บทที่ 21 แฟนคลับดราก้อนบอลขอเป็เพื่อน
เขตนอกเมือง
คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะขับรถมาถึงที่นี่ ต้องโทษตัวเองที่ตอนนั่งรถมาเอาแต่เล่นโทรศัพท์จนไม่ได้มองทาง
แปะแปะ
วัยรุ่นย้อมผมสีหกเจ็ดคน อายุไล่เลี่ยกับฮวางเหมาเดินออกมาจากพุ่มไม้ตามเสียงตบมือของฮวางเหมาที่เป็คนขับรถ
"เฮ้ พี่ชาย งานนี้พวกนายได้เงินเยอะเลยล่ะสิ?"
เย่จื่อเฉินยิ้มหน้าทะเล้น ถึงเขาจะมั่นใจในฝีมือของตัวเองอยู่บ้าง แต่สองมือก็ยากที่จะเอาชนะสี่มือ
ถ้าคนกลุ่มนี้เข้ามารุมจริงๆ เขาอาจจะจบไม่สวยก็ได้
อีกอย่างที่นี่มันก็เขตนอกเมือง เขายังจะหวังให้คนกลุ่มนี้ส่งเขากลับมหาวิทยาลัยอีกเหรอ
"อย่ามัวพูดมาก เลือกเอาเองว่าจะเอาขาไหน?" ฮวางเหมาที่ไม่รู้ว่าไปเอาไม้เบสบอลจากไหนมาพาดไว้ที่หัวไหล่
"พี่ชาย อย่าอารมณ์ร้อนนักสิ สังคมปรองดองกันได้ทำไมจะต้องไล่ตีไล่ฆ่ากันด้วย จริงไหม?"
ถ่วงเวลาเอาไว้ทางหนึ่ง ส่วนมือขวาล้วงกระเป๋ากางเกง อาศัยความคุ้นมือเปิดโทรศัพท์ เย่จื่อเฉินกดเปิดวีแชท
เขาเปิดวีแชทได้แล้ว แต่เขาเปิดไอคอนหีบสมบัติไม่ได้
"เ้าเปี๊ยก แกล้วงกระเป๋ากางเกงทำไม?" ฮวางเหมาที่มีไม้เบสบอสใช้ไม่เบสบอลชี้ขึ้นลงตามมือของเย่จื่อเฉิน
ตุบ
โทรศัพท์ตกลงพื้น ฮวางเหมาะโลั่น
"เวรเอ๊ย จะแจ้งตำรวจเหรอ จัดการมัน!"
วัยรุ่นหัวเขียวหัวแดงกรูเข้ามาทันที เวลาที่เข้าตาจนคนเรามักจะะเิศักยภาพของมนุษย์ที่ไร้ขีดจำกัดออกมาเสมอ
เย่จื่อเฉินเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
เขาพลิกตัวหยิบโทรศัพท์มาไว้ในมือ แล้วกดเปิดหีบสมบัติ
ยาปรับพลังกาย กดรับ
ขวดหยกสวยประณีตหนึ่งขวดปรากฏออกมาในมือ เย่จื่อเฉินไม่มีเวลาชื่นชมความสวยงามของมันแล้ว
เทเม็ดยาสีทองออกมาจากขวด แล้วโยนเข้าปากทันที
ตู้มมม!
พลังที่เดือดพล่านหลั่งไหลออกมาจากแขนขา รูม่านตาของเย่จื่อเฉินก็ค่อยๆ เปล่งแสงสีทองอ่อนๆ ออกมา
"ซูเปอร์ไซย่า!"
ไม่รู้ว่าฮวางเหมาหรือไอ้คนหัวแดงที่ะโขึ้นมา เย่จื่อเฉินที่ได้ยินก็อดพูดเสียงเหี้ยมไม่ได้
"โดนพวกนายล่วงรู้ความลับที่ฉันเป็มนุษย์ต่างดาวเข้าแล้วสิ ดูท่าว่าจะปล่อยพวกนายไว้ไม่ได้แล้ว"
ซูเปอร์ไซย่า กลายร่าง!
แค่เหวี่ยงกำปั้น ไม้เบสบอลของฮวางเหมาก็หักครึ่งทันที
เย่จื่อเฉินเองก็ไม่ลังเล เหวี่ยงหมัดซ้ายเตะเท้าขวา เพียงเวลาไม่นานก็จัดการกับเด็กอันธพาลกลุ่มนี้หมอบกับพื้นจนลุกไม่ขึ้น
ตุบ
"พี่ชาย ผมไม่รู้ว่าพี่ชายเป็ซูเปอร์ไซย่า ผมรับปากเลยว่าจะไม่ปากโป้งเื่ที่พี่เป็มนุษย์ต่างดาว พี่ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ"
ฮวางเหมาคุกเข่าลงกับพื้นน้ำหูน้ำตาไหลพราก เย่จื่อเฉินทำเขาใมากจริงๆ
ถึงแม้ว่าพวกลูกน้องของเขาจะไม่เคยได้เข้ารับการฝึกทักษะอะไรอย่างเป็ระบบมาก่อน แต่เื่การชกต่อยก็ฝีมือดีกันทุกคน อีกทั้งยังลงมือหนักอีกต่างหาก
แต่นั้นมันั้แ่สมัยไหนแล้ว...
ดูพวกลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขาสิ นอนร้องโอดโอยกันอยู่ที่พื้นหมดแล้ว!
พรูดดด
เย่จื่อเฉินเกือบหลุดหัวเราะกับท่าทางของฮวางิ สติปัญญาเ้าเด็กนี่น่าเป็ห่วงจริงๆ ดูดราก้อนบอลเยอะไปแล้ว
แถมยังคิดว่าเขาเป็ซูเปอร์ไซย่าจริงๆ ด้วย
แต่เล่นไปกับเขาก็สนุกดีเหมือนกัน
"นายแน่ใจนะว่าจะไม่ปากโป้ง? อย่าคิดจะโกหก ฉันมีวิธีรู้ความคิดของนาย"
แสงสีทองสว่างวาบขึ้นในดวงตา ฮวางเหมาสั่นไปทั้งตัว
...
ฉี่ราดแล้ว
"ผมไม่พูดจริงๆ ไม่พูดเด็ดขาด ผมสาบาน..."
ขนาดฉี่ราดแล้วฮวางเหมาก็ดูเหมือนจะยังไม่รู้ตัว และชูสามนิ้วขึ้นมาสาบานอย่างสัตย์จริง
เย่จื่อเฉินเบ้ปากด้วยใบหน้าเหยียดหยาม ชี้ไปที่เสื้อผ้าของเด็กหัวแดงแล้วพูด
"อืม ไม่ได้โกหกจริงๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปส่งฉันที่มหาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิงด้วย"
ระหว่างทางที่รถแท็กซี่ขับกลับมหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่าฮวางเหมาจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว แต่กลิ่นฉุนนั้นก็ยังมีอยู่นิดหน่อย
กดลดกระจกรถลง ต่อให้เย่จื่อเฉินจะรับไม่ได้ก็ต้องจำใจฝืนทนไป
เพราะแถวนี้มันไม่มีรถเลย!
"พี่ชายครับ มนุษย์ต่างดาวอย่างพวกพี่เป็ซูเปอร์ไซย่ากันหมดเลยเหรอ?"
ยังจะพูดเื่นี้อีก!
แม้ว่าจะอดขำไม่ได้ แต่ก็ต้องแสดงต่อไป
"ใช่" เย่จื่อเฉินทำหน้าเยือกเย็น ฮวางเหมาแอบเหลือบมองเล็กน้อยแล้วพูด "พี่ชาย พี่ช่วยรับผมเป็ลูกน้องพี่ได้ไหม เื่ดราก้อนบอลผมไม่เคยพลาดสักตอนเลยนะ ผมฝันมาตลอดว่าอยากจะเป็ซูเปอร์ไซย่า!"
แฟนคลับตัวยงดราก้อนบอลจริงๆ ด้วย นี่ดูจนโง่แล้วนะ
"ไอ้ได้น่ะมันได้ แต่ฉันขอถามอะไรนายหน่อย"
"พี่ชายว่ามาเลยครับ"
ฮวางเหมาพยักหน้าแรงๆ
"คนที่ให้นายมาหาเื่ฉัน ใช่คนที่ชื่อฟู่เฉิงิหรือเปล่า"
ตอนนั่งอยู่ในรถเย่จื่อเฉินลองคิดดูแล้ว เหมือนว่าคนที่มีความแค้นกับตัวเองจะมีแค่เขาคนเดียว
"ใช่ครับ พี่รู้ได้ยังไง?"
ฮวางเหมาทำหน้าหวาดผวา เย่จื่อเฉินเบ้ปากแล้วคว้าหมับเข้าที่ไหล่ฮวางิ แล้วพูดเสียงเข้ม
"นายอยากเป็ลูกน้องฉันนี่ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ฉันงานงานหนึ่งให้นายทำ"
"พี่ชายว่ามาเลยครับ!"
"ที่จริงแล้วฟู่เฉิงิคือคนขององค์กรทดลองมนุษย์ที่ชั่วร้ายส่งมา โดย้าทำลายมนุษย์ต่างดาวและชาวโลกอย่างเรามาตลอด งานของนายก็คือจับตาดูเขาไว้แล้วรายงานให้ฉันรู้ตลอดเวลา"
ฮวางิที่ได้ยินก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมา
คิดไม่ถึงเลยว่างานที่ได้รับมอบหมายให้ทำจะเป็งานที่สำคัญมากขนาดนี้
องค์กรทดลองมนุษย์
เขาเกลียดที่สุด!
"เพื่อเผ่าพันธุ์!"
"น้องชาย นายไปผิดทางแล้ว!"
เย่จื่อเฉินกลอกตามองบน
หลังจากที่ฮวางิมาส่งเย่จื่อเฉินถึงมหาวิทยาลัยแล้วก็ขับรถแท็กซี่ออกไปเลย ตอนที่จะไปก็ยังย้ำชัดกับเขาว่าจะจับตามององค์กรทดลองมนุษย์นั่นไว้
พอมาเจอคนซื่อบื้อขนาดนี้ เย่จื่อเฉินก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
แต่ต้องบอกเลยว่ายาปรับพลังกายของไท่ซางเหล่าจวินมันสุดยอดมากจริงๆ
หลังจากที่ยานี้เข้าสู่ร่างกาย เย่จื่อเฉินก็รู้สึกว่าประสิทธิภาพของกลไกการทำงานในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วัดจากระดับความเร็วของการตอบสนองแล้ว อย่างน้อยๆ เขาในตอนนี้ก็เร็วกว่าคนปกติทั่วไป
เมื่อกลับมาถึงห้อง รูมเมทสามสี่คนที่ไม่มีอะไรผิดแปลกก็กำลังสู้กันอยู่ในเกมลีกออฟเลเจ็นดส์
"โอ๊ะ เ้าห้ากลับมาแล้ว เร็วๆ มาเล่นแทนฉันหน่อย ฉันปวดท้องจะตายอยู่แล้ว"
เพิ่งเข้ามาในห้อง พี่ใหญ่อย่างคังเผิงก็กุมท้องลุกขึ้นวิ่งออกไปเลย
เย่จื่อเฉินจึงนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์ของคังเผิงตามการกวักมือเรียกของทุกคน
ริเว่นโซโลเลน
ที่จริงเวลาอยู่ที่หอเย่จื่อเฉินจะได้เล่นในตำแหน่งซัพพอร์ตตลอด ประเด็นคือฝีมือเขาอ่อนเกินไป รูมเมทพวกนี้ก็เลยไม่ให้เขาเล่นตำแหน่งอื่น
แม้แต่ตอนนี้ จูอิ๋นไป๋ก็ยังอดพูดตัดกำลังใจเขาไม่ได้
"เ้าห้า ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ นายก็เก็บพลังเอาไว้ อย่าโผล่หัวออกไปหาแชมเปียนของฝ่ายตรงข้ามก็พอ"
"ใช่ เ้าห้า อย่าโผล่หัวออกไปหาแชมเปียนของฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาดนะ แชมเปียนฝ่ายตรงข้ามมีเปอร์เซ็นต์ชนะค่อนข้างสูง ไม่แน่อาจจะเป็สตรีมเมอร์"
"อย่าโผล่หัวออกไปเด็ดขาดนะ!"
คำพูดของรูมเมททุกคนแทบจะไปในทางเดียวกัน พอคิดถึงสถิติของตัวเองเมื่อก่อน เย่จื่อเฉินก็เถียงกลับไม่ได้ ทำได้แค่เบ้ปากพูด
"เออ"
ทั้งสองฝ่ายยังไม่ส่งทหารออกมา ในขณะที่เย่จื่อเฉินยังยืนอยู่ใต้ป้อมและดูกลยุทธ์ของริเว่นอยู่นั้น คิดไม่ถึงเลยว่าแชมเปียนของฝ่ายตรงข้ามจะมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วเริ่มหัวเราะเยาะเย้ย
บัดซบ แบบนี้มันทนไม่ได้แล้ว
เมื่อเรียนรู้การใช้สกิล Broken Wings แล้วเย่จื่อเฉินก็ะโออกไป
ผู้เล่นที่นำแชมเปียนเข้าสู่การต่อสู้พอเจอกับแชมเปียนริเว่นของเย่จื่อเฉินเข้าก็หยุดนิ่งไม่ขยับไปไหน
แลกเปลี่ยนค่าประสบการณ์! แชมเปียนฝ่ายตรงข้ามมีเือยู่ก้นถังแล้ว อีกฝ่ายก็รับรู้ว่าสถานการณ์ไม่ดีก็เลยหันหลังจะหนี
หนี!
เย่จื่อเฉินโจมตีจนเกิดแสงสว่างจ้า
Firstblood (ตายคนแรก) !