ผู้าุโเหลียงได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับพวกเขาทั้งสองในหลายเื่ราวอยู่ไม่น้อย แน่นอนว่ากลุ่มขององครักษ์ทั้งห้าคนยังติดตามพวกเขามาด้วยเช่นกัน ด้วยเรือเหาะลำใหญ่โตอันสะดวกสบายที่อีกฝ่ายเรียกออกมานั้นได้เหินทะยานลัดฟ้าซึ่งเป็เส้นทางเฉพาะสำหรับหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามเขตแดนของแต่ละอาณาจักรที่เหลือ ระหว่างที่เหาะเหินทะยานลัดฟ้าจนเข้าสู่พื้นที่ในการดูแลปกครอง จึงทำให้รับรู้ว่าโดยรอบด้านของอาณาจักรนั้นเต็มไปด้วยพงไพรเขียวขจีดำรงอยู่อย่างสมบูรณ์ยิ่ง
อีกทั้งยังสลับซับซ้อนไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ที่บ้างก็สูงเสียดฟ้า บ้างก็เป็ขุนเขาที่ทอดยาวส่วนปลายลงเขตพื้นที่มหาสมุทร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็ปราการทางธรรมชาติที่คอยปกป้องอาณาจักรต้าเหลียงจิ่วนี้มาเป็เวลายาวนานนับพันปี อย่างไรแล้วแม้ว่าโดยรอบจะถูกโอบล้อมด้วยผืนน้ำทะเลสุดลูกหูลูกตา ทว่าทรัพยากรที่จำเป็ในการดำรงชีวิตกลับเพียบพร้อมหาได้ขาดแคลนแต่อย่างใดไม่
“คิดไม่ถึงว่าดินแดนระดับสูงจะมีกลุ่มคนธรรมดาไร้ซึ่งพลังลมปราณอาศัยอยู่เช่นกัน ข้าคิดว่าจะมีเพียงผู้ฝึกตนเท่านั้นเสียอีก...” หนิงอ้ายกล่าวถามขึ้นหลังจากได้แผ่ซ่านจิติญญาััออกไป จึงรับรู้ได้ถึงปุถุชนคนธรรมดาทั่วไปอาศัยอยู่บริเวณส่วนนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“กลุ่มคนเหล่านี้แม้ไม่อาจเข้าสู่วิถีของผู้ฝึกตนได้ด้วยเพราะความเสื่อมถอยของสายเื ทว่าพวกเขายังคงมีเชื้อสายของผู้ฝึกตนหรือสัตว์อสูร นี่จึงทำให้พวกเขาเหล่านี้มีร่างกายแข็งแรงและอายุยืนกว่าผู้คนทั่วไปมากนัก...”
“แล้วเหตุใดพวกเขาจึงเลือกอาศัยอยู่ในบริเวณโดยรอบนี้แทนเล่า เข้าใจได้ว่าหากเป็ผู้ฝึกตนนั้นย่อมพอเอาตัวรอดในธรรมขาติอันโหดร้ายเช่นนี้ได้ แต่พวกเขาเกือบทั้งหมดล้วนเป็เพียงปุถุชนทั่วไปหาได้มีพลังลมปราณหล่อเลี้ยงร่างกายเฉกเฉ่นพวกเรา พวกเขาคงได้รับความยากลำบากไม่น้อยเป็แน่…” หนิงอ้ายกล่าวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับคิดถึงวิถีชีวิตของผู้คนในดินแดนเดิมของเขา ที่นั่นผู้ฝึกตนกับชาวบ้านธรรมดาต่างอยู่อาศัยช่วยเหลือซึ่งกันหาใช่แบ่งแยกเช่นนี้ไม่
“เมื่อก่อนพื้นที่โดยรอบนี้ล้วนเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้พวกเขาไม่คิดโยกย้ายเข้าไปในมหานครส่วนด้านใน ด้วยเพราะความเหลื่อมล้ำทางฐานะที่เหล่าผู้ฝึกตนถือครองอยู่ แต่ก็มีไม่น้อยที่รุ่นเยาว์รุ่นหลังที่มีฝีมือเพียงพอจึงเลือกหนทางก้าวหน้าและเข้ามาอาศัยทำมาหากินในเขตพื้นที่มหานครทั้งสิ้น”
หนิงอ้ายที่ได้ยินดังนั้นจึงเข้าใจในเื่ราวต่าง ๆ ได้มากขึ้น หากจะกล่าวแล้วคนพวกนี้จะมีอคติต่อผู้ฝึกตนก็ไม่ผิด ด้วยเพราะโลกแห่งนี้ล้วนมีพื้นที่ให้ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถือเป็เื่ที่ปกติเป็อย่างมาก แม้ในความคิดของเขาแล้วไม่ว่าจะเป็ปุถุชนคนธรรมดาทั่วไปหรือผู้ฝึกตนก็ล้วนมีความเท่าเทียมกันทั้งสิ้น
“ขอต้อนรับคุณชายทั้งสองเข้าสู่มหานครต้าเหลียงจิ่วของพวกเราขอรับ…” ไม่นานนักเสียงของชายชราได้ดังขึ้นเรียกความสนใจอีกครั้ง
มหานครต้าเหลียงจิ่วแห่งนี้ถือว่ามีความเจริญเทียบเท่ากับมหานครแคว้นเต่าดำได้เลยทีเดียว รอบด้านนั้นเต็มไปด้วยธรรมชาติป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ยิ่ง ตัวอาคารบ้านเรือนได้ถูกจัดสรรให้เป็ระเบียบเรียบร้อยเป็อย่างมาก ถือว่าเป็การวางแผนผังเมืองที่ดีเลยทีเดียว ขณะที่เรือเหาะเข้าใกล้ประตูทางเข้าแล้วได้มีขบวนทัพผู้แกร่งกล้ากลุ่มหนึ่งเหินทะยานปราดร่างออกมาต้อนรับ สายตายังคงจ้องมองคนแปลกหน้านั่นคือหนิงอ้ายกับฟานหลิงด้วยความสงสัย แม้จะเห็นว่ามีผู้อาวุโตเหลียงจะยืนอยู่ด้วยแม้อยากจะถามแต่ก็ยังยั้งไว้ด้วยมารยาทที่พึงกระทำ
ยามที่เรือเหาะเข้าผ่านประตูทางเข้าและได้เหาะเหินอยู่เหนือมหานครแห่งนี้จึงได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ใจกลางมหานครนั้นครึกครื้นไปด้วยผู้คนมากมายหลากหลายเผ่าพันธ์ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ยิ่งโดยเฉพาะบริเวณส่วนตลาดต่างมีผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย ไม่นานนักเรือเหาะก็เดินทางมาถึงพระราชวังมี่งดงามหรูหราใหญ่โตรโหฐาน วัสดุก่อสร้างทั้งหลังล้วนเป็ศิลาแกร่งใต้พิภพที่ล้ำค่าหายากยิ่งอย่างแท้จริง อีกทั้งยังคงถูกเสริมความแข็งแกร่งคงทนด้วยอักขระเวทย์ป้องกันชั้นสูงที่ถูกสลักเอาไว้อย่างงดงาม
จากนั้นผู้าุโเหลียงได้ควบคุมเรือเหาะทะยานลงมายังบริเวณลานกว้างหน้าพระราชวัง ก่อนที่จะปรากฎเป็เงาร่างขององครักษ์นับไม่ถ้วนให้ความเคารพ ดูเหมือนว่าฐานะที่ผู้าุโผู้นี้ไม่อาจดูเบาได้เพียงนิด ก่อนที่ขันทีนายหนึ่งจะเดินเข้ามาทักทายและรายงานว่าองค์ราชันัพสุธารัตนพิภพกำลังรอคอยอยู่ในท้องพระโรงในพระราชวัง ท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมาด้วยความสงสัยว่ารุ่นเยาว์ทั้งสองที่เดินอยู่ด้านหลังนั้นเป็ผู้ใดกัน
“คำนับองค์ราชันขอท่านอายุยืนเป็หมื่นหมื่นปี…” เมื่อเดินเข้าไปถึงท้องพระโรงเเล้วชายชราจึงยกมือประสานคำนับด้วยความเคารพ
“ผู้าุโเหลียงได้สมุนไพรนั้นมาหรือไม่?” ราชันัพสุธารัตนพิภพในรูปลักษณ์ของชายวัยกลางคนถามด้วยความเคร่งเครียดเล็กน้อย
“ได้ครบถ้วนขอรับ…”
“ท่านทำได้ดีมาก เช่นนั้นท่านจะลงมือปรุงโอสถวันใดกัน หรือ้าพักผ่อนเสียก่อน?” แม้ถ้อยคำที่องค์ราชันกล่าวดูคล้ายกับไม่รีบร้อน ทว่าความจริงแล้วทุกคนในที่นี้ล้วนทราบว่าองค์ราชันผู้นี้ร้อนรนใจมากเพียงใด อาการของบุตรชายเพียงคนเดียวของเขายามนี้ได้ทรุดตัวลงเป็อย่างมาก จึงจำเป็ต้องได้รับโอสถวิเศษรักษาอาการให้เร็วมากที่สุด
“ด้วยความสามารถของข้าในยามนี้ สามารถหลอมสร้างปรุงโอสถได้เพียงระดับหกเท่านั้น อีกทั้งความบริสุทธิ์คงอยู่ที่แปดถึงเก้าส่วน เพียงแต่ว่าก่อนอื่นสหายน้อยตรงด้านหลังมีเื่ราวที่จะพูดคุยสักเล็กน้อยกับองค์ราชันขอรับ...” ชายชราเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะผายมือไปทางด้านหลัง เดิมทีแล้วผู้าุโเหลียงผู้นี้ยังดำรงตำแหน่งนักปรุงโอสถระดับหกของอาณาจักร ด้วยฐานะที่อยู่จึงเปี่ยมไปด้วยท่าทีสูงศักดิ์ไม่น้อย กริยาอ่อนน้อมต่อรุ่นเยาว์ทั้งสองที่ถูกกล่าวถึงเมื่อครู่ย่อมพอที่จะคาดเดาฐานะที่ไม่ธรรมดาของพวกเขาได้อย่างไม่ยากนัก
“พวกเ้าเป็ใครกัน มีเื่ราวสิ่งใดที่้าพูดคุยกับข้าราชันัพสุธารัตนพิภพอย่างนั้นรึ?” ชายวัยกลางคนผู้เป็ราชันปกครองได้ถามไถ่ออกไปพร้อมกับแผ่ซ่านจิติญญาอันลึกล้ำของตนออกไปััเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้มาใหม่ทั้งสอง
ทว่าทันทีที่ญาณััใกล้เข้าถึงตัวนั้นกลับถูกพลังปราณสายหนึ่งสลายไปอย่างง่ายดาย จังหวะนั้นราชันัพสุธารัตนพิภพคิดว่าอาจเป็จิติญญาของผู้าุโเหลียง ทว่ากลับมีกลิ่นอายสายหนึ่งที่ไม่ธรรมดาสามัญ เช่นนั้นแล้วในรุ่นเยาว์ทั่งสองคนนี้อาจมีคนใดคนหนึ่งที่ฐานะของนักปรุงโอสถที่ไม่ธรรมดา เมื่อคิดได้ดังนี้แล้วราชันัพสุธารัตนพิภพจึงถอยญาณััออกมาอย่างสงวนท่าที
“คำนับองค์ราชันัพสุธารัตนพิภพ ข้ามีนามว่าฟานหลิง องค์รัชทายาทแห่งเผ่าพันธ์จิ้งจอกเหมันต์เก้าหาง ส่วนคนผู้นี้เป็น้องชายของข้ามีนามว่าหนิงอ้ายขอรับ…” ฟานหลิงเอ่ยขึ้นพร้อมกับประสานมือคำนับตามมารยาทที่พึงกระทำ พร้อมกับแผ่ซ่านกลิ่นอายจิ้งจอกของตนออกมาเบา ๆ เพื่อเป็การยืนยันสถานะสายเืของตน
“องค์รัชทายาทฟานหลิงเดินทางมาถึงอาณาจักรต้าเหลียงจิ่วเช่นนี้ เหตุใดข้าจึงไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากองค์จักรพรรดินีฟางเยว่กัน...” ราชันัพสุธารัตนพิภพถามกลับไปด้วยความสงสัย ตัวตนของอีกฝ่ายนั้นเขาต้องไว้หน้าสามถึงสี่ส่วนเลยทีเดียวด้วยเพราะเกี่ยวกับเผ่าพันธ์ ไม่รู้ว่าการที่อีกฝ่ายดั้นด้นมาถึงที่นี่นั้นมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงหรือไม่
“ผู้เยาว์ต้องขออภัยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ครั้งนี้ข้าเพียงเดินทางมายังอาณาจักรต้าเหลียงจิ่ว เพื่อเดินทางไปยังบ่อน้ำอมฤตอัคคีกาฬทมิฬ ด้วยเพราะตั้งใจตามล่ากระดูกิญญาของอสูรแมงป่องคชสารเพลิงอัคคี…”
“บังอาจยิ่ง!!! พวกเ้าไม่รู้อย่างนั้นรึว่าบริเวณบ่อน้ำอมฤตอัคคีกาฬทมิฬเป็สถานที่ต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็ผู้ใดย่อมไม่อาจย่างกรายเข้าไปได้ทั้งสิ้น!!!” ยังไม่ทันที่ฟานหลิงจะกล่าวจบราชันัพสุธารัตนพิภพได้ตราดกร้าวออกมาเสียงดังพร้อมกับปลดปล่อยกระแสพลังปราณออกมาอย่างท่วมท้นทั่วทั้งบริเวณ สิ่งนี้แม้คนภายนอกจะไม่รับรู้ ทว่ากับพวกเขาทุกคนที่อาศัยอยู่ในมหานครแห่งนี้ย่อมรับรู้กันว่าบ่อน้ำอมฤตอัคคีกาฬทมิฬนั้นมีความสำคัญต่ออาการขององค์รัชทายาทมากเพียงใด
“ต้องขออภัยองค์ราชันัพสุธารัตนพิภพเป็อย่างยิ่ง ผู้น้อยทราบดีว่าอสูรแมงป่องคชสารเพลิงอัคคีได้อาศัยอยู่ในบริเวณบ่อน้ำอมฤตอัคคีกาฬทมิฬอันหวงแหนของท่าน ทว่าข้ามีความจำเป็ต้องใช้กระดูกิญญาของสัตว์อสูรนี้นำมาประสานเข้ากับร่างกาย หากท่านมีสิ่งใดที่ปรารถนา้าเชิญกล่าวมาได้เลย ข้าล้วนยินดีกระทำให้ทั้งสิ้นขอรับ…” หนิงอ้ายก้าวเท้าไปยังเบื้องหน้าพร้อมกับประสานมือคำนับพร้อมกับเอ่ยถึงความ้าอันแน่วแน่ของตน
“ช่างเหิมเกริมสามหาวยิ่งนัก คิดว่าเ้ามีคุณสมบัติมากเพียงพอที่จะร้องขอข้าองค์ราชันัพสุธารัตนพิภพอย่างนั้นรึ??”
ครืน!!
สิ้นเสียงตวาดกร้าวด้วยโทสะดังกล่าว ราชันัพสุธารัตนพิภพได้แผ่ซ่านกลิ่นอายอหังการออกมาอย่างท่วมท้นไปทั่วทั้งบริเวณ กลิ่นอายของราชทินนามอัครพรหมยุทธ์ิญญาที่ััได้นั้นถือได้ว่ามีความใกล้เคียงกับจักรพรรดินีฟางเยว่ อยู่ไม่น้อยแต่ก็นับได้ว่ามีความกร้าวแกร่งดุดันสมกับที่มีสายโลหิตของัปะปนอยู่ในกาย เผชิญกับท่าทีเช่นนี้ส่งผลให้ผู้ที่อยู่โดยรอบต่างหวาดหวั่นกันถ้วนผน้า
“ข้าผู้นี้มีนามว่าหวังหนิงอ้าย แม้ไม่อาจกล่าวได้ว่าข้าในยามนี้มีคุณสมบัติมากเพียงพอต่อการยอมรับของท่านหรือไม่ แต่ข้าสามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าสิ่งนี้ย่อมเป็ประโยชน์ต่อองค์รัชทายาทบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านอย่างแน่นอน…” แม้ต้องเผชิญหน้ากับกลิ่นอายที่กล้าแกร่งดุดันถึงเพียงนี้ ทว่าหนิงอ้ายหาได้รู้สึกเป็กังวลใจแต่อย่างใดด้วยเพราะแรงกดดันเมื่อครู่ได้ถูกลดทอนลงไปหลายส่วนด้วยความพิเศษพิศดารของสายเืทั้งสองสายที่อยู่ภายในตัว
จากนั้นหนิงอ้ายจึงปลดปล่อยพลังจิติญญาที่เทียบเท่ากับนักปรุงโอสถระดับหกที่มีความล้ำลึกกว่าเขตขั้นเดียวกันหลายเท่า มากไปกว่านั้นโดยรอบกายต่างตลบอบอวนด้วยเพลิงสีรุ้งที่ก่อตัวเป็ัทองขนาดย่อมพร้อมกับเปลวเพลิงสีแดงทองที่ผนึกขึ้นเป็เฟยเฟิ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชีวิต
การปรากฎขึ้นของร่างจำแลงของสัตว์าที่เวียนวนอยู่โดยรอบกายของหนิงอ้ายนั้นได้ส่งผลให้ราชันัพสุธารัตนพิภพรวมไปถึงทุกคนในที่นี้ล้วนตกตะลึงจนตาค้าง กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมานั้นพวกเขาที่มีเชื้อสายของเผ่าพันธ์ัย่อมคุ้นเคยกับเปลวเพลิงประจำกายนี้ดีอย่างยิ่ง หากคาดเดาไม่ผิดเปลวเพลิงสีรุ้งนั่นมีกลิ่นอายคล้ายคลึงกับองค์ไท่จื่อผู้เป็โอรส์คนปัจจุบัน รวมไปถึงเปลวเพลิงแห่งชีวิตของเฟยเฟิ่งย่อมเป็ของตระกูลหวังอย่างแน่นอน ไม่นับรวมไปถึงจิติญญานักปรุงโอสถระดับหกย่างก้าวระดับเจ็ดแล้ว ด้วยวัยเพียงสิบหกสิบเจ็ดปีเพียงนี้อีกฝ่ายช่างเป็ตัวตนที่ไม่ธรรมดาสามัญ
เมื่อได้เห็นท่าทีของราชันัพสุธารัตนพิภพรวมไปผู้คนที่อยู่ในท้องพระโรงหนิงอ้ายจึงลอบยิ้มอยู่ในใจเล็กน้อย จริงอยู่ที่ว่ายามนี้เขายังไม่ได้้าสืบค้นถึงความเป็มาของต้นกำเนิดของตัวเอง แต่เขารู้ดีว่าภายในกายของเขานั่นมีสายเืของท่านแม่เยว่ซินอยู่ครึ่งหนึ่งและเป็สายเืขององค์ไท่จื่ออีกครึ่งหนึ่ง แม้จะยังจับจุดเชื่อมโยงกับบิดาสารเลวผู้นั่น เเต่เขาที่เรียนรู้ศาสตร์แห่งโชะตาจึงพอรับรู้ ยังมีเวลาอีกมากในการค้นหาความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเขาหลังจากนี้
อีกทั้งพลังจิตวิญิญญาของนักปรุงโอสถที่เขาจงใจแผ่ซ่านให้ได้ัันั่นย่อมมีความคาดหวังบางประการอยู่ในใจไม่น้อย แม้ผู้าุโเหลียงจะฐานะนักปรุงโอสถระดับหก หากกล่าวตามตรงแล้วคงเทียบเท่าได้กับนักปรุงโอสถระดับห้าขั้นสูงในดินแดนเดิมของเขาเพียงเท่านั้น อย่างที่ทุกคนพึงทราบว่าวิถีของนักปรุงโอสถนั่นมีความยุ่งยากกว่าวิถีของผู้ฝึกตนไม่รู้กี่เท่า การที่เขาเปิดเผยถึงความสามารถในการหลอมสร้างปรุงโอสถเช่นนี้คงสร้างความหวั่นไหวในใจของราชันัพสุธารัตนพิภพได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“กลิ่นอายของจิติญญานักปรุงโอรถมีความคุ้นเคยเป็อย่างยิ่ง หรือว่าเ้าจะเป็เด็กน้อยคนนั้นที่เทพโอสถาเสวี่ยจิงสร้างกายเนื้อขึ้นและรับเป็ศิษย์คนสุดท้ายกัน...” ราชันัพสุธารัตนพิภพขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามออกไป หนิงอ้ายที่ได้ยินดังนั้นเขาเลือกที่จะไม่เอ่ยสิ่งใดออกไปพร้อมกับพยักหน้ารับแทน
“อาณาจักรต้าเหลียงจิ่วต้อนรับบกพร่องแล้ว สหายน้อยทั้งสองท่านได้โปรดอย่าขุ่นเคือง” ราขันัลุกขึ้นยืนจากบัลลังก์พร้อมกับประสานมือคำนับเล็กน้อย ด้วยฐานะของพวกเขาทั้งสองที่เป็องค์รัชทายาทแห่งเผ่าพันธ์จิ้งจอกเหมันต์เก้าหางกับนักปรุงโอสถสมญานามปรมจารย์โอสถระดับเจ็ด ไม่นับรวมถึงสายเืที่มีความข้องเกี่ยวกับองค์ไท่จื่อและเผ่าพันธ์หงส์แดงแล้ว จึงสมควรแก่การขออภัยและให้ความต้อนรับอย่างถึงที่สุด...
**ั้แ่บทที่126 ถึงบทที่145 ไรท์ขออนุญาติติดเหรียญอ่านล่วงหน้าร (2 เหรียญ) พร้อมแจ้งวันอ่านฟรีนะครับ **