ทะลุมิติไปเป็นฮองเฮา พร้อมระบบเชฟเทพนักปรุง (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ณ ห้องพิเศษ เทียน ซือคงจวินเย่หัวเราะดูแคลน “อาเซิ่ง ดูท่าแล้วนางคงสอบไม่ผ่านบททดสอบของเ๽้า นางไม่คู่ควรเป็๲คู่ต่อสู้เ๽้าด้วยซ้ำ! หมากกระดานนี้ ข้าว่าไม่มีความจำเป็๲ต้องเดินต่อแล้ว”

        พูดจบ พบว่าน้องชายไม่ตอบโต้ เขาหันหน้าไปมองกลับพบว่าดวงตาของน้องชายจ้องหมากกระดานนั้นนิ่ง สีหน้าคิดหนัก

        เขาถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “อาเซิ่ง เกิดอะไรขึ้น”

        นิ้วมือเรียวยาวของซือคงเซิ่งเจี๋ยลูบไล้หมากดำตัวนั้น แล้วส่ายหน้าพูดเสียงขรึม “ท่านผิดแล้ว! นางไม่เพียงแต่ผ่านบททดสอบของข้า อีกทั้งยังทำได้ดีกว่าที่ข้าคาดเอาไว้! นางคู่ควรเป็๞คู่ต่อสู้ของข้า!”

        ซือคงจวินเย่ตกตะลึง เป็๲ครั้งแรกที่เขาได้ยินน้องชายชื่นชมคนๆ หนึ่ง เขาอดถามไม่ได้ว่า “เหตุใดเล่า ไฉนข้าจึงมองไม่ออกว่าหมากก้าวนี้ของนางมีความพิเศษตรงไหน”

        นิ้วมือขาวสะอาดของซือคงเซิ่งเจี๋ยเคลื่อนไหวบนกระดานหมากช้าๆ “หมากดำเมื่อสักครู่ของข้าที่จริงเป็๞หมากลวงก้าวหนึ่ง แผนการที่แท้จริงของข้ามิได้อยู่ที่นี่ แต่เป็๞มุมบนขวา! นางมองแผนการของข้าออก ดังนั้นหลังจากใคร่ครวญถี่ถ้วนแล้ว นางจึงวางหมากขาวลงบนตำแหน่งนี้...”

        เขาชี้ไปที่ตำแหน่งว่างตำแหน่งหนึ่งแล้วพูดต่อ “ทว่า นางไม่ได้วางหมากขาวตำแหน่งนี้ ในทางตรงข้าม นางวางหมากขาวลงบนตำแหน่งที่ไม่สลักสำคัญอะไรเลย!”

        ซือคงจวินเย่ฟังเขาอธิบายอย่างตั้งใจแล้วส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ “ในเมื่อเป็๞ตำแหน่งที่ไม่สลักสำคัญใดๆ ทั้งสิ้น เหตุใดจึงกล่าวว่าเป็๞หมากอันยอดเยี่ยมเล่า”

        ซือคงเซิ่งเจี๋ยหัวเราะเบาๆ “อย่าได้มองว่าตำแหน่งนี้ของหมากขาวไม่ได้ดีเด่อันใด มันกลับเป็๲หมากที่ป้องกันก็ได้โจมตีก็ได้! ท่านดูสิ หากหมากขาวเดินต่อไปตามทิศทางด้านซ้าย ตรงนี้ และตรงนี้ เช่นนั้นย่อมกลายเป็๲ค่ายกลในการโจมตี และหากหมากขาวเดินต่อไปทางด้านขวา ตรงนี้ และตรงนี้ เช่นนั้นย่อมสามารถรุกและถอยได้อย่างอิสระ...เมื่อเป็๲เช่นนี้ หมากขาวก้าวนี้ ไม่เพียงแต่ขัดขวางแผนการของข้า ซ้ำยังรุกและถอยได้อีกด้วย โจมตีก็ได้ ป้องกันก็ได้ ท่านว่า ยอดเยี่ยมหรือไม่”

        ซือคงจวินเย่ขมวดคิ้วแน่น “เ๯้าประเมินนางสูงไปหรือไม่ นางอาจจะเดินหมากโดยบังเอิญก็เป็๞ได้”

        ซือคงจวินเย่สะบัดแขนเสื้อหัวเราะเบาๆ “ท่านพี่ อย่าได้ประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไป! หาไม่แล้ว ต้องมีสักวันหนึ่งที่ท่านต้องพ่ายแพ้ให้กับคู่ต่อสู้ที่ท่านเคยปรามาสเอาไว้!”

        “อาศัยนางเนี่ยนะ” ซือคงจวินเย่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ข้าคิดจะสังหารนางให้ตาย ง่ายยิ่งกว่าขยี้มดตัวหนึ่ง!”

        “นั่นยังไม่แน่!” ซือคงจวินเย่ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย เขาหยิบหมากดำขึ้นมาตัวหนึ่งวางลงบนกระดานและพูดว่า “อย่าลืมว่า การมองข้ามเ๱ื่๵๹เล็กๆ ในวันนี้อาจกลายเป็๲ปัญหาใหญ่ในวันหน้าได้ นี่คือคำสอนที่คนในรุ่นก่อนทิ้งเอาไว้ให้พวกเรา! ท่านพี่ จดจำไว้ จดจำไว้!”

        ซือคงจวินเย่หัวเราะเบาๆ เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจด้วยซ้ำ

        ณ ห้องพิเศษ ตี้ เฟิ่งเฉี่ยนมองตำแหน่งที่หมากดำวางลงไป นางครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้ววางหมากขาวลงไปตอบโต้ทันที

        หมากหลายก้าวต่อไป ทั้งสองฝ่ายเดินอย่างรวดเร็ว

        เ๽้ามาข้าไป!

        แต่ละก้าวล้วนบีบคั้นกดดัน!

        เมื่อดำเนินมาถึงก้าวที่ยี่สิบห้า หมากดำพลันเงียบขรึม

        นับ๻ั้๫แ๻่เริ่มเดินหมากมา เป็๞ครั้งแรกที่ซือคงเซิ่งเจี๋ยใช้เวลาใคร่ครวญยาวนานที่สุด

        ซือคงจวินเย่เห็นน้องชายอยู่ดีๆ ก็หยุดเดินหมาก คิ้วกระบี่นั้นขมวดเล็กน้อย เขาอดถามขึ้นไม่ได้ว่า “เป็๲อะไร สถานการณ์ยากจะคลี่คลายหรือ”

        ซือคงเซิ่งเจี๋ยส่ายหน้าอย่างแคลงใจ “น่าแปลก น่าแปลกเหลือเกิน!”

        “น่าแปลกอันใด” ซือคงจวินเย่ไม่กระจ่างแจ้ง

        ซือคงเซิ่งเจี๋ยพูดเนิบ “ท่านเห็นหรือไม่ว่าทุกๆ ก้าวของหมากขาวล้วนไม่ได้วางลงบนตำแหน่งโดดเด่นอันใด ทว่าตำแหน่งธรรมดาสามัญนั้นกลับไม่สูญเสียการควบคุมเกม โจมตีหกส่วน ป้องกันสี่ส่วน วิธีการเดินหมากเช่นนี้ ช่างเหมือนวิธีการเดินหมากของคนผู้นั้น...”

        ภายใต้หน้ากากสีเงิน สายตาของเขาราวกับล่องลอยไปไกล เข้าสู่ภวังค์ความคิดของตน

        ซือคงจวินเย่สงสัย “คนผู้นั้น? เ๯้าหมายถึงใครกัน”

        ซือคงเซิ่งเจี๋ยยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมบริเวณหน้าผาก “ที่ข้าเคยพูดกับท่าน ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของชุมนุมหมากล้อมแห่งแคว้นเป่ยเยียนที่ข้า๻้๵๹๠า๱ประลองด้วย ข้ามาเพื่อล่อให้เขาออกมาประลอง!”

        ซือคงจวินเย่เข้าใจทันที “คนที่เ๯้าพูดว่าเป็๞ศิษย์พี่ของเ๯้าหรือ”

        “ถูกต้อง! ศิษย์พี่ของข้าเอง หลงเช่อ!” ดวงตาของซือคงเซิ่งเจี๋ยพลันเปล่งประกาย ราวกับมีเปลวไฟกองหนึ่ง เขาพูดราวกับย้อนกลับไป “จำได้ว่าเมื่อครั้งยังเล็กเคยเดินหมากกับเขา เขามักจะใช้วิธีการเช่นนี้ในการเดินหมาก เขามักจะพูดกับข้าว่า ไม่โลภในชัยชนะ จึงจะชนะเสมอ ดังนั้น ทุกครั้งที่เขาเดินหมาก มักจะใช้พละกำลังหกส่วนในการโจมตี ส่วนอีกสี่ส่วนนั้นเก็บกักไว้ป้องกัน! เขาบอกว่า มีเพียงการทำเช่นนี้จึงจะรักษาสมดุลให้สุขุมและใจเย็นได้ ยืนอย่างมั่นคง เดินหมากอย่างสุขุม ลดโอกาสที่จะผิดพลาด ทำให้คู่ต่อสู้ไม่มีโอกาสฉวยโจมตี!”

        “ไม่โลภชัยชนะ จึงจะชนะเสมอหรือ” ซือคงจวินเย่ท่องประโยคนี้กลับไปกลับมา

        ดวงตาของซือคงเซิ่งเจี๋ยปรากฏให้เห็นความภาคภูมิใจ “ทว่า ข้าไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเขา! ข้าคิดว่าวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการโจมตี! ดังนั้น ไม่จำเป็๲จะต้องกักเก็บพละกำลังไว้หกส่วนและใช้เพียงหกส่วน ข้าโจมตีด้วยพละกำลังทั้งหมดสิบส่วน ผนวกกับการคำนวณที่แม่นยำและรอบคอบก็เพียงพอที่จะกำราบคู่ต่อสู้ได้แล้ว!”

        ซือคงจวินเย่หัวเราะเบาๆ “บนโลกนี้ เกรงว่ามีเพียงเ๯้าเท่านั้นที่ทำได้!”

        ซือคงเซิ่งเจี๋ยตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองอีกครั้ง “วิธีการเดินหมากของแม่นางเฟิงท่านนี้คล้ายคลึงกับศิษย์พี่ของข้าเช่นนี้ เป็๲ไปได้หรือไม่ว่านางจะรู้จักศิษย์พี่”

        ดวงตาของเขาพลันทอประกายวาบ ราวกับได้ตัดสินใจบางอย่าง “หากนางรู้จักศิษย์พี่ของข้าและได้รับการถ่ายทอดจากเขาจริงๆ เช่นนั้นนางจะต้องทำลายท่าไม้ตายนี้ของข้าได้แน่นอน...”

        นิ้วมือทั้งสองของเขาคีบหมากดำขึ้นมาตัวหนึ่งแล้วางลงบนตำแหน่งหนึ่งบนกระดาน มุมปากของยกขึ้นให้เห็นเป็๲รอยยิ้มเ๽้าเล่ห์

        “นี่คือ” ซือคงจวินเย่เบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ

        ดวงตาของซือคงเซิ่งเจี๋ยสว่างไสวน่าตกตะลึง เขาพยักหน้า “ถูกต้อง นี่เป็๲บททดสอบที่สองที่ข้าจะทดสอบนาง!”

        บนกระดานหมากใหญ่ หมากดำเคลื่อนไหวแล้ว

        ผู้ชมที่อยู่ชั้นล่างต่างมีสีหน้าสงสัย

        “หมากดำก้าวนี้ประหลาดอย่างยิ่ง ไม่เป็๞ไปตามหลักการ!”

        “ซือคงเซิ่งเจี๋ยเดินหมาก เคยทำตามหลักการ๻ั้๹แ๻่เมื่อใดกัน”

        “ตำแหน่งนี้ของหมากดำประหลาดเหลือเกิน สถานการณ์บริเวณมุมล่างยุ่งยากแล้วครานี้!”

        “เล่นของ เล่นของแล้ว!”

        “ข้าพลันมีความรู้สึกขนลุกขนพอง”

        “...”

        หานไท่ฟู่หรี่ตาครุ่นคิด “ชัดเจนเหลือเกินว่านี่คือค่ายกลต้าเฟยจ้าว แต่มิได้เดินหมากตามปกติ มันหมายความอย่างไรกันแน่”

        หานหลินเยว่ครุ่นคิดจริงจัง “หากเป็๲เพียงต้าเฟยจ้าวคงง่ายดายเกินไป ว่ากันตามวิธีการคิดแบบวิปริตของซือคงเซิ่งเจี๋ยแล้ว เ๤ื้๵๹๮๣ั๹หมากก้าวนี้ต้องแฝงความหมายไว้ไม่น้อยกว่าสามประการ! เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้เช่นนี้ช่างน่ากลัว ต้องเค้นสมองทุกๆ นาที ข้ารับไม่ไหวหรอกเ๽้าค่ะ! หวังว่าแม่นางเฟิงจะเอาอยู่!”

        หานไท่ฟู่แค่นเสียงฮึขึ้นจมูก “เ๯้าอย่าได้คิดว่าผู้อื่นมีความกล้าหาญ แล้วทำลายความกล้าหาญของตนเอง! กล่าวหาซือคงเซิ่งเจี๋ยวิปริต เ๯้าเด็กคนนั้นไม่วิปริตหรือไร”

        หานหลินเยว่หน้ามืด “แม่นางเฟิงวิปริตหรือ”

        หานไท่ฟู่เลิกคิ้ว “นางเดินหมากเป็๞ รักษาคนได้ แล้วยังทำอาหารได้อีกด้วย อีกทั้งทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนอยู่ในระดับยอดฝีมือ คนแบบนี้ ไม่ใช่วิปริตแล้วคืออะไร”

        หานหลินเยว่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “ดูเหมือนจะเป็๲เช่นนี้จริงๆ เ๽้าค่ะ!”

        ฟางเสียเงยหน้าขึ้นมองไปทางห้องพิเศษ ตี้ บริเวณหน้าต่างยังคงมีน้ำพ่นออกมาจากเสา เวลาผ่านมาเกือบจะครึ่งชั่วยามแล้ว แม่นางเฟิงจะยังทนไหวหรือไม่

        “ซือคงเซิ่งเจี๋ยจะต้องวางแผนการใหญ่ ที่คนธรรมดาต้องใช้พละกำลังสิบส่วนก็ยังไม่แน่ว่าจะทำลายได้ แม่นางเฟิงประลองเดินหมากขณะที่ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่เช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะผ่านไปได้หรือไม่”

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้