ขณะทีู่เี่อันกับลั่วเสี่ยวซีกำลังเตรียมตัวออกจากร้านอาหาร ลู่เป๋าเหยียนก็โทรเข้ามาถามว่าูเี่อันเสร็จธุระแล้วหรือยัง
“พวกเรากำลังจะกลับแล้วล่ะ” ูเี่อันถาม “นายล่ะ”
“ฉันก็เสร็จแล้วเหมือนกัน”
ลู่เป๋าเหยียนพูดตอบเธอช้ากว่าทุกที ูเี่อันรู้เลยว่าเขาคงดื่มเหล้าไปไม่น้อย
“งั้นนายรอฉันที่โรงแรม เดี๋ยวฉันกับอาเฉียนจะไปรับ”
หลังวางสายเธอกำลังหันไปบอกลาเพื่อน แต่ลั่วเสี่ยวซีกลับโบกมือลาพลางยิ้มอย่างเข้าใจอยู่ก่อนแล้ว
“ไปเถอะ อย่าปล่อยให้สุดที่รักของเธอรอนาน ฉันเองก็จะกลับแล้ว”
ูเี่อันให้อาเฉียนขับรถไปที่โรงแรมที่ลู่เป๋าเหยียนกำลังรออยู่
โรงแรมหรูหราระดับห้าดาวที่ภายนอกถูกตกแต่งอย่างงดงาม จนคนที่สัญจรไปมาต้องหยุดฝีก้าวเพื่อชื่นชม หลังอาเฉียนจอดรถปุ๊บพนักงานก็เดินเข้ามาเปิดประตูรถใหู้เี่อันทันที เธอเห็นลู่เป๋าเหยียนยืนอยู่หน้าประตูโรงแรมกับชายวัยกลางคนสองคน
“ผอ.ลู่ จะไม่ ‘ไปต่อ’ กับพวกผมจริงๆ เหรอครับ วันนี้พวกผมเลี้ยงเอง รับรองว่าบริการถึงใจ!” ชายหนุ่มทั้งสองพากันหัวเราะอย่างมีเลศนัย คำว่า ‘ไปต่อ’ ของพวกเขาหมายถึงอะไรคงไม่ต้องถามให้มากความ
ลู่เป๋าเหยียนเพียงแค่ตอบปฏิเสธ และบอกให้พวกเขาเชิญตามสบาย
ชายคนหนึ่งในนั้นทำท่าเหมือนจะลองตื๊อลู่เป๋าเหยียนดูอีกสักครั้ง แต่ชายอีกคนกลับรีบห้ามเอาไว้
“ผอ.ลู่มีภรรยาที่สวยปานนางฟ้าขนาดนั้นอยู่แล้วจะไปกับพวกเราทำไมกัน ที่ไม่อยากไปด้วยคงเพราะจะรีบกลับบ้านสิครับเนี่ย พวกเราไปกันเถอะ อย่าทำให้ท่านผอ.ต้องเสียเวลา”
ว่าแล้วชายคนแรกจึงพยักหน้าก่อนจะเดินจากไปอย่างยิ้มๆ
ลู่เป๋าเหยียนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา พลางคิดว่าูเี่อันคงใกล้จะถึงแล้ว และเมื่อหันหน้ากลับไปก็เจอเจี่ยนอันกำลังยืนอยู่ไม่ไกล
เขาเดินเข้าไปหาเธอ “มาถึงั้แ่เมื่อไร”
“เพิ่งถึงน่ะ” ูเี่อันชี้ไปยังชายหนุ่มที่ชวนไปต่อเมื่อครู่ “ฉันรู้จักภรรยาของเขา เรียบร้อยน่ารักมาก แถมดูแลตัวเองอย่างดี ในใจเธอมีแต่เื่สามีกับเื่ลูก งานอดิเรกเพียงอย่างเดียวของเธอคือเล่นไพ่นกกระจอกกับกลุ่มเพื่อนไม่กี่คน”
ที่จริงเธอก็แค่สงสัยว่าคุณนายคนนั้นจะรู้ไหมว่า สามีของตัวเองเป็อย่างไรเมื่ออยู่ข้างนอกแบบนี้ หากรู้แล้วล่ะก็เธอสามารถทนได้อย่างไรกัน
ลู่เป๋าเหยียนมองูเี่อันก่อนจะถามขึ้นว่า
“เธอกลัวไหมว่าสักวันหนึ่งฉันจะเป็แบบนั้น”
“นายไม่ทำแบบนั้นหรอก” ูเี่อันตอบอย่างไม่ลังเล
ลู่เป๋าเหยียนถามอย่างสนใจ “เธอมั่นใจได้ยังไง”
“ถ้านายจะทำแบบนั้นล่ะก็ไม่เห็นจำเป็ต้องไปหาที่ไหน” ูเี่อันนึกไปถึงดาราสาวสวยที่อยู่ใต้สังกัดของ Lu Media “นายอยู่เฉยๆ ก็มีคนขึ้นมาถวายตัวเต็มไปหมดอยู่แล้ว”
พวกเธอแต่งงานกันมาก็หลายเดือน นอกจากข่าวเื่การฆ่าตัวตายของหานรั่วซีที่เป็เื่เข้าใจผิด เธอก็ไม่เคยเจอกับ ‘ผู้หญิงของลู่เป๋าเหยียน’ คนอื่นอีกเลย เธอเชื่อว่าลู่เป๋าเหยียนไม่ใช่คนแบบนั้น
ูเี่อันมองลู่เป๋าเหยียนั้แ่หัวจรดเท้า
“ตอนนี้ฉันกลัวว่านายจะมีพุงเพราะกินเบียร์มากเกินไปมากกว่า”
ถ้าเป็แบบนั้นต่อให้หน้าตาคมคายแค่ไหน เขาก็คงดูดีน้อยลงเยอะ...
ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม “ถ้าเื่นั้นเธอวางใจได้ ก่อนฉันจะแก่ เพื่อเธอแล้วฉันจะรักษารูปร่างของตัวเองเอาไว้ให้เหมือนตอนนี้เลย”
ูเี่อันหัวใจกระตุก ก่อนจะแก่งั้นเหรอ...ลู่เป๋าเหยียนอยากอยู่กับเธอจนแก่เฒ่าไปเรื่อยๆ?
หัวข้อสนทนานี้ช่างงดงาม ูเี่อันไม่อยากให้มันจบลงอย่างน่าเสียดายจึงถามต่อ
“งั้นพอแก่แล้วนายจะเป็ยังไงนะ” เธอลองจินตนาการในหัวดูและได้ข้อสรุปที่ว่า ต่อให้แก่ตัวลง ลู่เป๋าเหยียนก็คงเป็คนแก่ที่หล่อเหลาไม่เปลี่ยนแปลง
ลู่เป๋าเหยียนคิดเล็กน้อยก่อนตอบ “บางทีผมฉันคงจะหงอก”
“หา?” ูเี่อันอุทานอย่างผิดหวังเล็กน้อย เธอมองเส้นผมสีดำของเขาและพูดว่า
“ผมนายจะหงอกงั้นเหรอ...” เื่นี้เธอลืมนึกไปเลย
ลู่เป๋าเหยียนลูบผมเธอเบาๆ “หาอะไร เธอก็คงเหมือนกัน”
ความแก่เป็เื่ต้องห้ามสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะเื่ผมหงอกยิ่งแล้วใหญ่ ูเี่อันผลักลู่เป๋าเหยียนให้ออกห่างอย่างยิ้มๆ
“เชิญนายผมหงอกไปคนเดียวเถอะ! ในอนาคตไม่ว่าจะอีกสิบปี สามสิบปี ห้าสิบปี ฉันก็จะดูเด็กแบบนี้ไปเรื่อยๆ!”
ลู่เป๋าเหยียนแค่เรียกเธอว่ายัยโง่ ก่อนจะจูงมือเธอให้ขึ้นรถ
“กลับบ้านได้แล้ว”
หลังปิดประตูรถเรียบร้อย ูเี่อันจึงได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวลู่เป๋าเหยียน
“นายกินไปเยอะแค่ไหนเนี่ย”
“ไม่รู้เหมือนกัน” ลู่เป๋าเหยียนยกมือนวดขมับ “คุยงานกับคนรุ่นนี้พวกเขามักจะชอบดื่มเหล้าขาว”
ูเี่อันเห็นเขาดูไม่ค่อยสบายตัวจึงจับหน้าเขาให้หันมาทางเธอ ก่อนจะยกมือช่วยนวดกดจุดให้อย่างคล่องแคล่ว
เมื่อก่อนเธอก็ช่วยนวดให้ซูอี้เฉิงอยู่บ่อยๆ จากนั้นเป็ต้นมาเวลาซูอี้เฉิงไปดื่มเหล้า เขามักจะไม่กลับไปหาแฟนสาวของเขา แต่จะแวะมาหาเธอที่อพาร์ตเมนต์แทน ทุกครั้งที่เธอนวดเสร็จพี่มักจะบอกว่าสบายตัวขึ้นเยอะ ก่อนจะกินมื้อดึกที่เธอทำให้ และสุดท้ายจึงพูดว่าวันนี้ของเขาจบลงด้วยดีจริงๆ
“เป็ไงบ้าง” เธอถามลู่เป๋าเหยียน
“สบาย” นิ่งไปสักพักลู่เป๋าเหยียนจึงเอ่ยถาม “เธอไปเรียนมาจากไหน”
“ฉันไม่ได้เรียนกับอาจารย์คนไหนหรอก แค่ทำตามคลิปวิดีโอในอินเทอร์เน็ตน่ะ เมื่อก่อนพี่ฉันดื่มเยอะมากเขาชอบปวดหัวฉันเลยเริ่มศึกษาเื่พวกนี้” ูเี่อันแลบลิ้นเล็กน้อย “ที่จริงตอนแรกฉันก็แค่เอาพี่มาเป็หนูทดลอง แต่พี่ไม่รู้เื่นะ ไปๆ มาๆ เขาก็พูดชมว่า ฉันยิ่งนวดยิ่งเก่ง”
น้ำเสียงของเธอดูภูมิใจ ่นี้เธอมักจะเล่าความลับเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ให้ลู่เป๋าเหยียนฟัง ความลับที่แม้แต่ซูอี้เฉิงเองก็ไม่เคยรู้ ลู่เป๋าเหยียนชอบฟังเธอเวลาเล่าเื่พวกนี้มาก
ลู่เป๋าเหยียนลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าตอนนี้ใบหน้าูเี่อันอยู่ใกล้เขามากแค่ไหน กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเธอลอยมาแตะจมูก ทำให้เขาอดเผลอไผลไปกับมันไม่ได้
ลมหายใจของลู่เป๋าเหยียนเริ่มติดขัด หัวใจเริ่มสั่นไหว
เขากลัวว่าตัวเองจะเผลอทำอะไรลงไป จึงดึงมือเธอออกและบอกให้เธอนั่งดีๆ
“ที่ผูกเนกไทได้คล่องขนาดนั้นก็เพราะว่าพี่ชายเธอ?”
ูเี่อันนิ่งคิดอยู่สักพักจึงนึกขึ้นได้ว่า เมื่อสองเดือนก่อนเธอช่วยลู่เป๋าเหยียนผูกเนกไท ตอนนั้นลู่เป๋าเหยียนถามเธอว่าเคยผูกให้ใครที่ไหน แต่เธอตอบไปแค่ว่า ไม่ใช่เขาก็แล้วกัน
เื่ผ่านไปนานขนาดนี้แล้วเขายังจำได้อยู่อีกเหรอเนี่ย ที่จู่ๆ ถามขึ้นมาแบบนี้ หรือว่าเขายังข้องใจไม่หาย?
เธอกระแอมหนึ่งทีก่อนจะตอบด้วยท่าทีแปลกไป
“นอกจากพี่ฉันแล้วจะมีใครอีกล่ะ”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มออกมา ูเี่อันจึงเข้าใจว่าเขาคงดีใจ
ว่าแต่ทำไมจู่ๆ ก็ดีใจล่ะ?
ไม่รอให้เธอคิดหาคำตอบ ทันใดนั้นลู่เป๋าเหยียนก็เอนศีรษะมาซบไหล่เธอ
“ถึงบ้านแล้วเรียกด้วย”
ครั้งที่สามแล้ว
ูเี่อันมองคนข้างกาย ครั้งนี้เธอไม่ใอีกแล้ว แต่รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด
ในสายตาของคนอื่น อัจฉริยะแห่งโลกธุรกิจแบบลู่เป๋าเหยียนนั้นน่าเกรงขาม มีอำนาจล้นฟ้า แตู่เี่อันรู้ดีว่าเพื่อแลกกับสิ่งที่เขามีอยู่ทุกวันนี้ เขาสูญเสียหยาดเหงื่อแรงกายไปมากแค่ไหน เขาก็เหมือนคนปกติทั่วไปที่บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยล้าได้เหมือนกัน
และในยามที่เขาเหนื่อย เขาเลือกที่จะซบไหล่เธอ ทุกครั้งที่เธอเห็นเขาเป็แบบนี้ ภาพลักษณ์ของเขาในสายตาเธอไม่ได้แย่ลงแม้แต่น้อย แต่มันทำให้เธอชอบเขามากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
เมื่อก่อนเวลาที่ไม่มีเธอ ไม่รู้ว่าลู่เป๋าเหยียนผ่านวันเวลาแบบนี้ไปได้อย่างไร แต่ต่อจากนี้ไป เธอหวังว่าตัวเองจะสามารถอยู่ข้างกายเขาแบบนี้ไปได้ตลอดชีวิต
วันนี้เป็วันเสาร์
หลังกินข้าวเช้าเสร็จลู่เป๋าเหยียนก็บอกูเี่อันว่าจะพาเธอไปสถานที่แห่งหนึ่ง
ูเี่อันมองลู่เป๋าเหยียนอย่างสงสัย วันนี้เขาสวมชุดลำลอง ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนจะไปสถานที่ที่เป็ทางการ เธอเอียงคอถามเขา
“จะไปไหนเหรอ”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปากอย่างลึกลับ
“ถึงแล้วก็จะรู้เอง”
รถมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของเมือง ูเี่อันคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าพวกเธอจะไปไหนกัน สุดท้ายจึงถอดใจ และอดทนรอจนถึงจุดหมาย
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่นึกเลยว่าจะเป็ที่นี่
Happy World สวนสนุกของผู้ใหญ่
เธอยืนมองจากด้านหน้า ชิงช้า์และเครื่องเล่นขนาดใหญ่มากมายเรียงรายสลับโผล่พ้นต้นไม้ออกมาให้เห็น รถไฟเหาะที่วิ่งอย่างรวดเร็วจนคนนั่งพากันส่งเสียงกรีดร้องอย่างสนุกสนาน ขนาดคนที่อยู่ด้านนอกยังอดตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้
“สวนสนุกสำหรับเด็กที่อยู่ข้างๆ เธอคงเข้าไม่ได้แล้ว ฉันเลยต้องพามาที่นี่” ลู่เป๋าเหยียนถาม
“เป็ไง พอใจไหม”
ูเี่อันกุมมือลู่เป๋าเหยียนไว้แน่น “ที่แท้สวนสนุกหน้าตาแบบนี้เองเหรอ เสี่ยวซีเคยบอกฉันว่าที่นี่ใหญ่เป็พันๆ ไร่ เครื่องเล่นมีมากกว่าเจ็ดสิบชนิด เป็สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ แล้วฉันไม่พอใจได้ยังไงล่ะ!” ูเี่อันพูดอย่างตื่นเต้น
“พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ!”
ลู่เป๋าเหยียนมีตั๋วอยู่แล้ว พวกเขาเดินเข้าไปในโลกแห่งความสุขตรงหน้า ูเี่อันรู้สึกราวกับได้ย้อนกลับไปเป็เด็กน้อยเมื่อสิบสี่ปีที่แล้วอีกครั้ง
เธอตื่นเต้นจนะโโลดเต้นไปมา พลางชี้ไปยังเครื่องเล่นเครื่องหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกล
“อันนั้นต้องเป็ Dive Coaster ที่เสี่ยวซีบอกแน่ๆ เลย! ลู่เป๋าเหยียนเราไปเล่นกันเถอะดีไหม?”
ลู่เป๋าเหยียนตอบแค่ว่า “วันนี้ฉันจะตามใจเธอทุกอย่าง”
นี่เป็สิ่งที่เขาติดค้างูเี่อัน
สิบสี่ปีก่อน เขาสัญญาว่าจะพาเธอมาสวนสนุก แต่จู่ๆ ก็เพิ่งได้รับแจ้งว่าเื่เดินทางไปอเมริกาถูกเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นสถานการณ์ค่อนข้างพิเศษ ไม่อาจปล่อยให้ล่าช้าได้ เขาเลยต้องเดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอนไปอย่างกะทันหัน
ูเี่อันบอกว่าเขาหลอกเธอ แต่ที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าไม่ติดว่าต้องรีบออกนอกประเทศแล้วล่ะก็ วันรุ่งขึ้นเขาคงจะพาเธอไปสวนสนุกอย่างที่ตั้งใจไว้
วันนี้เป็ที่เขาจะได้ทำตามสัญญาเสียที ถึงแม้มันจะช้าไปสิบสี่ปีก็ตาม
“งั้นพวกเราไปต่อแถวกัน!”
ูเี่อันลากลู่เป๋าเหยียนเพื่อไปเข้าแถวเล่นรถไฟเหาะที่ว่า
วันนี้เป็วันหยุดสุดสัปดาห์ ท้องฟ้าก็แจ่มใส นักท่องเที่ยวจึงค่อนข้างมากโดยเฉพาะคู่รัก ซึ่งแต่ละคู่สวีทหวานกันจนคนรอบข้างพากันอิจฉา แต่ที่สะดุดตาที่สุดคงเป็คู่ของูเี่อันกับลู่เป๋าเหยียน
ชายหนุ่มหน้าตาคมคายกับหญิงสาวสวยใสสะดุดตา เป็คู่ที่เหมือนฟ้าประทานมาให้ ทั้งคู่ดูใกล้ชิดสนิทสนมกัน หญิงสาวขี้อ้อนกับชายหนุ่มที่พร้อมตามใจทุกอย่างด้วยความรักใคร่คู่นี้ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายเป็ได้เพียงแบ็คกราวน์ของพวกเขา
สายตาที่จ้องมองเข้ามานั้น ูเี่อันไม่รู้สึกเขินอายหรือไม่เป็ตัวของตัวเองอีกต่อไป เธอไม่ได้ใส่ใจกับผู้คนรอบข้างเสียเท่าไร
โตขนาดนี้แล้วเธอเพิ่งเคยมาสวนสนุกเป็ครั้งแรก แถมลู่เป๋าเหยียนยังเป็คนพาเธอมาด้วยตัวเองแบบนี้ เธอไม่มัวมาเขินอายให้เสียเวลาหรอก
หลังต่อแถวอยู่เกือบสิบนาทีก็ถึงคิวของูเี่อันกับลู่เป๋าเหยียน
ลู่เป๋าเหยียนช่วยูเี่อันปรับสายเข็มขัดนิรภัยให้พอดี ก่อนจะจัดการของตัวเองเป็ลำดับสุดท้าย เขาหันมามองูเี่อันที่ตอนนี้ทำหน้านิ่งเกร็งอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันเริ่มกลัวๆ แล้วล่ะ” ูเี่อันมองรางรถไฟที่บิดโค้งเลี้ยวลดก่อนจะพูดเสียงสั่นเครือ
“ลู่เป๋าเหยียน ฉัน...”
ลู่เป๋าเหยียนจับมือเธอก่อนปลอบใจ “ฉันอยู่นี่”
คำสามคำที่เหมือนมีมนตร์วิเศษ ทำให้หัวใจที่เต้นแรงด้วยความกลัวค่อยๆ สงบลงอย่างช้าๆ เธอสูดลมหายใจลึกก่อนจะส่งยิ้มให้คนข้างกาย
“อื้อ ฉันไม่กลัวแล้ว!”
ตอนนั้นเอง Dive Coaster ก็เริ่มเคลื่อนตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ูเี่อันรู้สึกเหมือนโดนโยนจากที่สูง แสงอาทิตย์ส่องสว่างแยงตา เธอพยายามอดกลั้นเต็มที่แต่ก็ชักจะทนไม่ไหว สุดท้ายจึงกรีดร้องออกมา
“กรี๊ด...! ลู่เป๋าเหยียน!”
