา ว่าเ้าพลาดได้อย่างไร” เยี่ยนหวางน้ำตาหยดลงพื้น ก่อนนางจะปาดออกเบา ๆ
“เป็เพราะข้าหละหลวม ทำกล่องพู่กันหล่นหาย”
“กับแค่พู่กันกล่องเดียว เหตุใดจึงรักษาไว้ไม่ได้” แม้น้ำเสียงของพระสนมเถียนหลัน จะฟังดูอ่อนหวาน แต่ความหมายของนางล้วนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิด จนไม่กล้าสบสายตา
“ข้าเคยสอนเ้าแล้ว ไม่ว่าจะเื่การเรียน หรือเื่อะไรก็แล้วแต่ ต้องฝึกฝนแล้วทำตัวเองให้เก่งที่สุด ดีที่สุด สมัยที่ข้าเรียน ข้าสอบวัดผลได้ลำดับที่หนึ่งในทุกวิชา แล้วเ้าดูผลตอบแทนที่ข้าได้ในวันนี้สิ คุ้มค่ามากหรือไม่” เยี่ยนหวางหันมองตำหนักขนาดใหญ่โต รวมถึงนางกำนัลนับสิบ คอยดูแลรับใช้ใกล้ชิด
“ท่านพ่อเองก็เคยสอน ว่าหากอยากขึ้นเป็ที่หนึ่ง ก็ต้องฝึกฝนมากกว่าผู้อื่นเป็สิบเท่า เหนื่อยเท่าใดห้ามบ่น เพราะผลตอบแทนที่ได้รับมักจะคุ้มค่าเสมอ” น้ำเสียงอ่อนหวานของพระสนม ทำให้เยี่ยนหวางก้มหน้าแล้วตอบกลับ
“ความจริง ฝีมือการวาดภาพของข้า ก็ไม่เคยเป็รองผู้ใด แต่กับหวางฟางเฟย ข้าไม่เคยคิด ว่าจะแพ้นางได้” คำพูดของผู้เป็น้องสาวทำให้พระสนมชะงักนิ่ง ค่อย ๆ วางถ้วยชาในมือลง
“ผู้ที่ชนะเ้า นามว่าหวางฟางเฟยงั้นเหรอ”
“นางเป็น้องสาวของท่านมือปราบจิวอี้ซิง และวันนี้เขาก็ไปร่วมตัดสินด้วย ข้าว่าเขาต้องตัดสินเข้าข้างน้องสาวเป็แน่!”