ภายนอกถ้ำมีการเคลื่อนไหววุ่นวายเช่นนี้ ตัวอาจิ่วที่อยู่ด้านในถ้ำน่าจะสามารถรับรู้ได้ตั้งนานแล้ว แต่เ้าเด็กนี่กลับไม่มีการตอบสนองใดๆ เลยแม้แต่น้อยจนถึงตอนนี้ ผมเดาว่าคงเป็เพราะถูกอวี๋เคอตามใจเสียจนติดเป็นิสัยแล้ว เื่นี้ต้องโทษที่ผม เพราะผมเองก็ไม่ได้สนใจว่าหงส์เพลิงจะกินเ้าพวกสัตว์ปีศาจที่น่าเกลียดเหล่านี้ อย่างไรเสียถ้าให้คะแนนจากความสวยงามแล้ว อาจิ่วที่น่ารักของผมย่อมเหนือกว่าไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
ผมให้ข้ารับใช้ที่ติดตามมาถอยกลับไป ส่วนตัวเองค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไปในถ้ำที่อยู่ลึกยิ่งขึ้น เมื่อครั้งก่อนที่เข้ามาอากาศภายในถ้ำชื้นและเย็นกว่านี้มาก แต่เวลานี้กลับดูร้อนอบอ้าวผิดปกติ ในระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้นก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเนื้อย่างลอยปะปนอยู่ในอากาศด้วย
ให้ตายเถอะ? กลิ่นหอมของเนื้อย่างอย่างนั้นหรือ?
ณ เวลานี้ ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้วว่าอะไรที่เรียกว่าหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก อาจิ่ว เ้าเด็กดื้อนี่ถึงกับรู้จักย่างของพวกนี้กินด้วยหรือ? เช่นนี้นับว่าเป็บาร์บีคิวปิกนิกได้หรือไม่?
ตอนนี้ภายในถ้ำเงียบสงบเป็อย่างมาก ประตูกรงที่อยู่บนกำแพงซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณสิบกว่าเมตรถูกเปิดออกทั้งหมด บรรดาสัตว์ปีศาจที่อยู่ภายในกรงทุกๆ ตัวล้วนพยายามขดตัวให้ลีบเล็กที่สุด หลบอยู่ชิดติดกับกำแพงด้านใน แม้แต่จะแลบลิ้นออกมาก็ยังไม่กล้า
เปลวไฟสีน้ำเงินอ่อนที่ริบหรี่บนแท่นหินที่มีลักษณะโค้งเป็ครึ่งวงกลมซึ่งอยู่้ากำแพงและเปลวไฟสีส้มที่อาจิ่วจุดขึ้นข้างหน้านั้น ทำให้เกิดเป็สีโทนเย็นและสีโทนร้อนสองสีซึ่งแตกต่างกันอย่างมาก ด้วยความอยากอาหารของอาจิ่วแล้วเดาว่าสัตว์ตัวเล็กๆ เหล่านี้อาจจะมีไม่เพียงพอที่จะให้เขากินจนอิ่มท้องสักเท่าไร
ยิ่งเดินลึกเข้าไปมากขึ้นเท่าไรแสงไฟก็ยิ่งทำให้สายตาพร่ามัวมากเท่านั้น ขณะที่ผมก้าวไปช้าๆ จนสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นด้านในนั้นได้อย่างชัดเจนแล้ว ผมตกตะลึงก่อนเป็อันดับแรก จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
มารดามันเถอะ นี่อาจิ่วกำลังย่างสัตว์ปีศาจกินเป็อาหารจริงๆ ! อีกทั้งฝีมือและท่าทางก็ไม่ต่างจากการจัดบาร์บีคิวปิกนิกเลย!
เพดานถ้ำนั้นมีความสูงมาก ดังนั้นจึงมีพื้นที่กว้างเพียงพอสำหรับให้อาจิ่วซึ่งมีขนาดลำตัวที่ใหญ่เทียบเท่ากับตำหนักสามารถเข้ามาด้านในได้ ไม่ว่าจะก้มหัวหรือว่าหมุนตัวก็ยังมีพื้นที่อีกเหลือเฟือ เวลานี้เ้าเด็กนี่หย่อนก้นนั่งติดกับพื้นคล้ายกับท่าทางของมนุษย์มากๆ กรงเล็บที่เรียวยาวและแข็งแรงทั้งสองข้างวางราบ ไม่รู้ว่ามันไปหยิบวัสดุอะไรมาใช้ตั้งเป็ฐานที่วางไว้สำหรับปิ้งย่างซึ่งอยู่ด้านหน้าตัวเอง ที่้ามีท่อนไม้ขนาดใหญ่มากวางอยู่หลายท่อน ซึ่งท่อนไม้เ่าั้ใช้เสียบงูเอย กิ้งก่าเอย โดยเสียบั้แ่ตรงปากทะลุมาจนถึงก้น ดูแล้วช่างโเี้อย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าเป็เพราะพลังชีวิตและความแข็งแกร่งของการเป็สัตว์ปีศาจหรือไม่ ถึงทำให้บางตัวจึงยังขยับไปมาอยู่
อาจิ่ววางหม้อซึ่งมีหินติดไฟอยู่ในนั้นไว้ใต้ล่างฐานที่วางนี่ เขาพ่นไฟไปยังด้านในเป็ครั้งคราวเพื่อควบคุมระดับความร้อน ทั้งยังรู้จักพลิกไม้กลับไปกลับมาตอนที่ย่างอีกด้วย ดูแล้วช่างเหมือนผู้เชี่ยวชาญอย่างยิ่ง
ผมรู้ว่าเขารู้ว่าผมมาถึงแล้ว แต่ก็ไม่ยอมหันกลับมามอง ยังคงนั่งย่างอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอันใดออกมาสักคำ ย่างเ้าสัตว์ปีศาจเ่าั้เสียจนส่งกลิ่นหอมกรุ่น จากนั้นทาน้ำมันพร้อมโรยเกลือ แล้วพลิกกลับอีกรอบ
ผมต้องกลั้นหัวเราะแล้วเอ่ยถามเขา “อาจิ่ว นี่เ้ากำลังโกรธข้าอยู่ใช่หรือไม่? ”
อายุที่แท้จริงของอาจิ่วตอนนี้คือสามร้อยกว่าปี เผ่าหงส์เพลิงนั้นจะนับว่าเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เมื่ออายุห้าร้อยปี หรือกล่าวได้ว่าถึงแม้เ้านี่จะมีรูปร่างใหญ่โตเพียงใดทว่านิสัยก็ยังเป็เด็ก อย่างมากที่สุดก็นับได้ว่าเป็เด็กคนหนึ่งซึ่งมีพลังแข็งแกร่งในโลกแห่งผู้ฝึกตน หากจะเทียบกับพวกปีศาจในตำนานของตระกูลสัตว์เทพแล้วก็ยังถือว่าอ่อนแอกว่ามาก
เด็กที่กำลังอยู่ใน่วัยรุ่นนั้นมีความคิดที่ซับซ้อนเป็อย่างมาก ผมคิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเื่เมื่อ่เช้าที่ผมทั้งแย่งผลคืนิญญาของเขา แถมยังจงใจหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับัเขียวด้วยจึงยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ เมื่อหาวิธีอื่นที่จะระบายความโกรธไม่ได้ ไปๆ มาๆ จึงทำได้แค่เพียงมาลงกับสัตว์เลี้ยงตัวเล็กที่แสนโชคร้ายเหล่านี้
เมื่อเห็นว่าผมพูดคุยด้วย เขาจึงหันกลับมา ดวงตาสีแดงราวกับทับทิมเหลือบมองผมแวบหนึ่ง แล้วตอบกลับมา “นายท่าน ถ้าท่านอยากจะให้ข้าปล่อยเ้าพวกแมลงเหล่านี้ไป ท่านก็จงรีบพาข้าไปหาเ้างูน่าเกลียดนั่น มิเช่นนั้นแล้ว ท่านจะเชื่อหรือไม่ว่าทุกสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ ข้าสามารถกินมันทั้งหมดได้ภายในสองชั่วยาม [1] ! อีกอย่าง” เขาหยุดครู่หนึ่ง แล้วใช้ปีกชี้ไปยังซ่งฉียวนที่ตอนนี้แทบจะเป็ลมจนต้องพิงอยู่ที่ด้านในกรงเหล็กเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว “รวมถึงกินเ้าเด็กนี่เข้าไปด้วย ถือเสียว่าเป็ของว่าง นายท่านกลัวหรือไม่ขอรับ? ”
ฮ่าๆๆ นายท่านกลัวหรือไม่? เพราะเหตุใดอาจิ่วจึงน่ารักเช่นนี้?
สายตาของผมถูกนำทางให้มองไปที่สภาพของซ่งฉียวนที่คล้ายกับกำลังจะขาดอากาศหายใจแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทุกข์ใจ แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้กลัวว่าเขาจะตาย เพราะชีวิตของเ้าเด็กนี่ยังอีกยาวไกล เขาจะตายไม่ได้ถ้าหากยังไม่ได้ฆ่าผม
“อาจิ่ว เ้าเลิกก่อเื่วุ่นวายได้แล้ว ส่วนเด็กนี่เ้าก็กินไม่ได้ หากในอนาคตข้างหน้าเ้า้าหาัเขียว เ้าจะขาดเขาไปไม่ได้”
เมื่อลองคำนวณเวลาดูแล้วขณะที่ซ่งฉียวนไปยังเหวลึกที่อยู่ในหุบเขาิญญาเพื่อหาประสบการณ์อยู่นั้น เขาได้บังเอิญพบกับัเขียวและได้ช่วยชีวิตเอาไว้ หลังจากนั้นก็ยังได้พบกันอีกหลายครั้ง เมื่อหนึ่งคนกับหนึ่งัต่างก็รู้ใจกัน สุดท้ายก็ตกลงว่าจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองเหมือนเป็เพื่อนกันมากกว่าที่จะเป็เ้านายกับข้ารับใช้ ไม่แตกต่างจากความสัมพันธ์ระหว่างอวี๋เคอกับหงส์เพลิงสักเท่าไร ซึ่งขณะนั้นซ่งฉียวนมีอายุสิบแปดปี
เดี๋ยวนะ! คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังมีเวลาอีกตั้งแปดปี???!!!
เมื่อเป็เช่นนี้แล้วถือว่าหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลสินะ...
“ขาดเขาไปไม่ได้? นายท่าน ท่านคงไม่ได้ล้อเล่นอยู่หรอกนะ? หากข้า้าหาเ้าัเขียวนั่นจะต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากผู้พิการคนหนึ่งด้วยหรือ? ” อาจิ่วหยิบไม้ที่เสียบเนื้องูย่างมาหนึ่งไม้ กัดเข้าปากเคี้ยวจนเสียงดังกรุบๆ จะงอยปากที่แหลมคมขยับเปิดแล้วปิดตามจังหวะการเคี้ยว ผมมองดูเขากินจนรู้สึกปวดฟัน หลังจากที่กินหมดไม้แล้วก็โยนทิ้งไปยังกรงเหล็กตรงที่ซ่งฉียวนถูกขังอยู่จนเกิดเสียงกระทบกับโลหะดังสนั่นเสียงหนึ่ง
จากนั้นผมจึงอาศัยสายตาที่ยอดเยี่ยมเป็พิเศษของอวี๋เคอเพ่งมองจนสังเกตเห็นว่าขนตาของซ่งฉียวนกำลังขยับ ขนตาที่ยาวนั้นดูคล้ายกับกำลังกะพริบตา ผมรู้สึกว่าเขาดูน่ารักขึ้นมาเล็กน้อยอย่างบอกไม่ถูก
แต่พอลืมตาขึ้นมากลับไม่น่ารักแล้ว เขาพิงกำแพง ภายในดวงตานั้นไม่มีจุดโฟกัส ราวกับว่าแสงแค่เพียงนิดเดียวก็ไม่สามารถทะลุผ่านเข้าไปได้ เขาค่อยๆ หันศีรษะมาทางผมและอาจิ่ว ริมฝีปากที่แห้งจนแตกเม้มแน่น ไม่ได้พูดอันใด
แต่ผมเดาว่าเขาคงจะพูดไม่ได้สินะ? เพราะเมื่อวานะโออกมาเสียงดังมากเช่นนั้น ลำคอคงจะอักเสบจนรับไม่ไหวแล้วอย่างแน่นอน
เวลานี้อาจิ่วก็พบว่าซ่งฉียวนตื่นแล้วเช่นเดียวกัน กรงเล็บที่เรียวยาวของเขาจิกลงบนเสาของกรงเหล็ก ภายในดวงตาสีแดงฉายแววเยาะเย้ยให้เห็นอย่างชัดเจน จ้องมองไปยังผู้ที่ถูกขังอยู่ภายในกรง แล้วเอ่ยขึ้นอย่างถากถาง “เ้าเด็กน้อย นายท่านบอกว่าในอนาคตข้าจะต้องพึ่งพาเ้าเพื่อค้นหาศัตรูเก่าของข้า แต่ว่าในตอนนี้ข้าสามารถฉีกเนื้อของเ้าได้ด้วยกรงเล็บเดียว จากนั้นก็นำมาย่างบนไฟ แล้วโยนเข้าปาก ทว่าเมื่อกินเข้าไปแล้วก็ไม่ได้ทำให้อิ่มท้อง ฉะนั้นผู้ที่ไม่ได้เื่เช่นเ้ากลับสามารถทำให้นายท่านพูดเช่นนั้นได้อย่างไร? ”
ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดซ่งฉียวนถึงได้เกลียดอาจิ่วมากเช่นนี้...
......
เชิงอรรถ
[1] ชั่วยาม คือ หน่วยบอกเวลาในสมัยจีนโบราณ 1 ชั่วยามเท่ากับ 2 ชั่วโมง