เจียงเฉินยืนอยู่บนท้องฟ้าด้วยท่าทางสูงส่ง ภาพลักษณ์ที่ทรงอำนาจขณะที่เขากำลังมองศัตรูตรงหน้าด้วยสายตาดูถูก ราวกับกำลังท้าทายโลกใบนี้
นิกายชิงิ นิกายเทียนเจี้ยน นิกายอัคคีผลาญฟ้า ตัวเขาคนเดียวท้าทายนิกายใหญ่ทั้งสาม ความหาญกล้าเช่นนี้ ทั่วทั้งแคว้นฉีอาจมีเพียงคนเดียวที่กล้าพูดเช่นนี้ออกมา
หลังจากพูดจบ เจียงเฉินก็หันกลับและเริ่มเดินไปยังเขตในของนิกายเซวียนอี้ ร่างของเขาได้ดึงดูดสายตานับไม่ถ้วน และพวกมันเต็มไปด้วยความชื่นชม
เคารพ หวาดกลัว เทิดทูน สายตาเ่าั้เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย บุรุษทั้งหลายต่างฝันถึงการไปถึงจุดสูงสุดของโลก บุรุษทุกคนปรารถนาที่จะกำจัดศัตรูที่ขวางทางและสร้างตำนานทิ้งไว้เื้ั ในทุกยุคสมัย ต่างมีผู้เป็ดวงดารา และทุกคนก็มีความฝันที่จะกลายเป็ดวงดาราดวงนั้น
ทุกคนลอบถอนหายใจออกมา การที่พวกเขาอยู่ในยุคสมัยเดียวกับเจียงเฉิน มันเป็โชคดีของพวกเขา แต่ในเวลาเดียวกัน ก็เป็โชคร้ายเช่นกัน
เจียงเดินออกไปอย่างห้าวหาญ ดวงตาของเขาส่องประกายระยิบระยับ ในฐานะที่กำเนิดมาพร้อมโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ เขา้าที่จะมีชีวิตที่รุ่งโรจน์หลังจากได้ถือกำเนิดใหม่ เขาจะต้องเป็ผู้ที่สามารถเดินทางได้ทั่วทุกดินแดน เขาจะสังหารผู้ที่มาขวางทางทุกคน คนที่สามารถทำได้เช่นนี้มีเพียงคนที่มาพร้อมกับความกล้าและปณิธานอันยิ่งใหญ่
"น่าเกรงขามยิ่งนัก!เขาดูราวกับดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง ไม่มีเมฆหมอกใดสามารถบดบังรัศมีของเขาได้!"
"ศิษย์พี่เจียงเป็แบบอย่างอันดับหนึ่งของข้า!หากสักวันข้าสามารถยิ่งใหญ่เช่นเขาได้ ข้าจะท้าทายทั่วทั้งโลก ถึงแม้ว่าข้าจะตายในวินาทีต่อมาก็ตาม แต่ข้าไม่เสียดายชีวิตแม้แต่น้อย!"
"ตัวตนเช่นนี้ จะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ เขาเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบ ที่ไม่อาจพบเห็นในรอบหมื่นปี!ข้าเกรงว่ามีเพียงหนานเป่ยเฉาเท่านั้นที่สามารถเป็คู่ต่อสู้ของเขาได้..."
................................
บรรดาศิษย์นิกายเซวียนอี้จ้องมองไปที่แผ่นหลังของเจียงเฉิน ถึงแม้ว่าเขาจะเลือนลับไป พวกเขายังคงไม่อาจละสายตาออกจากที่ซึ่งเขาจากไปได้ เขากลายเป็แบบอย่างในหมู่รุ่นเยาว์ เป็ความภาคภูมิใจของนิกายเซวียนอี้
"อ๊า...ปล่อยข้าสู้ ข้าจะสู้กับมัน!"
หั่วหยวนคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้น เปลวเพลิงได้ปะทุออกจากร่าง และดวงตามันแปรเปลี่ยนเป็สีแดง คำพูดทิ้งท้ายของเจียงเฉินเป็การทำร้ายความภาคภูมิใจของอัจฉริยะ ถึงแม้ว่าต้องตาย มันก็จะสู้
หั่วหยวนและหยุนฉานมีชื่อเสียงโด่งดังในแคว้นของพวกมัน และพวกมันยืนอยู่บนจุดสูงสุดในหมู่รุ่นเยาว์ หั่วหยวนเป็อัจฉริยะอันดับหนึ่งในนิกายชิงิ ทุกคนต่างเกรงกลัวมัน ดังนั้นมันจึงไม่เคยโดนดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อน วันนี้มันได้มาเพื่อท้าทายเจียงเฉิน แต่เจียงเฉินกลับข่มขู่มันก่อนการประลองจะเริ่มขึ้น ทำให้มันเสียหน้าอย่างมาก
"หั่วหยวน!"
ฉิงจื่อะโออกมา จากนั้นก็พูดว่า
"เ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ยิ่งไปกว่านั้น เ้าไม่ได้ยินหรือว่าเมื่อครู่มันพูดอะไร?มันจะเข้าไปในนรกอเวจี ฮึ่ม!ความอันตรายของนรกอเวจีเ้าน่าจะรู้ดี ถึงแม้ว่าข้าเข้าไปด้วยตนเอง โอกาสรอดแทบไม่มี เ้าเด็กนั่นทะนงตนและหยิ่งยโสนัก การที่มันเข้าไปยังนรกอเวจี ไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย"
เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงจื่อ ในที่สุดผู้คนก็ลืมตาตื่นขึ้น ท่าทีของศิษย์นิกายเซวียนอี้เปลี่ยนไป พวกเขาตกตะลึงกับความทรงอำนาจของเจียงเฉินจนถึงเมื่อครู่ ไม่มีใครเอะใจในตอนที่เขาพูดว่านรกอเวจี หลังจากที่ฉิงจื่อได้พูดขึ้นมา ในที่สุดพวกเขาก็รู้สึกตัว
"อะไรนะ?ศิษย์พี่เจียงจะเข้าไปยังนรกอเวจี?นี่มันอันตรายเกินไป!"
"ข้าได้ยินว่าศิษย์พี่กวนอี้หยุนได้เข้าไปในนรกอเวจีเช่นกัน แต่เขากำลังหาโอกาสที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจและเข้าไปในนั้น เขาได้พูดว่าเขาอาจทะลวงขอบเขตได้สำเร็จหรือตกตายในนั้น อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปยังนรกอเวจีโอกาสรอดต่ำมาก ต่อให้มีสิบชีวิตก็ไม่พอ แต่ว่าพร์ของศิษย์พี่เจียงสูงกว่าศิษย์พี่กวนอี้หยุนมากนัก ไม่จำเป็ต้องเสี่ยงชีวิตเข้าไปยังนรกอเวจีเลยนี่ "
"เ้าไม่เข้าใจอะไรเอาซะเลย!ศิษย์พี่เจียงเป็ถึงสัตว์ประหลาดไร้ที่เปรียบ!แน่นอนว่าเขาย่อมเลือกเส้นทางที่ไม่ธรรมดา!สำหรับพวกเรา นรกอเวจีเป็เหมือนประตู่เข้าสู่ขุมนรก แต่สำหรับเขา มันเป็เพียงการท้าทายเท่านั้น"
................................................
ฝูงชนตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน การตัดสินใจของเจียงเฉินนั้นน่าประหลาดใจนัก นรกอเวจีถูกใช้ร่วมโดยบรรดานิกายใหญ่ในแต่ละแคว้น รวมถึงราชวงศ์าศักดิ์สิทธิ์ใช้ในการลงโทษคนที่กระทำความผิดร้ายแรง พวกเขาโยนเหล่าอาชญากรเข้าไปในนรกอเวจี ปล่อยให้พวกมันใช้ชีวิตของพวกมันอยู่ข้างใน
แน่นอนว่า มีคนหาญกล้ามากมายที่เข้าไปยังนรกอเวจีเพื่อฝึกฝนหาประสบการณ์ มันสามารถพูดได้ว่า นรกอเวจีเป็ดั่งโอกาสครั้งใหญ่ ตราบที่รอดชีวิตก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงั้แ่รากฐาน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่การบ่มเพาะ แต่ยังรวมไปถึงสภาพจิตใจของผู้คน ใครก็ตามที่ได้ประสบกับความเป็และความตาย สถานการณ์เช่นนี้จะทำให้จิตใจแข็งเข้มแข็งขึ้นจนคนอื่นไม่อาจเทียบได้
"เ้าหนุ่มนี่้าเข้าไปยังนรกอเวจีจริงๆอย่างนั้นรึเนี่ย?ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่?"
นักพรตเซวียนอี้เองก็ตระหนักได้ คิ้วของเขาขมวดเป็ปม ในความคิดของเขา เจียงเฉินเป็ดั่งสมบัติล้ำค่าของนิกายเซวียนอี้ เขาไม่้าเห็นสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเจียงเฉินแม้แต่น้อย เพราะว่ามีเพียงเจียงเฉินเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับหนานเป่ยเฉาได้ เขาเป็ความหวังเดียวที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของนิกายเซวียนอี้ หากเกิดสิ่งเลวร้ายขึ้นกับเจียงเฉิน ในไม่ช้านิกายเซวียนอี้จะถูกทำลายโดยน้ำมือของหนานเป่ยเฉาเป็แน่
"ไปได้"
ฉิงจื่อส่ายหัวของมันอย่างจนปัญญา สีหน้าของมันดูผิดหวังเป็อย่างมาก ตัดสินจากสถานการณ์ในวันนี้ มันสูญเสียความหวังทั้งหมดที่จะได้รับดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคี ตัวมันยืนอยู่หน้าประตูทางเข้านิกายเซวียนอี้ และมีนักพรตเซวียนอี้อยู่ ไม่มีทางที่มันจะสามารถสังหารเจียงเฉินได้ แผนในตอนแรกที่จะให้ศิษย์หลักของมัน หั่วหยวนลงไปสู้ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป ไม่เพียงแค่นั้น เพื่อที่จะช่วยชีวิตของหั่วหยวน มันต้องทำให้แน่ใจว่าหั่วหยวนจะไม่ทำสิ่งใดโดยไม่ยั้งคิด หากมิเช่นนั้นมันต้องมีชะตากรรมเฉกเช่นเดียวกับหยุนฉานแน่นอน
"ข้าจะต้องเข้าไปยังนรกอเวจี และสู้กับมัน!"
พลังปราณของหั่วหยวนพวยพุ่งออกมา หันไปยังทิศทางแคว้นเฉียนและบินกลับไป ไม่ว่ามันบินผ่านที่ไหน อากาศบริเวณนั้นปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง เื่ในวันนี้มันใหญ่โตเกินกว่าหั่วหยวนจะรับได้ เจียงเฉินได้กลายเป็เงาบดบังจิตใจมัน หากไม่ขจัดเงาที่ปกคลุม มันจะกลายเป็ความกังวลครั้งใหญ่ และจะส่งผลให้การบ่มเพาะของมันไม่คืบหน้าอีกต่อไป
ในการที่จะขจัดเงานี้ได้นั้น มันต้องสู้กับเจียงเฉิน ไม่ว่าจะรอดหรือตกตายก็ตาม
"เฮ้อ....."
ผู้าุโนิกายชิงิทั้งหมดอดที่จะถอนหายใจออกมามิได้ พวกมันรีบตามหั่วหยวนกลับไป มันช่างเป็ฉากที่น่าขันเสียจริง นิกายชิงิมาที่นี่อย่างสง่างาม แต่ท้ายที่สุดพวกมันก็หนีไปอย่างน่าสมเพช
เจียงเฉินก็ไม่สามารถสังหารได้ และพวกมันก็ไม่ได้ดวงจิตหมูป่าหนามอัคคีคืน ไม่เพียงแค่นั้น พวกมันยังพาหั่วหยวนอมาโดนฉีกหน้าถึงที่ หั่วหยวนเป็อัจริยะที่ล้ำค่าของนิกายชิงิ มันได้รับพรเป็ทักษะเปลวเพลิงที่ทรงพลังั้แ่เกิดและก่อนหน้านี้ก็ได้ไปบ่มเพาะที่ถ้ำใต้ดิน หากไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น มันก็จะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางในไม่ช้า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบ่มเพาะของมัน
หยุนฉานถูกฆ่าตาย หั่วหยวนจากไป เป็อีกครั้งที่ความแข็งแกร่งของเจียงเฉินทำให้เขามีสถานะที่มั่นคงในนิกายเซวียนอี้
ณ ยอดเขากั๋วฉาน
"เจียงเฉิน เ้าจะเข้าไปยังนรกอเวจีจริงๆหรือ?ด้วยพร์ของเ้า ไม่จำเป็ที่เ้าจะต้องไปฝึกฝนในสถานที่อันตรายขนาดนั้นเลยนี่"
นักพรตเซวียนอี้ขมวดคิ้วและถามขึ้น
"ท่านผู้นำ เื่นี้ข้าได้ตัดสินใจแล้วไม่จำเป็ต้องพูดเื่นี้อีก ขอให้ท่านผู้นำเปิดเส้นทางสู่นรกอเวจีให้ข้าด้วย"
เจียงเฉินพูด
"เจียงเฉิน เ้าอาจไม่รู้ว่านรกอเวจีอันตรายเพียงใด แม้แต่ข้าก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไป ข้าพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมกวนอี้หยุนเพื่อไม่ให้เข้าไป แต่เขาก็ยังยืนกรานที่จะเข้าไป อย่างไรก็ตาม เ้าไม่จำเป็ต้องไปฝึกฝนที่นรกอเวจีเลยนี่"
นักพรตเซวียนอี้จ้องมองเจียงเฉินอย่างงุนงง ในความจริงแล้ว นักพรตเซวียนอี้ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนรกอเวจีมากนัก เขาไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน ทั่วทั้งแคว้นฉีมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เข้าไปที่นั่น มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันของนรกอเวจี สิ่งที่ผู้คนรู้คือนรกอเวจีเป็สถานที่อันตรายมาก และโอกาสรอดกลับมาได้ต่ำมาก
"ท่านผู้นำ ที่น้องเจียงต้องเข้าไปยังนรกอเวจีครั้งนี้ เพื่อช่วยฮันหยานขอรับ"
กั๋วฉานอธิบาย
"เพื่อช่วยฮันหยาน?"
นักพรตเซวียนอี้หรี่ตาลง
"ถูกแล้ว อาการของอาหยานนั้นสาหัสมาก และพลังชีวิตของเขาแทบหมดสิ้น อวัยวะภายในทั้งหมดแตกเป็เสี่ยงๆ ที่เขายังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะว่าสายเืปีศาจเทวะา ข้าได้นำเขาไปภายในธงโลหิตด้วยความหวังว่าพลังงานปีศาจภายในจะสามารถช่วยเขาได้บ้าง ถึงอย่างนั้นการที่จะช่วยเขาได้อย่างสมบูรณ์นั้น ข้าจำเป็ต้องได้ดวงจิตอสูรของอสูรโลกา พี่กั๋วบอกข้ามาว่าสัตว์อสูรหายากเช่นนั้นมีอยู่ในนรกอเวจีเท่านั้น นั่นเป็เหตุผลว่าทำไมข้าถึงต้องไปที่นั่น"
เจียงเฉินพูดด้วยท่าทีจริงจัง
"อาหยานเป็พี่ชายของข้า ชีวิตของอาหยานก็เหมือนกับชีวิตของข้า แม้ข้าต้องฝ่าูเาดาบ และดำลงไปในทะเลเพลิง ข้าจะต้องช่วยเขาให้ได้ ถึงแม้ว่ายมบาล้าชีวิตของเขา จะต้องถามข้าเจียงเฉินว่าเห็นด้วยหรือไม่"
เมื่อพูดถึงฮันหยาน เจียงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเ็ปใจ เขาเป็พี่ชายคนแรกหลังจากที่เจียงเฉินเกิดใหม่ และเขาได้เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยสตรีของเจียงเฉินใน่เวลาวิกฤติ มิตรภาพนี้ เจียงเฉินไม่มีวันลืม ตราบเท่าที่สัญญาณชีพของฮันหยานยังคงมีอยู่ ต่อให้ต้องเสี่ยงแค่ไหนเจียงเฉินก็จะช่วยเขา
ได้ฟังถึงเหตุผลของเจียงเฉิน นักพรตเซวียนอี้อ้าปาก แต่ไม่อาจพูดสิ่งใดออกมาได้ เขารู้สึกผิดเมื่อเจียงเฉินพูดถึงฮันหยานและเยี่ยนเฉินหยวี่ เขาไม่กล้าที่จะสบตาเจียงเฉิน
"ดังนั้น ท่านผู้นำไม่จำเป็ต้องพูดถึงเื่นี้อีก ในสายตาของข้า ชีวิตของอาหยานสำคัญที่สุด ข้าจะไปยังนรกอเวจีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม นอกจากนี้พวกท่านต่างหวาดกลัวต่อนรกอเวจี แต่ข้าไม่เคยหวาดกลัวต่อสถานที่อันตราย ไม่ว่ามันจะอันตรายเพียงใด มันเป็การฝึกฝนของข้า"
บนใบหน้าเจียงเฉินเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตนเอง มันเป็ความมั่นใจในฐานะที่เคยเป็ยอดนักบุญอันดับหนึ่งในใต้หล้า
"ดี เจียงเฉิน เ้าเป็ผู้มีปณิธานแน่วแน่ ข้ามั่นใจว่าเ้าต้องกลายเป็ผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน!เ้าโเี้และไร้เมตตาต่อศัตรู แต่กับพวกเดียวกัน เ้าเป็บุรุษที่เปี่ยมไปด้วยความชอบธรรม!ข้า นักพรตเซวียนอี้นับถือเ้า และข้าจำเป็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับหยวี่น้อยและอาหยานของเ้า แต่ข้าไม่สามารถทำอย่างอื่นได้มากกว่าคำขอโทษ ข้าจะเปิดเส้นทางไปนรกอเวจีให้แก่เ้า เมื่อเข้าไปเ้าต้องระมัดระวังให้มาก!"
นักพรตเซวียนอี้ไม่โน้มน้าวเจียงเฉินอีก เขารู้ว่าสิ่งที่เจียงเฉินได้ตัดสินใจไปแล้ว จะไม่มีการเปลี่ยน
"อืม ท่านผู้นำ โปรดรอข้าที่วังเซวียนอี้ ข้าจำเป็ต้องพูดบางอย่างกับพี่กั๋วก่อน"
เจียงเฉินพูด
นักพรตเซวียนอี้ผงกหัว และทะยานจากไป
"น้องชาย เ้าเป็ชายที่มาพร้อมกับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ ข้ามั้นใจว่าเ้าจะต้องรอดกลับมาจากนรกอเวจีได้และบางทีเ้าอาจได้พบกับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ด้วยก็เป็ได้"
กั๋วฉานพูด
"พี่กั๋ว ข้าไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นั่นยาวนานแค่ไหน ข้าจำเป็ให้ท่านดูแลหยวี่น้อยกับอาหยานให้ดี ข้าจะโอนสิทธิควบคุมธงโลหิตให้แก่ท่าน แม้ว่ามันจะเป็ศาตราวุธมาร แต่มันก็เป็ศาตราวุธที่แข็งแกร่งมากชิ้นหนึ่ง มันต้องช่วยท่านได้อย่างแน่นอน"
เจียงเฉินตัดสินใจที่จะทิ้งธงโลหิตไว้ อย่างแรก มันสามารถช่วยฮันหยานได้ อย่างที่สอง หากตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน กั๋วฉานก็จะสามารถใช้มันได้
เฝินจงถังใกล้ที่จะออกจากหน้าผาสำนึกผิดเร็วๆนี้ เ้าจิ้งจอกเฒ่านี่เป็สิ่งที่เจียงเฉินเป็กังวลมากที่สุด
