บทที่ 6 : เดิมพันด้วยเกียรติและเสียงเครื่องจักรที่เปลี่ยนไป
รถกระบะมาสด้าเลี้ยวกลับเข้ามาจอดในโรงงานท่ามกลางความมืดที่เริ่มโรยตัวลงมา แสงไฟนีออนในโรงงานถูกเปิดสว่างจ้า บรรยากาศเงียบสงัดจนน่าอึดอัด คนงานทุกคนยังคงรอคอยอย่างมีความหวัง แม้ลึกๆ จะเริ่มถอดใจกันแล้ว
รินรดาก้าวลงจากรถพร้อมกับเฟืองในมือที่ตอนนี้เย็นเฉียบลงแล้ว
“เป็ไงบ้างยัยหนู?” พ่อรีบเดินเข้ามาหา สีหน้าดูแก่ลงไปสิบปีในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง
“เรียบร้อยจ้ะพ่อ” รินรดายื่นเฟืองให้ดู รอยเชื่อมพอกผิวที่ถูกเจียรจนเรียบกริบสะท้อนแสงไฟวาววับ “เหลือแค่ประกอบกลับ แล้วเดินเครื่อง”
ลุงชัยเดินเข้ามาส่องดูใกล้ๆ เขาขมวดคิ้วแน่น หยิบเฟืองไปหมุนดูทุกองศา พยายามจะหาจุดจับผิด
“ผิวเรียบขนาดนี้... ใช้เครื่องเจียรโรงงานไหนมา? หรือไปซื้อใหม่?”
“ฝีมืออู่สิงห์คำ... และฝีมือหนูเองจ้ะ” รินรดาตอบเสียงเรียบ ไม่รอให้ลุงชัยถามต่อ เธอเดินตรงไปที่เครื่องจักรทันที “เสียเวลามามากแล้ว ลำไยจะช้ำหมด หนูขอเริ่มเลยนะ”
รินรดาปีนขึ้นไปยืนบนแท่นเครื่องจักรอีกครั้ง คราวนี้เธอไม่ได้ดูเป็เด็กสาวหลงทางในดงเครื่องจักรอีกต่อไป รัศมีบางอย่างในตัวเธอทำให้คนงานเริ่มขยับเข้ามามุงดูด้วยความทึ่ง
[โหมดปฏิบัติการ: ประกอบชิ้นส่วน (Reassembly)]
[ความแม่นยำที่้า: ระดับสูง]
ภาพโฮโลแกรมสีฟ้าฉายซ้อนทับลงไปในห้องเกียร์ แสดงตำแหน่งการวางเฟืองที่ถูกต้องที่สุด รินรดาค่อยๆ สอดเฟืองกลับเข้าไปในแกนเพลา
กริ๊ก!
เสียงเฟืองขบกันอย่างพอดีเป๊ะ ไม่มีอาการฝืดหรือหลวมคลอน
เธอหยิบจาระบีเกรดทนความร้อนสูง (ที่แอบสั่งให้พ่อไปซื้อมาใหม่ระหว่างที่เธอไม่อยู่) ป้ายลงไปตามร่องเฟืองอย่างทั่วถึง ไม่มากไปจนเลอะเทอะ และไม่น้อยไปจนแห้ง
“ลุงชัย... ขอประแจปอนด์ (Torque Wrench) หน่อยจ้ะ”
“โรงงานเราไม่มีของหรูแบบนั้นหรอก มีแต่ประแจแหวนธรรมดานี่แหละ” ลุงชัยตอบเสียงห้วน
รินรดาถอนหายใจ ‘จริงสิ ยุคนี้มาตรฐานเครื่องมือยังไม่ถึงขั้นนั้น’
แต่ไม่เป็ไร... เธอมีระบบ
[เปิดใช้งานสกิล: สอบเทียบแรงบิด (Torque Calibration) Lv.1]
[เป้าหมาย: ขันน็อตฝาครอบ แรงบิด 45 นิวตัน-เมตร]
รินรดาจับประแจธรรมดา แต่ในความรู้สึกของเธอ แถบวัดพลังสีเขียวปรากฏขึ้นในสายตา เมื่อเธอออกแรงขัน แถบพลังก็พุ่งขึ้น
...30... 40... 45!
[ล็อคค่าแรงบิด: สมบูรณ์]
เธอหยุดมือทันทีที่แถบพลังแตะขีดแดง ทำแบบนี้กับน็อตทุกตัวจนครบ
“เสร็จแล้ว”
รินรดาะโลงมาจากแท่นเครื่อง ปาดเหงื่อที่หน้าผาก “พ่อจ๊ะ... สับคัทเอาท์ได้เลย”
ความเงียบเข้าปกคลุมโรงงานอีกครั้ง ทุกสายตาจับจ้องไปที่พ่อคมสันที่ยืนอยู่หน้าแผงไฟ
มือของพ่อสั่นระริกขณะจับด้ามสับสวิตช์
‘ขอให้ติดเถอะ... เ้าประคุณรุนช่อง’
สับ!
กระแสไฟฟ้าไหลเข้าสู่ระบบ ไฟแสดงสถานะสีเขียวสว่างวาบ
เสียงมอเตอร์เริ่มหมุน วิ้ววววววว...
คนงานกลั้นหายใจ ลุงชัยกอดอกแน่น เตรียมรอฟังเสียงเฟืองขบกันแตกกระจาย
แต่ทว่า...
หวิงงงงงง... ชึก-ชัก ชึก-ชัก...
เสียงเครื่องจักรเดินเรียบกริบ!
ไม่มีเสียง ครืนๆ เหมือนคนไอโขลกเขลกแบบเมื่อเช้า ไม่มีเสียง แกรกๆ ของโลหะเสียดสี มีเพียงเสียงจังหวะการทำงานที่สม่ำเสมอและทรงพลัง ราวกับเครื่องจักรใหม่แกะกล่อง
“เฮ้ย! เดินเงียบกว่าตอนซื้อมาใหม่ๆ อีก!” หัวหน้าคนงานะโขึ้นคนแรก
“เอาลำไยเข้าสายพาน! เร็ว!” รินรดาสั่งการเสียงดัง เรียกสติทุกคนที่กำลังอึ้ง
คนงานรีบเทลำไยลงสายพาน กระป๋องเปล่าไหลเข้าสู่ระบบ หัวซีลทำงานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก!
กระป๋องแล้วกระป๋องเล่าถูกปิดฝาสนิท ไม่มีบุบสลาย ไหลออกมาทางรางรับสินค้าอย่างต่อเนื่อง
พ่อคมสันทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ด้วยความโล่งใจ น้ำตาลูกผู้ชายซึมออกมา แม่รีบวิ่งเข้าไปกอดพ่อแล้วร้องไห้ด้วยความดีใจ
ส่วนลุงชัย... เขายืนอ้าปากค้าง มองเครื่องจักรที่เขาซ่อมมา 20 ปี แต่ไม่เคยทำให้มันเดินเครื่องได้นิ่งขนาดนี้มาก่อน
เขาเดินเข้าไปดูที่แอมป์มิเตอร์ (Amp Meter) หน้าตู้ไฟ
“กินกระแสไฟลดลง... เครื่องไม่ร้อน... การสั่นะเืแทบไม่มี...”
ลุงชัยหันมามองหน้ารินรดา เด็กสาว ม.3 ที่กำลังยืนกอดอกมองผลงานตัวเองด้วยรอยยิ้ม
ศักดิ์ศรีช่างใหญ่ที่ค้ำคอมานานค่อยๆ พังทลายลงต่อหน้าความจริง
เขาเดินเข้าไปหาเธอ ช้าๆ
“หนูริน...” ลุงชัยเรียกเสียงเบา
“จ๊ะลุงชัย? มีตรงไหนผิดปกติอีกไหม?” รินรดาถามกลับ ไม่มีความเย้ยหยันในน้ำเสียง มีแต่ความเป็มืออาชีพ
“ไม่มี... ไม่มีเลย” ลุงชัยส่ายหน้า ก่อนจะยกมือไหว้เด็กคราวลูกอย่างไม่อายใคร “ลุงยอมรับ... ลุงมันกบในกะลาจริงๆ ขอบใจมากนะหนูรินที่ช่วยโรงงานเราไว้ ถ้าไม่ได้หนู... ลุงคงทำพังไปแล้ว”
รินรดารีบยกมือรับไหว้ “ไม่ขนาดนั้นหรอกจ้ะลุง หนูแค่เรียนทฤษฎีมาใหม่ๆ แต่เื่หน้างาน หนูยังต้องฝากลุงชัยช่วยดูแลนะ เครื่องนี้มันเก่าแล้ว ต้องคอยอัดจาระบีเกรดดีๆ ทุกอาทิตย์”
“ได้! เดี๋ยวลุงจัดการเอง!” ลุงชัยรับคำแข็งขัน แววตาที่มองรินรดาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเด็กเมื่อวานซืน กลายเป็ ‘นายช่างใหญ่’ ตัวจริง
[ภารกิจสำเร็จ: กู้ชีพโรงงานรุ่งเรืองพานิช]
[ได้รับรางวัล: ค่าความเชื่อถือ (Trust) จากคนงาน +50, ค่าชื่อเสียงครอบครัว +20]
[ปลดล็อคฟังก์ชันใหม่: พิมพ์เขียวปรับปรุงประสิทธิภาพ (Efficiency Blueprint)]
รินรดายิ้มกว้าง ฟังเสียงเครื่องจักรที่กำลังทำงานสร้างเงินสร้างรายได้ให้ครอบครัว
ลำไย 5 ตันนี้จะไม่เน่าเสีย...
หนี้สินก้อนโตจะไม่เกิดขึ้น...
พ่อกับแม่จะไม่ต้องตรอมใจ...
“นี่เพิ่งเริ่มต้น...” รินรดาพึมพำกับตัวเอง แววตาเป็ประกายวาวโรจน์
“โรงงานนี้จะไม่ใช่แค่โรงงานบ้านนอกอีกต่อไป ฉันจะ Re-Engineer ให้มันกลายเป็โรงงานระดับโลก คอยดู!”
แต่ก่อนจะไปถึงระดับโลก...
ท้องของเธอร้องจ๊อกดังลั่นแข่งกับเสียงเครื่องจักร
“แม่จ๋า! วันนี้มีอะไรกินบ้าง หนูหิวไส้จะขาดแล้ว!”
รินรดาะโเรียกแม่ ทิ้งมาดวิศวกรผู้เคร่งขรึม กลับไปเป็ลูกสาวจะกละคนเดิม สร้างเสียงหัวเราะให้ดังไปทั่วโรงงานที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง.
