“คนบ้านเม่าหลิน ในที่สุดข้าก็เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเซวียนเซวียนถึงมิชอบข้า?ที่แท้เ้าก็เป็ผู้ที่คอยยุแยงใช่หรือไม่” เกาซื่อถลึงตา ตำหนิสวี่ติ้งหรงด้วยความมิพอใจ
“ท่านย่า ข้ามิได้ถูกผู้ใดยุแยงเสียหน่อย ท่านทำผิดพลาดเองแล้วจะมาโทษผู้อื่นเช่นนี้ได้อย่างไร ท่านเหลวไหลเสียจริง” จิ่นเซวียนโกรธเกาซื่อ นางอยากคบผู้ใดเป็สหาย ก็มิใช่กงการของเกาซื่อ
“เ้าหุบปาก ผู้ใหญ่คุยกัน เหตุใดเ้าถึงพูดแทรก” เกาซื่อดุจิ่นเซวียนโดยมิยอมให้แก้ตัว
เมื่อนางคิดว่าจิ่นเซวียนอยากตัดความสัมพันธ์กับนาง นางก็โกรธยิ่งนัก
“ข้าอยู่มาหลายสิบปี มิเคยเห็นคนขี้เหนียวเช่นนี้มาก่อน กลับมาเยี่ยมพ่อแม่ แต่กลับมินำของขวัญกลับมาสักชิ้น” เกาซื่อยกเื่ของขวัญขึ้นมาอีก ซย่าหลี่จวินหรี่ตามองเกาซื่อ เตือนมิให้นางสร้างความโกรธแค้นให้ฝูงชน
“ทุกคนกลับกันเถิด มิมีสิ่งใดให้ดูหรอก” สิ้นเสียงของซย่าหลี่เจิ้ง ชาวบ้านจึงแยกย้ายกันไป
จากนั้นมินาน ในลานบ้านจึงเหลือเพียงจิ่นเซวียน ซ่งจื่อเฉิน ซ่งเฉวียน ซย่าหลี่เจิ้งรวมไปถึงครอบครัวของท่านย่าชั่วร้ายและสมาชิกทั้งสามคนจากครอบครัวของซย่าชุนอวิ๋น
“พี่ใหญ่ โปรดดูแลเผิงเฟยให้ดี อย่าให้เขามารังควานพวกเราอีก” ซย่าชุนอวิ๋นมิชอบซย่าเผิงเฟย แม้ซย่าเผิงเฟยจะเป็หลานแท้ๆ ของนาง แต่นางมิมีความผูกพันกับหลานผู้นี้แม้แต่น้อย และทุกหนที่บ้านของนางซื้อของอร่อยมา ซย่าเผิงเฟยจะพาเกาซื่อมาเอาของที่บ้านของนางเสมอ
หนนี้หานเอ๋อร์น้อยถูกท่านแม่ถีบ เพื่อปกป้องนาง นางรู้สึกผิดหวังจริงๆ ถึงแม้ท่านแม่จะมิได้เขียนหนังสือตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูกกับนาง นางก็มิคิดจะให้โอกาสอีก
นับแต่นี้ไป ถือว่านางมิมีแม่เช่นนี้
“ท่านอาเล็ก ท่านโทษข้าได้อย่างไร?” ซย่าเผิงเฟยแก้ตัวอย่างมิพอใจ “ผู้ที่ถีบหานเอ๋อร์น้อยคือท่านย่า มิใช่ข้าเสียหน่อย ท่านอย่าว่าร้ายข้า”
สารเลวน้อยผู้นี้ผลักภาระให้นางได้อย่างไร หากมิใช่เพราะเขายุยงให้นางไปเอาของกินที่บ้านของซย่าชุนอวิ๋น นางคงมิบังเอิญทำให้หานเอ๋อร์น้อยาเ็เช่นนี้
“เผิงเฟย เ้าทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก หากมิใช่เพื่อเ้า ข้าจะทำเื่โง่ๆ หรือ?”
“ท่านย่า ท่านพูดจาตลกยิ่งนัก ข้ามิได้บังคับให้ท่านตีคนเสียหน่อย” ซย่าเผิงเฟยยิ้มเยาะ เขามิสนใจเกาซื่อ ในใจของเขา ทุกคนคือหมาก ผู้ใดทำให้เขามีชีวิตที่ดีได้ ถึงจะต้องเรียกคนผู้นั้นว่าบรรพบุรุษ เขาก็ยินดี
“ท่านอาเล็ก ท่านอาเขยเล็ก พวกเราเป็ครอบครัวเดียวกัน อย่าคิดเล็กคิดน้อยกันเช่นนี้เลยเ้าค่ะ” ซย่าจิ่นอวิ๋นมองซย่าชุนอวิ๋นและหูเหยียนซูอย่างประจบสอพลอ นางยังคาดหวังให้ซย่าชุนอวิ๋นมองนางเป็หลานสาวอยู่ เมื่อนางแต่งออกไป จะได้ขอให้ซย่าชุนอวิ๋นมอบของขวัญเ้าสาวให้นาง
“วันนี้ผู้ที่าเ็มิใช่เ้า เ้าถึงได้พูดจาโหดร้ายเช่นนี้” หูเหยียนซูขัดซย่าจิ่นอวิ๋นด้วยเสียงเ็า เขามิอยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ้านซย่าอีกต่อไป
“……” ซย่าจิ่นอวิ๋นน้ำท่วมปากกับคำพูดของหูเหยียนซู นางหลุบตาต่ำและแอบมองอยู่เงียบๆ
“ท่านอาเล็ก หานเอ๋อร์น้อยกำลังตื่นกลัว มิควรให้นางได้รับความะเืใจอีก พวกเรากลับไปปลอบนางกันก่อนเถิดเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนอยากออกไปพร้อมกับซย่าชุนอวิ๋นจึงหาข้ออ้างพูดขึ้นมา
“เ้าหยุดเดี๋ยวนี้ ข้าให้เ้าไปแล้วหรือ?” เกาซื่อเจตนาหาเื่จิ่นเซวียน นางเอ่ยด้วยเสียงเฉียบขาดและเดินไปหยุดอยู่ข้างจิ่นเซวียน
“ขาอยู่บนร่างของข้า ข้าสามารถเดินออกไปได้ทุกเมื่อ ท่านมายุ่งได้หรือ?” จิ่นเซวียนโกรธจริงๆ แล้ว ย่าชั่วร้ายมีสิทธิ์อะไรมายุ่มย่ามกับนาง
“เ้ามันคนเนรคุณ เ้ามันนังตัวดี หรือว่าข้ายังรักษา……” เกาซื่อเอ่ยมิทันจบ พวกจิ่นเซวียนก็หายไปจากลานบ้านแล้ว
“……เ้าดูลูกสาวคนดีของเ้า นางรู้จักเถียงข้าแล้ว” จิ่นเซวียนมิสนใจเกาซื่อ เกาซื่อจึงได้แต่หันหอกไปทางลูกชายของนาง โดยหวังว่าลูกชายจะแก้แค้นแทนนาง
“เ้ารีบไปที่บ้านของชุนอวิ๋นเดี๋ยวนี้ ดูว่าจิ่นเซวียนให้สิ่งใดกับชุนอวิ๋น” เกาซื่อดันซย่าหลี่จวิน และบอกให้เขารีบตามไปที่บ้านของซย่าชุนอวิ๋น
“เผิงเฟย อวิ๋นเอ๋อร์ พวกเ้าดูแลท่านย่าดีๆ อย่าให้นางออกไปที่ใดอีก” เมื่อซย่าหลี่จวินกำชับเรียบร้อยแล้ว จึงรีบไล่ตามพวกจิ่นเซวียนไปทันที เขาตามไปหาจิ่นเซวียนมิใช่เพื่อของขวัญ แต่เพื่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของนาง
มินานซย่าหลี่จวินก็ตามพวกจิ่นเซวียนทัน เขาแสร้งเป็ผู้มีคุณธรรมเอ่ยขอโทษ “เซวียนเซวียน จื่อเฉิน ย่าของเ้าแก่แล้ว ย่อมทำเื่เลอะเลือนเป็ธรรมดา พวกเ้าให้อภัยนางเถิด”
“ข้าแต่งงานสร้างครอบครัวแล้ว จากนี้ข้าจะใช้ชีวิตของตนเอง ส่วนนางก็ใช้ชีวิตของนางไป พวกเราอย่าล้ำเส้นกันจะดีที่สุดเ้าค่ะ” ท่าทีของจิ่นเซวียนแน่วแน่ ไร้ความลังเล ถึงแม้นางกับพ่อเฮงซวยจะมิได้ตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกัน แต่นางก็จะมิเปิดช่องให้เขาฉวยโอกาส
“เซวียนเซวียน ข้ารู้ว่าเ้าเกลียดท่านย่า แต่เ้าต้องยอมรับจุดหนึ่ง หากมิมีนาง จะมีเ้ากับข้าได้อย่างไร” คำพูดของซย่าหลี่จวินมิเพียงบอกกับจิ่นเซวียนเท่านั้น ยังรวมถึงซย่าชุนอวิ๋นอีกด้วย
เขาพยายามใช้ครอบครัวมาผูกมัดจิ่นเซวียนกับซย่าชุนอวิ๋น
“แม้คำพูดของท่านจะมีเหตุผล แต่ความอดทนของคนเราย่อมมีขีดจำกัด ท่านย่ามิเคยมองข้าเป็คนในครอบครัวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เื่นี้ท่านน่าจะรู้ดี” จิ่นเซวียนเกลียดการเอาคุณธรรมมาบังคับผู้อื่นที่สุด นางมิใช่คนโบราณแต่กำเนิดจึงมิสนับสนุนความคิดของพ่อเฮงซวย และหากยึดตามคำกล่าวของเขา นางจะกลายเป็เครื่องมือหาเงินของพ่อเฮงซวยไปตลอดชีวิต
“พี่ใหญ่ คำพูดของข้าอาจจะฟังมิขึ้น ท่านอย่าโกรธเล่า ท่านก็อายุปูนนี้แล้วยังเรียนหนังสือเป็หลักอยู่อีก ท่านมิเคยคิดบ้างหรือ หากท่านสอบมิติด จากนี้ท่านจะทำอย่างไร?” สิ่งที่ซย่าชุนอวิ๋นพูดออกมาตรงกับสิ่งที่จิ่นเซวียนอยากจะพูด
ผู้ที่ไร้ประโยชน์ที่สุดคือผู้ที่เรียนหนังสือ วลีนี้พอมีเหตุผลอยู่บ้าง พ่อเฮงซวยเรียนหนังสือมานานหลายปี ยังเป็เพียงถงเซิง เขาเสียเวลาเปล่าจริงๆ
“ที่ข้าสอบมิติด เป็เพราะคนชั่วมามีอิทธิพลต่อดวงขุนนางของข้า ชุนอวิ๋น เ้าคือน้องสาวของข้า เ้าควรสนับสนุนข้า”
ซย่าหลี่จวินมิเคยทำนา หากจะให้เขายอมรับชีวิตเช่นนี้ในทันที เขารับมิได้หรอก
“ตามหลักแล้วข้าควรสนับสนุนท่าน แต่ข้ามิมีความสามารถ!” ซย่าชุนอวิ๋นรู้ดีว่าพี่ชายของนางเป็คนเช่นไร การสนับสนุนที่เขาอ้างถึงคือเงิน นางยอมให้เงินขอทานดีกว่าให้เขา
“ข้าอยากถือโอกาสตอนที่พวกเราอยู่กันพร้อมหน้า ปรึกษากับพวกเ้าเื่หนึ่ง” ซย่าหลี่จวินรู้สึกฮึกเหิมยิ่งนัก เขามิขอความเห็นของพวกจิ่นเซวียน แต่เขากลับโพล่งขอเงินค่าเดินทางไปสอบจากพวกเขา
“เซวียนเซวียน ชุนอวิ๋น พวกเ้าสนับสนุนข้าคนละหนึ่งร้อยตำลึง ข้ารับรองว่าจะนำตำแหน่งจอหงวนมาให้พวกเ้าแน่”
“……” ซ่งเฉวียนและซ่งจื่อเฉินหมดคำจะพูดกับซย่าหลี่จวิน ในที่สุดพวกเขาก็ััได้ถึงความร้ายกาจของซย่าหลี่จวิน ชายสูงเจ็ดฉื่อ บุคลิกสง่างาม มิคิดหาเงินเอง ยังหวังให้น้องสาวกับลูกสาวเลี้ยงดู ซย่าหลี่จวินทำให้บุรุษเช่นพวกเขาขายหน้ายิ่งนัก
ขอเพียงเขาสอบได้ตำแหน่งจอหงวน อย่าว่าแต่เงินหนึ่งร้อยตำลึงเลย เงินหนึ่งพันตำลึงเขาก็ให้ลูกเขยของเขาได้ แต่……เขาจะสอบได้หรือ?
“จื่อเฉิน เ้าบอกมา เ้ายินดีสนับสนุนข้าหรือไม่?” จิ่นเซวียนนิ่งเงียบ มิพูดมิจา พ่อเฮงซวยจึงต้องโยนคำถามใส่ซ่งจื่อเฉินแทน
“ท่านพ่อตามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมเช่นนี้ ลูกเขยเช่นข้าก็ควรสนับสนุน เพียงแต่ตำแหน่งจอหงวนนั้น มิได้สอบกันได้ง่ายๆ อย่างที่ท่านคิดขอรับ” ซ่งจื่อเฉินฉลาดตอบ เขามิได้พูดปฏิเสธออกมาตรงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้