“พี่หยาง ผม้าให้ไอ้ฉินหลางตายตอนนี้เลย!”
ตอนขับรถออกจากชีจง ชิงจิ้นโมโหจนเริ่มคิดวิธีฆ่าคิดหลางให้ตาย คนแรกที่ชิงจิ้นคิดถึง นั่นก็คืออันหยาง เพราะเขารู้ว่าฉินหลางเป็คนฆ่าพ่อของอันหยาง
“ชิงจิ้น…ฉันก็อยากรีบฆ่าเ้าหมอนั่นเร็วๆ เหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้ยังทำไม่ได้ พี่ใหญ่ยังอยากจะรับฉินหลางเข้าแก๊ง ให้มันเป็หัวหน้าสาขาอีก” อันหยางพูดอย่างนิ่งเรียบ เขาไม่ใช่คนที่จะยอมให้คนอื่นหลอกใช้ง่ายๆ
“อะไรนะ? พ่อคิดอะไรของเขาเนี่ย เ้าคนแบบนั้นฆ่าซะก็สิ้นเื่ จำเป็ต้องชวนมันเข้าแก๊งเหรอ?” ชิงจิ้นพูดอย่างเย็นเยือก “อันหยาง มันเป็คนที่ฆ่าพ่อพี่นะ!”
“เื่นี้ไม่ต้องให้นายเตือนฉันก็รู้ แต่ฉันจะให้ผิดใจกับพี่ใหญ่ได้ยังไง ชิงจิ้น ถ้านายอยากให้ฉันจัดการมัน ก็ต้องรอให้พี่ใหญ่เลิกล้มความตั้งใจนั้นก่อนค่อยว่ากัน” อันหยางเตือนชิงจิ้น
“ได้ เื่นี้ผมรู้แล้ว” ชิงจิ้นวางสาย เริ่มคิดวิธีการเกลี้ยกล่อมให้พ่อของตัวเองเลิกล้มความตั้งใจ จากนั้นค่อยจับมือกับอันหยาง ไปจัดการฉินหลางด้วยกัน
※※※
5 โมงเย็น ฉินหลางได้รับโทรศัพท์จากฮานซานฉาง ฮานซานฉางไม่ได้ทำให้ฉินหลางผิดหวัง สืบหาประวัติความเป็มาของหวางซิงจนชัดเจนแล้ว เ้าหมอนั่นเป็คนว่างงานจริงๆ วันๆ ไม่ทำอะไร มักจะเตรดเตร่อยู่ในแถบเชิงซีอยู่เป็ประจำ อาศัยการเล่นพนัน หลอกเงินชาวบ้านเป็หลัก ขนาดกุ๊ยข้างถนนยังดูถูกเขาเลย
ที่หวางซิงส่งดอกไม้ไปไห้รั่วปิน เพราะมีคนจ้างเขา 200 หยวน แล้วยังบอกเขาว่าหลังจากส่งดอกไม้เสร็จแล้ว จะให้เพิ่มอีก 200 หยวน ทว่าเมื่อหวางซิงไปส่งดอกไม้เสร็จกลับมา คนคนนั้นก็หายไปแล้ว ผ่านไปหลายวัน ก็มีคนพบศพของหวางซิงอยู่ในบ้านผุๆ พังๆ
“คนที่จ้างให้หวางซิงไปส่งดอกไม้คือใคร?” ฉินหลางถาม เื่นี้ต่างหากที่เขาอยากรู้
“ไม่แน่ชัด” ฮานซานฉางกล่าว “ได้ยินว่าตอนที่หวางซิงไม่ได้เงินเพิ่มด่าขึ้นหลายคำ แต่กลับไม่ได้เอ่ยชื่อของคนคนนั้น และไม่ได้พูดถึงรูปร่าง ลักษณะของเขาด้วย เขาด่าแค่ไม่กี่คำก็ไม่ได้พูดอะไรอีกแล้ว”
“ถนนที่หวางซิงเกิดเื่ นายน่าจะรู้ใช่ไหม?” ฉินหลางถามฮานซานฉาง
“รู้ครับ ถนนซานหยวนเขตเฉิงซี”
“ได้! เดี๋ยวนายมารับฉันหน้าโรงเรียน นอกจากนี้ นายให้กระทิงกับพี่น้องที่เข้าร่วมการฝึกพิเศษเตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้เราจะ “ซ้อมรบจริง” กันแล้ว!”
โทรศัพท์เสร็จแล้ว ฉินหลางเรียกจ้าวเหว่ยออกมาหน้าประตูโรงเรียน
จ้าวเหว่ยได้ยินว่าคืนนี้จะมี ‘า’ ก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที แถมยังใส่ชุดสูทสีดำตัวใหม่อีก ทว่าด้านในเขาไม่ได้ใส่เสื้อสีขาว แต่เป็เสื้อสีแดงเื
“เชี่ย! นายแต่งตัวแบบนี้มาทำไม?” ฉินหลางมองจ้าวเหว่ยั้แ่หัวจรดเท้าอีกครั้ง รู้สึกว่าเ้าหมอนี่คงจะตื่นเต้นมากเกินไปแล้วแน่เลย
“ทำไม? ใส่แบบนี้ไม่ได้เหรอ?” จ้าวเหว่ยมองฉินหลางอย่างงุนงง “ฉันเพิ่งเข้าไปดูในเว็บมา ตอนนี้ชาวยุทธ์ที่แท้จริง ล้วนแต่งตัวแบบนี้กันทั้งนั้น ใส่ชุดสูท มือถือมีด เท่จะตาย!”
“ก็ได้ ไหนๆ นายก็ใส่มาแล้วนี่” ฉินหลางเริ่มไม่รู้จะพูดอะไร
ผ่านไปสักพัก ฮานซานฉางก็ขับรถมาถึงหน้าโรงเรียน หลังจากขึ้นรถแล้ว ฮานซานฉางเพิ่งจะถามฉินหลางว่า “พี่ฉิน พี่มีแผนการอะไร?”
“ใครเป็พี่ใหญ่ในแถบถนนซานหยวน?”
“พี่ฉิน พี่จะลงมือกับจ้างสางเลี๋ยงถนนซานหยวนเหรอครับ? นั่นเป็เขตเฉิงซี? ไม่ใช่เขตสัมปทานของเรา หรือเราจะไปจับมือกับอันหยางดี”
“แล้วยังไง?”
“ตอนแรกฉันตั้งใจจะยึดสัมปทานของมันด้วยซ้ำ” ฮานซานฉางกล่าว
“งั้นก็ได้ นายรีบโทรไปบอกมัน ถ้ามันจัดเตรียมอาหารไว้ที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง เพื่อประกาศให้ชาวยุทธ์ทุกคนในเมืองเซี่ยหยางรู้ว่ามันเป็คนของเรา พวกเราก็จะไม่ลงมือกับมัน!” ท่าทีฉินหลางดูแข็งกร้าวมากจนผิดปกติ
ฮานซานฉางใเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาจางสางเลี่ยง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฮานซานฉางวางโทรศัพท์ในมือ แล้วหันไปบอกฉินหลางว่า “มันบอกว่า มันต้องทบทวนดูให้ดีก่อน…บอกให้ผมรอคำตอบ”
“มันมีสิทธิ์อะไรให้พวกเรารอ!” ฉินหลางสบถเย็นเยือก “หน้าไม่อาย!”
“พี่ฉิน ถนนซานหยวนไม่ได้มีถนนแค่เส้นเดียวนะครับ ที่นั่นยังมีย่านเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเซี่ยหยาง—‘ย่านเศรษฐกิจซ่านหยวน’ จางสางเลี๋ยงมีสมุนอยู่ไม่น้อยนะครับ” ฮานซานฉางรู้สึกว่าตัวเองจำเป็ต้องเตือนฉินหลาง
“อย่างงั้นยิ่งดี ฉันยังห่วงว่าจะไม่ท้าทาย” ฉินหลางยังคงไม่สะทกสะท้าน
“แล้วพวกมันมีคนอยู่เท่าไหร่ครับ?” จ้าวเหว่ยถามอย่างอดไม่ได้
“ประมาณ 100-200 คน” ฮานซานฉางตอบ
“เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?” จ้าวเหว่ยหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นจ้องมองฉินหลาง “ฉินหลาง นายคนเดียวสามารถจัดการได้ 6-7 คนเลยใช่ไหม?”
ฉินหลางไม่ได้สนใจคำถามที่ไร้สาระของจ้าวเหว่ย แล้วหันไปบอกฮานซานฉางว่า “อาฉาง พนันกันไหม ฉันว่าจางสางเลี่ยงต้องสวามิภักดิ์อันหยางแล้ว! แต่ไม่เป็ไร คืนนี้ก็จะได้รู้กันแล้ว! หลังจากผ่านคืนนี้ไป ในเมืองเซี่ยหยาง ก็จะไม่มีชื่อของเ้าหมอนี่อีกแล้ว!”
“พี่ฉิน พี่จะเอาจริงแล้วเหรอ? จะให้ผมเรียกคนมาเพิ่มไหมครับ?” ฮานซานฉางไม่ใช่คนขี้ขลาด เพียงแต่หลังจากเปิดบริษัทแล้ว เขารอบคอบและระมัดระวังกว่าเมื่อก่อนเยอะ “พี่ฉิน ครั้งนี้เราทำเื่ใหญ่แบบนี้…เราจะต้องแจ้งให้ตำรวจรู้ก่อนรึเปล่าครับ?”
“ไม่ต้องหรอก เราไม่ได้แย่งสัมปทานกันสักหน่อย เราผดุงคุณธรรม! ดังนั้น ต่อให้ตำรวจรู้เื่แล้ว ก็มีแต่จะชื่นชมพวกเราเท่านั้น ไม่ทำอะไรพวกเราหรอก” ฉินหลางพูดราวกับเป็ผู้ผดุงคุณธรรม แต่ว่าในใจกลับเต็มไปด้วยแผนการ ‘ชั่วร้าย’
พูดความจริง ไม่ว่ายังไงฮานซานฉางก็เชื่อมโยงเื่นี้เข้ากับ ‘การผดุงคุณธรรม’ ไม่ได้ แต่หลังจากผ่านเื่เมื่อคืนนี้แล้ว เขาเตรียมจะพาพวกพี่น้องไป ‘ผดุงคุณธรรม’ กันสักครั้ง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉินหลางกับฮานซานฉางเพิ่งจะมาถึงบริษัทรักษาความปลอดภัย เพราะระหว่างทางฉินห้างกับฮานซานฉางแวะจัดการเื่สำคัญก่อนเื่หนึ่ง
เมื่อถึงบริษัทแล้ว กระทิงได้คัดเลือก ‘พนักงานรักษาความปลอดภัย’ ที่รูปร่างกำยำไว้ 30 คน เตรียมพร้อมออกรบแล้ว
ถึงแม้ว่า 30 คนนี้ยังได้รับการฝึกพิเศษๆ ไม่ถึงครึ่งเดือน แต่ดูจากภายนอกแล้วเกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนแล้ว เพราะอะไร?
เพราะการฝึกที่พวกเขาได้รับ เป็การฝึกของทหารหน่วยรบพิเศษจริงๆ! หรืออาจจะโหดกว่าด้วยซ้ำ!
เดิมทีพื้นฐานร่างกายของคนพวกนี้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถยืนหยัดต่อได้ แต่โชคดีที่ฉินหลางแอบเตรียมสูตร ‘ผิวและกระดูกเหล็ก’ ไว้ให้พวกเขาแช่ นอกจากสามารถฟื้นฟูพื้นฐานร่างกายของคนพวกนี้แล้ว ยังสามารถลดความเมื่อยล้าจากการฝึกได้อีกด้วย จึงทำให้พวกเขาสามารถทนการฝึกสุดโหดนี้ได้ และเหมือนว่าการที่อันธพาลพวกนี้สามารถทนการฝึกของทหารหน่วยรบพิเศษได้ มันทำให้พวกครูฝึกรู้สึกเสียหน้าไม่น้อย ดังนั้นจึงเพิ่มการฝึกของพวกเขาให้โหดและหนักขึ้นกว่าเดิม
ด้วยเหตุนี้ แม้คนพวกนี้จะฝึกเพียงไม่นาน แต่กลับเปลี่ยนไปราวกับคนละคนแล้วจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้