หลังรถเคลื่อนตัวออกจากที่จอดรถใต้ดินแสงแดดก็สาดส่องเข้ามา ูเี่อันมองเรียวขายาวของหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างถนนก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
“หน้าร้อนแล้วสินะ”
ลั่วเสี่ยวซีชอบฤดูร้อนมากที่สุดเพราะเป็ฤดูกาลที่หญิงสาวสามารถอวดเรือนร่างได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องหาข้ออ้างซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกว่าสักวันหนึ่งซูอี้เฉิงคงหลงเสน่ห์เธอเข้าสักวัน
แต่ฤดูร้อนของเมือง A ค่อนข้างสั้นไม่ทันไรฤดูใบไม้ร่วงก็มาถึง ทุกอย่างเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็วพอๆกับความรู้สึกของคน
“จะไปไหนต่อ?” ลู่เป๋าเหยียนถาม
“ไปว่านหงสแควร์กัน”
ในวันหยุดแบบนี้ที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มักมีผู้คนมากมายหลังจอดรถเสร็จูเี่อันก็ลากลู่เป๋าเหยียนขึ้นไปที่ชั้นสอง และตรงไปยังชอปของสินค้าชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง
“สวัสดีค่ะคุณหนูซู”พนักงานร้านทักทายูเี่อันอย่างคุ้นเคย “มาซื้อของให้คุณชายซูเหรอคะทางเราเพิ่งมีสินค้าตัวใหม่เข้ามาพอดีเลยค่ะ ให้ดิฉันช่วยแนะนำไหมคะ”
“ไม่เป็ไร ขอบคุณค่ะ”ูเี่อันตอบ “ขอฉันเดินดูก่อนนะคะ”
พนักงานร้านยิ้มตอบรับก่อนจะหยุดเดิน“ค่ะ เชิญตามสบายนะคะ”
“เธอช่วยซื้อของให้พี่ชายบ่อยงั้นเหรอ”ลู่เป๋าเหยียนเอ่ยปากถาม
“ั้แ่ฉันขึ้นมหาวิทยาลัยพี่ก็ให้ฉันทำหน้าที่นี้เลขาเลือกของไม่ถูกใจเขา ตัวเขาเองก็ไม่มีเวลา” ูเี่อันลองนับดูในใจ“ฉันช่วยพี่จัดการเื่พวกนี้มาหกเจ็ดปีได้แล้วล่ะ”
พูดจบเธอก็หยุดลงหน้าตู้โชว์กระดุมกลัดแขนเสื้อ
กระดุมสีน้ำเงินเข้มที่มีแซฟไฟร์ประดับอยู่อย่างสวยงามให้ความรู้สึกมั่นคงหนักแน่นเหมาะกับชุดสูทที่ซูอี้เฉิงมีอยู่มาก
“คุณหนูซูคะกระดุมเซตนี้ผู้จัดการฝ่ายออกแบบของเราเป็คนลงมือทำด้วยตัวเองเลยนะคะเดี๋ยวดิฉันเอาออกมาให้ดูค่ะ”พนักงานสาวสวมถุงมือก่อนจะหยิบมันออกมาวางบนมือูเี่อัน “ทั่วโลกมีแค่เจ็ดสิบเอ็ดชุดที่เมือง A มีชุดนี้แค่ชุดเดียว น่าจะถูกใจคุณชายซูนะคะ”
ูเี่อันยิ้ม“ห่อให้ด้วยค่ะ ขอบคุณ”
ูเี่อันเลือกเนกไทกับถุงเท้าอีกหลายคู่ให้กับซูอี้เฉิงพี่ชายเธอเป็คนใส่ใจเื่การแต่งตัวมาก เขาแบ่งประเภทถุงเท้าที่ใส่คู่กับชุดสูทชุดลำลอง ชุดออกกำลังกาย รวมถึงแบ่งแยกตามสีรองเท้าอย่างเป็ระเบียบ และทุกอย่างต้องเนี้ยบไร้ที่ติ
จุดนี้ลู่เป๋าเหยียนกับพี่ชายเธอเหมือนกันมากหรือว่าชีวิตเธอดึงดูดแต่คนประเภทนี้กันนะ? ไม่อย่างนั้นทำไมผู้ชายที่สำคัญที่สุดสองคนในชีวิตเธอถึงได้มีนิสัยแบบนี้? ูเี่อันคิดในใจ
ตอนคิดเงินลู่เป๋าเหยียนยื่นบัตรเครดิตของตัวเองออกไปตามความเคยชินแตู่เี่อันดึงมือเขาไว้ก่อน
“ฉันซื้อให้พี่ชาย”ความหมายของเธอคือ เขาไม่จำเป็ต้องช่วยจ่าย
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนตอบ
“พี่ชายเธอก็คือพี่ชายฉัน”
ตี๊ด...เสียงเครื่องรูดบัตรดังขึ้นพร้อมกับบิลที่ออกมาูเี่อันหาเหตุผลไปเถียงลู่เป๋าเหยียนไม่ได้
ขณะเดินหิ้วของออกจากร้านูเี่อันก็หันไปเห็นเนกไทสีน้ำเงินเข้มลายเฉียงเส้นหนึ่งที่โชว์อยู่บนหุ่นหน้าร้านมันดูดีให้ความรู้สึกสูงส่งสง่างามจนเธอเห็นแล้วถึงกับใจเต้นเสียงของลู่เป๋าเหยียนดังขึ้นที่ข้างหู
“เอาไหม?”
ูเี่อันเรียกสติกลับมาก่อนตอบ
“ไม่เป็ไรมันไม่เข้ากับพี่ชายฉันสักเท่าไร”
ถึงจะพูดแบบนั้นูเี่อันก็อดหันกลับไปมองมันอีกรอบไม่ได้ จนตัวเองถูกลู่เป๋าเหยียนดึงเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าสตรีโดยไม่รู้ตัว
“สวัสดีค่ะคุณลู่คุณนายลู่” การจำใบหน้าของบุคคลมีชื่อเสียง เป็ความสามารถอย่างหนึ่งที่พนักงานร้านค้าระดับไฮเอนด์ควรมีเมื่อพวกเธอเดินเข้าร้าน เสียงหวานของพนักงานสาวสวยก็ดังขึ้น ก่อนจะยิ้มทักทาย
“คอลเลกชันใหม่ของฤดูร้อนเพิ่งมาพอดีเลยค่ะคุณนายลู่”
ตอนนั้นเองูเี่อันจึงหันกลับมาพูดกับลู่เป๋าเหยียน
“คราวที่แล้วที่ฉันมากับลั่วเสี่ยวซีพวกเขายังเรียกฉันว่าคุณหนูซูอยู่เลย”
พนักงานสาวยิ้ม“ตอนนี้คุณแต่งงานกับคุณลู่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณก็คือคุณนายลู่ คนทั่วเมือง A ต่างรู้กันทั้งนั้นแหละค่ะ”
ูเี่อันอดหน้าแดงไปกับคำพูดนั้นไม่ได้แล้วก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมา
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไม”
ลู่เป๋าเหยียนชี้ไปยังชุดเดรสที่อยู่ในตู้โชว์
“ไปลองดูสิ”
พนักงานสาวรีบหยิบชุดออกมาก่อนจะถือไว้อย่างระมัดระวัง
“ห้องลองอยู่ทางนี้เชิญเลยค่ะคุณนายลู่”
ูเี่อันยังคงมึนๆเธอมองหน้าลู่เป๋าเหยียนอย่างไม่เชื่อ
“เื่เมื่อคืนตกลงนายจำได้หรือไม่ได้กันแน่?”
เมื่อคืนตอนเมาเขาบอกเธอว่าวันนี้จะพามาชอปปิ้ง เขาจะซื้อชุดให้เธอจนมากพอจะแขวนให้เต็มตู้
เธอนึกว่าเขาลืมไปแล้วแต่การกระทำของเขาในตอนนี้ทำให้เธอชักสงสัย
ทว่าลู่เป๋าเหยียนแค่ยิ้มน้อยๆที่มุมปาก
“เื่ที่ควรจำฉันจำได้ทั้งหมด”
หมายความว่าอย่างไร? เื่ที่ควรจำอะไร? แล้วเื่ที่เธอทำผมให้เขาล่ะ?
ถ้าเขาจำเื่นั้นได้เธอต้องไม่รอดแน่ๆูเี่อันเสียวสันหลังวาบ ก่อนจะเดินตามพนักงานเข้าไปในห้องลองเสื้อ
ด้วยหน้าที่การงานของเธอทำให้เธอใส่กระโปรงแทบจะนับครั้งได้แต่คงไม่อาจปฏิเสธว่าเวลาใส่กระโปรงแล้วดูดีกว่าตอนใส่ชุดลำลองเยอะเลย
คงเพราะเธอไม่ได้ใส่กระโปรงมานานจึงรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไรตอนเดินออกจากห้องลองเธอจึงจับชายกระโปรงก่อนถามลู่เป๋าเหยียนเสียงเบา
“เป็ไง?”
ลู่เป๋าเหยียนกวาดสายตามองขึ้นมองลงจนูเี่อันอดตื่นเต้นไม่ได้สุดท้ายก็ได้ยินเสียงของลู่เป๋าเหยียนสั่งให้พนักงานนำชุดใส่ถุงอีกทั้งสั่งให้พนักงานหยิบเดรสอีกหลายชุดมาให้เธอ
“คุณนายลู่คะคุณลู่เลือกไว้ให้คุณค่ะ ลองดูสิค่ะ ต้องสวยมากแน่ๆ”
ูเี่อันมองหน้าลู่เป๋าเหยียนอย่างไม่อยากเชื่อ
“นี่นายคิดจะซื้อเสื้อผ้าไปแขวนให้เต็มตู้จริงๆงั้นเหรอ”
ลู่เป๋าเหยียนไม่ปฏิเสธเขาจูงเธอให้เข้าไปในห้องลอง
“ค่อยๆ ลองพวกเรามีเวลาอีกเยอะ”
ูเี่อันจึงได้แต่ลองชุดให้ครบสุดท้ายแล้วมีเพียงเดรสสีดำเท่านั้นที่ลู่เป๋าเหยียนไม่ค่อยชอบใจที่เหลือเขาสั่งให้พนักงานนำไปคิดเงินทั้งหมด
เสื้อผ้าถุงแล้วถุงเล่าถูกส่งมาให้กับูเี่อันเสียงเครื่องรูดบัตรดังขึ้นก่อนจะคายใบเสร็จออกมา จู่ๆ ูเี่อันก็รู้สึกพอใจอย่างประหลาดนี่เป็ครั้งแรกที่เธอใช้เงินของเขาในฐานะคุณนายลู่
หลังเดินออกจากร้านเธอจึงถามลู่เป๋าเหยียน
“ทำไมนายเลือกแต่ชุดกระโปรงให้ฉันล่ะ”
คราวนี้ลู่เป๋าเหยียนตอบตามตรงอย่างไม่คิดจะปิดบัง
“เพราะเธอใส่กระโปรงแล้วสวยมาก”
เมื่อคืนที่ลู่เป๋าเหยียนทิ้งชุดนอนของเธอลงถังขยะเขาสั่งให้เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเขาแทนชุดนอน คิดแล้วเธอก็อดหน้าแดงไม่ได้
“แต่ฉันคงไม่ได้ใส่กระโปรงทุกวันหรอกนะทำงานไม่สะดวก จริงสิ นายพาฉันไปส่งที่อพาร์ทเมนต์ที่ฉันเคยอยู่หน่อยสิฉันอยากไปเอาเสื้อผ้าหน้าร้อนน่ะ อีกไม่กี่วันอากาศน่าจะร้อนกว่าเดิมคงใส่เสื้อแขนยาวไม่ไหวแล้วล่ะ”
“ทำไมต้องกลับไป”ลู่เป๋าเหยียนส่งสัญญาณใหู้เี่อันมองไปข้างหน้า“นั่นไม่ใช่เสื้อผ้าลำลองยี่ห้อที่เธอชอบใส่หรือไง เข้าไปดูสิ”
แบรนด์เสื้อผ้าลำลองชื่อดังของอเมริกาที่สไตล์การออกแบบเรียบง่ายสะอาดตาเสื้อผ้าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของูเี่อันมาจากร้านนี้
“นายรู้ได้ไงว่าฉันชอบเสื้อผ้ายี่ห้อนี้?” ูเี่อันถามอย่างข้องใจก่อนจะดึงมือลู่เป๋าเหยียนให้เข้าไปในร้าน ผู้จัดการร้านกับเธอคุ้นเคยกันดีเมื่อเห็นูเี่อันก็เกือบหลุดปากเรียกเธอว่าคุณหนูซูอย่างทุกทีแต่เมื่อเห็นลู่เป๋าเหยียน เธอจึงรีบเอ่ย
“ควรเรียกคุณว่าคุณนายลู่แล้วสินะคะ”
ูเี่อันเริ่มชินกับการถูกเปลี่ยนชื่อเรียกแบบนี้แล้วหลังเลือกเสื้อยืด กางเกงขายาวและชุดใส่อยู่บ้านสำหรับหน้าร้อนอีกไม่กี่ชุดเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินไปคิดเงินทันทีโดยไม่ต้องลอง
เสื้อผ้าถุงใหญ่ที่เธอซื้อในร้านนี้ราคายังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของชุดเดรสสามตัวของร้านเมื่อครู่ เธอเอ่ยอย่างอวดๆ กับลู่เป๋าเหยียน
“เห็นมั้ย? ฉันเป็แม่บ้านที่ดีขนาดไหนไม่รู้ว่าพวกนักธุรกิจแบบนายกับพี่ฉันคิดอะไรอยู่แค่ลองเสื้อผ้าชุดเดียวบางทีต้องบินไปถึงปารีส”
“ที่จริงพวกเราไม่ค่อยจะคิดอะไรมาก”ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วก่อนตอบ “คนเราหาเงินมาก็เพื่อใช้มันไม่ใช่เหรอไง”
ูเี่อันคิดตามแล้วก็อดเห็นด้วยไม่ได้เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนเอ่ย
“ฉันจะไปซื้อชานมร้านตรงข้ามนั่นนายเอาอะไรมั้ย ชานมวานิลลาของพวกเขาอร่อยมากเลยนะ!”
เครื่องดื่มหวานๆ เลี่ยนๆแบบนั้นมีแต่พวกผู้หญิงเท่านั้นแหละที่ชอบ ลู่เป๋าเหยียนตอบกลับไปแค่สองคำ
“ลาเต้”ก่อนจะดึงถุงเสื้อผ้าออกจากมือูเี่อัน
“...โอเค”ูเี่อันทำหน้าเซ็งก่อนบ่นในใจ คนแบบลู่เป๋าเหยียนกับชานมคงไม่เข้ากันสินะ
“นายไปรอที่รถก่อนเถอะ”
พูดจบเธอก็ข้ามถนนไปยังร้านชานมฝั่งตรงข้ามตอนแรกเธอนึกว่าต้องต่อคิว แต่ที่ไหนได้กลับไม่มีลูกค้าสักคนแป๊บเดียวพนักงานก็ยื่นเครื่องดื่มมาให้เธอ เธอเดินถือมันมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถแต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวเธอเดินขึ้นไปที่ร้านเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายร้านเดิมก่อนจะให้พนักงานห่อเนกไทสีน้ำเงินเข้มเส้นลายเฉียงนั้นให้เธอ
“คุณหนูซูจะซื้อให้คุณชายซูเหรอคะ”ผู้จัดการร้านถามขณะกำลังคิดเงิน
“เปล่าคะ”ูเี่อันตอบยิ้มๆ “ซื้อให้สามีฉันน่ะค่ะ”
เธอไม่ได้ให้พวกเขาใส่ถุงเธอใส่กล่องเนกไทลงไปในกระเป๋าสะพาย ก่อนจะรีบเดินลงไปชั้นล่าง
ลู่เป๋าเหยียนขับรถมาจอดรอเธอที่ริมถนนเรียบร้อยแล้วแต่...บรรดาหญิงสาวที่รายล้อมอยู่รอบรถนั้นมันเื่อะไรกัน?
ูเี่อันลองมองดูดีๆก็พบว่านั่นมันเด็กผู้หญิงกลุ่มเดียวกันกับที่เธอเจอในซูเปอร์มาร์เก็ตเมื่อกี้นี้
เธอเดินตรงเข้าไปทันทีก่อนจะเห็นเด็กสาวสองคนกำลังเท้าแขนอยู่ที่กระจกรถลู่เป๋าเหยียนเห็นเธอแล้วถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาพูดกับเด็กสาวว่า
“ภรรยาผมกลับมาแล้วออกไปได้หรือยัง”
“คุณแต่งงานแล้วจริงๆ เหรอ? เธอคนนี้น่ะเหรอภรรยาของคุณ...”เด็กสาวใช้สายตาดูแคลนมองูเี่อัน
“นี่ป้าขอเบอร์พี่ชายคนนี้หน่อยสิ ได้หรือเปล่า”
เธอคงต้องมองโลกนี้ใหม่เสียแล้วเด็กผู้หญิงสมัยนี้ ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าคนเขาแต่งงานแล้วยังจะกล้าทำแบบนี้อีกเหรอเนี่ย?
อีกอย่างอย่างมากเด็กพวกนี้ก็อายุน้อยกว่าเธอไม่เกินสองปี มาเรียกเธอว่าป้าได้ยังไงกัน!จะอวดว่าตัวเองเด็กกว่างั้นสิ?
ูเี่อันเข้าไปนั่งในรถก่อนจะวางชานมและกาแฟในมือจากนั้นก็เอื้อมมือไปกดปิดหน้าต่างฝั่งที่นั่งคนขับ
“ไม่ได้ อีกอย่างถ้าพวกเธอเรียกฉันว่าป้า ก็ควรเรียกเขาว่าลุง”
กระจกรถค่อยๆ เลื่อนตัวขึ้นอย่างช้าๆเด็กสาวสองคนนั้นทำหน้าตื่นตระหนก ก่อนจะเดินจากไป
ูเี่อันเบ้ปากและพบว่าเธอในตอนนี้กำลังเอนพิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา ความใกล้ชิดแบบนี้ช่าง...
เธอรีบผละตัวออกมาหน้าตาแดงก่ำทว่าลู่เป๋าเหยียนกลับรั้งตัวเธอไว้
“ควรเรียกฉันว่าลุง? เธอหาว่าฉันแก่งั้นเหรอ?”
“อะแฮ่ม!”ูเี่อันเงยหน้ามองเข้าอย่างจริงจัง “พี่เป๋าเหยียนคะที่จริงพี่ก็ดูไม่เหมือนคนอายุสามสิบหรอกนะ จริงๆ นะ!ไม่งั้นเด็กสองคนนั้นคงไม่เข้ามาขอเบอร์หรอก เอ่อ...นายอย่าทำแบบนี้สิ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นจะเข้าใจผิดหมด”
“พูดแบบนี้...”ลู่เป๋าเหยียนนิ่งไปชั่วครู่ เขาไม่สนใจคำพูดของูเี่อันสักนิด
“เธอรังเกียจที่ฉันอายุสามสิบแล้วงั้นเหรอ?”
