ผืนทะเล่เดือนธันวาคมหาได้นิ่งสงบดั่งที่ตาเห็น
ภายใต้ความมืดมิดยามราตรี เรือสำปั้น [1] หลายลำกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ผืนน้ำอันกว้างใหญ่
การแยกแยะทิศทางกลางทะเลเป็สิ่งที่ไม่อาจทำได้ด้วยตาเปล่า แน่นอนว่าการเปลี่ยนจุดนัดรับสินค้าในแต่ละครั้งงทำให้เหล่าผู้ลักลอบค้าของเถื่อนล้วนรู้สึกปวดหัวเป็อย่างยิ่ง
่นี้มณฑลิ่ออกปราบปรามการลักลอบค้าของเถื่อนอย่างเข้มงวด ทำให้ไม่มีเรือบรรทุกของเถื่อนลำไหนกล้าเข้าใกล้ชายฝั่งอีกต่อไป ทุกคนล้วนนัดแลกเปลี่ยนสินค้าบริเวณนอกชายฝั่ง 20 กิโลเมตรเป็ต้นไป เพราะกำไรจากการค้าของเถื่อนนั้นสูงมาก ไม่ว่าจะเป็ผู้ลักลอบขนสินค้าเถื่อนหรือชาวท้องถิ่นที่เป็ผู้รับซื้อ กำไรที่สมน้ำสมเนื้อกระตุ้นให้ผู้ลักลอบเหล่านี้กระทำการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ในเมื่อแถบชายฝั่งถูกควบคุมอย่างเข้มงวด พวกเขาจึงเปลี่ยนมาซื้อขายกันกลางทะเล
ฤดูหนาวไม่มีมรสุม ชาวประมงที่ว่ายน้ำแข็งเหล่านี้จึงกล้าพายเรือสำปั้นไปรับสินค้า
“ลูกพี่ ชีวิต่นี้ช่างลำบากนัก ตำรวจชายฝั่งพวกนั้น...”
“หุบปาก ปากอัปมงคลของแกจะนำพาความซวยมาให้”
การต่อปากต่อคำกันบนเรือประมงถือเป็เื่ที่หาได้ยาก เพราะส่วนใหญ่มักจะก้มหน้าก้มตากันพายเรือ ไม่จำเป็ต้องเสวนากัน หากคุยกันถูกคอย่อมลดความระแวง แต่หากคุยไม่ถูกคอก็จะเสียอารมณ์กันเปล่าๆ แค่รับสินค้ากลับชายฝั่งอย่างปลอดภัย ภารกิจคราวนี้ก็เป็เสร็จสิ้นแล้วไม่ใช่หรือ จะพูดคุยกันให้มากมายไปทำไม
เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กได้รับความนิยมมากที่สุด ขายออกง่าย ไม่กินพื้นที่จัดเก็บ
แต่หากมีเรือใหญ่ นั่นหมายถึงมีเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อยู่บนเรือด้วย แน่นอนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ย่อมขายได้กำไรดีกว่า อย่างเช่นโทรทัศน์ ซึ่งถือว่ายังเป็สินค้าที่ขายคล่องในแผ่นดินใหญ่อยู่
ทุกคนล้วนทำงานแลกเงิน เพราะพวกเขาไม่อยากกลับไปยากจนเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้ง!
การปฏิรูปเศรษฐกิจเปิดโอกาสให้ทำเงินมากมาย ดังนั้นคนเราควรใช้ทรัพยากรท้องถิ่นที่มีอยู่ให้เป็ประโยชน์ ทว่าชาวบ้านแถบชายฝั่งที่เคยลิ้มรสชาติของผลกำไรที่ได้รับอย่างรวดเร็วจากการค้าของเถื่อน มีหรือยอมเปลี่ยนไปทำงานอื่น
ลักลอบค้าของเถื่อนได้เงินไว ทำธุรกิจอื่นได้เงินช้าเกินไป!
คืนนี้มีการแลกเปลี่ยนสินค้าครั้งใหญ่ จะมีเรือใหญ่หลายลำมาจากฮ่องกง บนเรือนั้นเต็มไปด้วยสินค้าขายคล่องอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและบุหรี่ เป็ต้น มณฑลิ่ไม่มีผู้ค้าของเถื่อนคนไหนได้รับสินค้าเหล่านี้ไปครองเพียงผู้เดียว ดังนั้นผืนทะเลยามดึกเช่นนี้จึงมีเรือเล็กหลายสิบลำมารอรับของ
เสากระโดงของเรือใหญ่มองเห็นเลือนรางภายใต้แสงจันทร์
ผู้รับสินค้าอดคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้
คืนนี้คลื่นลมสงบ ทุกคนคงได้กำไรกันก้อนโตแน่นอน!
เหล่าผู้ล่าที่ซุ่มรออยู่อย่างเงียบงันก็แย้มยิ้มเช่นกัน
“รองหัวหน้าโจว ได้เวลารวบตัวแล้ว!”
“ขออนุญาตครับ ผมคิดว่าเราควรรอต่ออีกหน่อย”
โจวเฉิงยืนอยู่ที่หัวเรือ กล้องส่องกลางคืนในมือสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เขากำลังมองเรือเล็กเ่าั้เคลื่อนเข้าใกล้เรือบรรทุกสินค้า เท่าที่เห็นมีเรือประมงหลายสิบลำ... แต่มันยังไม่มากพอ โจวเฉิงคิดว่าเรือพวกนี้ยังไม่มากพอที่จะขนสินค้าในคืนนี้ได้ทั้งหมด ปลาใหญ่ย่อมระวังตัวแจ พวกนั้นต้องมั่นใจก่อนว่าปลอดภัยถึงยอมโผล่หัวออกมา
จับพวกกุ้งหอยปูปลาตัวเล็กๆ นั้นไร้ประโยชน์ ในเมื่อคิดจะลงมือ โจวเฉิงอยากจับปลาใหญ่ให้จงได้!
“รองหัวหน้าโจว คุณต้องรับผิดชอบกับการตัดสินใจของตัวเองด้วย!”
โจวเฉิงเป็รองหัวหน้า หัวหน้าทีมวางแผนเหมือนจะไม่ค่อยชอบใจนักเขาเท่าไรนัก
ประสบการณ์การรบนอกชายฝั่งของทุกคนหยุดอยู่แค่ภาคทฤษฎีเท่านั้น ทั้งยังเพิ่งเรียนมาสดๆ ร้อนๆ อีกด้วย
อดทนรอปลาใหญ่งับเหยื่อ คือสิ่งที่โจวเฉิงวิเคราะห์จากประสบการณ์ที่ผ่านๆ มา
“ผมจะรับผิดชอบครับ!”
วิทยุสื่อสารตัดไป ดูท่าหัวหน้าทีมจะโมโหไม่น้อย
ผ่านไปอีกยี่สิบนาที เรือเล็กทั้งหมดเข้าใกล้เรือใหญ่กันหมดแล้ว แต่ละลำแจ้งรหัสลับเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเข้าขากันอย่างยิ่ง
สินค้าส่วนหนึ่งถูกขนย้ายขึ้นเรือเล็ก ผู้บัญชาการจากชายฝั่งเร่งเร้าอีกครั้ง แต่โจวเฉิงยังคงยืนกรานขอให้รอก่อน
“รองหัวหน้าโจว หากพวกเขาแลกเปลี่ยนสินค้ากันเสร็จเมื่อไรก็จะแยกย้ายกันไปคนละทิศ หาก้ารวบตัวในคราวเดียวจะไม่ง่ายอีกต่อไปนะ!”
โจวเฉิงเป็พวกหัวรั้น ก่อนหน้านี้ดูไม่ออก แต่ตอนนี้หัวหน้าทีมรับรู้ได้อย่างสุดซึ้ง
หัวหน้าทีมเลิกโน้มน้าวโจวเฉิง และคิดจะออกคำสั่งบุกจู่โจมโดยไม่สนใจเขาอีก เพราะตอนนี้เริ่มมีเรือเล็กบางส่วนเตรียมหันหัวเรือกลับแล้ว หากไม่จับตัวในที่เกิดเหตุ แล้วจะเรียกว่าบุกทำลายการลักลอบขนสินค้าเถื่อนได้อย่างไร
ขณะนั้นเอง ทีมลาดตระเวนก็ส่งข่าวกลับมา
“หัวหน้าครับ ด้านหลังหินโสโครกมีเรือใหญ่ลำหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวมาครับ!”
“ตรงนั้นมีเรือใหญ่อีกลำได้อย่างไรกัน”
“เกราะกำบังตามธรรมชาติครับ”
สะเพร่าเกินไปแล้ว!
จากกล้องส่องกลางคืน คนบนเรือลำนั้นล้วนสวมชุดเครื่องแบบ
“รายงานครับ เหมือนจะเป็ตำรวจชายฝั่ง...”
โจวเฉิงได้รับแจ้งข่าวแล้วเช่นกัน ผ่านไปสองนาที เรือใหญ่ลำนั้นก็ปรากฎในระยะสายตาของพวกเขา
“หัวหน้าครับ คืนนี้ตำรวจชายฝั่งของมณฑลิ่ออกปฏิบัติหน้าที่หรือครับ?”
“ไม่มี!”
อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้รับการแจ้งเตือนแต่อย่างใด
ออกปฏิบัติงานด่วนอย่างนั้นหรือ?
โจวเฉิงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกผิดสังเกต เรือที่เหมือนจะเป็ของตำรวจชายฝั่งลำนี้มีสัญญาณไฟกะพริบ ทว่าพวกเรือขนของเถื่อนทำไมถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย?
“ไม่ มันคือผู้ลักลอบปลอมตัวมา!”
ปลาใหญ่ที่ตั้งตารอปลอมตัวเป็นักตกปลาอย่างนั้นสินะ โจวเฉิงคลี่ยิ้มด้วยความยินดี
“รายงานครับ ผมขอให้ลงมือเดี๋ยวนี้!”
“รองหัวหน้าโจว...”
“ผมยินดีรับผิดชอบเองครับ! ทีมย่อยทุกทีม โปรดระวังเรือของตำรวจชายฝั่งที่เพิ่งปรากฏขึ้น เรือลำนั้นอาจจะเป็ศัตรูปลอมตัวมา!”
“ทีมหนึ่งรับทราบครับ”
“ทีมสองรับทราบครับ”
“ทีมสาม...”
ไฟทั้งหมดถูกดับสนิท การบุกจู่โจมอย่างกะทันหันจากรอบด้านทำเอาเหล่าชาวประมงใหนีกันจ้าละหวั่น ทีมสามเป็ผู้รับผิดชอบไล่บี้พวกเขาให้หนีขึ้นฝั่ง ขอเพียงพายเรือเข้าใกล้ชายฝั่งเมื่อไร ก็จะมีเ้าหน้าที่คอยดักซุ่มรอควบคุมตัวอยู่
ชาวประมงบางคนพายเรืออย่างไม่มองทิศทาง แต่ไม่ถูกจับกุม จึงนึกว่าตนเองหนีรอดแล้ว
และที่มีมากกว่าคือพวกที่ะโลงจากเรือ ที่นี่อยู่ห่างจากชายฝั่งหลายสิบกิโลเมตร พวกเขานึกว่าตนว่ายน้ำแข็งและสามารถว่ายกลับไปได้
เสียงปืนดังขึ้นท่ามกลางความโกลาหล โจวเฉิงนำคนปิดล้อมเรือสินค้าลำใหญ่ คนพวกนั้นมีอาวุธอยู่ในมือ และกล้าที่จะยิงจริงๆ!
“แม่งเอ้ย คืนนี้จะ...”
ถูกจับได้อย่างไร?
ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดเื่นี้อีกแล้ว
คนทำอาชีพนี้ล้วนโเี้กันทั้งสิ้น
กล้าฆ่าชาวบ้าน ฆ่าพวกเดียวกัน และแน่นอนว่ากับผู้พิทักษ์กฎหมายก็กล้าที่จะลงมือ ถึงอย่างไรก็ต้องหาทางเอาตัวรอดกลับไปให้ได้ หากหนีจากเขตชายฝั่งของที่แห่งนี้ไปได้ อย่างมากก็เลิกทำอาชีพนี้ ตำรวจของแผ่นดินใหญ่จะตามไปจับพวกเขาหรือ?
“ห้ามปล่อยให้รอดแม้แต่ลำเดียว!”
“รับทราบ!”
เสียงปืนกระตุ้นความฮึกเหิมของทีมปฏิบัติ ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจคำอบรมก่อนออกเดินทาง นี่ไม่ใช่การซ้อมรบ ลูกะุสร้างความเ็ปได้จริง และมีเืไหลออกมาจริง หากไม่ระวังตัวอาจจะเอาชีวิตไม่รอดก็เป็ได้
การต่อสู้ครั้งนี้กินเวลาสิบกว่านาที ในที่สุดโจวเฉิงก็นำคนเข้าใกล้เรือสินค้าใหญ่ได้สำเร็จ
กาบเรือคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเื ะุนัดหนึ่งพุ่งเฉียดแขนโจวเฉิง ก่อนที่โจวเฉิงจะะโผลักเพื่อนร่วมทีมข้างกายให้หลบะุนัดนั้น ทำให้ต้นขาของเขาถูกะุเฉี่ยวยิง
โจวเฉิงพลิกมือกลับไปยิงอีกฝ่ายทันที
“รองหัวหน้าโจว...”
โจวเฉิงกางมือที่เต็มไปด้วยเื ก่อนจะขยับขาเบาๆ “ไม่เป็ไร ไม่ฝังเข้ากระดูก และไม่โดนเส้นเืใหญ่”
โจวเฉิงฉีกเศษผ้าออกมาพันขาตัวเองเพื่อทำการห้ามเืชั่วคราว
คนบนเรือถูกจับกุมทั้งหมดแล้ว พวกเขามองโจวเฉิงด้วยสายตาเคียดแค้น โจวเฉิงสั่งให้นับจำนวนคนและสินค้า ของเหล่านี้ต้องส่งมอบให้กับทางการ มีสมาชิกในทีมปฏิบัติบางคนได้รับาเ็ แต่ยังไม่ได้รับแจ้งข่าวการเสียชีวิต ซึ่งนี่คือข่าวที่ดีที่สุด
มีคนพยายามหลบหนีด้วยการหักหัวเรือ ทว่ากลับชนเข้ากับเรือสินค้าที่โจวเฉิงยืนอยู่ แรงกระแทกทำให้ทีมปฏิบัติทรงตัวไม่อยู่ พวกนักศึกษาไร้ประสบการณ์เผลอปล่อยให้นักโทษสองคนหลุดจากการควบคุม นักโทษทั้งสองวิ่งหนีไปที่กาบเรือ และเตรียมะโลงทะเลเพื่อหลบหนี โจวเฉิงยกปืนขึ้นยิงทันที ะุสองนัดเข้าเป้าอย่างจัง ผ่านไปครู่หนึ่งก็สามารถจับตัวกลับมาได้หนึ่งคน
ส่วนอีกคนไม่เห็นแม้แต่เงา ไม่รู้ว่าเป็ตายร้ายดีอย่างไร
หลังการค้นเรือเสร็จสิ้น โจวเฉิงก็เหลือแค่ออกคำสั่งจบภารกิจ!
คืนนี้ภารกิจของพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เรือลำนั้นแอบอ้างเป็เรือของตำรวจชายฝั่ง ดังนั้นย่อมมีผู้อยู่เื้ัอย่างแน่นอน... คนแบบไหนถึงได้กล้าปลอมตัวเป็ตำรวจชายฝั่ง? ชุดเครื่องแบบได้มาได้อย่างไร? และอาวุธได้มาจากไหนกัน?
เชิงอรรถ
[1] เรือต่อชนิดหนึ่ง ใช้เป็พาหนะหรือบรรทุกสินค้าขึ้นล่องทางน้ำโดยอาศัยการแจวหรือพาย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้