ถึงแม้จี้เฟิงอวินจะมีกระบี่ห้ามรณาแต่เขาก็ไม่ได้ใช้มันออกมาในทันที เขาฟันกระบี่ออกมาสามสาย ในสามกระบวนท่านั้นมีทั้งไร้ความยินดี ไร้ความสุข และไร้ความเศร้า
ลมปราณกระบี่ทั้งสามสายมันรวดเร็วอย่างมากและพุ่งตรงมายังดวงตา คอ และหัวใจของิอวี่
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจี้เฟิงอวินนั้นถือเป็ยอดฝีมือด้านกระบี่ แค่กระบี่สามสายที่เขาฟันออกมาแบบไม่ได้เต็มที่มากก็ทำให้ิอวี่แทบจะรับมือไม่ไหวแล้ว
แต่ิอวี่ก็เปิดสถานะหยินขั้นสูงเอาไว้แล้ว ปฏิกิริยาของเขาจึงไวมาก เขาฟันกระบี่ของตนเองออกไปเพื่อตัดลมปราณทั้งสามสายนั้นทิ้ง!
แต่ว่า พลังลมปราณของกระบี่ทั้งสามสายก็ยังทำให้เขาต้องถอยหลังไปประมาณสิบก้าว!
ถึงแม้เขาจะต้านกระบี่ทั้งสามสายได้แล้วแต่ก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ เพราะลมปราณกระบี่ที่ไร้อารมณ์มันแทรกซึมเข้าไปในจิตสำนึกของิอวี่ และกำลังทำลายจิตสำนึกของเขาอยู่!
กระบี่เจ็ดมรณาไม่ได้เป็แค่ลมปราณกระบี่ที่ดุดัน แต่มันยังส่งผลต่อจิตสมาธิอย่างมาก ต่อให้จะมีลมปราณกระบี่แค่สามสาย แต่ก็ยังสามารถส่งผลต่อสภาพจิตใจของศัตรูได้อย่างมาก
หากเป็เวลาปกติ จี้เฟิงอวินใช้แค่กระบี่สามมรณาก็สามารถทำให้ศัตรูเกิดความหวาดกลัวได้แล้ว เมื่อสติของศัตรูใกล้แตกซ่านเขาก็จะทำการลงมือสังหารในทันที
ิอวี่หรี่ตาลง เขารู้สึกโชคดีมากว่าสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้นั้นไม่ผิดเลย จี้เฟิงอวินนั้นพอมีฝีมือจริงๆ ไม่ใช่คนธรรมดาเลย
“ตายซะ”
พูดจบก็มาเลย ระหว่างที่ิอวี่ถอยหลังและกำลังขบคิดนั้น จี้เฟิงอวินก็พุ่งแทงกระบี่ออกมา กระบี่ครั้งนี้มีไร้ความยินดี ไร้ความเศร้า ไร้ความสุข และไร้ความรัก!
ความเ็าของกระบี่มรณาที่ฟันออกมา ลมปราณกระบี่ที่ทำให้คนขนหัวลุกพุ่งตรงไปหาิอวี่อย่างบ้าคลั่ง!
“กระบี่วายุสังหาร!”
ิอวี่เองก็ไม่ได้เกรงใจ เขาฟันกระบี่ออกไปด้วยทั้งสองมือ จากนั้นลมปราณกระบี่สามพันสายก็ก่อตัวกลายเป็พายุและซัดสังหารออกไป
“ตู้ม!”
กระบี่สี่มรณาฟันปะทะเข้ากับกระบี่วายุสังหารทำให้เกิดเสียงที่เสียดฟันมาก ด้วยความเร็วจากระดับสายตามันเหมือนตัดพายุใหญ่ออกเป็สองท่อน จากนั้นลมปราณแห่งความตายของกระบี่ทั้งหมดก็กระจายออกและหายไปในอากาศ
“ใช้ถึงสี่แล้ว ยังฆ่าเ้าไม่ได้อีกหรือนี่”
จี้เฟิงอวินตาโต เขามองิอวี่ที่รอบกายเต็มไปด้วยหมอกน้ำแข็งสีดำ ในใจก็เริ่มหวั่นวิตก เขาคิดว่ากระบี่สี่สายของเขาน่าจะสามารถฟันิอวี่ขาดเป็สองท่อนได้แล้ว แต่ตอนนี้ดูไปแล้ว ความสามารถของิอวี่นั้นเหมือนจะเหนือกว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก
ระหว่างที่พวกเขาสองคนกำลังต่อสู้กัน คนที่อยู่ข้างๆ อย่างจูหงกับเหลียงชิงซานก็มองดูจนอึ้งไปเลย
ถึงแม้พวกเขาสองคนจะมีพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัว แต่การต่อสู้ของิอวี่กับจี้เฟิงอวินก็เหนือกว่าระดับที่พวกเขาจะรับรู้ได้แล้ว
ไม่ว่าจะเป็กระบี่วายุสังหารของิอวี่ หรือว่ากระบี่สี่มรณาของจี้เฟิงอวิน มันเหมือนสามารถจะสังหารพวกเขาสองคนให้ตายได้เลย!
“น่ากลัวเกินไปแล้ว ... ” จูหงปาดเหงื่อที่หน้าผาก ขาทั้งสองข้างของเขาเหมือนจะอ่อนแรง และในเวลานี้เอง เขาก็เห็นจี้เฟิงอวินนั้นก็ยกกระบี่ขึ้นมาอีกครั้ง ลมปราณสังหารก่อตัวขึ้นแล้วแผ่กระจายไปรอบๆ คลื่นลมปราณกระบี่นั้นพุ่งชนเข้ามาในใจของเขา
มันทำให้จูหงรู้สึกว่าในส่วนลึกในจิตใจของเขานั้นกำลังหวาดหวั่น!
ความรู้สึกเ็ามันหลุดพ้นจากความรู้สึกของมนุษย์ ลมปราณกระบี่ทำให้คนรู้สึกหนาวเหน็บเข้าไปถึงกระดูก ทำให้จิติญญาของคนรู้สึกสั่นสะท้าน!
“ยังมีไม้ตายอยู่อีกหรือนี่!” จูหงหลุดพูดออกมา แค่กระบวนท่าเมื่อครู่ก็ทำให้เขารู้สึกอึ้งมากแล้ว แต่จี้เฟิงอวินนั้นยังมีกระบวนท่าไม้ตายเหลืออยู่อีก!
ั้แ่เริ่มต่อสู้ จี้เฟิงอวินใช้เพลงกระบี่แบบเดียวจนจูหงคิดว่าจี้เฟิงอวินคงใช้เพลงกระบี่ระดับสุดยอดไปแล้ว แต่การกระทำของจี้เฟิงอวินกำลังบอกจูหงว่า ทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!
ส่วนเหลียงชิงซานที่อยู่ด้านข้างนั้นยังนิ่งอยู่ เขาไม่พูดอะไรเลย หากจะพูดอย่างละเอียดก็จะต้องบอกว่า เสื้อผ้าบริเวณแผ่นหลังของเขานั้นมันชุ่มไปด้วยเหงื่อเลยทีเดียว
ถึงแม้สีหน้าของเขาจะไม่ได้ดูตกตะลึงเหมือนจูหง แต่ในใจของเขาปั่นป่วนไปหมดแล้ว ซึ่งมันไม่ได้น้อยไปกว่าจูหงเลย
เพราะลมปราณกระบี่ที่ทำให้คนหวั่นใจมันน่ากลัวมากจริงๆ !
จี้เฟิงอวินชี้กระบี่ใส่หน้าิอวี่ กระบี่นี้เป็เหมือนเทพมรณะกำลังประกาศคำตัดสินอย่างไร้ความปราณี ราวกับว่าิอวี่กำลังจะโดนโทษปะาที่เขาจะไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!
ไร้ความยินดี ไร้ความสุข ไร้ความเศร้า ไร้ความรัก ไร้ความปรารถนา!
จิตไร้ความรู้สึกทั้งห้ารวมตัวกันอยู่ในกระบี่ ถึงแม้จะเป็กระบี่ที่ไม่มีอารมณ์ใดๆ แต่กลับเ็าอย่างมาก และมีพลังสังหารอย่างสูงสุด!
บนกระบี่ของจี้เฟิงอวินนั้นมีสีเืที่เปื้อนเต็มกระบี่ไปหมด ดวงตาของจี้เฟิงอวินนิ่งมาก เขาฟันกระบี่ออกไป แล้วพลังเรียบง่ายพุ่งตรงมาที่บริเวณหัวใจของิอวี่ในทันที
ทันใดนั้นเอง อากาศก็เริ่มบิดเบี้ยว กระบี่ห้ามรณาของจริงกำลังะเิพลังออกไป ลมปราณกระบี่ทำให้ชั้นอากาศฉีกขาด ความไร้อารมณ์พุ่งไปที่หัวใจของิอวี่อย่างเกรี้ยวกราด และรวดเร็วอย่างสายฟ้า!
ในตอนนี้ จิตใจของจูหงและเหลียงชิงซานสั่นะเืไปหมด สายตาของชายหนุ่มเ็าที่อยู่ด้านข้างก็เหมือนจะมีความชื่นชมเพิ่มขึ้นมา กระบี่ที่ฟันออกไปถึงแม้จะเรียบง่ายแต่มีอานุภาพที่สูงมาก!
ด้านหลังของจี้เฟิงอวิน ซ่งเหยาที่ถูกทำลายวรยุทธ์ไปแล้วก็จ้องไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่โกรธแค้น
นาง้ามองเห็นหน้าของิอวี่ให้ชัดๆ นาง้าเห็นสีหน้าท่าทางตอนที่กระบี่ห้ามรณาตัดขั้วหัวใจของเขา นางจะไม่ยอมพลาดสีหน้าเ็ปของิอวี่ไปเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเมื่อได้เห็นทุกอย่างชัดเจน นางถึงจะสามารถระบายความโกรธแค้นที่มีได้!
แต่หลังจากนั้น สีหน้าของนางก็แปรเปลี่ยนเป็ความตกตะลึง!
เพราะสิ่งที่นางเห็นก็คือิอวี่เก็บกระบี่ของเขาแล้วซัดหมัดขวาออกมา ลมปราณแผ่กระจายไปทั่วทิศทาง!
นางเกิดลางสังหรณ์บางอย่าง ด้านหลังของิอวี่นั้นมีพญาัขนาดใหญ่ท่าทางดุดันตัวหนึ่งที่ลอยวนรอบตัวคชสารตัวน้อยปรากฏขึ้นมา ดูทรงพลังทั้งที่ยังไม่ได้เกรี้ยวกราด!
มันก็คือความก้าวหน้าในตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาของิอวี่ หมัดคชสารัน้อยพลังห้าเท่า!
จากนั้นิอวี่ก็ค่อยๆ เดินไปข้างหน้าทีละก้าว เมื่อซัดหมัดที่ดูเรียบง่ายออกไปแล้ว ัคชสารที่อยู่ด้านหลังของเขาก็ส่งเสียงคำรามขึ้นมา มันดังก้องราวกับระฆังจนะเืไปทั่วหู
ท่ามกลางเสียงคำราม หมัดของิอวี่ก็พุ่งปะทะกับลมปราณกระบี่ห้ามรณา
ในตอนนี้ทั้งหินทั้งทรายปลิวว่อน ท้องฟ้าเริ่มมืด เกิดเสียงระลอกพลังคลื่นที่น่ากลัวขึ้นมา!
พลังกระบี่ห้ามรณาแข็งแกร่งมาก ไร้อารมณ์และเ็า แต่หมัดของิอวี่กลับมีจิตสำนึกที่ไม่ยอมแพ้ เรียบง่าย บริสุทธิ์!
“แตก!”
ิอวี่บิดหมัดขวาของเขาและะเิพลังที่หนาแน่นออกไปพุ่งเข้าปะทะกระบี่ห้ามรณาจนแตกออก และพุ่งหมัดเข้าไปตรงบริเวณหน้าอกของจี้เฟิงอวิน
จี้เฟิงอวินอยากจะหนี แต่หมัดของิอวี่มันพุ่งใส่หน้าอกของเขาไปแล้ว มันทำให้อวัยวะภายในหน้าอกของเขาะเิออก!
จี้เฟิงอวินเซถอยหลังไปสิบก้าวและกระอักเืออกมา เขาคุกเข่าลงกับพื้น ใช้มือจับหน้าอกที่กระดูกแตกละเอียดไปแล้วของเขาเอาไว้ แล้วหายใจหอบอย่างรุนแรง
เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบากแล้วมองเงาที่ยืนอยู่ห่างออกไป เขายกมือขวาขึ้นมาอย่างสั่นสะท้านแล้วชี้ไปที่ิอวี่ สายตาของเขานั้นเหมือนยังไม่ยอมรับ เขาไม่ยอมรับมันอย่างมาก!
จี้เฟิงอวินคือผู้แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์เวิ่นเจี้ยน กระบี่ห้ามรณาของเขาเจอเทพสังหารเทพ เจอโพธิสัตว์ฆ่าโพธิสัตว์ แต่ในวันนี้เขากลับแพ้ให้กับหมัดเดียวของิอวี่!
เดิมเขาคิดว่าตัวเขานั้นคือแบบอย่างของทุกคน ทุกคนยกย่องเขา แต่วันนี้ิอวี่ได้บอกเขาว่า อะไรคือเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน!
ดวงตาของจี้เฟิงอวินนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงและความไม่ยอมรับ ก่อนจะหมดลมหายใจไป เขาล้มลงกลางทะเลทรายอย่างตายตาไม่หลับ
มือกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุค แต่กลับต้องมาตายแบบนี้ มันเหนือความคาดหมายอย่างมาก
ซ่งเหยาที่อยู่ด้านข้างจี้เฟิงอวินนั่งอึ้งอยู่ที่พื้น แค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้นพลังฝีมือของนางก็ถูกทำลายไปหมด ทั้งผู้ชายของนางก็มาตายลงต่อหน้าต่อตาอีก สำหรับซ่งเหยาแล้ว มันเป็ความกระทบกระเทือนจิตใจที่รุนแรงมาก!
“อย่าฆ่าข้า ...อย่าฆ่าข้า ... จี้เฟิงอวินต่างหากที่จะฆ่าเ้า ข้าไม่เกี่ยวนะ!”
เห็นิอวี่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ซ่งเหยาก็ส่ายหัวไม่หยุด นางหดตัวลงเรื่อยๆ น้ำเสียงดูหวาดกลัวมาก และพูดพึมพำอยู่อย่างต่อเนื่อง
ใครจะคาดคิด ิอวี่แทบไม่ได้สนใจอะไรซ่งเหยาเลย แต่เดินไปเอาแหวนเก็บของที่อยู่บนนิ้วมือของจี้เฟิงอวิน ภายในแหวนไม่เพียงมีทรัพย์สินจำนวนมากของเขา แต่ยังมีทักษะการต่อสู้ที่สำคัญมากเล่มหนึ่ง กระบี่เจ็ดมรณา!
จี้เฟิงอวินคิดเล่นงานิอวี่จนตายหลายต่อหลายครั้ง ถ้าอย่างนั้นกระบี่เจ็ดมรณาก็ถือเป็การไถ่โทษของเขาแล้วกัน
“อย่าฆ่าข้า ... อย่าฆ่าข้า ... ไม่เกี่ยวกับข้า ... ”
ในขณะที่ิอวี่ถอดแหวนของจี้เฟิงอวินออกมา ซ่งเหยาก็เอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุดและพูดซ้ำคำพูดเดิม ิอวี่เห็นภาพที่เกิดขึ้นก็รู้สึกว่านางน่าสงสารมาก
จริงอยู่ว่าซ่งเหยาถูกทำลายวรยุทธ์ไปแล้ว สามีก็ถูกฆ่า ดูไปแล้วน่าสงสาร แต่คนที่น่าสงสารที่สุดก็เป็คนที่น่ารังเกียจที่สุดเช่นกัน ก่อนหน้านี้นางคิดจะฆ่าเขายังไม่เท่าไร ตอนนี้สามีตัวเองตายไปแล้วแต่นางกลับดูไม่เสียใจ นางเอาแต่ย้ำว่าชีวิตของนางนั้นสำคัญแค่ไหน ไม่ได้สนใจว่าเขาจะเป็หรือตายเลย
คนที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ มันน่สงสารตรงไหนกัน?
ิอวี่ส่ายหน้าแล้วยิ้ม จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรซ่งเหยาอีก เขาคิดที่จะเดินไปขึ้นหลังเ้าวิหคัปีกมืดเพื่อเข้ากระแสทรายวน
แต่ในเวลานี้เอง ิอวี่ก็พบว่ามีเงาสองเงากำลังพุ่งตัวไปที่กระแสทรายวนอย่างรวดเร็ว
“คิดจะเล่นลูกไม้ต่อหน้าข้าหรือ?”
ิอวี่ตะคอกแล้วสะบัดข้อมือซ้าย แสงเก้าสายพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วทะลุอากาศแล้วตรงไปหาเงาทั้งสองนั้น เพราะเงาที่กำลังฉวยโอกาสหนีนั้นก็คือจูหงกับเหลียงชิงซาน!
ทั้งสองคนถูกเล่นงานจนาเ็และต้องถอยกลับ เมื่อเห็นิอวี่เดินเข้ามาใกล้จูหงก็รีบคุกเข่าลงทันที เขาพูดอ้อนวอนไปว่า “ิอวี่ ขอร้องล่ะนะอย่าฆ่าข้าเลย เมื่อครู่ข้าล่วงเกินเ้าไป ข้าพูดจาไม่ดีพูดจาผิดไปเอง ... ขอร้องล่ะนะ!”
เหลียงชิงซานที่อยู่ข้างๆ ก็คุกเข่าลงเช่นกัน และเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างยากลำบากว่า “ขอ ... ขอร้องล่ะนะอย่าฆ่าข้าเลย!”
ก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนยังมีท่าทางดูถูกเขาอยู่เลย แต่หลังจากที่เห็นความน่ากลัวของิอวี่แล้ว พวกเขาก็คุกเข่าให้ไม่ต่างจากสุนัขตัวหนึ่ง ศักดิ์ศรีของตัวเองนั้นดูไม่มีค่าอะไรเลย
เมื่อเปรียบเทียบเหตุการณ์ก่อนและหลัง ใครที่ได้เห็นก็อดหดหู่ใจไม่ได้เลย
ิอวี่เกลียดการกระทำแบบนี้มาก เขามีความสามารถมากพอที่จะเอาชีวิตสองคนนี้ แต่เขารังเกียจที่จะแบบนั้น และไม่อยากเสียเวลากับสองคนนี้ด้วย
“ไสหัวไป อย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก”
ิอวี่พูดจบก็เดินเลยผ่านหน้าของพวกเขาสองคนไป
แต่เดินออกมาไม่กี่ก้าวก็ได้ยินสองคนด้านหลังเริ่มเถียงกัน จูหงพูดขึ้นมาว่า “ชิงซาน ตอนนี้เหลือแค่หลุมเดียวแล้ว ในฐานะที่เราเป็เพื่อนร่วมเป็ร่วมตายกันมา เห็นแก่ความสัมพันธ์พี่น้องหลายปีของเรา เ้ายกสิทธินี้ให้ข้าเถอะนะ ได้ไหม?”
“ร่วมเป็ร่วมตาย? ความสัมพันธ์พี่น้องหลายปี? แล้วทำไมถึงไม่ยกมันให้ข้าล่ะ!”
ิอวี่หันกลับมาดูด้วยความตะลึง เขาพบว่าบนตัวของจูหงกับเหลียงชิงซานนั้นเต็มไปด้วยลมปราณที่ดุดัน สายตาที่จ้องมองกันนั้นก็ดูเกรี้ยวกราดไม่สบอารมณ์อย่างมาก
จูหงยื่นมือออกไปแตะที่ตัวของเหลียงชิงซานเพื่อให้เขาหยุด “ชิงซาน เ้าต้องหยุดแล้วฟังข้าให้ดี การทดสอบของสำนักเทพอัคคีมันยากมาก เ้าก็รู้ดี ในด้านความสามารถแล้วข้าเหนือกว่าเ้าอยู่นิดหน่อย ให้ข้าไปโอกาสมันมีมากกว่า ส่วนเ้า มันยาก ทำไมถึงไม่เอาโอกาสนี้ ... ”
“เหลวไหลสิ้นดี!”
เส้นเืบนหน้าผากของเหลียงชิงซานเป่งขึ้นมา ปกติเขาเป็คนที่ค่อนข้างสุขุม แต่ตอนนี้เขากลับะเิอารมณ์ออกมาจนหมด “เ้าคิดว่าข้าด้อยกว่าเ้าอย่างนั้นหรือ? ข้าด้อยกว่าเ้าตรงไหนกัน! เมื่อสามปีก่อนข้าช่วยเ้าออกมาจากการถูกไล่ฆ่า ใครกันที่ช่วยรับดาบที่ลอบโจมตีมาทางด้านหลังของเ้า? เ้ายังมีหน้ามาบอกว่าข้าด้อยกว่าเ้าอย่างนั้นหรือ”
“เื่มันก็นานมากแล้ว ที่ข้าพูดหมายถึงตอนนี้ เดี๋ยวนี้! เข้าใจไหม!” เมื่อถูกเหลียงชิงซานเอ่ยปากด่า อารมณ์ของจูหงก็เริ่มขึ้น
“เ้ากำลังแอบบอกเป็นัยให้ข้ารู้ใช่ไหม? ได้ ได้เลย”
เหลียงชิงซานยิ้มแสยะมุมปากแล้วก็ะโออกมาเสียงดังว่า “เรามาสู้กัน เดี๋ยวก็รู้แล้ว”
จูหงเองก็อัญเชิญกระบี่ของเขาออกมา พูดด้วยเสียงที่ไร้อารมณ์และเ็ามากว่า “ในใจของข้า สำนักเทพอัคคีมีความหมายอย่างไรเ้าไม่รู้หรือ? มันคือเกียรติยศและสัญลักษณ์ทุกอย่างของผู้มีพร์และความสามารถ!”
“ข้าสมควรได้เป็หนึ่งในผู้มีพร์ความสามารถนั้น ควรจะเป็ดาวดวงหนึ่งในนั้นเ้าเข้าใจไหม! มันคือชีวิตของข้า ความศรัทธาของข้า ในฐานะผู้มีความสามารถคนหนึ่ง หากไม่ได้ไปที่สำนักเทพอัคคีแล้วจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไรกัน!”
ิอวี่ยืนอยู่อยู่ข้างๆ เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น เขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
เขาอดมีคำถามในใจไม่ได้ว่า สำนักเทพอัคคีมันเป็สถานที่แบบไหนกันแน่นะ? มันเป็สถานที่ฝึกยุทธ์แบบไหนกันถึงทำให้ใครหลายคนต้องแย่งชิงเข้าไป แม้แต่พี่น้องที่ร่วมเป็ร่วมตายกันมานานปี เพื่อเป็หนึ่งคนที่ได้ไปถึงกับยอมหักหน้ากลายเป็ศัตรูไปเลยแบบนี้ได้
“อย่ารอช้า ไปกันเถอะ”
ในเวลานี้เอง ชายหนุ่มคนที่เ็าไม่พูดไม่จามาตลอดก่อนหน้านี้ก็เดินมาตบไหล่ิอวี่ แล้วพูดขึ้นมา
