"เป็บุคคลที่น่ากลัวที่สุดแล้ว ขนาดท่านพี่คีย์ ท่านพี่คลาสยังกลัว คนอย่างข้าน่ะหรือ...กลัวสิ ทำไมจะไม่กลัวกันล่ะ" ครอสบอกพลางลูบแขนตัวเองไปมาถึงความสยอง
"สรุปแล้วหลังจากอยู่กับข้าอีกหน่อยก็ฝากเ้าด้วยล่ะคลาส อย่าทำให้เกิดอันตราย ดูแลไวท์ให้ดี"
"พะยะค่ะ ท่านพี่"
หลังจากอาหารมื้อใกล้เช้าคือมื้อสุดท้ายของคืนนี้ ก่อนที่ต่างคนต่างจะพากันไปนอนกลางวันตามวิถีของแวมไพร์ แผนการรับมือและการสอบสวนจะเริ่มนับจากนี้ไป พวกคลั่งเืเทพกับัคิดผิดแล้วที่จะหวังเืจากลูกหลานของตาแก่
"เดินทางปลอดภัยนะครับทุกคน" เสียงทุ้มนุ่มบอกพลางโค้งศรีษะให้กับเหล่าแวมไพร์ที่อายุมากกว่าตนทั้งหมด
"ข้าไปก่อนล่ะไวท์ เดี๋ยวมาหาใหม่" ครอส บอกพลางโบกมือแล้วสยายปีกกลับเขตปกครองตนเอง
"ข้าหวังเป็อย่างยิ่ง ที่จะได้พบกับคุณชายอีกครั้ง" มาร์แชลบอกแล้วบินไปอีกคน
"ไปกันหมดแล้ว ต้องไปบ้างแล้วล่ะ แล้วเจอกันไวท์" ครอสทำท่าทีเล่นทีจริงแล้วบินหายไปบนท้องฟ้าเสียแล้ว
"ข้าไม่ได้อยากเฝ้าเ้า จะไปรายงานให้องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีฟัง ขอตัวก่อน" ฟรัง ทำท่าไม่แยแสแล้วจากไปเป็คนสุดท้าย
"สมเป็แต่ละคนดีนะกระรอกน้อย สไตล์แตกต่างกันมาก" คีย์บอกพลางลูบกลุ่มผมนิ่มอย่างเอ็นดู สงบสุขกันบ้างสักทีหลังจากมีแต่ความวุ่นวายมาสองสามวันแล้วน่าปวดหัวจริงๆ เขาไม่ได้อยากให้เป็แบบนี้สักเท่าไหร่หรอก ต้องโทษเ้าพวกนั้นที่คลั่งเืที่มีพลังมากกว่ามนุษย์ การอยากได้สิ่งของที่ยากกว่านั้นหมายความว่าต้องแลกมากกว่าเดิม ไม่รู้จักดูบ้างเลยว่ากำลังเล่นกับอะไร
"ผมก็เห็นว่าทุกคนเป็แบบนั้นตลอด สิ่งที่ผมจะบอกคือไม่อยากให้พี่คีย์ต้องกังวลมากเกินไปกับผม เพราะว่ายังไงผมก็เป็ลูกผู้ชาย สามารถดูแลตัวเองได้อย่างแน่นอน" ไวท์บอกพลางโชว์กล้ามแขนเล็กๆ ให้ดูว่าตนก็แข็งแรงเหมือนกัน
"เ้าในตอนนี้ยังสู้แต่กับพวกไร้พลังหรือพวกมนุษย์เท่านั้น ไม่สามารถต่อกรกับพวกมีพลังเวทย์และแวมไพร์ได้สักคน หากเ้ามีฝีมือมากกว่านี้ข้าจะเป็ห่วงเ้าน้อยลงกว่านี้"
"ทำไมที่นี่ถึงมีแต่การต่อสู้ครับ จะเป็ไปได้ไหมว่าจะไม่เกินเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น" มือหนาควักมือให้มานั่งโซฟาตัวเดียวกัน ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นอย่างว่าง่ายแล้วนั่งลงข้างกันเพื่อตั้งใจฟังคำตอบที่ออกมาจากปากของคนอายุมากกว่า
"ที่นี่ถึงจะมีกฎระเบียบมากมายห้ามไม่ให้มีการล่ามนุษย์อยู่ก็จริง แต่ก็ยังมีพวกฝ่าฝืนกฎหลากหลายกลุ่มแล้วยังจับตัวการใหญ่ไม่ได้สักที ทำให้ทุกคนยังเป็กังวลกับเื่นี้กันอยู่ ยังไงล่ะ"
"หมายความว่าถ้ายังจับไม่ได้ทั้งหมดก็จะมีการทำผิดกฎหมายอยู่เรื่อยๆ สินะครับ"
"ใช่แล้วล่ะ เด็กดี เก่งมาก"
มือหนาลูบกลุ่มผมนิ่มอย่างเอ็นดูอีกครั้ง เด็กคนนี้เป็เด็กที่น่ารักและยังต้องได้รับการเรียนรู้อีกหลายอย่าง ว่าทุกที่ย่อมมีอันตรายเสมอ ตราบใดที่ยังมีผู้คิดที่จะฝ่าฝืนกฎของจักรวรรดิ ช่างไม่กลัวตายเสียจริง ในความวุ่นวายก็ยังมีสิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ การได้ใช้ชีวิตที่สดใส และเป็ธรรมชาติของเด็กทำให้เขาผ่อนคลายลงได้มากทีเดียว แต่เหมือนใบหน้าของอีกคนจะเริ่มแดงขึ้นมาเสียแล้ว ท่าทางจะเขินสินะ
ที่เขาไม่ได้เปิดปากพูดอะไรเพราะคิดว่ารัชทายาทเอ็นดูเขามากพอสมควร แต่สายตาที่จ้องมองนั้นกลับมีความหมายแฝงหลายอย่างเลยทำให้ไม่กล้าสู้สายตาที่อบอุ่นแบบนั้น จึงได้ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อหลบเลี่ยงสายตานั้น ช่างเป็แวมไพร์ที่มีเสน่ห์มากจริงๆ
"ถ้าพี่คีย์ยังมองแบบนั้น ผมคงได้เขินตายจริงๆ อย่ามองแบบนั้นได้ไหมครับ" ไวท์ทนไม่ไหวพูดออกมาจนได้ เพราะสายตาอบอุ่นนั้นจะทำให้ละลายอยู่ ร่อมร่อ
"เวลาเขินเ้าก็น่ารักดีนะ ไวท์"
"ขอบพระทัยพะยะค่ะ รัชทายาท"
"ไปเดินเล่นในสวนกันเถอะ"
เสียงทุ้มต่ำบอกพลางจูงมือขาวออกไปยังสวนข้างหลังวังเพื่อเดินดูเดินไม้ยามค่ำคืน ดอกไม้ที่เน้นปลูกให้ผลิบาน่กลางคืนบานสะพรั่งเต็มสวน กลีบดอกไม้ที่ปลิวผ่านไปมาเหมือนฉากประกอบในการเดินเล่นครั้งนี้ ใบหน้าหวานเริ่มแดงนิดหน่อยเพราะการจูงมือนั้นเริ่มกระชับมากขึ้นเหมือนการจับมือแบบคนรัก ไม่คิดว่าการทำเพียงเท่านี้จะส่งผ่านความรู้สึกมากมาย ความสบายใจ ความไว้วางใจ ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถฝากให้แวมไพร์คนนี้ดูแลได้
"หนาวไหม ข้าไม่รู้ว่าร่างกายของเ้าทนทานต่อความหนาวเย็นได้หรือไม่" เสียงทุ้มต่ำถามด้วยความเป็ห่วง
"ไม่ครับ ไม่หนาวเลย อากาศกำลังดีเลยครับ"
"งั้นหรือ ดีที่เ้าชอบที่นี่ ถ้าเป็ไปได้อยากให้อยู่ด้วยกันตลอดไปเลย"
"ยังไงผมก็กลับโลกเดิมไม่ได้แล้วนะครับ อยู่ที่นี่แน่นอนครับ"
"เ้ารู้หรือไม่ว่าตาของเ้าเป็มนุษย์"
"รู้ครับ เพราะว่าพ่อกับแม่ของผมฝากเลี้ยงเอาไว้ ครอบครัวของคุณตากับผมไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเืครับ เลยทำให้อาจจะเข้าใจผิดกันได้"
"งั้นหมายความว่าตาของเ้าเป็เพียงตาบุญธรรมที่รับเลี้ยงดูเ้าเป็เวลาสั้นๆ ก็จะเดินทางมาที่นี่ก่อนเ้าสินะ"
"ใช่ครับ ผมอยู่กับตาไม่ได้นานแล้วก็หายไปจนกระทั่งเริ่มโตแล้วมาที่นี่เหมือนกัน"
คีย์ทำหน้าครุ่นคิดบางอย่างและนึกสงสัยว่ามันจะต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้การเดินทางมาที่นี่ได้สะดวกขึ้นอย่างแน่นอน ต้องลองถามสำนักเวทย์มนตร์แล้วว่าเป็ฝีมือของใครเชิญบุคคลที่อยู่โลกคู่ขนานมาหรือเปล่า มันมากกว่าหนึ่งครั้งไม่น่าใช่เื่บังเอิญเสียแล้ว
ไวท์เริ่มทำความเข้าใจมากขึ้นว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไร ทักษะการต่อสู้ที่มีมาในโลกมนุษย์ยังไม่สามารถที่จะปกป้องตัวเองได้ในตอนนี้ มีแต่จะต้องเรียนรู้เพิ่มเพื่อหลีกหนีสถานการณ์อันตรายให้ได้มากที่สุด และการเดินทางเพื่อเรียนรู้ในครั้งนี้จะทำให้ได้อะไรกลับมาอย่างแน่นอน เพื่อแบ่งเบาภาระของทุกคนลงให้ได้มากที่สุด
"รู้สึกชอบที่นี่ขึ้นมาบ้างไหม หรือว่ายังคิดถึงบ้านเกิดอยู่" คีย์ถามด้วยสีหน้าคาดหวังเพราะเกือบจะหนึ่งเดือนแล้วที่มาอยู่ที่นี่ มีเื่ราวเกิดขึ้นมากมายจนไม่รู้ว่าสนุกหรือเครียดมากกว่า
"จะบอกว่าไม่เครียดเลยก็คงจะไม่ได้ แต่อยู่ที่นี่สนุกมากครับ" ไวท์ตอบพลางยิ้มกว้าง อยากกลับบ้านเกิดแต่ว่าที่นี่มีแต่คนรักและเอ็นดู ไม่เคยทำให้รู้สึกว่ายากลำบากหรืออันตรายสักครั้ง คอยช่วยเหลือั้แ่วันแรกจนวันนี้ ไม่มีอะไรจะสบายใจเท่านี้อีกแล้ว
"ขอบใจมาก เ้าทำให้ข้ามีกำลังใจขึ้นเยอะเลย"
"กลับไปพักผ่อนกันเถอะ"
"ครับ พี่คีย์"
หากอยู่กันแค่สองคนรัชทายาทปรารถนาจะให้อีกฝ่ายเรียกเขาเหมือนโลกเดิมที่เคยจากมาเพราะอยากจะทำความเข้าใจอีกคนให้มากขึ้น เวลาว่างจากงานราชการบ้านเมืองก็มักจะมาสอบถามตลอดเวลาภาษาที่ใช้คุยนั้นหมายถึงอะไร เพื่อปรับให้เข้าใจซึ่งกันและกันและค้นพบว่าภาษาที่แปลนั้นเข้าใจง่ายและพูดคุยง่ายกว่าที่จักรวรรดิมากนัก และค่อนข้างพึ่งพาใจเป็การส่วนตัวหากคนอายุน้อยกว่าจะเรียกแบบโลกเดิมที่จากมามากกว่า รู้สึกเหมือนได้อยู่โลกของอีกคนมากขึ้น
เขาไม่รู้ว่าทำไมคนที่อายุมากกว่าหลายรอบถึงไม่อยากให้ใช้คำาาศัพท์แล้วให้พูดแบบสามัญชนธรรมดา มันดูแปลกตาทุกครั้งที่พูดแต่เ้าตัวก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรแถมยังยิ้มหน้าระรื่นกลับมาอีก และบอกให้คุยกับทุกคนด้วยคำาาศัพท์ที่เรียนมาจากเฟลิกซ์แบบเดิม ชวนให้สงสัยและเข้าใจยากเหมือนกัน...คนในจักรวรรดิแห่งนี้
"ท่านไวท์เป็อะไรหรือขอรับ ทำหน้าแบบนั้นมานานแล้ว" เฟลิกซ์ถามออกมาด้วยความสงสัยที่เห็นเ้าหน้าของตนเดินไปเดินมาในห้องแล้วขมวดคิ้วมาสักพักใหญ่ๆ จนอดเป็ห่วงไม่ได้
"สงสัยนิดหน่อยว่าทำไมพี่คีย์ถึงให้ข้าพูดด้วยคำสามัญชนมากกว่าคำาาศัพท์ ทำไมกับคนอื่นพูดาาศัพท์แล้วพอกับเ้าตัวต้องพูดาาศัพท์ไม่ให้พูดคำสามัญชนใส่" ไวท์ตอบพลางยกมือขาวทั้งสองข้างมานวดขมับของตนเองไปด้วย
"องค์รัชทายาท้าแตกต่างจากบุคคลอื่นถึงได้ให้ทำเช่นนั้นขอรับ" พระองค์แสดงออกชัดเจนขนาดนั้นทำไมถึงยังไม่รู้อีก จะซื่อบื้อเกินไปหรือเปล่า
ใบหน้าหวานเริ่มแดงขึ้นมาเล็กน้อย...ร่างสูงโปร่งรีบเดินไปยังเตียงนอนแล้วคลุมผ้าห่มถึงศรีษะเพื่อนอนพักผ่อน แต่ใบหูแดงที่โผล่พ้นออกมาทำให้รับรู้ได้ว่าเ้านายของตนเองกำลังรู้สึกอย่างไร จึงได้ทำตัวเป็คนรับใช้ที่ดีเดินจากไปอย่างเงียบๆ ดับเทียนหัวเตียงแล้วปิดประตูให้เงียบที่สุดเท่าที่จะเงียบได้ เป็การบอกลาค่ำคืนที่มีความสุขกับเ้านายทั้งสองคน
พระจันทร์เต็มดวงค่อยๆ ลาลับขอบฟ้าเป็พระอาทิตย์ขึ้นมาสาดส่องใน่กลางวันแทน แต่ก็ยังมีอีกคนที่ยังไม่ได้หลับตามวิถีของแวมไพร์นั่นก็คือองค์รัชทายาทที่ยังทรงงานอยู่แม้ว่าจะเป็วันใหม่แล้วก็ตามที เอกสารมากมายไม่ได้ลงจำนวนลงเลยแม้ว่าจะทำมาทั้งวันทั้งคืนแล้วก็ตามที แถมคนรับใช้ยังหนีไปนอนแบบนี้ จะมีอะไรให้กินแก้หิวได้บ้างไหมนะ คิดถึงฝีมือทำขนมของไวท์ขึ้นมาเลย
