ห้องลับภายในสวนที่พักตระกูลเย่ในนครแห่งเทพ
นอกจากผู้าุโของตระกูลเสว่ที่ยังยืนเหม่อลอยทำอะไรไม่ถูกอยู่ภายนอกนครแห่งเทพ เย่ชิงหนิว พวกผู้าุโตัวแทนของตระกูลต่างๆ และพวกเย่ชิงหาน หลงไซ้หนานต่างทยอยเข้ามานั่งลงกันเป็ที่เรียบร้อย
“ชิงหาน เ้าจงเล่าเื่ราวสำคัญทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในงานประลองาระหว่างเขตปกครองอย่างละเอียดและตามความเป็จริงออกมาให้พวกข้าฟังดูหน่อย!” เย่ชิงหนิวพูดขึ้นก่อนเป็คนแรก ั้แ่การพิจารณาตัดสินคดีอย่างผิดปกติธรรมดาของจั่นเสินเว่ย พลังฝีมือที่เพิ่มพูนอย่างก้าวะโของเย่ชิงหาน ความเคียดแค้นของพวกเย่ชิงหานที่มีต่อเสว่อู๋เหินอย่างเด่นชัด รวมไปถึงเื่ราวแปลกประหลาดหลายเื่ที่เกิดขึ้นกับเขตปกครองเทพา พวกเขาล้วน้าที่จะทราบทำความเข้าใจให้ชัดเจน
แน่นอนว่าเย่ชิงหนิวไม่ใช่คนโง่เขลา ในเวลาเดียวกันเขาก็ทำการส่งกระแสเสียงมาหาเย่ชิงหานว่า เื่ราวที่เกี่ยวข้องกับพลังฝีมือที่เพิ่มพูนอย่างก้าวะโทั้งหมดของเขาสามารถเล่าอย่างสั้นๆ สรุปรวบรัดพอ ไม่จำเป็ต้องเปิดเผยออกมาทั้งหมด
“อืม!” เย่ชิงหานพยักหน้าตอบรับแล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นทำการประสานมือคารวะไปยังเย่ชิงหนิวและเหล่าผู้าุโทั้งหลายที่นั่งอยู่ก่อนที่จะเริ่มเล่าเื่
“เื่ราวเริ่มขึ้นหลังจากที่พวกเราทั้งหมดขึ้นไปบนเกาะแห่งความมืดมิด ภายหลังจากการเสนอของเยว่ชิงเฉิงพวกข้าทั้งสี่ตระกูลจึงได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็สุดยอดกองกำลังระดับหัวกะทิขึ้นมา จากนั้นเสาะหาสระสังหารมารพบและเริ่มดักรอซุ่มโจมตีอยู่ที่นั่น...”
“...ครึ่งเดือนจากนั้นพวกเราถูกเยาขาข่าและหมันก้านโอบล้อมสังหารอย่างแปลกประหลาด สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือจากกองกำลังของเย่อีที่เอาชีวิตเข้าแลกจนพวกเราโชคดีหนีรอดออกมาได้... ตอนที่อยู่หุบเขาัดำข้าโชคดีได้รับผลึกัซึ่งไปกระตุ้นให้เกิดเคล็ดวิชาต่อสู้ร่างอสูรชนิดหนึ่งขึ้น อีกทั้งพลังฝีมือเพิ่มพูนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนบรรลุระดับขอบเขตนักรบ สามารถสังหารผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจและราชันย์คนเถื่อนได้ในพริบตา... จนถึงศึกใหญ่ตัดสินสุดท้ายจบลง เื่ราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ประมาณนี้...”
เย่ชิงหานเริ่มบรรยายออกมาอย่างช้าๆ ใช้เวลาทั้งหมดไปราวครึ่งชั่วโมงถึงได้เล่าเื่สำคัญทุกอย่างที่เกิดขึ้นออกมาตามความเป็จริงทั้งหมด แน่นอนว่าเกี่ยวกับพลังฝีมือที่แท้จริงของตนเองไม่ได้เล่าออกมาหมด เล่าเพียงแค่ว่าได้รับผลึกัและไปกระตุ้นให้เกิดเคล็ดวิชาต่อสู้ร่างอสูรขึ้นมา ส่วนเื่ที่ตนเองมีอสูรศักดิ์สิทธิ์แน่นอนว่าไม่กล่าวถึง วิชาต่อสู้ร่างอสูรพัฒนาขึ้นมาอีกระดับหนึ่งก็กลายเป็ได้รับวิชาต่อสู้ร่างอสูรขึ้นมาแทน
เย่ชิงหนิวและเหล่าผู้าุโทั้งหลายล้วนสีหน้าดำคล้ำไปตามๆ กัน แต่ที่แน่ๆ พวกเขาสรุปสิ่งเื่ที่ได้ฟังออกมาอย่างแน่นอนได้สามอย่างคือ...
ประการแรก - เย่ชิงหานในตอนนี้อายุสิบหกปีพลังฝีมือระดับขอบเขตนักรบ และเมื่อบวกรวมพลังฝีมือโดยรวมทั้งหมด ผู้ที่มีพลังฝีมือต่ำกว่าระดับขอบเขตาาจักรพรรดิสำหรับเขาแล้วตอนนี้เรียกได้ว่าแข็งแกร่งไร้คู่ต่อกร
พร์เช่นนี้พันปีก็ยากจะพบพาน ร้ายกาจยิ่งกว่าเย่เตาผู้เป็บิดาของเขาหลายเท่านัก
ประการที่สอง - เสว่อู๋เหินสมคบคิดกับต่างเผ่ามาคิดร้ายต่อลูกหลานของทั้งสี่ตระกูล แม้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเขาจะแค่อยากสังหารเย่ชิงหาน แต่ก็เกือบทำให้วัยรุ่นหนุ่มสาวระดับหัวกะทิของทั้งสี่ตระกูลตายกันไปเกือบหมด
ประการที่สาม - เื่ราวที่เกิดขึ้นถูเชียนจวินจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน หาไม่แล้วนครแห่งเทพที่มีท่าทีแข็งกร้าวมาโดยตลอดจะจองจำถูเชียนจวินเป็เวลาถึงห้าปีได้อย่างไร
“ชิงหาน เื่ที่เสว่อู๋เหินบอกความเคลื่อนไหวของพวกเ้าแก่เผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน เ้ามีหลักฐานยืนยันหรือไม่? เื่เช่นนี้พูดกล่าวหาใส่ความมั่วซั่วไม่ได้เด็ดขาด...” เย่ชิงหนิวหลังจากก้มหน้านิ่งไปชั่วครู่จึงเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับดวงตาที่ทอประกายแสงแหลมคมแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ถูกต้อง ผู้าุโชิงหนิวกล่าวได้ถูกต้อง!” สีหน้าของผู้าุโตระกูลเฟิงก็ดำคล้ำเช่นเดียวกัน เื่เช่นนี้ไม่ใช่เื่เล็กน้อย ถ้าหากเื่ที่เล่ามาเป็จริงละก็ความหมายที่แฝงอยู่ข้างในนั้นลึกซึ้งเป็อย่างมาก สีหน้าผู้าุโคนอื่นๆ ก็เคร่งเครียดไม่ต่างกัน ต่างจ้องมองดูใบหน้าของเย่ชิงหานรอคอยคำตอบที่เขาจะตอบออกมา
“มีอย่างแน่นอน!” เย่ชิงหานพยักหน้าแล้วล้วงมือเข้าไปหยิบกระปุกโปร่งใสขนาดเล็กชนิดหนึ่งออกมา จากนั้นเทแมลงโปร่งใสหลายตัวที่ถูกผ่าออกเป็สองซีกที่อยู่ภายในออกมาไว้บนโต๊ะ เย่ชิงหานหันมองไปทางพวกหลงไซ้หนานพร้อมกับพูดขึ้นต่อ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งเื่นี้ข้ายังได้ไปสอบถามหมันก้านด้วยตนเอง ตอนที่ไปมีแม่นางหลง ฮวาเฉ่า เฟิงจื่อ เยว่ชิงเฉิง และรวมไปถึงเหล่าผู้นำทั้งหลายของกองกำลังระดับหัวกะทิของเขตปกครองเทพาทุกคนล้วนไปด้วย ดังนั้นสิ่งที่ข้าเล่ามาทุกคนจึงสามารถเป็พยานในเื่นี้ได้!”
พอเย่ชิงหานพูดจบ พวกหลงไซ้หนานต่างรีบตอบรับโดยการลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นเป็หลงไซ้หนานที่เป็ตัวแทนพูดขึ้น “เื่นี้พวกเราสามารถเป็พยานให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมันก้านยังบอกกับพวกเราอีกว่าในตอนนั้นเสว่อู๋เหินมอบลูกแก้วผลึกบอกตำแหน่งให้พวกเขาผ่านทางทูตของนครแห่งเทพ! หลังจากเกิดเื่เสว่อู๋เหินก็หายตัวไปจนกระทั่งบัดนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวใดๆ”
“ฮึ!” เย่ชิงหนิวกระแทกเสียงเ็าออกมาครั้งหนึ่ง มือด้านซ้ายออกแรงบีบไปยังที่พักแขนบนเก้าอี้ด้านซ้ายจนแหลกละเอียด ดวงตาวัวทั้งคู่ถลึงจนปูดโปนออกมา ิับนใบหน้าบิดกระตุกขึ้นราวกับวัวป่าที่กำลังเดือดดาล จากนั้นจึงพูดขึ้นด้วยความโกรธ “ตระกูลเสว่ช่างกำเริบเสิบสานเสียจริง! ไม่นานก่อนหน้านี้ก็ทำลายผู้มีร่างหยกิญญาของตระกูลข้าไปคนหนึ่ง ตอนนี้ถึงกับกล้าสมคบคิดกับต่างเผ่ามาคิดร้ายผู้สืบทอดของตระกูลใหญ่ทั้งสี่? เมืองเพียงเสว่ไม่ได้หลั่งเืมานานเกินไปแล้วหรืออย่างไร? พวกตระกูลเสว่อยากที่จะลบชื่อตระกูลของตนเองออกจากเขตปกครองเทพาไปตลอดกาลหรืออย่างไร?”
“ตระกูลเสว่จะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้วจริงๆ เื่นี่ข้าจะต้องรายงานต่อท่านหัวหน้าตระกูลอย่างแน่นอน จากนั้นให้ท่านหัวหน้าตระกูลทั้งหลายประชุมปรึกษาหารือกัน ตระกูลเสว่สมคบคิดกับต่างเผ่ามาคิดร้ายผู้สืบทอดของทั้งสี่ตระกูล ดูท่าว่าเมืองเพียวเสว่อยากที่จะเป็ศัตรูกับทั้งเขตปกครองเทพาแล้วละแบบนี้!”
ผู้าุโหญิงของตระกูลเยว่แสดงจุดยืนเป็คนที่สอง หลังจากที่ได้รับการยืนยันเื่ความสัมพันธ์ของเย่ชิงหานและเยว่ชิงเฉิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่ชิงหานมีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งร้ายกาจถึงเพียงนี้ จึงไม่สนว่าจะต้องเสียสละมากมายเพียงใดก็จะต้องสร้างความสัมพันธ์เพื่อดึงมาเป็พวกให้ได้ เย่ชิงหนิวเป็ตัวแทนของตระกูลเย่ที่เป็ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรมากได้ แต่นางพูดได้และพูดออกมาอย่างไม่ลังเลด้วย จุดประสงค์ก็เพื่อให้ผู้าุโของตระกูลเฟิง ตระกูลฮวา และของเมืองัแสดงจุดยืนของตนเองออกมา
“อืม...เื่นี้เกี่ยวพันใหญ่หลวงนัก ข้าไม่มีอำนาจที่จะแสดงจุดยืนใดๆ ในเื่นี้ แต่ในเมื่อเสว่อู๋เหินกระทำเื่ที่ฟ้าดินไม่อาจให้อภัยเช่นนี้ คิดว่าท่านหัวหน้าตระกูลคงไม่ปล่อยปละละเลยให้คนทำผิดลอยนวลไปเฉยๆ เป็แน่! จุดยืนโดยส่วนตัวของข้านั้นเห็นด้วยที่ว่าเมืองเพียวเสว่ควรที่จะหลั่งเืเสียที...” ผู้าุโของตระกูลเฟิงแม้ไม่ได้พูดในฐานะตัวแทนของตระกูลเฟิงแต่ก็แสดงจุดยืนส่วนตัวออกมาอย่างชัดเจน
“เสว่อู๋เหินคนนี้สมควรตาย! ส่วนเื่เกี่ยวกับตระกูลเสว่คงต้องให้ท่านหัวหน้าตระกูลทั้งหลายประชุมปรึกษาหารือกันอีกทีว่าควรจะจัดการอย่างไร!” ผู้าุโของตระกูลฮวาพูดจาคลุมเครือ เื่นี้เกี่ยวพันใหญ่หลวงเขาเองไม่มีอำนาจพอที่จะพูดแสดงจุดยืนอะไรออกมา
“เสว่อู๋เหินจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนเื่ของตระกูลเสว่ขอให้ทุกท่านอย่าเพิ่งทำอะไรวู่วามไป รอให้ท่านจ้าวเขตปกครองและหัวหน้าตระกูลทั้งหลายประชุมปรึกษาหารือกันก่อน จากนั้นค่อยตัดสินใจกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ!” จุดยืนของเมืองัไม่ได้เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง แสดงจุดยืนเป็กลางๆ ออกมา
“ตกลง! ถ้าอย่างนั้นถ่ายทอดคำสั่งออกไปก่อน หาตัวเสว่อู๋เหินออกมาให้ได้ ตระกูลเย่มีรางวัลเป็สมบัติล้ำค่าระดับวิเศษให้สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสตามจับตัวเสว่อู๋เหินได้!” เย่ชิงหนิวพยักหน้าเบาๆ ท่าทีของตัวแทนแต่ละตระกูลที่แสดงออกมาถือว่าไม่เลว ส่วนจะพังเมืองเพียงเสว่ให้ราบเป็หน้ากลองหรือไม่ เื่ใหญ่เช่นนี้คงต้องให้ท่านจ้าวเขตปกครองและหัวหน้าตระกูลทั้งหลายพูดคุยกันอีกทีถึงจะสรุปออกมาได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่พอทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือตามหาตัวเสว่อู๋เหินให้พบ เย่ชิงหนิวจึงได้ตั้งรางวัลที่มีราคามูลค่าระดับสูงสำหรับผู้ให้เบาะแสนำจับได้ สมบัติล้ำค่าระดับวิเศษ! ชิ้นเดียวสามารถแลกของล้ำค่ามากมายของเมืองเล็กๆ ได้ครึ่งเมือง สำหรับยอดฝีมือระดับสูงผลึกพลังทั่วไปและผลึกพลังม่วงไม่อาจนับได้ว่าเป็สิ่งมีค่าแต่อย่างใด แต่สมบัติล้ำค่าระดับิญญา ระดับวิเศษ และยาโอสถสมุนไพรหายากพิเศษต่างๆ ของเหล่านี้ถึงจะนับว่าเป็ของล้ำค่า
มองดูเหล่าผู้าุโของตระกูลต่างๆ ที่แสดงท่าทีออกมา เย่ชิงหานลอบถอนหายใจออกมาภายในใจ เดิมทีคิดว่าตนเองมีหลักฐานสำคัญหนักแน่นในการยืนยัน และยังให้พวกหลงไซ้หนานติดตามไปสอบถามหมันก้านด้วยถึงค่ายใหญ่ที่พักชั่วคราวของเผ่าคนเถื่อนเพื่อเป็พยาน สองสิ่งนี้รวมกันน่าจะสามารถทำให้ตระกูลเสว่ตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถจะฟื้นคืนกลับมาได้อีกต่อไป แต่มองดูแล้วเื่นี้คงยุ่งยากซับซ้อนกว่าที่คิด คาดว่าคงยังมีอุปสรรคอีกมาก
พวกหลงไซ้หนาน ฮวาเฉ่าต่างคิดไว้เหมือนกันกับเย่ชิงหาน แต่เมื่อมองเห็นผู้าุโของตระกูลมีท่าทีเช่นนี้และมองเห็นสีหน้าของเย่ชิงหานที่เริ่มค่อยๆ เศร้าสลดลง เห็นดังนั้นเฟิงจื่อกับคนอื่นๆ ปรึกษาหารือกันอยู่สักพักจากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วพูดออกมาด้วยเสียงดังกังวานโดยไม่สนใจต่อสายตาของเหล่าผู้าุโทั้งหลาย
“นายน้อยหาน เ้าวางใจเถอะ เสว่อู๋เหินคิดทำร้ายพวกเรากระทำเื่ที่ฟ้าดินไม่ให้อภัยเช่นนี้ กลับไปพวกข้าจะต้องรายงานต่อท่านหัวหน้าตระกูลอย่างชัดเจนที่สุดแน่ หากไม่ให้เมืองเพียวเสว่หลั่งเืเสียบ้างพวกข้าสาบานว่าจะไม่ยอมเลิกราอย่างแน่นอน...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้