วันต่อมา ผูหยางชิงหลันกับอวี๋เฟิงหยางมาหาแต่เช้า
หลังกินมื้อเช้าเสร็จ ผูหยางชิงหลันก็ส่งอวี๋เฟิงหยางไปเก็บค่ารักษาที่จวนสกุลหลิว
ส่วนตนเองก็ลากเหลียนเซวียนมาอยู่เป็เพื่อน แล้วซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเื่เมื่อวานกับเซวียเสี่ยวหรั่นต่อ
เซวียเสี่ยวหรั่นไหนเลยจะคิดว่าผูหยางชิงหลันจะสนใจถ้อยคำที่ตนเองพลั้งปากออกไปเพียงนี้
แต่เธอไม่ค่อยรู้ศาสตร์แพทย์มากนัก จำได้แต่ความรู้พื้นฐานทั่วไป
"วิธีฆ่าเชื้อขั้นพื้นฐานควรใช้ไฟเผา ต้มในน้ำเดือด ตากกลางแดดจัด แล้วก็อะไรน้า... อ้อ ใช้แอลกอฮอล์ ก็คือการเช็ดด้วยสุราแรงๆ น่ะ" เซวียเสี่ยวหรั่นถูกจ้องจนหนังศีรษะชา จำต้องพยายามคิดทบทวนรายละเอียด
"สุราแรง? ้าแรงแค่ไหน?"
สองสามอย่างแรก ผูหยางชิงหลันล้วนฟังเข้าใจ แต่วิธีสุดท้ายเขายังมีข้อกังขา
"ความแรงควรสักเจ็ดสิบถึงแปดสิบดีกรีกระมัง แต่ต่อให้เป็เหล้าขาวธรรมดา หลังจากกลั่นแล้วก็สามารถเปลี่ยนไปเป็สุราแรงระดับสูงได้เหมือนกัน ใช้สุราดีกรีแรงที่ผ่านการกลั่นเอามาฆ่าเชื้อที่าแจะเหมาะสมที่สุด"
เซวียเสี่ยวหรั่นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายเื่เหล่านี้กับเขาอย่างไร
"เจ็ดสิบถึงแปดสิบดีกรี? นี่คือแิอันใดอีกแล้วล่ะ" ผูหยางชิงหลันรู้สึกว่ายิ่งฟังยิ่งพบสิ่งแปลกใหม่
"เอ่อ... หมายถึงความแรงระหว่างเจ็ดถึงแปดส่วนน่ะ ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างไรเสียปู่ข้าก็กล่าวไว้เช่นนี้"
เซวียเสี่ยวหรั่นผลักภาระไปที่คุณปู่ของตนเองด้วยเชื่อมั่นว่ามีน้ำหนักมากพอ
เหลียนเซวียนมองนางอย่างระอาใจ จากนั้นก็หันไปหาผูหยางชิงหลัน "ศิษย์พี่ เื่ของท่านปู่เสี่ยวหรั่น โปรดอย่าแพร่งพรายออกไป คนเฒ่าคนแก่ไม่อยู่แล้ว บางอย่างก็ไม่อาจสืบค้นได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็ ช่วยเก็บเื่ของเสี่ยวหรั่นเป็ความลับด้วย"
ผูหยางชิงหลันกลอกตาใส่เขาก่อนอย่างอื่น "ข้าไม่ใช่สตรีชอบพูดจาเรื่อยเปื่อยอย่างนั้นเสียหน่อย อะไรควรไม่ควรพูด จะไม่เข้าใจเชียวรึ"
หลังจากนั้นก็หันไปยิ้มให้เซวียเสี่ยวหรั่นด้วยสีหน้าอ่อนโยน "แม่นางเซวีย เ้าวางใจได้ ข้าขอใช้เกียรติและศักดิ์ศรีความเป็แพทย์ตลอดหลายปีนี้มาเป็ประกันว่าจะไม่แพร่งพรายเื่ท่านปู่ของเ้าเป็อันขาด"
"คุณชายผูหยางไม่จำเป็ต้องทำถึงขนาดนี้ ท่านคือศิษย์พี่ของเหลียนเซวียน ข้าย่อมเชื่อมั่นในตัวท่านอยู่แล้ว"
เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มพลางค่อยๆ เชื่อมความสัมพันธ์ศิษย์พี่ศิษย์น้องระหว่างพวกเขาสองคน
ผูหยางชิงหลันได้รับความเชื่อมั่นในรูปแบบนี้ก็เบะปาก ปรายหางตาไปที่ใบหน้าน้ำแข็งไร้ความรู้ดั่งท่อนไม้
เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มมองพวกเขาสองคน
จะว่าไปก็แปลก ทั้งที่ผูหยางชิงหลันแลดูมีสง่าราศี รูปโฉมเหนือสามัญ แต่พอมานั่งข้างกายเหลียนเซวียนซึ่งไว้หนวดเคราเต็มหน้า กลับไม่อาจบั่นทอนความสูงส่งและเ็าของเขาได้แม้แต่ครึ่งส่วน
มิหนำซ้ำรังสีกร้าวแกร่งจากตัวเขายังข่มผูหยางชิงหลันอีกต่างหาก
จนกระทั่งอวี๋เฟิงหยางอุ้มหีบไม้แดงใบหนึ่งกลับมา ก็เป็เวลาใกล้ยามอู่แล้ว
"เฟิงหยาง เหตุใดเ้าถึงไปนานนักเล่า" คิ้วดาบของผูหยางชิงหลันขมวดเข้าหากัน
"อาจารย์ ความจริงของคดีของเศรษฐีหลิวถูกเปิดโปงแล้ว ผู้สมคบกับเ้าลู่ฉงผู้นั้นเป็หญิงคณิกาซึ่งลอบขายตัวผิดกฎหมายอยู่ในย่านเริงรมย์ ทั้งสองเริ่มวางแผนคิดคดทรยศั้แ่คุณหนูหลิวเริ่มประกาศแต่งสามีเข้าตระกูลแล้ว วันนี้ท่านเศรษฐีหลิวอยู่ที่ศาลาว่าการตลอดเวลา จวนของพวกเขาก็ชุลมุนวุ่นวาย หลิวฮูหยินได้รับความะเืใจจนล้มป่วย พ่อบ้านของพวกเขาจึงลากข้าไปช่วยตรวจอาการให้หลิวฮูหยิน ต้องไปกลับอีกรอบหนึ่งถึงล่าช้าขอรับ"
อวี๋เฟิงหยางส่งหีบไม้ให้ผูหยางชิงหลัน
"พี่ชายน้อยอวี๋สามารถช่วยตรวจคนไข้ ภายใต้การชี้นำของอาจารย์ผู้เลื่องชื่อย่อมก่อเกิดลูกศิษย์ผู้มีความสามารถสูงส่ง" เซวียเสี่ยวหรั่นมองใบหน้าซึ่งยังคงความอ่อนเยาว์แต่มั่นคงหนักแน่นของเขา พลางอุทานชื่นชม
"เป็เพราะการสอนสั่งของอาจารย์ขอรับ" อวี๋เฟิงหยางรีบกล่าวถ่อมตัว
ผูหยางชิงหลันกลับแค่นเสียงหึไม่พอใจที่ลูกศิษย์เข้าไปยุ่งกับเื่วุ่นวายเหล่านี้
เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นเขาถือสากระทั่งศิษย์ที่เฉลียวฉลาดรู้ความ ก็รีบดึงอวี๋เฟิงหยางมาถามเื่ราวของเศรษฐีหลิว
ปีก่อน ข่าวบ้านเศรษฐีหลิวประกาศแต่งบุตรเขยเข้าสกุลเป็ที่ล่วงรู้ไปทั่วเมืองชิงหลิง ดึงดูดความสนใจของคนไม่น้อย ลู่ฉงก็เป็หนึ่งในนั้น ตอนนั้นแม้ว่าเขาจะยากจน แต่กลับมีใจทะเยอทะยานหมายมั่นตำแหน่งบุตรเขยอย่างแรงกล้า
ครั้นแล้วเขาก็ปรึกษาวางแผนกับคู่ขาซึ่งเป็หญิงคณิกาเร่ร่อนในย่านเริงรมย์ จนเกิดเป็เื่ราวหนหลังตามมา
เขาฉวยโอกาสที่คุณหนูหลิวออกจากบ้านไปไหว้พระที่วัด สร้างสถานการณ์ให้ลู่ฉงได้เผยตัวต่อหน้าคุณหนูหลิว หลังจากสร้างความประทับใจไว้แล้ว รอจนถึงวันเลือกบุตรเขย ก็แสร้งทำตัวเป็บัณฑิตผู้สุขุมคัมภีรภาพโดดเด่นเหนือทุกคนจนได้รับการคัดเลือก
แท้จริงแล้วลู่ฉงไม่ยินดีต่อสถานะเขยแต่งเข้าสกุล แต่เพราะถูกความมั่งคั่งของสกุลหลิวบังตา จึงคิดแผนการให้คุณหนูหลิวคลอดก่อนกำหนด แล้วใส่ความว่านางเป็ซิ่งแดงออกกำแพง [1] ไม่รักษาจรรยาของสตรีออกเรือน หลังจากนั้นค่อยฉวยโอกาสเรียกร้องค่าเสียหายสักก้อน ค่อยหนีไปอยู่ที่ที่ไกลแสนไกลกับหญิงคณิกาผู้นั้น
ผลก็คือหลังความจริงถูกเปิดเผย ลู่ฉงกลับโยนความผิดทั้งหมดไปให้หญิงคณิกาผู้นั้น บอกว่าเป็ความคิดของนาง สถานการณ์นางเป็คนจัด ชะมดเชียงก็เป็นางที่ซื้อมา
หญิงคณิกาคนนั้นโกรธจนกระอักเื ชี้หน้าด่าลู่ฉงสาดเสียเทเสีย ทั้งยังแฉการกระทำความผิดของเขาออกมาด้วย เช่น ลู่ฉงขโมยของล้ำค่าในจวนสกุลหลิวไปจำนำ ซ้ำยังสมคบกับสาวใช้คนสนิทของคุณหนูหลิวเพื่อปกปิดความผิดเป็ต้น
เศรษฐีหลิวโกรธจนแทบหายใจไม่ออก กระโจนเข้าไปทุบตีลู่ฉงเป็พัลวัน
"แล้วต่อมาล่ะ เป็อย่างไร" เซวียเสี่ยวหรั่นฟังด้วยความสนใจอย่างมาก
"ชายหญิงคู่นั้นถูกตัดสินให้เนรเทศ และคุมตัวไปยังพื้นที่ชายแดนวันนี้เลยขอรับ" อวี๋เฟิงหยางตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มสดใส
ผูหยางชิงหลันไม่สนใจเื่ของเศรษฐีหลิวแม้แต่น้อย พวกเขาศิษย์อาจารย์เดินทางไปทั่วสารทิศ พบเจอเื่สกปรกพรรค์นี้มานับไม่ถ้วน
กระทั่งพี่น้องชักมีดดาบทำร้ายกันเองเพียงเพราะเงินไม่กี่อีแปะ เขาก็เห็นมาแล้ว
บางครั้งเงินทองก็ทำให้คนวิปลาส เมื่อถูกอำนาจของผลประโยชน์ครอบงำ ไหนเลยจะเอาสติสัมปชัญญะมาจากไหน
ขนาดสามัญชนคนชั้นต่ำยังเป็เช่นนี้ นับประสาอันใดกับครอบครัวที่มีทุกอย่างพรั่งพร้อมและมีบุตรสาวเพียงคนเดียวอย่างเศรษฐีหลิว
"อย่าไปยุ่งเื่ไร้สาระเ่าั้ เฟิงหยาง เ้าไปช่วยข้าหาแถวนี้ว่ามีใครบ่มสุราขายหรือไม่"
ในใจของผูหยางชิงหลันคิดถึงแต่เื่สุราดีกรีสูงที่เซวียเสี่ยวหรั่นบอกว่าสามารถฆ่าเชื้อได้
"หา?" เซวียเสี่ยวหรั่นได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึง "คุณชายผูหยาง ท่านจะหาผู้บ่มสุราไปทำไม พรุ่งนี้พวกท่านต้องออกเดินทางไปเขาอวี่เหลียนซานมิใช่หรือ"
ผูหยางชิงหลันผู้นี้คิดสิ่งใดได้ก็จะทำทันที ไม่เคยมีกฎเกณฑ์ตายตัว
"ใช่แล้วอาจารย์ แก้พิษให้อาจารย์อาก่อนถึงจะสำคัญกว่า" อวี๋เฟิงหยางเกลี้ยกล่อมอีกแรง
ผูหยางชิงหลางขยี้ศีรษะอย่างหัวเสีย ถลึงตาใส่เหลียนเซวียน "นี่เ้าเด็กเหลือขอ ปรกติเ้าก็เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวไม่ผิดกับจิ้งจอกเฒ่า แล้วเหตุใดครานี้ถึงถูกวางยากร่อนกระดูกสลายเส้นเอ็นได้เล่า? ถูกโฉมงามนางไหนล่อลวงเข้าล่ะ แม้แต่สัญชาตญาณป้องกันขั้นพื้นฐานยังลืมสิ้น ดู๋ดู... ถึงต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้"
ผูหยางชิงหลันกลอกตาใส่ด้วยความขุ่นเคืองที่ถูกขัดจังหวะการศึกษาค้นคว้าเื่สุราฆ่าเชื้อ
เซวียเสี่ยวหรั่นทำตาปริบๆ หันไปมองเหลียนเซวียนที่สีหน้าชะงักไป
เขาถูกหญิงงามที่ไหนวางยาพิษจริงหรือ?
...
[1] เป็ความเปรียบถึงสตรีไม่สำรวม มีพฤติกรรมคบชู้สู่ชาย
