เดิมทีนางค้นพบต้นเกาลัดกับต้นซานจา [1] บนเขา แล้วยังพบสมุนไพรจำพวกโสมเถียนชีอีกด้วย ขณะกำลังคิดว่าชีวิตของครอบครัวกำลังจะก้าวหน้า หากแต่ยังไม่ทันถึงหน้าหมู่บ้านกลับพบว่ามีเด็กหลายคนชะเง้อคอยืนอยู่หน้าบ้านของตน
หนึ่งในนั้นคือหู่จื่อที่มาเที่ยวหาไหลไหลตอนเช้า เพียงแต่ไม่เห็นเงาของไหลไหลในเด็กกลุ่มนี้
“ท่านน้า…” เมื่อเห็นลั่วชีเหนียง หู่จื่อก็เรียกด้วยเสียงแ่ เพียงแต่สายตาที่หลบเลี่ยงกลับทำให้นางรู้สึกว่ามีเื่ไม่ดีเกิดขึ้น
ลั่วชีเหนียงกลัวจะทำให้เด็กใ จึงวางตะกร้าลง แล้วล้วงเศษขนมในห่อผ้าน้ำมันเมื่อวานออกมาจากในอ้อมอก วันนี้นางยุ่งจนนางลืมกิน
เมื่อหู่จื่อเห็นขนม ดวงตาก็เบิกกว้างพร้อมทั้งกลืนน้ำลายเสียงดัง
“หู่จื่อ เ้ามีเื่จะคุยกับน้าใช่ไหม? เ้าอยากบอกอะไรกับน้าหรือ?”
หู่จื่อจับจ้องของในมือนางตาเป็มัน เด็กน้อยคนอื่นเห็นหู่จื่อไม่พูด จึงเบียดหู่จื่อไปข้างๆ
“ท่านน้า ท่านน้า ไหลไหลบ้านพวกท่านถูกยายเฒ่าชั่วร้ายคนหนึ่งจับตัวไปแล้ว”
เด็กน้อยพูดจบก็ยื่นมือจะฉวยขนมจากมือนางไป
นางรีบชักมือที่ถือขนมอยู่กลับทันใด “ไหลไหลถูกคนจับตัวไปได้อย่างไร? คนผู้นั้นหน้าตาเป็เช่นไร? แต่งกายอย่างไร พวกเ้ารู้จักหรือไม่?”
เด็กน้อยขมวดคิ้ว “ไม่ทราบ แต่ว่าคนผู้นั้นบอกว่าเป็ยายของเขา”
ยายของเขา?
นั่นมิใช่แม่ของลั่วชีเหนียงคนเก่าหรือ? หรือว่าจะเป็ยายเฒ่าลั่ว?
นางมีแผนในใจว่าจะลองไปสืบดูก่อน หากเป็ยายเฒ่าลั่วจริง เช่นนั้นคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปหมู่บ้านชิงเหอสักรอบ
หลังจากเด็กๆ ไปแล้ว นางยืนมองเงาที่ไหวอยู่ข้างกำแพง
เ้าทึ่มจ้าว?
เหตุใดเ้าทึ่มจ้าวคนนี้จึงปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านตนเองวันเว้นวันเช่นนี้
ช้าก่อน! ในเมื่อเขาอยู่ที่นี่ คงต้องเห็นอะไรบ้างสินะ? เด็กพวกนั้นไม่รู้จักยายเฒ่าลั่ว แต่เ้าทึ่มจ้าวคือคนหมู่บ้านชิงเหอ จะต้องรู้จักนางแน่
“จ้าวจือชิง? นั่นเ้าสินะ?”
นางถามด้วยเสียงแ่เบา ชายที่นั่งแอบอยู่ตรงข้างกำแพงอย่างน่าสงสารมาตลอดพุ่งพรวดออกมา
เขามองลั่วชีเหนียงพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างแม้กระทั่งปานบนหน้าผากที่ดูน่ากลัวในตอนแรกกลับไม่หลงเหลือความน่ากลัวอยู่เลย
หากคนสกุลจ้าวได้เห็นคงต้องตื่นใแน่ เพราะเวลาอยู่ต่อหน้าพวกเขา เ้าทึ่มจ้าวมักจะถลึงตาดุ ไม่เคยเผยรอยยิ้มเป็มิตรเช่นนี้มาก่อน
สมัยก่อนร่างเดิมเห็นเ้าทึ่มจ้าวทีไรเป็ต้องใจนตัวสั่น โดยเฉพาะเวลาที่จ้าวจือชิงยัดเยียดของให้ลั่วชีเหนียงคนเก่าหลายต่อหลายครั้ง นางยังกังวลว่าจะมีผู้ใดมาเห็นหรือไม่ทั้งกลัวจี้ฉงเหวินจะเข้าใจผิด จึงกลายเป็ว่าต้องคอยหวั่นวิตกเหมือนตนได้ทำเื่เสื่อมเสียอะไรทุกครั้งร่ำไป โดยเฉพาะสมัยที่เ้าทึ่มจ้าวยังไม่มีหนวดเคราบนใบหน้า ปานยาวบนหน้าผากไล่มาจนถึงใบหน้าซีกซ้าย มักจะทำให้เด็กใกลัวจนร้องไห้เสมอ
เ้าทึ่มจ้าวเห็นนางไม่หลบหน้าตนเอง รอยยิ้มบนใบหน้าจึงยิ่งทวีความจริงใจ
“ฮี่ๆ เ้าไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องเ้าเอง! ไป ไป…”
จ้าวจือชิงยื่นแขนไปด้านหน้าเพื่อจะนำทางให้นาง
“ไหลไหลถูกยายเฒ่าลั่วพาตัวไปหรือ?” เมื่อไตร่ตรอง นางกลัวจ้าวจือชิงจะฟังไม่เข้าใจ จึงเสริมอีก“หมายถึงท่านแม่ข้า เ้าเคยเห็นแล้ว สตรีที่หางตาตกๆ หน่อย”
จ้าวจือชิงพยักหน้าขึ้นลงหลายครั้ง “รู้จัก นางพาไหลไหลไป”
ขณะพูด เ้าทึ่มจ้าวก็อ้าแขนเป็สัญญาณว่าจะช่วยนาง เขามีพละกำลังมากมาย กระทั่งคนสกุลจ้าวก็ไม่กล้ารังแกเขา!
แต่นางมีหรือจะกล้าให้เ้าทึ่มจ้าวช่วย นางเป็สตรีแม่ม่าย ถึงแม้เ้าทึ่มจ้าวจะเป็คนสติไม่สมประกอบ แต่ก็เป็บุรุษ
ลั่วชีเหนียงปฏิเสธเ้าทึ่มจ้าวอ้อมๆ และเมินใบหน้าน้อยใจของเขา จากนั้นจึงหันหลังกลับเข้าบ้าน
คิดไม่ถึงว่ายายเฒ่าลั่วจะมาชิงตัวไหลไหลไปจริงๆ แต่พวกเขาตัดขาดการติดต่อกับร่างเดิมมานานหลายปี เหตุใดจู่ๆ ถึงมาชิงตัวคนไป?
นางไม่ทันได้วิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง พลันกลับบ้านไปเรียกตัวลั่วจิ่งซีมา
“ไหลไหลถูกคนสกุลลั่วพาตัวไป เ้าไปรับตัวเขาที่บ้านสกุลลั่วกับข้าที”
นางไม่มีเวลาอธิบายให้มากความ จึงแค่โพล่งบอกออกไป จากนั้นจึงเคาะประตูห้องตะวันออก
“ลูกใหญ่ เกิดเื่กับไหลไหลแล้ว แม่กับลูกรองจะออกไปข้างนอก บนเตาในครัวยังมีของกิน เ้านำไปกินรองท้องก่อน รอแม่กลับมาค่อยทำให้เ้าเพิ่ม”
แม้ว่าลั่วจิ่งซีไม่ยินดีที่ถูกนางใช้งาน แต่พี่ชายในห้องไม่ได้พูดสิ่งใด นอกจากนี้เขาก็สงสัยว่าคนสกุลลั่วเป็เช่นไร
นับั้แ่เขาจำความได้ เหมือนจะไม่เคยเจอคนสกุลลั่วมาก่อน
ระหว่างทาง ลั่วชีเหนียงอธิบายเื่ราวความเป็ไปกับเขาคร่าวๆ
“พวกเขามีสิทธิ์อะไรถึงต้องจับตัวคนไป?” ลั่วจิ่งซีอยู่ในวัยที่มุทะลุ เมื่อได้ยินว่าลั่วจิ่งไหลถูกคนทำให้หมดสติหน้าบ้านและอุ้มไป ก็เกิดความโมโห
“ไม่ต้องสนว่าพวกเขามีสิทธิ์อะไร ตอนนี้ที่สำคัญกว่าคือต้องพาไหลไหลกลับมา บ้านสกุลลั่วมิใช่สถานที่ที่ดี”
ครอบครัวแบบนั้น นางไม่อยากคิดเลยว่าหากไหลไหลไปอยู่ในมือพวกเขา แล้วต้องเผชิญเคราะห์กรรมเช่นใดบ้าง
ระหว่างทางไปหมู่บ้านชิงเหอ ลั่วชีเหนียงเข้าสู่ภวังค์แห่งความทรงจำของร่างเดิม
การใช้ชีวิตในบ้านสกุลลั่วสำหรับลั่วชีเหนียงคนเก่า มันเหมือนตายทั้งเป็ ทุกวันนางต้องตื่นแต่เช้ามาทำงานบ้าน เก็บซักล้างถู ถอนหญ้า ให้อาหารไก่และขึ้นเขาเก็บผัก ต้องแบกรับงานทุกอย่างบนบ่าั้แ่วัยเยาว์ แม้นเป็เช่นนี้ ยายเฒ่าลั่วกลับไม่เคยให้นางได้กินอิ่มปากอิ่มท้อง การถูกด่าทอทุบตีเป็เื่ที่เกิดขึ้นทุกสามมื้อหลังอาหาร
จนนางเติบโตขึ้นมา ยังต้องเจอกับการระรานของลั่วต้าเซิงอยู่บ่อยครั้ง เหตุใดร่างเดิมจึงค่อนข้างเชื่อมั่นและพึ่งพาชายสารเลวอย่างจี้ฉงเหวิน นั่นก็เพราะในใจของร่างเดิม จี้ฉงเหวินเหมือนดั่งเทพเ้า การสู่ขอของเขาทำให้นางหลุดพ้นจากบ้านสกุลลั่ว
ชีวิตที่ไร้ซึ่งงานหนักไม่จบสิ้นและการด่าทอทุบตีที่ไม่สิ้นสุด หลังจากแต่งงานก็ไม่มีการหาเื่จากแม่สามี แม้ว่าจี้ฉงเหวินจะไม่ได้ใส่ใจเื่ครอบครัวมากนัก แต่อย่างน้อยการแต่งงานกับจี้ฉงเหวินก็ทำให้นางมองเห็นความหวัง นี่จึงเป็เหตุผลที่ว่าแม้จี้ฉงเหวิน้าหย่านาง แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่ยินยอม
นางกลัวจะต้องกลับไปบ้านสกุลลั่วและใช้ชีวิตที่มืดมนไร้ซึ่งแสงสว่างแบบนั้นอีก
ยิ่งเข้าใกล้หมู่บ้านชิงเหอ เท้าของนางก็ยิ่งหนักอึ้ง ลั่วจิ่งชีที่ถูกนางทิ้งห่างในตอนแรก ขณะนี้ได้เดินนำนางไปไกลแล้ว
“ท่านเป็อะไรไป?”
คนที่ร้อนรนเมื่อครู่คือนาง แต่ตอนนี้คนที่กลับมาเชื่องช้าก็คือนางอีก ลั่วจิ่งซีหยุดชะงักและสังเกตุเห็นว่าใบหน้าของลั่วชีเหนียงซีดขาวเล็กน้อย ความเป็ห่วงจึงเผยออกมาผ่านสีหน้าและแววตา
หากแต่แล้วก็แสร้งเบือนหน้าหนีอย่างไร้เยื่อใย
ลั่วชีเหนียงค่อยๆ ปรับสภาพจิตใจตนเองอย่างค่อยเป็ค่อยไป
เ้าวางใจได้ ข้าจะไม่มีทางให้พวกเขารังแกเ้าอีก ตอนนี้เ้าทำใจให้สบาย ทั้งหมดมีข้าช่วยแบกรับ หากเ้ายังคอยรบกวนข้า ไม่แน่ว่าลูกชายของเ้าอาจจะถูกพวกเขารังแกข่มเหงจริงๆ หรือเ้าจะทำใจให้เขาต้องใช้ชีวิตเหมือนเ้าได้หรือ? เ้า้าให้ลูกๆ ให้อภัยเ้าและมีชีวิตที่ดีมิใช่หรือ?
ดั่งที่คาด พอคิดเช่นนี้ ความหวาดกลัวก็ค่อยๆ หายไป
นางยิ้มขมขื่น เดิมทีคิดว่าิญญาของร่างเดิมได้จากไปนานแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าิญญาของนางยังหลบอยู่ในส่วนลึกและคอยออกมารบกวนตนเองเป็พักๆ โชคดีที่ตอนนั้นนางตัดสินใจจะเลี้ยงดูลูกๆ ของร่างเดิมให้ดี มิเช่นนั้นเดาว่าร่างเดิมคงไม่มีทางปล่อยให้นางรับร่างกายนี้ไปอย่างง่ายดาย
-----
[1] ซานจา (山楂)
เป็ผลไม้ประเภทเบอร์รี่ชนิดหนึ่งลูกเล็กๆ ผลเป็สีแดงคนจีนมักนำไปเคลือบน้ำตาลทำเป็ถังหูลู่เสียบไม้และใช้เป็ยาแผนโบราณหรือนำไปทำซุป, ขนมหรือเครื่องดื่มก็ได้เช่นกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้